Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1459

ตอนที่ 1459

บทที่ 1459 เปิดตัวได้อย่างน่าทึ่ง

หลูจื๋อหลินสะบัดแขนเสื้อ ก่อนหมุนกายเดินจากไปด้วยความโกรธ

ภายในห้อง

ฉินซียกริมฝีปากของเธอขึ้นเล็กน้อย

ดวงตาที่ขุ่นมัวที่เหมือนมีม่านหมอกมาบดบัง เปลี่ยนเป็นสดใส มีแสงประกาย

จริงๆแล้วฉินซีไม่ได้ง่วงนอนเลย แค่เธอไม่ต้องการติดต่อกับหลูจื๋อหลินมากนักแค่นั้น

และผู้ชายก็ล้วนเป็นพวกที่ไม่ภูมิใจในตัวเอง ยิ่งไม่ได้มา ภายในใจก็ยิ่งมีแต่ความวุ่นวาย

ฉินซีตระหนักถึงจุดนี้ ดังนั้นจึงจัดการหลูจื๋อหลินได้อย่างง่ายดาย

เธอยืนอยู่ที่ประตูห้องสักพัก และ รอจนแน่ใจว่าหลูจื๋อหลินกับผู้ช่วยของเขาจากไปจริงๆแล้ว จึงค่อยเรียกจั่วยีจั่วเอ้อให้ออกมา

โรงพยาบาล

จากประสบการณ์ก่อนหน้านี้ ลู่เซิ่นดูสุขุมมากขึ้น

ไม่นานหลังจากที่ถังย่าจากไป ลู่เซิ่นสวมหน้ากากอีกครั้ง ก่อนจะออกจากห้องผู้ป่วยไปพร้อมโจวซิง

เขารับปากที่จะไปพบกับฉินซีในงานเลี้ยงคืนวันพรุ่งนี้ เขาไม่สามารถคืนคำได้

แม้ว่า โจวซิงจะพยายามอย่างเต็มที่ที่จะห้ามปรามเขา แต่ลู่เซิ่นก็ไม่ลังเลสักนิดเลือกที่จะหนีออกไป

ถังย่าคงไม่คาดคิดว่า เมื่อเธอก้าวเท้าออกไปจากโรงพยาบาล ลู่เซิ่นจะแอบออกไปอีกครั้ง แถมยังเป็นรูปแบบที่เปิดเผยบริสุทธิ์เช่นนี้อีก

เธอกำลังกินหม้อไฟกับซิวหน่ายซิงอย่างมีความสุขโดยไม่รู้ว่าต่อไปกำลังจะเกิดอะไรขึ้น

ถังย่ายังคงคิดไม่หยุดเรื่องลู่เซิ่น หลังจากกินเสร็จเธอก็กลับไปโรงพยาบาลอีกรอบ

ถังย่าซ่อนตัวอยู่ที่หน้าประตูรอให้ผู้ต้องสงสัยปรากฏตัว เพื่อที่จะกันไม่ให้เขาหนี

ถังย่าอยู่จนถึงคืนถัดไป เมื่องานเลี้ยงเริ่ม

เธอไม่เคยเห็นลู่เซิ่นออกมาจากห้องผู้ป่วยเลย พลางถอนหายใจยาวด้วยความโล่งใจ

ให้ลู่เซิ่นอยู่ในโรงพยาบาลอย่างสงบไม่ออกไปก่อเรื่อง เธอก็พอใจมากแล้ว

มิฉะนั้นเธอคงไม่มีวิธีจะไปชี้แจงอะไรกับจ้านเซินได้อีก

อย่างไรก็ตามถังย่าไม่รู้ว่า ลู่เซิ่นในเวลานี้ได้สวมเสื้อผ้าที่โจวเอ้อเตรียมไว้ให้แล้ว และอยู่ในงานเลี้ยงเพื่อรอคอยการมาถึงของฉินซี

20.00 นาฬิกา

งานเลี้ยงกำลังจะเริ่มขึ้น ผู้คนต่างก็ทยอยมารวมตัวกัน

เป็นอย่างที่โจวเอ้อพูด ผู้คนที่มาร่วมงานเลี้ยงสวมหน้ากากทุกคน มีทุกชนิดทุกแบบ น่ารักแปลกใหม่บ้างละ โหดร้ายน่ากลัวบ้างละ บนหน้าของลู่เซิ่นเป็นหน้ากากสีบริสุทธิ์ดูเรียบง่าย

ลู่เซิ่นเบียดเสียดฝูงชนเดินกลับมาพร้อมกับแก้วไวน์

สายตาเขามองไปยังประตู รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเมื่อคิดว่าจะได้เจอฉินซีในเร็วๆ นี้

ในเวลาเดียวกัน ฉินซีก็พร้อมที่จะไปเช่นกัน

เธอเปิดกล่อง เพื่อจะเปลี่ยนเป็นชุดราตรีที่จ้านเซินเตรียมไว้ให้

ชุดราตรีสีไวน์แดง ยิ่งเสริมให้ผิวขาวผ่องของฉินซีดูโปร่งแสงกว่าเดิม

เธอมองตัวเองในกระจก พลางขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ

ถึงอย่างไรคืนนี้ก็เป็นงานเลี้ยงตอนเย็น จำเป็นต้องแต่งองค์ทรงเครื่อง ถึงแม้บนใบหน้าของทุกคนจะต้องมีหน้ากาก แต่ว่าก็สามารถหลุดออกจากหน้าได้หรือเจอสถานการณ์ที่ต้องถอดออกมา

ดังนั้น ฉินซีจึงต้องแต่งหน้าบางๆ

เธอมีพื้นฐานที่ดี ควบคู่ไปกับความชำนาญ ภายในเวลาครึ่งชั่วโมงเธอก็แต่งหน้าเสร็จ

ฉินซีม้วนผม ใบหน้างดงามหันดูรอบหนึ่ง ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มบาง

เธอทำทั้งหมดนี้ ไม่ใช่เพื่อหลูจื๋อหลิน

ฉินซีรู้ว่าคืนนี้ลู่เซิ่นจะปรากฏตัว

แค่คิดว่าจะได้เจอลู่เซิ่นอีกครั้งในเร็วๆ นี้ ภายในใจก็กักเก็บความตื่นเต้นไว้ไม่ไหว

ฉินซีอ้อยอิ่งอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่างานเลี้ยงกำลังจะเริ่ม จึงค่อยเรียกจั่วยีจั่วเอ้อ ก่อนเดินไปพร้อมกัน

เมื่อฉินซีปรากฏตัวในห้องจัดเลี้ยง ทันใดกลับดึงดูดทุกสายตาให้มองมา

ชุดราตรีสีไวน์แดงปกคลุมต้นขาของฉินซี เผยให้เห็นขาเรียวสวย

เธอยืนอยู่ที่ประตูอย่างสงบ ผมสีดำสนิทคลอเคลียประบ่า ทั่วทั้งร่างแผ่เสน่ห์ไม่เหมือนใครของความเป็นผู้หญิงออกมา

ลู่เซิ่นจำเธอได้ในพริบตา หัวใจเขาเต้นแรงแทบระเบิด

เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนรอบตัวเขากำลังจ้องมองไปที่ฉินซี พลางพูดอุทานด้วยความตะลึงนั้น มันทำให้ลู่เซิ่นไม่พอใจขึ้นมา

เขาถือจานไว้ในมืออย่างหงุดหงิด ก่อนมองตรงไปที่ฉินซี ดวงตาสีเข้มของเขาเปล่งประกายความเป็นเจ้าของอย่างรุนแรง

ถ้าเป็นไปได้ลู่เซิ่นอยากจะดึงฉินซีเข้ามาในอ้อมอก ประกาศให้ทุกคนรู้ว่านี่คือผู้หญิงของเขา

น่าเสียดายที่ความปรารถนายังไม่เป็นจริงในตอนนี้

มือของลู่เซิ่นกำแน่นขึ้นเรื่อยๆ เขาสูดหายใจลึก พยายามสงบสติอารมณ์ให้เย็น

ฉินซีรู้สึกได้ว่าทุกคนกำลังมองมาที่เธอ แต่เธอไม่สนใจ

เธอมองไปรอบๆ พยายามหาตำแหน่งของลู่เซิ่น

ทันใดฉินซีก็รู้สึกได้ถึงสายตาร้อนแรงที่จ้องมองมายังตัวเอง เธอหันไปดู และพบว่าเป็นพนักงานเสิร์ฟที่สวมหน้ากากสีดำเรียบๆไว้บนใบหน้า

ในนี้มีพนักงานเสิร์ฟสิบกว่าคน แต่ฉินซีกลับดูรู้เลยว่าเป็นลู่เซิ่นภายในพริบตา

ริมฝีปากยกขึ้นเล็กน้อย ภายใต้หน้ากากปรากฏรอยยิ้มสดใสของฉินซี

เป็นเรื่องดีจริงๆ ที่ได้พบลู่เซิ่นอีกครั้ง

เมื่อรู้ตำแหน่งของลู่เซิ่นแล้ว ฉินซีก็สบายใจ

ขาเรียวสวยของเธอก้าวเข้าไปในห้องโถงใหญ่

ในขณะนี้ หลูจื๋อหลินก็เห็นเธอแล้วเช่นกัน

ฉินซีในวันนี้ดูแตกต่างจากเมื่อวานอย่างสิ้นเชิง

ถ้าฉินซีเมื่อวานเป็นงานจิตรกรรมหมึกจีนที่สดใหม่และสง่างาม ถ้าอย่างนั้นวันนี้เธอก็เป็นดอกป๊อปปี้ที่มีเสน่ห์และแสนเซ็กซี่ สวยงามเสียจนทำให้คนตกเข้าไปในหลุมพราง ไม่สามารถถอนตัวออกมาได้ แม้จะรู้ว่ามีพิษร้าย แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปดอมดมใกล้ๆ

หลูจื๋อหลินรีบทักทายเธออย่างรวดเร็ว “คุณฉิน ในที่สุดคุณก็มา”

ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ซึ่งไม่ทำแบบนี้กับผู้หญิงคนอื่น

หลังจากได้เห็นหลูจื๋อหลิน รอยยิ้มบนใบหน้าของฉินซีก็พลันหายวับไปทันที

เธอยืนห่างจากหลูจื๋อหลินไปครึ่งเมตร ก่อนพูดเบาๆ ว่า “ขอโทษด้วยค่ะคุณหลูเพราะรถติดค่ะเลยทำให้ฉันมาช้า”

ท่าทางที่ฉินซีทำต่อหลูจื๋อหลิน ดูเย็นชา

แต่อย่างไรหลูจื๋อหลิน ก็ไม่ได้สะเทือนเลยสักนิด

เขารู้สึกว่าวันนี้ที่ฉินซีแต่งตัวสวยงามเช่นนี้ ชัดเจนแล้วว่าเพื่อให้เขาหลงเสน่ห์

ถ้าฉินซีรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่แล้วละก็ คงระเบิดแน่นอน และบอกว่าเขาว่าเป็นคนต้องรู้จักตัวเองจึงรู้แจ้ง อย่าให้สมองวันๆคิดแต่เรื่องเพ้อเจ้อ

ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร คนมาก็ดีแล้ว

หลูจื๋อหลินก้าวไปข้างหน้า เขายื่นมือออกไปหาฉินซี

ฉินซีรู้โดยสัญชาตญาณเมื่อเห็นท่าทางของเขา เธอถอยหลังไปครึ่งก้าว หลบการเข้าหาของเขา

นอกจากลู่เซิ่น เธอรู้สึกสะอิดสะเอียนอย่างมาก

มีแววแห่งความรังเกียจในดวงตาสีเข้มของฉินซี เนื่องจากแสงสลัวทำให้หลูจื๋อหลินมองเห็นไม่ชัดเจน

ลู่เซิ่นยืนอยู่ที่มุมห้อง เขามองเห็นทุกการเคลื่อนไหวของสองคนนั้น

แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเป็นงานของฉินซีที่ต้องจัดการกับ หลูจื๋อหลิน

แต่เมื่อลู่เซิ่นเห็นว่าหลูจื๋อหลิน ต้องการใช้ประโยชน์จากฉินซีแล้ว ใจของเขาก็ทนไม่ได้

ลู่เซิ่นกัดฟันด้วยความโกรธ เขาต้องการที่จะขึ้นไปฆ่าหลูจื๋อหลินเสียจริง

โจวเอ้อผ่านมาอยู่ข้างตัวเขา พูดเตือนสติเสียงต่ำ “ลู่เซิ่น ใจเย็นๆ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท