Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1458

ตอนที่ 1458

บทที่ 1458 ทุกอย่างชัดเจน

ฉินซีอยู่ในฐานะไหน พวกเขาอยู่ในฐานะไหน เพียงคนโง่ก็รู้ว่าควรเลือกอย่างไร

เมื่อเห็นพวกเขายกห้องใหญ่ให้เธอ ฉินซีก็เกียจคร้านเกินไปที่จะถ่อมตัว

เธอลุกขึ้นจากโซฟาอย่างคล่องแคล่ว “โอเค เป็นวันที่ยุ่งมาก ทุกคนไปพักผ่อนก่อนเถอะ อีกสักพักพวกเราค่อยลงไปทานมื้อเย็นกัน หรือถ้าใครหิวก็สั่งข้างนอกมากินได้เลยนะ”

ฉินซีพูดพลางเดินไปยังห้องนอนใหญ่

นานแล้วที่ไม่ได้มาทำภารกิจ มันทำให้เธอเหนื่อยเล็กน้อย

ใช่

เมื่อเห็นท่าทางที่อ่อนล้าของฉินซี ทั้งสองคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

ฉินซีถูกเสียงเคาะประตูปลุกให้ตื่น

เธอมุ่นคิ้ว วิ่งลงมาจากเตียง

“เกิดอะไรขึ้น?”

เธอถามด้วยความหงุดหงิด เสียงแหบพร่าด้วยเพราะเพิ่งตื่นนอน

เสียงของจั่วยีดังออกมาจากข้างนอก “คุณฉินครับ หลูจื๋อหลินอยู่ข้างนอก ผมกับจั่วเอ้อ ต้องหาที่ซ่อนตัวไหมครับ?”

พวกเขาไม่คิดมาก่อนว่า หลูจื๋อหลินจะมาหาในเวลาเช่นนี้

ได้ยินว่าหลูจื๋อหลินมาหาตัวเอง แววตาของฉินซีฉายประกายสะอิดสะเอียน

เมื่อคิดว่าตัวเองยังมีภารกิจที่ต้องแบกอยู่บนบ่า ฉินซีสูดหายใจเข้าลึก บังคับอารมณ์ตัวเองให้สงบลง “อืม พวกนายไปซ่อนก่อน อย่างส่งเสียง”

เธอไม่ต้องการให้หลูจื๋อหลิน พบจั่วยี และ จั่วเอ้อ

ฉินซีพูดพร้อมกับลุกจากเตียงและสวมรองเท้า

เมื่อเธอออกมาจากห้องนอน จั่วยี และจั่วเอ้อก็หาที่ซ่อนตัวดีๆได้แล้ว

ฉินซีดูให้แน่ใจอีกครั้งอย่างรอบคอบ เมื่อตรวจสอบแล้วว่าไม่มีปัญหา จึงค่อยเดินไปที่ประตู

บนหน้าจอ LCD ในห้อง เธอเห็น หลูจื๋อหลินยืนอยู่ตรงหน้าประตู ส่วนด้านหลังเขามีผู้ช่วยตัวเล็กๆ ในมือถือนั้นสิ่งของบางอย่าง

หลูจื๋อหลินรออยู่ที่ประตูอย่างเงียบๆ รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยที่เห็นว่าเธอไม่ได้เปิดประตู

เขาหันไปมองผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ เขา “แกแน่ใจเหรอว่าฉินซีอยู่ห้องนี้? ทำไมไม่มีคนมาเปิดประตู?”

หลูจื๋อหลินรอมาแล้วห้านาที แต่ภายในไม่มีการเคลื่อนไหวแต่อย่างใด

ผู้ช่วยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉินซีอยู่ในห้องหรือไม่ เขาเพียงฟังพนักงานบริการบอกมาเท่านั้น ว่าไม่เห็นฉินซีออกไปข้างนอก

ดังนั้นผู้ช่วยจึงสรุปว่าฉินซีควรอยู่ในห้อง

แต่ตอนนี้ไม่มีการตอบสนองใดๆ จากข้างใน ผู้ช่วยก็แน่ใจไม่ลงเหมือนกัน

ผู้ช่วยมองไปยังหลูจื๋อหลิน อย่างระมัดระวัง “ให้ผมไปถามหน้าฟร้อนท์อีกรอบไหมครับ?”

เขาพูดอย่างขี้ขลาดเพราะกลัวว่า หลูจื๋อหลินจะโกรธ

หลูจื๋อหลินมองเขาอย่างโหดร้าย “แกทำอะไรของแกวะ? ฉันให้แก”

ความโกรธไหลเชี่ยวในใจ เขาชี้ไปที่จมูกของผู้ช่วย เมื่อเตรียมจะตำหนิ ทันใดก็มีเสียงเบาๆดังขึ้นมาจากด้านในห้อง

หลูจื๋อหลินหยุดชั่วคราว ก่อนหันหน้าไปทางประตู

ประตูด้านในเปิดออก เผยให้เห็นใบหน้าสวยงามราวกับไม่ใช่มนุษย์ของฉินซี

เพราะว่าฉินซีนอนหลับ บนร่างกายจึงสวมแค่ชุดเดรสผ้าไหมแท้

เพื่อหลีกเลี่ยงความน่าอับอายจากการเปิดเผยร่างกาย บนตัวเธอยังมีผ้าคลุมคลุมทับไว้อีกชั้น

ผ้าไหมสีดำตัดกับผิวที่ขาวราวกับหิมะ เธอเปิดปากหาวหวอด พิงที่กรอบประตูอย่างเกียจคร้าน ดวงตายาวรีส่องประกายคล้ายแสงดวงดาว ดูสวยหยาดเยิ้มกินใจ

ฉินซีผสานความเซ็กซี่และความบริสุทธิ์ไว้ได้อย่างลงตัว ทุกการเคลื่อนไหวของเธอ ส่งผลกระทบต่อหัวใจของ หลูจื๋อหลินอย่างมาก

ความงามของเธอมีเอกลักษณ์เฉพาะไม่เหมือนใคร หลูจื๋อหลิน ที่ได้เห็นความงามมามากมายนับไม่ถ้วน อดไม่ได้ที่จะตกหลุมรักเธอ และควบคุมตัวเองไม่ได้ให้ลงไปหมอบราบคาบแก้วอยู่ใต้กระโปรงสตรีเพศของฉินซี

เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่มีมารยาทต่อหน้าฉินซี หลูจื๋อหลินรีบถอนมือออก ก่อนเผยรอยยิ้มอ่อนโยนออกมา

หลูจื๋อหลินมองตรงไปที่ฉินซี บังคับกดสิ่งที่อยู่ภายในก้นบึ้งหัวใจให้ลงไป

เพื่อไม่ให้ฉินซีดูออก จนตกใจกลัวและหนีไป

หลูจื๋อหลินแทบรอไม่ไหวที่จะเดินไปข้างหน้าเธอ ก่อนพูดว่า “คุณฉินครับ กลับมาเมืองไห่ครั้งนี้ ให้ผมทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดี พาคุณไปดื่มด่ำกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนของเมืองไห่ และไปดินเนอร์ด้วยกันนะครับ”

หลังจากที่กลับมา เขาก็ยังไม่หยุดคิดถึงฉินซี และยังต้องการสร้างโอกาสในการไปมาหาสู่มากขึ้น

ดังนั้นเขาจึงให้ผู้ช่วยไปที่แผนกต้อนรับ เพื่อสืบหาเบอร์ห้องของฉินซี

เมื่อเผชิญกับความมีน้ำใจของเขา ฉินซีไม่ได้สนใจ

ใบหน้าของฉินซีปรากฏร่องรอยของความงัวเงีย “ขอโทษนะคะคุณหลู วันนี้ฉันเพิ่งแลน เหนื่อยมากและต้องการพักผ่อน รอวันอื่นค่อยไปด้วยกันนะคะ”

เธอหยีตา มือนวดขมับ ท่าทางดูเหนื่อยล้ามาก

เมื่อหลูจื๋อหลินได้ยินเธอพูดแบบนี้ ความผิดหวังก็ฉายชัดขึ้นบนใบหน้าเขา

แต่เมื่อเห็นท่าทางของฉินซีที่ไม่ดีนัก ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะฝืน

หลูจื๋อหลินถอนหายใจยาว “โอเคครับ แม้คุณฉินจะเหนื่อย แต่ไม่กินข้าวไม่ได้นะครับ พวกเราไปห้องอาหารชั้นดาดฟ้า หรือไม่ก็ให้คนของผมไปซื้ออาหารจากข้างนอกมาส่งห้องคุณ แล้วเรามาทานด้วยกัน”

เขายังไม่ยินยอมที่จะยอมแพ้แบบนี้ ไม่หยุดที่จะหาโอกาสให้ตัวเอง

ฉินซีคิดว่าเขาจะหยุดตามชั่วคราว คาดไม่ถึงว่าเขาจะใจร้อนขนาดนี้ จู่ๆก็เป็นคนไม่อดทนไม่เสีย

เธอลืมตาขึ้น มีความหงุดหงิดเล็กน้อยในน้ำเสียงบางๆ “คุณหลู ตอนนี้ฉันแค่อยากนอนค่ะ ไม่อยากทานอะไร ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว วันหลังเราค่อยคุยกันนะคะ”

พูดจบฉินซีก็ปิดประตูลง

การกระทำของฉินซีนั้นดูชัดเจนมาก หลูจื๋อหลินยังไม่ทันได้ตอบสนองอะไร เขาทำได้เพียงแค่จ้องมองประตูที่ถูกปิดลง อย่างไม่รู้จะหยุดยั้งมันได้

หลูจื๋อหลินยืนอยู่ที่เดิม ไม่คิดว่าตัวเองจะโดนปิดประตูไม่รับแขกแบบนี้

ความโกรธภายในใจคุกรุ่น เขาขบฟันแน่นอยู่ตรงประตู กำหมัดแน่นจนเห็นเส้นเลือดที่ปูดโปนออกมา ดวงตาสีเข้มมีความขมุกขมัว

ผู้ช่วยรู้สึกได้ถึงรังสีอันตรายที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวเขา ก่อนถามด้วยความกลัว “คุณหลู ต้องการให้ผมเรียกคนมาเปิดประตูไหมครับ”

เขาอยู่กับหลูจื๋อหลินมานาน และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกล้าปฏิบัติกับเขาเช่นนี้

ผู้ช่วยรู้สึกว่าเป็นวาสนาของฉินซี ที่หลูจื๋อหลินมาพอใจในตัวเธอ ใครจะรู้ว่าเธอไม่รู้วิธีการรักษามัน

ในเมืองไห่มีผู้หญิงตั้งมากมายรอต่อแถว ต้องการที่จะอยู่ข้างกายหลูจื๋อหลิน แต่หลูจื๋อหลินกลับไม่ให้โอกาส

จะให้เรียก เรียกอะไร?

หลูจื๋อหลินไม่สบอารมณ์หนัก จ้องไปยังเขา

ตอนนี้เขารู้แล้วว่าตัวเองเลือกผู้ช่วยมาซื่อบื้อแค่ไหน “นี่แกอยากให้คนอื่นรู้หรือไงว่าฉันจีบผู้หญิงไม่ติด? ถูกทิ้ง แล้วยังจะไปบังคับเขาให้ออกไปไหนมาไหน”

หลูจื๋อหลินรู้สึกว่าเขาไม่ได้ใช้หัวสมองสักนิดเวลาทำอะไร จู่ๆก็พลันโกรธขึ้นมา

เขาระบายความอัปยศอดสูทั้งหมดที่เขาได้รับจากฉินซีเมื่อครู่ให้กับผู้ช่วยของเขา

เมื่อต้องเจอกับคำตำหนิของ หลูจื๋อหลินผู้ช่วยทำได้เพียงก้มศีรษะลงอย่างนอบน้อม ไม่กล้าต่อต้านสักนิด

หลูจื๋อหลินพูดด้วยความโกรธ “ยืนทำห่าอะไรอยู่ตรงนี้ รอให้คนมาขำหรือยังไง? ยังไม่รีบไปอีก!”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท