Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1446

ตอนที่ 1446

บทที่ 1446 หาเรื่อง

สายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาอย่างนี้ ทำให้ฉินซีย่นคิ้วไม่พอใจ

ถ้าหากไม่ใช่เป็นเพราะภารกิจ ฉินซีคงจะควักลูกตาของเขาออกมา ทำเป็นลูกบอลเตะแล้ว

ฉินซีหรี่ตาอันตราย เหลือบมองเขาแวบหนึ่ง ส่งสายตาเตือน

ผู้จัดการรู้สึกได้ถึงลมเย็นวูบทันที พัดคอของเขาขึ้นไป ถึงกับหดตัวโดยไม่รู้ตัว ในใจรู้สึกกลัวเล็กๆ

เมื่อรู้ตัวว่าตัวเองน่าจะทำให้ฉินซีไม่พอใจ ผู้จัดการก็รีบซ่อนสายตาหื่นกระหายนั้น

เขารีบเดินไปตรงหน้าฉินซี ยิ้มประจบ “เลขานุการฉิน สวัสดีครับ”

ผู้จัดการยื่นมือ หวังว่าจะจับมือทักทาย

ผิวพรรณของฉินซีขาวผ่องเหมือนกับไข่ไก่ปอกเปลือกแล้ว เขาคิดเรื่องนี้อยู่นาน

ผู้จัดการอยากฉวยโอกาสนี้สัมผัส อยากรู้ว่าสัมผัสอ่อนนุ่มเนียนเหมือนอย่างที่เขาคิดหรือไม่

ฉินซีเห็นเขากล้าแสดงความรู้สึกอย่างนี้ สายตาเหมือนอำพันส่องประกายเย็นเฉียบ “คุณคือผู้จัดการของโรงแรมที่นี่ใช่มั้ยคะ”

เธอกดเสียงต่ำ พูดจากเย็นชา ไม่เจตนาอยากจะจับมือกับผู้จัดการ

มือผู้จัดการค้างกลางอากาศ ใบหน้าอิ่มเอิบมีรอยยิ้มเก้อเขิน

เขาชักมือกลับเงียบๆ พยักหน้า ท่ามกลางสายตาเฉียบคมของฉินซี “ใช่ครับ เลขานุการฉิน คุณมีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ”

ระหว่างเดินมา เขาสอบถามชื่อของฉินซีกับโจวเอ้อแล้ว

“คุณถามว่าฉันมีปัญหาอะไรหรือคะ”

ฉินซีโยนคำถามกลับไปอย่างเย็นชา ริมฝีปากขยับเบาๆ

อันที่จริงการตกแต่งงานเลี้ยงไม่เลวทีเดียว

แต่ท่าทางของผู้จัดการคนนี้ทำให้ฉินซีไม่พอใจมาก เธอเตรียมใช้โอกาสนี้สั่งสอนเขาเสียหน่อย

“เอ๊ะ”

เมื่อถูกฉินซีย้อนถาม ผู้จัดการสีหน้างงงวย

เขาส่ายหน้า ยิ้มเก้อเขิน “เลขานุการฉินผมไม่ค่อยเข้าใจคุณหมายถึงด้านใน ถ้าหากบอกผมตรงๆ ผมจะให้คนไปแก้ไขให้ครับ”

ผู้จัดการนั่งตำแหน่งนี้มาสิบกว่าปี เขาเป็นคนพูดจาชัดเจนมีเหตุผล ทำให้หาข้อบกพร่องไม่ได้

แต่ฉินซีตั้งใจแล้ว อยากจะจัดการเขา ไม่ว่าเขาพูดจาน่าฟังอย่างไร ก็เปลี่ยนผลลัพธ์ไม่ได้

“เหอะๆ”

ฉินซีพูดยิ้มแย้ม สายตาที่เป็นประกายเหมือนอำพันเสียดแทง “ประธานหลูร่วมงานกับโรงแรมพวกเขามาหลายครั้งแล้ว พวกคุณใช้ทัศนคติแบบนี้ทำขอไปทีกับเราหรือคะ”

เธอถามเสียงดัง ใบหน้างดงามมีร่องรอยความโกรธ

“เลขานุการฉิน พวกเราไม่มีเจตนาทำอย่างนั้นกับ ประธานหลู แน่ๆ คุณอย่าเพิ่งโกรธ มีอะไรพวกเราค่อยๆ ไปคุยกันที่ห้องรับรอง”

ฉินซีโกรธจริงๆ ผู้จัดการใจเต้นไม่เป็นส่ำ

แต่เขายังคงไม่ค่อยเข้าใจตัวเองทำผิดอะไร ทำให้ฉินซีโกรธจัด

“พอแล้ว!”

ฉินซีจ้องเขาเดือดจัด “จนถึงตอนนี้แล้ว ฉันยังมีอารมณ์ไปพักผ่อนอีกหรือ ไม่รู้หรือไงคะงานเลี้ยงจะจัดคืนพรุ่งนี้แล้ว ถึงตอนนั้นประธานหลู ไม่พอใจ จะไม่มีผลดีอะไรกับคุณ”

จั่วยีจั่วเอ้อ ยืนฟังเงียบๆ อยู่ข้างๆ ต่างฝ่ายสบตากัน ไม่เข้าใจฉินซีต้องการทำอะไร

พวกเขาแค่แกล้งทำเป็นมาตรวจงาน เพื่อฉวยโอกาสจดจำลักษณะพื้นที่ในฮอลล์จัดเลี้ยงเท่านั้น

ส่วนเรื่องการตกแต่งงานเลี้ยงดีหรือไม่ หลูจื๋อหลินจะพอใจหรือไม่ ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเขาสักนิด

ภารกิจของพวกเขาครั้งนี้คือจับตัวหลูจื๋อหลิน เค้นถามเขาโอนเงินผิดกฎหมายไปตรงไหน และหาหลักฐานการหนีภาษีของเขา

แต่เมื่อคิดว่าจ้านเซินเพียงแต่สั่งให้เขาติดตามฉินซีเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นไม่ต้องแทรกแซง ทั้งสองคนจึงอดทนไว้

ถูกฉินซีขู่จนตกใจ ผู้จัดการทันใดนั้นรู้สึกกังวล

ผู้จัดการพูดอึกๆ อักๆ ขอความเห็นใจจากฉินซี “เลขานุการฉิน ผมห่วงว่าคุณจะเหนื่อย ถ้าคุณไม่อยากไปห้องพักผ่อน อย่างนั้นเราคุยกันตรงนี้ก็ได้”

สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ ดูท่าทางตกใจไม่น้อยทีเดียว

ฉินซียืนกอดอก ก้มหน้ามองเขา “ไม่กี่วันก่อน ประธานหลู ให้คนแจ้งพวกคุณครั้งนี้จะจัดงานเต้นรำหน้ากาก พวกคุณดูสไตล์การตกแต่งของพวกคุณสิ นี่มันอะไรกัน”

เธอเคาะผ้าโปร่งที่อยู่ข้างๆ สีขาวเหมือนนางฟ้า

แต่ไม่ตรงกับความรู้สึกที่หลูจื๋อหลิน ต้องการ

ฉินซีถามอย่างสงสัย “ฉันอยากรู้ความเข้าใจของคุณ งานเต้นรำหน้ากากควรจะให้ความรู้สึกแบบไหน”

เธอจ้องมองผู้จัดการ รอคำตอบจากเขา

ผู้จัดการนึกไม่ถึงว่าเธอจัดการยากขนาดนี้ คิดหาทุกวิถีทางที่จะตอบคำถาม “ลึกลับครับ”

เขาตอบออกไปกลางๆ

“คุณก็รู้ว่าลึกลับ งั้นคุณบอกฉันหน่อย คุณใช้ผ้าโปร่งสีขาวขนาดนั้นทำอะไร ฉันให้คุณตกแต่งงานเต้นรำหน้ากาก ไม่ใช่งานแต่งงาน”

ฉินซีจ้องมองเขาดุดัน ดวงตาดำขลับฉายแววไม่พอใจ

ในเมื่อเขาตอบว่าลึกลับ เช่นนั้นเขาก็ไม่ทึ่มนัก

แต่รูปแบบที่ทำออกมาไม่ได้มาตรฐาน นั่นหมายความว่าเขาไม่ได้ตั้งใจทำเรื่องนี้แต่แรก เพียงแต่ทำลวกๆ เท่านั้น

ฉินซีคาดเดาได้ถูกต้องทั้งหมด

ผู้จัดการร่วมงานกับหลูจื๋อหลิน มาหลายปี ในตอนแรกเขาก็ดูแลอย่างระมัดระวัง ต่อมาก็ค่อยๆ ไม่ได้ระวังเท่าแต่แรกแล้ว

เมื่อก่อนเขาเชิญดีไซเนอร์ ช่วยออกแบบเวทีเต้นรำให้หลูจื๋อหลิน โดยเฉพาะ

แต่ตอนหลังเขาโลภมาก จึงเก็บเงินค่าจ้างดีไซเนอร์ แอบเข้ากระเป๋าตัวเอง

ตอนที่ผู้จัดการทำครั้งแรกก็กลัวอยู่บ้าง กลัวว่า หลูจื๋อหลิน ดูออกจะโกรธ

แต่เหมือนว่าหลูจื๋อหลิน จะไม่สังเกตเห็น เขาจึงยิ่งกล้ามากขึ้น เขาประหยัดทุกส่วนที่ทำได้ เดิมทีการตกแต่งของโรงแรมใช้วัสดุที่แพงและหรูหราที่สุด ตอนนี้เขาเปลี่ยนเป็นวัสดุที่ราคาถูกที่สุดแทน

แม้เมื่อก่อนเลขาของ หลูจื๋อหลินจะมาตรวจสอบ แต่ก็ไม่เคยเข้มงวดขนาดนี้

ผู้จัดการกังวลเมื่อฉินซีกลับไปแล้วจะรายงานเรื่องนี้กับหลูจื๋อหลิน ถึงตอนนั้นตัวเองจะต้องรับผลที่ตามมา รีบขอความเห็นใจ “เลขานุการฉิน ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมแค่เลอะเลือนไปหน่อย หวังว่าจะให้โอกาสผมแก้ตัวใหม่ ผมจะทำให้คุณพอใจแน่นอน”

ใบหน้าของเขาลนลาน กลัวว่าฉินซีจะไม่ตอบตกลง

“เหอะๆ”

ฉินซียิ้มเสียดสีปฏิเสธเขา “ดิฉันคิดว่าทัศนคติของคุณมีปัญหา นับจากนี้เริ่มเปลี่ยนผู้จัดการโรงแรม”

เธอพูดจาเรียบๆ ตัดสินความเป็นความตายของผู้จัดการ

ผู้จัดการสีหน้าไม่อยากเชื่อ เขาตอบปากสั่น “เลขานุการฉินคุณจะทำอย่างนี้ไม่ได้!

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท