Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1456

ตอนที่ 1456

บทที่1456 พรหมลิขิต

หลูจื๋อหลินกระแอมในลำคอ พูดด้วยน้ำเสียงที่เขาคิดว่าตัวเองเซ็กซี่มาก

เสียงที่ดังขึ้นฉับพลัน ดูเหมือนจะทำให้ฉินซีตกใจ

ปลายนิ้วของเธอสั่นเล็กน้อย เธอเงยหน้าขึ้นกะทันหัน และเผชิญหน้ากับดวงตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาของหลูจื๋อหลิน

ไม่พูดไม่ได้ว่า ถึงแม้ หลูจื๋อหลินจะอายุห้าสิบแล้วก็ตาม ทว่าเขายังคงรักษารูปร่างอย่างดี หน้าตาของเขาดูเหมือนคนวัยสามสิบต้นๆ ไม่แปลกใจเลยที่จะมีสาวน้อยใหญ่มาหลงใหลในตัวเขา

ฉินซีกะพริบตา เผยให้เห็นท่าทางที่ไม่มีอันตรายใด “คุณคือ… …”

ใบหน้างดงามเต็มไปด้วยความสงสัย ดวงตาที่สว่างไสวคู่นั้นดูราวกับจะพูดได้

เป็นเวลานานแล้วที่หลูจื๋อหลินไม่ได้ยินเสียงหัวใจตัวเองที่เต้น เขาจัดการแขนเสื้อ “ดูเหมือนคุณผู้หญิงจะไม่ใช่คนเมืองไห่สินะครับ?”

เขาจงใจพูดอ้อมไปมา ไม่ได้บอกฉินซีไปตรงๆ

ฉินซีส่ายหัว “ไม่ใช่ค่ะ”

ความงุนงงเมื่อสักครู่หายไปแล้ว ก่อนเธอจะกลับมาใช้ท่าทางเย็นชาอีกครั้ง

หลูจื๋อหลินเดินเข้ามาหาเธอ “ถ้าอย่างนั้นผมขอนั่งตรงนี้ เพื่อพูดคุยกับคุณได้ไหมครับ?”

เขาแสร้งทำเป็นสุภาพบุรุษที่แสนสุภาพ แต่เขากลับไม่รู้ว่าภายในสายตาฉินซีแล้วมันดูเสแสร้ง

ฉินซีขมวดคิ้วราวกับไม่เต็มใจนัก

นี่เป็นครั้งแรกที่ หลูจื๋อหลินถูกขับไล่ เขามองลงไปยังชุดที่สวมใส่ของตัวเองวันนี้

ไม่มีปัญหานี่! หล่อเหมือนเดิม ทำไมฉินซีถึงไม่ชอบล่ะ?

ฉินซีมองเขาตรงๆ “คุณผู้ชายท่านนี้ พวกเราไม่ได้มีความสนิทสนมกันขนาดนั้น ฉันไม่ชอบร่วมโต๊ะทานอาหารกับคนแปลกหน้า”

เธอพูดอย่างตรงไปตรงมา และปฏิเสธคำขอของหลูจื๋อหลิน

ทันทีที่พูดจบ ใบหน้าของหลูจื๋อหลิน ก็แสดงความประหลาดใจ

เขาถูกปฏิเสธ?

นี่เขาถูกปฏิเสธจริงหรือ?

นี่เป็นสิ่งที่ หลูจื๋อหลินไม่เคยคิด

เมื่อก่อนมีแต่เหล่าผู้หญิงเข้ามาติดพันเขาสับสนปนเปกันยุ่ง ใครเล่าจะรู้ว่าฉินซีที่อยู่ที่นี่ เขาเริ่มก่อนอย่างนี้ คาดไม่ถึงว่าฝ่ายตรงข้ามจะไม่แยแส

น่าสนใจ

มุมปากของ หลูจื๋อหลินยกขึ้นเล็กน้อย ความปรารถนาที่ทำให้สิ้นฤทธิ์อยู่ในกมลสำนึกของผู้ชาย

หากสามารถทำให้ผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบและเย็นชาเช่นนี้เชื่องได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเอาเรื่องที่เกี่ยวกับศักดิ์ศรีออกไป

หลูจื๋อหลินครุ่นคิดอย่างฝันหวาน จินตนาการถึงสายตาที่มองมาอย่างอิจฉาของผู้คน

เขาพูดต่อไปอย่างไม่ลดละ “ใครๆก็เริ่มมาจากไม่รู้จักจนรู้จักนั้นแหละครับ คุณผู้หญิง ได้มาพบเจอกันที่นี่ ต้องเป็นพรหมลิขิตระหว่างเราสองแน่ มันจะดีกว่าถ้าจะให้โอกาสกันและกัน”

หลังจากพูดจบ หลูจื๋อหลินก็ไม่สนใจว่าเธอจะเต็มใจหรือไม่ นั่งลงไปตรงข้ามเธอ

เมื่อเห็นการกระทำที่ไม่มีเหตุผลของเขา ใบหน้าของฉินซีพลันครึ้มลง

การอบรมที่ดี ทำให้เธอไม่พูดจาทำร้ายใคร แค่ใช้สายตาตำหนิพฤติกรรมของเขาเท่านั้น

หลูจื๋อหลิน รู้สึกตลกเล็กน้อยภายในใจ แต่ภายนอกกลับแสดงเป็นไม่รู้เรื่องอะไร

เขาหยิบเมนูที่อยู่ข้างๆ ขึ้นมาดู “สเต็ก พาสต้าและฟัวกราส์ของที่นี่ไม่เลวเลยครับ ผมสั่งบ่อย สั่งมาให้คุณลองชิมดีกว่า”

หลูจื๋อหลินถาม แต่ฉินซีไม่ตอบอะไร

แต่เขากลับไม่รู้สึกเก้อเขิน และยังคงถามต่อ “สาวๆชอบทานสลัด สลัดของที่นี่ถึงจะไม่ค่อยอร่อยเป็นพิเศษ แต่ก็ถือว่าทานได้ สั่งมาสักจานก็ได้ครับ ถ้าหากคุณไม่ชอบละก็ ผมจะพาไปอีกร้านหนึ่ง รสชาติของร้านนั้นน่าจะถูกปากผู้หญิงมากกว่า”

หลูจื๋อหลินพอมองออกว่า ฉินซีอายุไม่มาก

เขาไม่อยากรู้ว่าทำไมฉินซีถึงร่ำรวยตั้งแต่อายุยังน้อย เขาเพียงแต่ลุ่มหลงอยู่กับความงดงามของฉินซี และอยากได้เธอ

ฉินซีมองสบไปยังเขา ก่อนพูด “ดูเหมือนคุณจะเข้าใจรสนิยมของผู้หญิงดีนะคะ ดูเหมือนว่าเมื่อก่อนคุณคงคบหาผู้หญิงมาไม่น้อย น่าเสียดายที่รสนิยมของฉันกับผู้หญิงพวกนั้นไม่เหมือนกัน ของที่คนส่วนใหญ่ชอบ ฉันไม่นิยมหรอกค่ะ”

เธอพูดอย่างเย็นชา คำพูดที่สื่อถึงมีความหมายเชิงลึก

สิ่งที่ฉินซีต้องการบอกก็คือ ไม่ต้องมาทำพะเน้าพะนอเอาใจต่อหน้าเธอ เธอดูออก

และความหมายที่ลึกกว่านั้นก็คือ ให้หลูจื๋อหลินเก็บอาการหน่อย

เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นที่นิยมมาก แต่ในสายตาของเธอที่มองมา เขาไม่ค่อยดีนัก

ทันทีที่พูดจบ พลันรอยยิ้มมุมปากของหลูจื๋อหลินกลับดูแข็งขึ้น

หลูจื๋อหลินไม่คิดเลยว่า ฉินซีที่ดูอายุยังน้อย คาดไม่ถึงว่าจะมีไหวพริบดีอย่างนี้

ทันใดนั้นเขาก็ยิ่งรู้สึกสนใจฉินซีขึ้นมามากกว่าเดิม

หลูจื๋อหลินโน้มตัวลงไปข้างหน้าเล็กน้อย ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้ “คุณผู้หญิง คำถามเมื่อครู่ คือกำลังหึงหวงหรือเปล่า?”

รอยยิ้มขี้เล่นปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา ฉินซีอดไม่ได้ที่จะกลอกตาขึ้นภายในใจของเธอ

เธอรู้สึกว่าหลูจื๋อหลินเป็นคนคนหลงตัวเองจริงๆ

เขาไปได้ยินมาจากไหนหรือ ว่าเธอกำลังหึง

ฉินซีพิงพนักเก้าอี้ เขยิบเข้าไปใกล้หลูจื๋อหลิน “คุณคะ ฉันรู้สึกว่าสิ่งที่คุณมองตัวเองคือปัญหาใหญ่ คุณไม่ใช่สไตล์ที่ฉันชอบ”

เธอกระแทกกลับอย่างไร้ความปราณี

ฉินซีพอมองเห็นได้ว่า หลูจื๋อหลิน ต้องการที่จะเอาชนะเธอในตอนนี้

ถ้าตอนนี้เธอยอมง่ายๆหลูจื๋อหลินจะคิดว่าเธอได้มาง่ายๆ และหมดความสนใจในตัวเธอ

ดังนั้นแล้ว เธอต้องคงความรู้สึกแปลกใหม่นี้เอาไว้

“โอ้? ถ้าอย่างนั้นคุณชอบสไตล์ไหนครับ?”

หลูจื๋อหลินไม่ได้โกรธ เขากลับยังคงถามต่อ

ริมฝีปากสีแดงของฉินซีเปิดขึ้นเบาๆ ดวงตาสีเข้มเต็มไปด้วยความเย็นชา “ฉันชอบผู้ชายแบบไหนเหรอคะ ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ หรือคุณเปลี่ยนเป็นสไตล์ที่ฉันชอบได้?”

เธอสร้างกำแพงเหล็กขึ้นมาระหว่างตัวเธอเองกับหลูจื๋อหลิน

“ลองพูดมาสิครับ ไม่แน่อาจจะได้ แค่มีเงิน อะไรก็ทำได้ทุกอย่างไม่ใช่หรือ?”

หลูจื๋อหลินยิ้ม คล้ายกับไม่เปลี่ยนใจและยังมุ่งมั่นแต่กับเธอ

ฉินซีเม้มปาก คล้ายกับไม่ต้องการตอบกลับคำถามนี้

“คุณผู้หญิง คุณผู้ชาย สเต็กของพวกคุณพร้อมแล้วครับ”

เมื่อหลูจื๋อหลินต้องการพูดอีกครั้ง บริกรก็มาพร้อมกับสเต็ก

หลูจื๋อหลินที่ถูกขัดจังหวะ ทำได้เพียงเลือกที่จะหยุดชั่วคราวเท่านั้น

บริกรช่วยพวกเขาปูเสื่อโต๊ะ ก่อนวางจานสเต็กลง “ทานให้อร่อยนะครับ”

หลูจื๋อหลินรู้ ถ้าอยากเข้าหาผู้หญิงแบบฉินซี ไม่ต้องรีบร้อน ต้องไปเป็นลำดับขั้นตอน

เขาจึงทำท่าทางถามว่า “ต้องการให้ผมหั่นสเต็กให้ไหม?”

ฉินซีหยิบมีดและส้อมขึ้น พลางส่ายหน้า “ไม่ต้องค่ะ”

เธอหั่นสเต็กอย่างชำนาญ เคลื่อนไหวอย่างสง่าและดูชำนาญ แค่มองก็รู้ว่าไม่ได้กินน้อย

“ผมชื่อหลูจื๋อหลิน ทำงานบริษัทมหาชน นี่นามบัตรของผม ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงจะกรุณาบอกชื่อของคุณให้ผมทราบได้ไหมครับ”

ยิ่งหลูจื๋อหลิน มองเขาก็ยิ่งใจเต้น เขาหยิบนามบัตรสีดำทองออกมาจากกระเป๋า ก่อนยื่นให้ฉินซี

ด้วยความสุภาพ ฉินซีทำเพียงยื่นมือไปรับ

หลังจากดูแล้วเธอก็วางมันลงบนโต๊ะ “ฉันชื่อ ฉินซี เพิ่งกลับมาจากไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศ ไม่มีนามบัตร คงแลกกับคุณไม่ได้”

หลังจากรู้ว่าฉินซีเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ หลูจื๋อหลินก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเธอถึงไม่รู้จักตัวเอง

เขาโล่งใจ นัยน์ตามีรอยยิ้ม

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท