Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1424

ตอนที่ 1424

บทที่1424 การฝึกศักยภาพร่างกาย

ระยะห่างของทั้งสองใกล้มาก ฉินซีมองใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม ในจากอยากที่จะถอยโดยไม่รู้ตัว แต่ก็ยังอดทนไว้

ภายใต้ท่าทีที่แข็งกร้าวของจ้านเซิน ฉินซีค่อยๆลดแขนที่ชูขึ้นสูงเหนือศีรษะลง

เห็นฉินซีใจเย็นลง จ้านเซินก็คลายมือออก

จ้านเซินเดินถอยไปครึ่งก้าว รักษาระยะห่างกับฉินซี “สมรรถภาพร่างกายของเธอตอนนี้ ไม่สามารถออกไปทำภารกิจได้ ให้ร่างกายตัวเองฟื้นฟูกลับสู่สภาพเดิมก่อนค่อยว่ากัน”

เขาพูดด้วยใบหน้าจริงจัง น้ำเสียงแข็งกร้าว

แม้ว่าจ้านเซินจะเป็นหัวหน้าขององค์กร ดูเย็นชาไร้อารมณ์

แต่เขาก็ไม่เคยบ้าบิ่นส่งลูกน้องไปตาย

แม้ว่าแต่ก่อนฉินซีจะสุดยอดมาก แต่ตอนนี้ไม่ได้ฝึกฝนมาปีนึงแล้ว การทำงานของร่างกายอาจเสื่อมโทรมไปนานแล้ว

เธอในตอนนี้ออกไป ก็เหมือนไปหาที่ตาย

แม้ว่าจะขอออกไปไม่สำเร็จ แต่ได้ฝึกฝนใหม่อีกครั้ง ฉินซีก็ยังดีใจ

เธอพยักหน้า ปากแดงโค้งขึ้นเล็กน้อย เผยรอยยิ้มแห่งความยินดี “โอเค ฉันจะรีบฟื้นฟู กลับไปเป็นแนวหน้าเพื่อรับใช้คุณกับองค์กร”

ฉินซีในตอนนี้ ราวกับกลับไปสู่ช่วงเวลาที่ไร้เดียงสาในตอนนั้น

จ้านเซินยังจำได้ มีครั้งหนึ่งฉินซีบาดเจ็บหนัก ก็พูดกับตนแบบนี้เหมือนกัน

พริบตาเดียว เวลาก็ผ่านมาหลายปีแล้ว

“ไม่รีบร้อน”

จ้านเซินรู้ว่าเรื่องแบบนี้ต้องค่อยเป็นค่อยไป เร่งไม่ได้ “ฉันจะให้เหยาจ้าวจัดการฝึกฝนที่เป็นระบบที่สุดให้เธอ แล้วให้คนในห้องวิจัยกำหนดแผนที่เป็นระบบให้เธอ รวมถึงอาการการกินของเธอ ให้เธอฟื้นตัวได้โดยเร็วในเวลาที่สั้นที่สุด”

เขากังวลว่าฉินซีจะฝึกฝนเต็มที่อย่างสุดชีวิต เพื่อจะกลับไปมีสภาพเหมือนแต่ก่อน

เมื่อก่อนฉินซีก็เคยทำแบบนี้มาก่อน ทำให้ตัวเองเหนื่อยจนแทบเป็นลม

“ขอบคุณนะ จ้านเซิน”

ฉินซีได้ยินเขาพูดแบบนี้ รอยยิ้มแห่งความสุขก็เผยขึ้นในดวงตาสีอำพัน “นายวางใจเถอะ ครั้งนี้ฉันจะไม่ทำให้นายผิดหวังเด็ดขาด”

ทำหน้าที่ในองค์กรให้สำเร็จลุล่วง นั่นหมายถึงการตอบแทนน้ำใจของจ้านเซิน

ฉินซีหวังว่าก่อนจะออกจากองค์กร จะช่วยจ้านเซินได้บ้าง

แบบนี้ในอนาคตเมื่อเธอคิดย้อนกลับมา ก็จะไม่รู้สึกผิด

“เธอเข้าใจก็ดีแล้ว ลู่เซิ่นไม่เหมาะสมกับเธอ”

แววตาของจ้านเซินเผยลมหายใจที่ทอดยาว เขาเอ่ยปากพูดออกมาตรงๆ

นี่เป็นครั้งแรก ที่เขาพูดชื่อของลู่เซิ่นต่อหน้าฉินซี หลังจากผ่านมาเนิ่นนาน

“ลู่เซิ่นเป็นแค่คนขี้ขลาด แม้แต่กำลังที่จะปกป้องเธอยังไม่มี”

จ้านเซินพูดต่อทันที แววตาของเขาฉายความดูถูก

ได้ยินเขาวิจารณ์ลู่เซิ่นแบบนี้ ในใจของฉินซีก็โมโหขึ้นมา

เธอสูดหายใจลึก หลับตาลง บังคับให้ตัวเองใจเย็นลง

ฉินซีรู้สึกว่า คำพูดเหล่านี้ของจ้านเซินนั้นจงใจพูดให้เธอฟัง อยากที่จะกระตุ้นเธอ ให้เธอเผยพิรุธออกมา

เคล็ดลับนี้คงใช้ได้กับฉินซีที่พึ่งถูกจับกลับมาที่องค์กร แต่สำหรับเธอในตอนนี้ ไม่มีมีผลอะไรแล้ว

ฉินซีเปลี่ยนสีหน้าอย่างรวดเร็ว ไม่ให้จ้านเซินพบความน่าสงสัยใดๆ

เธอพูดพลางยิ้มน้อยๆ “เอาเถอะ ไม่ต้องพูดถึงเขาแล้ว หลังจากนี้ฉันไม่อยากได้ยินชื่อเขาอีกแล้ว”

รอยยิ้มของฉินซีเปล่งลมหายใจเย็นออกมา

ราวกับว่าเธอเจ็บปวดกับลู่เซิ่นมาก กระทั่งชื่อของเขายังรังเกียจที่จะพูดถึง

จ้านเซินสังเกตการแสดงออกของเธอ ริมฝีปากบางขยับ “โอเค”

ในเมื่อครั้งนี้ฉินซีกระตือรือร้นที่จะเริ่มแสดงออกเอง งั้นเขาก็จะรอดูว่าเธอจะก่อเรื่องอะไร

การปฏิบัติการของจ้านเซินรวดเร็วมาก

เพียงแค่ช่วงบ่ายสั้นๆ แผนการฝึกฝนก็ออกมาแล้ว

ถัดมาไม่กี่วัน ฉินซีก็ปฏิบัติตามเนื้อหาบนตารางแผนการอย่างจริงจัง

ภายในห้องฝึก ฉินซีเหงื่อท่วมเต็มหลัง

เธอทำการเคลื่อนไหวซ้ำๆไม่หยุด ใบหน้าแดงก่ำ หน้าอกกระเพื่อมอย่างแรง

ภายนอกห้องฝึก

จ้านเซินดูกล้องวงจรปิด มองดูการโจมตีที่ไม่หยุดหย่อนของฉินซี แสงที่มีความนัยแวบผ่านในแววตา

เขาเห็นฉินซีล้มครั้งแล้วครั้งเล่า จากนั้นก็ลุกขึ้นมา

เนื้อตัวของเธอเขียวม่วงแล้ว แต่ก็ไม่ยอมหยุดตั้งแต่ต้นจนจบ

เหยาจ้าวยืนอยู่ข้างจ้านเซิน มองฉินซีที่ทรมานตัวเองอยู่ในห้องฝึก ก็ขมวดคิ้ว

ไม่มีคำสั่งของจ้านเซิน เหยาจ้าวก็ไม่กล้าไปรบกวนฉินซี ถึงอย่างไรฉินซีก็กำลังทำตามเนื้อหาบนตารางแผนการอย่างเคร่งครัด

จ้านเซินมองเวลาบนนาฬิกาข้อมือ พูดขึ้นเบาๆ “หมอเหยา นายเข้าไปเรียกฉินซีมาพักสักครู่”

เขาควบคุมเวลาอย่างเคร่งครัด

“ครับ”

ที่เหยาจ้าวรออยู่ก็คือคำนี้ หลังจากรับคำสั่งจากจ้านเซิน เขาก็รีบเดินเข้าไปในห้องฝึก

“ฉินซี จ้านเซินให้เธอพักผ่อนครู่นึง”

ฉินซีดูเหมือนไม่ได้ยินเสียงของเขา เตะขาต่อไป

เธอพูดอย่างหอบๆ “ฉันไม่เป็นไร ฉันยังไปต่อได้ นายออกไปก่อนเถอะ”

ฉินซีทำเหมือนนี่เป็นการหนีออกไป การตัดสินใจของเธอมีมากแค่ไหน ความอดทนก็แข็งแกร่งมากเท่านั้น

ผ่านการฝึกฝนมามากมาย สำหรับฉินซีแล้ว ไม่มีประโยชน์อะไรเลย กลับจะทำให้ร่างกายของเธอแย่ลง

เหยาจ้าวยืนขวางหน้าเธอ พูดด้วยท่าทีแข็งกร้าว “ฉินซี เธอออกไปก่อนเถอะ จ้านเซินรอเธออยู่ข้างนอกนะ”

การเคลื่อนไหวเตะขาของฉินซี หยุดอยู่กลางอากาศ

เธอชะงักเล็กน้อย ค่อยๆเงยหน้า มองไปที่อีกฝั่งของกล้องวงจรปิด

ฉินซีสบตากับจ้านเซินผ่านกล้องวีดีโอ

เธอเม้มปาก วางขาลง “ฉันรู้แล้ว ไปกันเถอะ”

ฉินซีหยิบผ้าขนหนูที่คอ มาเช็ดใบหน้ามั่วๆ

ฉินซีหลังออกกำลังกาย ใบหน้าจะขาวและโปร่งแสงยิ่งขึ้น ยังเผยให้เห็นสีชมพูที่ดูสุขภาพดีด้วย

ฉินซีเดินมาถึงห้องพักผ่อน เห็นจ้านเซินนั่งอยู่บนโซฟาด้วยท่าทีเกียจคร้าน “นายมาทำไม?”

เธอเดินไปนั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามจ้านเซิน

จ้านเซินส่งน้ำตรงหน้าของตน ให้ฉินซี “ดื่มเสร็จค่อยคุย”

เขายกมือขึ้นช่วยเปิดฝาให้ฉินซี ฉินซีมองการเคลื่อนไหวของเขา แววตาเผยแสงที่ดูซับซ้อน

ฉินซีหยิบน้ำบริสุทธิ์ขึ้นมา ดื่มไปสองอึก

กลิ่นอายที่หวานสดชื่น ทำให้ทั้งตัวฉินซีสดชื่นขึ้นไม่น้อย

อึดใจเดียวฉินซีดื่มไปกว่าครึ่ง จากนั้นก็วางขวดลงบนโต๊ะ

เธอเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติโดยใช้หลังมือเช็ดหยดน้ำจากมุมปาก แววตาของจ้านเซินมืดมนลง

“ถ้าเกิดฉันไม่ให้หมอเหยาเข้าไปเรียกเธอ เธอคิดจะฝึกไปถึงเมื่อไหร่?”

ขาซ้ายงอขึ้น พับลงไปที่ขาขวา จ้านเซินค่อยๆเปิดปาก มีกลิ่นอายคำถามในน้ำเสียงของเขา

เขามองไปที่ฉินซีด้วยแววตาแผดเผา ราวกับกำลังมองเด็กที่ไม่เชื่อฟัง

ฉินซีเข้าใจความหมายของเขา “ฉันรู้สึกว่าร่างกายของฉันยังไม่ถึงขีดจำกัด สามารถออกกำลังกายได้นานหน่อย”

เธอคิดถึงลู่เซิ่นมากเกินไปแล้ว จึงอยากทำให้ตัวเองเหนื่อยล้า จนถึงจุดที่หัวถึงหมอนก็หลับได้ แบบนี้พอกลับไปแล้วก็ไม่มีใจที่จะคิดเรื่องอื่นแล้ว

จ้านเซินจ้องเธอย่างโกรธเคืองเล็กน้อย เอ่ยปากพูดขึ้น “นั่นก็แค่สิ่งที่เธอรู้สึก

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท