Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1469

ตอนที่ 1469

บทที่ 1469 ค้นหาให้ทั่วทุกที่

หากถูกเผยแพร่ออกไปหลูจื๋อหลินต้องเจอกับเรื่องยุ่งยากแน่ๆ

หรูเว่ยเสียงนึกย้อนกลับไป ขมวดคิ้วพลางพูดขึ้นว่า:“ผู้หญิงคนนั้นใส่หน้ากาก ในห้องค่อนข้างมืด มองเห็นรูปร่างของเธอไม่ชัด แต่เขาก็สัมผัสได้ว่าเธอหน้าตาสวยมาก บุคลิกลักษณะมีความพิเศ รูปร่างบอบบาง ถือว่าเป็นผู้หญิงที่สวยคนหนึ่งเลยทีเดียว”

เขาพยายามที่จะอธิบายให้ละเอียด จะได้ตามหาได้ง่ายขึ้น

แต่สิ่งที่หลูจื๋อหลินพูดมาทั้งหมดนั้นเป็นข้อมูลที่ธรรมดาเกินไป

คนที่มาร่วมงานปาร์ตี้ในค่ำคืนนี้ ต่างก็ถือได้ว่าเป็นสาวสวย รูปร่างดีทั้งนั้น

หลูจื๋อหลินโกรธจนแทบอยากจะฆ่าเขาให้ตาย:“แค่นี้เองเหรอ ไม่มีแล้วเหรอ?”

เขาพยายามระงับความโกรธลง แล้วถามขึ้นอย่างอดทน

หรูเว่ยเสียงส่ายหัว:“ไม่มีแล้วครับ”

เมื่อพูดจบหลูจื๋อหลินก็โกรธจนแทบจะล้มลง

ร่างกายของเขาโคลงเคลง สีหน้าแดงก่ำ

หัวหน้ารปภ.เห็นว่าเขาจะหมดสติลง จึงรีบพยุงเขาไว้:“ประธานหลูท่านไม่เป็นไรใช่ไหมค่ะ?”

เขารีบเดินไปข้างหน้า แล้วถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง

ภายใต้การพยุงของเขาหลูจื๋อหลินก็พยายามยืนได้มั่นคง :“ผมไม่เป็นอะไร”

เขาพูดขึ้นด้วยเสียงเหนื่อยหอบ และไออย่างรุนแรง:“แค่ก แค่ก แค่ก ……”

หลูจื๋อหลินเกือบจะโมโหหรูเว่ยเสียงจนตาย

หลายปีมานี้หรูเว่ยเสียงอยู่ข้างกายเขาด้วยความจงรักภักดี แต่ไหนแต่ไรไม่เคยทำเรื่องผิดพลาด แล้วคราวนี้เกิดอะไรขึ้น

หรือเป็นเพราะฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้หญิง และเป็นหญิงงามเสียด้วย

หลูจื๋อหลินพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ว่า:“ไม่ใช่ว่าคุณถูกผู้หญิงคนนั้นหลอกล่อหรอกนะ?”

เขาคิดได้เพียงสาเหตุนี้ ไม่งั้นฝีมือดีอย่างหลูจื๋อหลินจะถูกผู้หญิงล้มง่ายๆเหรอ แล้วยังขโมยของไปได้ด้วย

แม้ว่าตอนแรกหรูเว่ยเสียงเหนื่อยหน่ายและขี้เกียจ แต่ตอนหลังที่ฉินซีต่อต้าน ก็รู้สึกว่าฝีมือของเธอไม่เลวเลย ก็เลยเริ่มกระตือรือร้น:“ไม่ใช่ครับ เธอมีเพื่อนมาด้วย”

สิ่งที่ทำให้หรูเว่ยเสียงคิดไม่ถึงก็คือการปรากฏตัวของลู่เซิ่น

หากไม่เป็นเพราะเขา เอกสารสำคัญก็คงจะไม่ถูกขโมยไป

“เพื่อน?”

สีหน้าของหลูจื๋อหลินเผยความแปลกใจออกมา

เขาคิดไม่ถึงเลยว่า ครั้งนี้ฝ่ายตรงข้ามจะ แข็งแกร่งขนาดนี้

ดูเหมือนว่า คงจะทำให้เขาตายอย่างไม่มีทางรอด

เมื่อคิดถึงจุดนี้ สีหน้าของหลูจื๋อหลินก็ไม่สู้ดีนัก

หากฝ่ายตรงข้ามได้ใจ เกรงว่าเขาก็คงจะไม่รอดแน่ๆ

“หา!รีบตามหาเร็วเข้า!”

หลูจื๋อหลินคำรามอย่างบ้าคลั่ง:“วันนี้แม้ว่าจะต้องพลิกโรงแรมหาทั้งโรงแรม ค้นหาให้ทั่วทุกที่ ก็จะต้องตามหาคนที่บุกรุกสองคนนั้นมาให้ได้!”

ความหวาดกลัวในใจ ทำให้อารมณ์ของเขาค่อยๆปะทุออกมา

อารมณ์โมโหถึงขีดสุด ทำให้หัวหน้ารปภ.กลัวจนตัวสั่น

“ครับประธานหลู”

หรูเว่ยเสียงก็รู้ดีว่าคืนนี้ไม่ได้หลับนอนเป็นแน่แต่ก็ ก้มหน้ารับปาก

หลูจื๋อหลินเห็นว่าเขายังคุกเข่าอยู่ที่พื้น ก็โมโหขึ้นมาอีก

“ของหายก็เพราะคุณ แล้วทำไมยังคุกเข่าอยู่ รีบไปตามหาสิ!ถ้าหาไม่เจอ ก็ใช้ชีวิตคุณชดใช้ก็แล้วกัน!”

เขากำหมัดและขบฟันแน่น

งานปาร์ตี้ดีๆ ตอนนี้ล้มไม่เป็นท่า

หลูจื๋อหลินพาคนพวกนั้นออกไปตามหาด้วยความโกรธ เขาคิดว่า คนที่บุกรุกทั้งสองคนนั้นยังไม่น่าไปไหนไกล:“คุณไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดดูสิว่า ช่วงนี้มีใครเข้าออกบ้าง”

เขาพูดกับหัวหน้ารปภ.และกำชับด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

“ครับ”

หัวหน้ารปภ.กลัวที่จะซวยไปด้วย ภายใต้การกำชับของเขาแล้วรีบไปจัดการอย่างรวดเร็ว

ตอนนี้เขาไม่อยากได้เลื่อนตำแหน่งอะไรแล้ว อยากแค่ปกป้องชีวิตน้อยๆของตัวเองก็เท่านั้น

จะต้องรู้ว่าพวกเขายังต้องเลียแข้งเลียขาหลูจื๋อหลิน

หากวันหนึ่งหลูจื๋อหลินล้ม ไม่เพียงแต่หรูเว่ยเสียงรวมทั้งพวกเขาก็จะไม่มีที่พึ่งพิง ยิ่งไม่ต้องคิดถึงเรื่องเงินทองเลยด้วยซ้ำ

หลูจื๋อหลินพยายามระงับความโกรธ:“หาตอนนี้ผมพาพวกเขาสองคนมียืนอยู่ข้างหน้าคุณ คุณจะจำพวกเขาได้ไหม?”

เขาจ้องมองไปยังหรูเว่ยเสียงพลางถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม

วิธีที่เลวร้ายที่สุดในตอนนี้ก็คือ นำคนที่อยู่ในงานปาร์ตี้ทั้งหมดมารวมตัวกัน แล้วให้หรูเว่ยเสียงชี้ตัว แต่วิธีนี้เป็นวิธีที่จะทำให้เกิดการล่วงเกินคนได้ง่ายที่สุด

หากไม่จำเป็นจริงๆหลูจื๋อหลินก็คงไม่ทำเช่นนี้หรอก

เขาเกรงว่าเรื่องจะบานปลาย และยากที่จะควบคุมสถาณการณ์

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มาร่วมงานในวันนี้ ต่างเป็นแขกสำคัญและก็มีคนที่เขาไม่ควรที่จะล่วงเกินอยู่ในนั้นด้วย

ความจำของหรูเว่ยเสียงค่อนข้างดี อีกอย่างเขาก็รู้สึกว่าผู้บุกรุกของคนนั้นมีลักษณพิเศษเฉพาะตัว เขาจำได้ จึงพยักหน้า:“ได้ครับ”

จากประสบการณ์หาเบาะแสหลายปีของเขาหรูเว่ยเสียงคิดว่าคนที่บุกรุกทั้งสองคนยังคงหลบซ่อนอยู่ที่ใดที่หนึ่งในโรงแรมแห่งนี้ เพียงแต่ว่าพวกเขายังหาตัวไม่เจอเท่านั้นเอง

งานปาร์ตี้ในวันนี้เป็นงานปาร์ตี้หน้ากาก หากต้องการที่จะแฝงตัวอยู่ในฝูงชนนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายมาก

เมื่อหลูจื๋อหลินได้ยินเขาพูดเช่นนั้น ก็พยักหน้า:“ดี ต่อจากนี้คุณก็เบิกตาให้กว้าง แล้วตามหาอย่างละเอียด หากยังหาไม่เจอ ก็ระ วังหัวจะหลุดออกจากบ่าก็แล้วกัน!”

เขาง้างมือขึ้นใช้แรงฟาดไปที่หน้าผากของหรูเว่ยเสียง เขากัดฟันแน่นจนฟันแทบหัก

หรูเว่ยเสียงรับรู้ได้ถึงน้ำเสียงโกรธแค้นของเขา เขารู้ดีว่า หากเขายังตามหาคนที่บุกรุกไม่เจอหลูจื๋อหลินจะต้องเอาเขาตายแน่

เมื่อคิดถึงจุดนี้หรูเว่ยเสียงก็รู้สึกว่าบ่าของตนกำลังรับแรงกดดัน

บนตัวของหรูเว่ยเสียงเต็มไปด้วยร้อยเท้าของเขา ดูน่าเวทนาเป็นอย่างมาก

เมื่อเห็นสภาพของเขาหลูจื๋อหลินก็ขมวดคิ้วพลางพูดขึ้นว่า:“ก่อนออกไป ทำตัวให้สะอาดสะอ้านก่อน”

แต่ไหนแต่ไรเขาเป็นคนรักษาหน้าของตนเอง ไม่เคยยอมปล่อยให้คนข้างกายมีสภาพแบบนี้

ภายใต้คำสั่งของหลูจื๋อหลิน หรูเว่ยเสียงก็เช็ดรอยเท้าออกจนหมด กระทั่งเขาพอใจ

กระทั่งตอนนี้ ฉินซีได้นำเอกสารที่ขโมยมาได้ มอบให้กับจั่วยีและให้เขานำออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว。

จั่วยีไปได้ออกจากจากประตูหน้า แต่เลือกที่จะหนีไปบริเวณที่ไม่มีกล้องวงจรปิด กระโดดออกจากหน้าต่าง

เขาหายไปอย่างลับๆ โดยไม่มีใครสนใจ

และเมื่อหัวหน้ารปภ.ตรวจสอบกล้องวงจรปิดก็ไม่เห็นเขาออกไป

ขณะที่เขากำลังจะรายงานเรื่องนี้ให้หลูจื๋อหลินทราบ ในใจของหลูจื๋อหลินก็เริ่มร้อนรน

เขาพาหรูเว่ยเสียงมายังห้องโถงในงานปาร์ตี้

เพื่อที่จะไม่ให้เป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น และทำให้เกิดเป็นเรื่องใหญ่ หลูจื๋อหลินไม่ได้ให้ทุกคนมารวมกันเหมือนที่คิดไว้ตั้งแต่แรก แต่ให้พวกเขาค่อยๆถอดหน้ากากออกทีละคน

หลูจื๋อหลินเอียงหัว พูดขึ้นกับ หรูเว่ยเสียงที่อยู่ข้างๆของตัวเองว่า:“คุณค่อยๆให้พวกเขาถอดหน้ากากออกแล้วดูอย่างละเอียด ว่าเป็นคนที่บุกรุกหรือเปล่า หากใช้ก็ให้รีบจับตัวเธอไว้!”

เขาพุดอย่างเคร่งขรึม แววตาเผยความอาฆาตแค้นออกมา

หรูเว่ยเสียงรู้ดีว่า นี่คือโอกาสที่เขาจะได้แก้ตัว เขาพยักหน้า:“ครับ”

เขาจากหลูจื๋อหลินไป และเริ่มตามหา

ฉินซียังคงจับตาดูสถานการณ์อยู่ให้ห้องโถงอย่างไม่คาดสายตา ขณะที่เธอเห็นหลูจื๋อหลินพาเว่ยเสียงเข้ามา เธอก็ขมวดคิ้ว

ที่แท้หรูเว่ยเสียงคนนี้ต่อกรไม่ง่ายเลย

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท