Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1447

ตอนที่ 1447

บทที่ 1447 จำได้

“ผมยังมีครอบครัวต้องดูแล ต้องเลี้ยงหลายคนทั้งบ้าน ถ้าผมตกงาน งั้นครอบครัวผมจะอยู่ยังไง”

เสียงของผู้จัดการสะอื้น ดูท่าจะร้องไห้ออกมา

“อย่ามาแสดงบทน่าสงสารที่นี่ ครอบครัวคุณจะอยู่ยังไงไม่เกี่ยวกับฉัน ต่อให้คุณออกจากที่นี่ ก็ยังไปหางานใหม่ได้”

ฉินซีไม่เชื่อมุกนี้ เธอมองปราดเดียวก็รู้ นี่เป็นแค่ละครที่ผู้จัดการอยากรักษาเก้าอี้ตัวเอง เปิดโปงความเสแสร้งของเขาโดยไม่ไว้หน้า

ตอนแรกผู้จัดการคิดอยากจะขอร้อง แต่ในหัวก็เกิดความคิดขึ้นแวบหนึ่ง

เขายืนตัวตรง พูดอย่างจริงจัง “เลขานุการฉิน พวกเราต่างทำงานให้คนอื่นเหมือนกัน หวังว่าคุณจะให้อภัยผม คุณคิดว่าใช้ความสวยไต่เต้าหรือ จะอยู่กับ ประธานหลูได้อีกนานสักเท่าไรเชียว ไม่เคยขาดผู้หญิงสวย ผมยอมรับคุณสวยกว่าผู้หญิงพวกนั้นที่ประธานหลู เคยเลี้ยงดู แต่คนเรายังไงก็ต้องแก่ตัวถึงวันนั้นคุณจะทำยังไง”

เขาพูดทีละคำชัดๆ สายตาจ้องมองฉินซี

ถ้าเป็นคนอื่น คงจะโกรธเกรี้ยวไปแล้ว แต่ฉินซีไม่โกรธ และใบหน้ากลับมีรอยยิ้มบางๆ เธอมองผู้จัดการที่สงสัยตัวเอง พูดอย่างไม่สะทกสะท้าน “วางใจเถอะค่ะ ฉันฉลาดกว่าคุณ ก่อนฉันไปจะต้องจัดการทางหนีทีไล่เรียบร้อยแล้ว”

น้ำเสียงของเธอเรียบๆ กระทั่งได้ยินถึงความอ่อนโยน

แต่คำพูดเบาๆ เช่นนี้ กลับทำให้ในใจผู้จัดการเต้นแรง

“คุณ!”

คำพูดเมื่อครู่ของฉินซี แทงใจทุกประโยค

ผู้จัดการสูดลมหายใจลึก ระงับไฟแค้นลง “เลขานุการฉิน คุณเป็นแค่เลขาเล็กๆ ไม่ใช่หัวหน้าของโรงแรมเรา มีสิทธิ์อะไรไล่ผมออก”

เขากัดฟันพูด สายตาจ้องฉินซีเดือดดาล

ฉินซีก้มหน้ามองปลายเท้า พูดเรื่อยๆ “ฉันกลับไปคุยกับประธานหลู ก็ได้ บอกเขา คุณไม่ใช่แค่ทำงานไม่เต็มที่ และยังทำตัวไม่ดีกับฉันด้วย ให้เขาช่วยเตือนโรงแรมพวกคุณ ไล่คุณออกก็ได้”

เมื่อเธอพูดจบ สีหน้าของผู้จัดการก็บอกบุญไม่รับทันที

แม้ฉินซีไม่มีสิทธิ์ แต่ หลูจื๋อหลินมีสิทธิ์

ผู้จัดการรู้ดี หัวหน้าของเขาไม่มีทางทำเพื่อเขาหักหน้าหลูจื๋อหลิน แน่นอน แค่เพียงฉินซีพูด เขาต้องตกเก้าอี้แน่

เขาคำรามโมโห “คุณอย่ามาวางอำนาจ ตอนแรกผมให้เกียรติคุณมาก ไม่เข้าใจทำไมต้องปรักปรำผมขนาดนี้”

ผู้จัดการระงับความโกรธไม่อยู่ ก้าวพรวดมาทางฉินซีจะเงื้อมือตบ

ในหัวเขาเกิดความคิดที่บ้าคลั่ง

ในเมื่อฉินซีไม่คุยกันด้วยเหตุผล จะลากเขาลงนรก ถ้าอย่างนั้นมีอะไรต้องคิดอีก สู้ตายคู่ดีกว่า

ผู้จัดการมองฉินซีสายตาและใบหน้าดุร้าย ดวงตามีประกายกระหายเลือด

ขณะเดินเข้าไป หางตาเขาเหลือบเห็นมีดปอกผลไม้ที่วางบนโต๊ะข้างๆ

ผู้จัดการหยิบมีดปอกผลไม้นั้น พุ่งเข้ามาทางฉินซีอย่างบ้าคลั่ง

ลู่เซิ่นระวังไม่ให้จั่วยีจั่วเอ้อ รู้เบาะแสความจริง จึงยืนข้างๆ ไม่พูดจาอะไรมาตลอด แต่เมื่อเขาเห็นผู้จัดการจะลงมือกับฉินซี ก็ไม่อาจนิ่งเฉยได้อีก

ก่อนที่เขาจะพุ่งเข้าไป ปกป้องฉินซี จั่วยีจั่วเอ้อ ไวกว่าเขาก้าวหนึ่งชกผู้จัดการหมอบลงไป

“โครม!”

ได้ยินแต่เสียงร้องโอดโอย ร่างอ้วนตุ๊ต๊ะของผู้จัดการ กระแทกพื้นเต็มแรง ทำเอาฝุ่นกระจาย

จั่วยีจั่วเอ้อ ต่างแยกกันกดไหล่ซ้ายขวาของเขา

“แกร๊ก!”

มีดปอกผลไม้ร่วงหล่นลงพื้น เกิดเสียงดังของคมมีด

จั่วยีกดหัวของผู้จัดการ ทำให้หน้าของเขาแนบติดกับพื้น

ความรู้สึกเย็นวาบ แทงโสตประสาทของผู้จัดการ

ความรู้สึกอัปยศอดสูเข้าครอบงำจิตใจของเขา เขาดิ้นรนเดือดดาล “ปล่อยกู พวกหมารับใช้”

เขากัดฟันกรอดด่ากราด

จั่วยีจั่วเอ้อ สายตาเย็นเฉียบ

พวกเขาออกแรงเพิ่มโดยไม่ได้นัดหมาย ทำให้แขนผู้จัดการหัก

“โอ๊ยยย!”

ผู้จัดการรู้สึกว่าแขนสองข้างของตัวเองเหมือนกับขาดแล้ว ร้องเจ็บปวด “ปล่อยกู ปล่อยเดี๋ยวนี้ ข้าจะสู้กับแก!”

เขาไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ปากยังคงร้องด่า

ผู้จัดการยิ่งด่าเจ็บแสบเท่าไร จั่วยีกับจั่วเอ้อ ก็ยิ่งออกแรงหนักขึ้น

เมื่อรู้สึกได้เช่นนั้น ผู้จัดการรีบร้องขอชีวิต “ขอโทษลูกพี่สองคน ผมผิดไปแล้ว เมื่อกี้ไม่ควรวางโต ลูกพี่ปล่อยผมไปเถอะ”

เขามองทั้งสองคนสีหน้าเจ็บปวด ขอบตาแดง คล้ายกับจะร้องไห้

จั่วยีจั่วเอ้อ ฝึกอบรมที่องค์กรจนใจแข็งเป็นหินตั้งนานแล้ว ผู้จัดการขอร้องเช่นนี้ ทั้งไม่แยแส และไม่มีวี่แววใจอ่อนสักนิด

ก่อนมาที่นี่ จ้านเซินกำชับกำชาพวกเขา

เวลาอยู่ข้างนอก จะต้องดูแลฉินซีให้เต็มที่ อย่าให้เธอได้รับอันตรายแม้ปลายเล็บ

ภารกิจครั้งนี้สำเร็จหรือไม่ก็ตาม สุดท้ายแล้วจะต้องทำให้ฉินซีมีชีวิตปลอดภัยกลับมา

จั่วยีจั่วเอ้อ จดจำขึ้นใจ เมื่อเห็นผู้จัดการพุ่งเข้าหาฉินซีเช่นนั้น พวกเขาจึงเอาตัวเข้าขวางในเสี้ยววินาที

ฉินซีคาดเดาไว้แล้วว่าพวกเขาจะต้องเข้ามาขวาง แต่นึกไม่ถึงว่าผู้ชายที่อยู่ข้างๆ ก็ขยับเช่นกัน

ตอนนี้ ฉินซีก็เห็นด้านข้างของชายหนุ่ม ใต้ติ่งหูมีไฝดำ

ตำแหน่งไฝนั้นเหมือนกับลู่เซิ่นเปี๊ยบ

ฉินซีสีหน้าประหลาดใจ สายตาของเธอมอง ลู่เซิ่นไม่วางตา ในใจเต้นโครมคราม

แม้หน้าตาเขาจะต่างกับลู่เซิ่นสิ้นเชิง แต่ครั้งนี้ฉินซีมั่นใจสถานะของเขา เขาคือลู่เซิ่น

เหมือนจะรู้สึกได้ ลู่เซิ่นมองเธอ

สองคนสบตากัน ทันใดนั้นขอบตาแดง

ฉินซีไม่รู้ว่าควรบรรยายความรู้สึกในใจอย่างไร เธอคาดไม่ถึง ลู่เซิ่นจะอยู่ที่นี่จริงๆ และใช้วิธีนี้ ปรากฏตัวต่อหน้าเธอ

เธออยากจะถามลู่เซิ่นเหลือเกิน นี่มันเรื่องอะไรขึ้นกันแน่

ทำไมอยู่ๆ ใบหน้าของเขาถึงเปลี่ยนไปเป็นคนละคน หรือว่าช่วงเดือนกว่านี้ ลู่เซิ่นไปผ่าตัดศัลยกรรมหน้ามา

แต่ ศัลยกรรมไม่น่าจะฟื้นตัวได้เร็วขนาดนี้และดีขนาดนี้

โดยเฉพาะการผ่าตัดศัลยกรรมขนาดใหญ่ ยากที่จะไม่มีร่องรอยแผลเป็น

“ชู่…”

ลู่เซิ่นส่งสายตาให้เธอ บอกใบ้ให้เธอใจเย็น อย่าเพิ่งผลีผลาม

ฉินซีสูดลมหายใจลึก บังคับให้ตัวเองอย่ามีพิรุธ

เธอมองจั่วยีจั่วเอ้อ สีหน้าเคร่งเครียด ขยับริมฝีปากนิดๆ “พวกคุณสองคน โยนเขาออกไป อย่าให้เข้ามา เดี๋ยวจะมาก่อเรื่องอีก ถ้าเขายังดื้อด้าน ก็ส่งตัวให้ตำรวจซะ”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท