Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1436

ตอนที่ 1436

บทที่1436 ตัวแทน

ลู่เซิ่นมองไปที่ท่าทางดีใจของโจวเอ้อ ก็รู้ว่ามีข่าวดีมาแล้ว

เขารีบเอ่ยปากถาม “เป็นไงบ้าง? มีคำตอบมาจากทางฉินซีแล้วใช่ไหม?”

ลู่เซิ่นรออยู่ในห้องผู้ป่วยมาเป็นเวลาสองชั่วโมงแล้ว ปกติเขาไม่ได้รู้สึกว่าสองชั่วโมงเป็นเวลานาน อาจจะแค่จัดการเอกสาร เปิดการประชุมระยะสั้นเวลาก็ผ่านไปแล้ว

แต่ว่า ลู่เซิ่นในวันนี้กลับกระสับกระส่าย

เขากลัวมากว่าฉินซีจะปฏิเสธ เขาอยากเจอฉินซีมากเกินไปจริงๆ

โจวเอ้อพยักหน้าอย่างตื่นเต้น “อืมอืม ฉินซีตอบตกลงแล้ว”

เขาพูดด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า น้ำเสียงเต็มไปด้วยความสุข

โจวเอ้อรู้ ว่าลู่เซิ่นปรารถนาที่จะเจอฉินซีมากแค่ไหน ตอนนี้นับว่าความปรารถนาของลู่เซิ่นเป็นจริงแล้ว ในฐานะเพื่อนและลูกน้องของเขา เขาดีใจมากจริงๆ

มุมปากของลู่เซิ่นโค้งขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าที่เย็นเยือกก็อบอุ่นขึ้นมาทันที “งั้นก็ดี ฉินซีว่ายังไงบ้าง นายรีบบอกฉันเร็ว”

เขาจำเป็นต้องรู้โดยเร็ว แล้วก็เตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ

ภายใต้การไล่ถามของเขา อารมณ์ของโจวเอ้อค่อยๆสงบลง “ฉินซีบอกว่าเธอตกลง แต่ว่ามีเงื่อนไข เอบอกว่า สถานที่ทำภารกิจในครั้งนี้อยู่ในงานเลี้ยง จ้านเซินจะต้องแทรกแซงคนสอดแนมมาเยอะแยะแน่นอน เพื่อป้องกันการปรากฏตัวของนาย ฉินซีให้พวกเราสังเกตสถานที่ไว้ล่วงหน้าก่อน ยืนยันความปลอดภัยขอองสถานการณ์ ค่อยให้นายเข้าไป”

พูดถึงตรงนี้ โจวเอ้อก็ชะงัก “ถ้าไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะไม่ถูกจ้านเซินรู้เข้า การพบกันในครั้งนี้ ก็ยกเลิกไปก่อน เธอไม่ให้นายหุนหันพลันแล่น เห็นแก่อนาคตของพวกนาย”

ความมีสติของฉินซี ทำให้โจวเอ้อชื่นชมมาก

บนโลกนี้มีผู้หญิงไม่กี่คนที่กล้าหาญมีไหวพริบได้อย่างฉินซี ถ้าเธออยู่ในสมัยโบราณ จะต้องเป็นวีรสตีเหมือนฮัวมู่หลานแน่นอน ความสามารถไม่ด้อยไปกว่าผู้ชาย

ลู่เซิ่นพยักหน้า “ฉันรู้”

แน่นอนว่าเขารู้ถึงความร้ายแรงของมัน ทนไม่ได้ที่จะเนรคุณความคาดหวังของฉินซี

ขยับปากบาง ลู่เซิ่นเอ่ยปากอย่างมีสติ “งั้นนายก็ไปทำตามคำสั่งของฉินซีเถอะ แล้วก็หาคนที่ไว้ใจได้ รูปร่างคล้ายกับฉัน มาที่ห้องผู้ป่วยของฉัน ให้เขามาแทนฉัน ระวังอย่าให้คนจากฝั่งถังย่ารู้เข้าเด็ดขาด”

ลู่เซิ่นรู้ ช่วงนี้ถังย่าเอาแต่เตร็ดเตร่อยู่รอบๆโรงพยาบาล

ไม่ต้องคิดก็รู้ ว่าจ้านเซินส่งถังย่ามาเฝ้าสังเกตเขาแน่นอน

ถ้าจัดการถังย่าไป มันก็จะเป็นตราบาปติดตัว

ดังนั้น ในช่วงที่ผ่านมานี้ ลู่เซิ่นจึงแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง ตบตาถังย่า

ขอแค่สามารถหลอกลวงถังย่าได้ ทางฝั่งจ้านเซินก็จะจัดการง่ายขึ้น

อีกอย่างการมีอยู่ของถังย่า ยังเป็นพยานให้เขาได้หลายครั้ง ว่าเขาไม่ได้ออกจากโรงพยาบาล

หลังโจวเอ้อฟังคำพูดของเขาจบ แววตาก็เป็นประกายเล็กน้อย

“โอเค ฉันจะไปจัดการ”

ความคิดของลู่เซิ่นนั้นชาญฉลาดจริงๆ ใช้คนของจ้านเซินมาช่วยปกปิด ไม่มีเรื่องไหนปลอดภัยไปกว่านี้แล้ว แต่ก่อนอื่นถังย่าจะต้องไม่พบความน่าสงสัยในนั้น

โจวเอ้อเคยเห็นความสุดยอดของถังย่ามาก่อน จะเล่นละครตบตาถังย่า ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายอย่างแน่นอน

ดังนั้น เขาจำเป็นต้องทำอย่างระมัดระวัง จะทำลายแผนการของลู่เซิ่นไม่ได้โดยเด็ดขาด

“อื้มอื้ม ลำบากนายแล้วนะ”

ลู่เซิ่นพูดพลางยิ้มเล็กน้อย มองเขาด้วยแววตาอ่อนโยน

นึกถึงว่าอีกเดี๋ยวก็จะได้เจอฉินซีแล้ว อารมณ์ของลู่เซิ่นก็ดีขึ้นไม่น้อย

เมื่อมองรอยยิ้มที่หายไปนานบนใบหน้าของลู่เซิ่น โจวเอ้อก็ส่ายหัว “ไม่เป็นไร นี่เป็นเรื่องที่ฉันควรทำ นายพักผ่อนให้ดีเถอะ ฉันจะไปหาคนก่อน ดึกๆจะให้เขามาเปลี่ยนตัวกับนาย”

โจวเอ้อพูด พลางเดินออกไปทางประตู

หลังจากลู่เซิ่นมองส่งเขาจากไปแล้ว ก็ลงจากเตียง

เขาเดินไปที่หน้าต่าง มองท้องฟ้ายามค่ำคืนนอกหน้าต่าง ดวงตาสีเข้มเผยประกายแสงสลัว

“ฉินซี ฉันคิดถึงเธอจัง”

ลู่เซิ่นพูดพึมพำกับตัวเอง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ลึกซึ้ง

……

หลังจากโจวเอ้อออกมาจากประตูห้องผู้ป่วยแล้ว ก็ตามหาโจวซิงอย่างไม่หยุดหย่อนจนเจอ ปรึกษาเรื่องนี้กับโจวซิง

“อะไรนะ? พวกนายจะทำอย่างนั้นกันจริงๆหรอ?”

หลังโจวซิงได้ฟังแล้ว ใบหน้าก็เผยความตกใจ ในน้ำเสียงมีความโกรธเคือง

เขารู้สึกจริงๆ ว่ามันไว้ใจไม่ได้

ไม่แน่ว่านี่อาจเป็นเพียงแค่กับดักของจ้านเซิน รอพวกเขากระโดดเข้าไป

โจวซิงเคยเห็นความเจ้าเล่ห์ของจ้านเซินมาครั้งนึงแล้ว ตอนนี้ทุกครั้งที่เจอเรื่องอะไร ปฏิกิริยาอย่างแรกคือหวาดระแวง

“นายเสียงเบาลงหน่อย!”

“นายอยากให้ทุกคนรู้หมดหรอ?”

โจวเอ้อเห็นเขาโวยวาย ใบหน้าก็มืดลงทันที

เขาจ้องโจวซิงอย่างไม่พอใจ เอ่ยปากพูด “นิสัยของลู่เซิ่นหัวแข็งแค่ไหน ก็ไม่ใช่ว่านายไม่รู้ ทางฉินซีเองก็บอกแล้ว ว่าให้พวกเราดูตามสถานการณ์ ถ้าเกิดว่าไม่ได้จริงๆ ก็ยอมแพ้ ไม่ใช่ว่าจะต้องเจออให้ได้ โจวซิง นี่เป็นโอกาศนะ!”

ในใจของโจวเอ้อเองก็เหมือนกับลู่เซิ่น อยากที่จะลองดู

โจวซิงเห็นเขาพูดแบบนี้ ได้แต่ถอนหายใจยาว “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็ได้”

แม้ว่าในใจเขายังคงกังวลอยู่นิดหน่อย แต่โจวเอ้อกับลู่เซิ่นเข้าร่วมแล้ว ในฐานะพี่น้อง เขาก็ไม่อาจเฝ้าดูพวกเขาสองคนลำบาก แล้วตัวเองสบายอยู่คนเดียว

“นายจะให้ฉันทำอะไร?”

โจวซิงเป็นฝ่ายเอ่ยถาม

“ดึกๆฉันจะหาคนมาอยู่โรงพยาบาลแทนลู่เซิ่น เพื่อให้จ้านเซินกับถังย่าสับสน ถึงตอนนั้นนายไม่ต้องทำอะไร ทำการตรวจร่างกายให้เขาตามปกติ ทุกอย่างให้เหมือนปกติ อย่าให้เกิดความแตกต่างอะไรขึ้นเด็ดขาด เข้าใจไหม?”

เดิมทีโจวเอ้อไม่อยากบอกแผนการในครั้งนี้กับเขา แต่นึกถึงนิสัยตื่นตูมกังวลของโจวซิง ถึงตอนนั้นเห็นว่าเปลี่ยนตัวลู่เซิ่น จะต้องแปลกใจมากแน่ ถ้าวุ่นวายจนคนอื่นรู้ขึ้นมาจะลำบาก

“โอเค ฉันรู้แล้ว”

โจวซิงพยักหน้าด้วยใบหน้าจริงจัง เก็บสีหน้าหยอกล้อตามปกติเอาไว้

โจวเอ้อก้าวไปข้างหน้า ตบบ่าของเขา แล้วถอนหายใจ “ลำบากนายแล้ว”

เขารู้ว่าในใจของโจวซิงนั้นไม่เต็มใจแน่นอน

“ไม่ลำบาก ขอแค่ได้ช่วยฉินซีกับลู่เซิ่น ฉันก็ไม่มีอะไรจะบ่น”

โจวซิงส่ายหัว พูดขึ้นช้าๆ

อันที่จริง เขาไม่ได้ไม่เต็มใจช่วย โจวซิงแค่กังวลว่าลู่เซิ่นจะติดกับดัก ถึงตอนนั้นตกไปอยู่ในอันตรายแล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา

“ฉันเข้าใจว่านายหวังดีกับพวกเรา แต่นี่เป็นการตัดสินใจของพวกเขาสองคน พวกเราในฐานะเพื่อนกับลูกน้อง อะไรที่ทำได้ก็ทำอย่างเต็มที่ ช่วยพวกเขาบรรลุความปรารถนา ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไง ขอแค่พวกเขาไม่เสียใจก็พอ”

ถึงอย่างไรโจวเอ้อก็โตกว่าโจวซิง ความคิดก็เป็นผู้ใหญ่มากกว่าโจวซิงเล็กน้อย

เขารู้จักน้องชายของตนดี ไม่ได้ชั่วร้าย แต่ยังมีความไร้เดียงสา พิจารณาเพียงด้านเดียวเท่านั้น รอเขาโตถึงวัยที่เหมาะสมก็โอเคแล้ว

“อื้ม โอเค”

โจวซิงเม้มปาก พยักหน้า

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท