Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1470

ตอนที่ 1470

บทที่ 1470 จับเป็น

หรูเว่ยเสียงเข้ามาในตอนนี้ก็คงจะมาจับตัวผู้บุกรุก

แต่ว่าฉินซีกลับไม่รู้สึกกังวลเลยแม้แต่น้อย เธอมีวิธีที่จะหลบหลีจากการเป็นผู้ต้องสงสัย

เธอเดินวงหนึ่งรอบ จากนั้นก็นั่งลงที่มุมหนึ่ง

ในขณะเดียวกัน

ลู่เซิ่นก็เห็นหลูจื๋อหลินกับหรูเว่ยเสียง

เขาเปลี่ยนมาใส่ชุดพนักงานเสิร์ฟตั้งนานแล้ว แล้วใส่หน้ากากอีกครั้ง พลางเดินไปรอบๆห้องโถง บริการแขกที่เข้ามาอย่างนอบน้อม

ฉินซีและลู่เซิ่นสงบนิ่งขนาดนี้ ใครก็ดูไม่ออกมาพวกเขาทั้งสองคนเป็นขโมย

หรูเว่ยเสียงมองหาอย่างละเอียด จู่ๆ เขาก็พบว่าบริเวณมุมด้านหนึ่งฉินซีนั่งอยู่ จึงรีบเดินเข้าไป

เขารู้สึกว่าบุคลิกลักษณะของฉินซีกับผู้หญิงคนนั้นคล้ายกันมาก

หรูเว่ยเสียงกลัวว่าเธอจะหนีไปอีกครั้ง จึงเดินเข้าไปข้างหน้าเธออย่างรวดเร็ว

เขาไม่แม้แต่จะคิด รีบเข้าไปจับตัวเธออย่างรวดเร็ว

“อา!”

ฉินซีร้องเสียงแหลม สีหน้าเผยความตกใจออกมา

แขนของเธอถูกหรูเว่ยเสียงจับไว้แน่น เจ็บจนเธอต้องขมวดคิ้ว

ฉินซีโกรธเป็นอย่างมากเธอแกล้งทำเป็นบอบบางและพูดขึ้นอย่างน่าสงสารว่า:“คุณผู้ชายท่านนี้ คุณต้องการจะทำอะไรคะ?”

ชายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของฉินซี ขณะพูดคุยกับเธออย่างถูกคอ

เมื่อเห็นฉินซีได้รับอันตราย จึงรีบลุกขึ้นแล้วพูดว่า:“คุณเป็นใคร กลางวันแสกๆถึงกล้าทำร้ายคนได้!”

ชายผู้นั้นยืนอยู่ด้านหน้าของฉินซี อยากที่จะช่วยเหลือเธอ

แต่ไม่ง่ายเลยที่หรูเว่ยเสียงจะจับตัวฉินซีได้ แล้วจะปล่อยเธอไปง่ายๆได้อย่างไร

หรูเว่ยเสียงพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า:“ผมขอร้องล่ะ คุณอย่ามายุ่งกับเรื่องไร้สาระพวกนี้เลย”

ในใจของเขารู้ดีว่า ชายที่อยู่ข้างหน้าจะต้องลุ่มหลงในความสวยของฉินซีเป็นแน่ ก็เลยออกตัวช่วยเหลือ อยากที่จะแสดงออกต่อหน้าฉินซี

แต่ว่าเขาไม่รู้ว่าในความเป็นจริงแล้วฉินซีเป็นงูพิษตัวหนึ่ง

หากเขาไม่เผลอนิดเดียว ฉินซีก็อาจจะเอาชีวิตของเขาได้

เมื่อคิดถึงจุดนี้ หรูเว่ยเสียงก็กดที่มือของเธอและเพิ่มน้ำหนักมือลงไปอีก

ไม่นานหน้ากากของฉินซีก็ถูกเปิดออก เผยใบหน้าของเธอออกมา

หลังจากที่ทุกคนเห็นใบหน้าของฉินซี ก็ต่างกลืนน้ำลาย

พวกเขาต่างเคยคาดเดาว่า รูปร่างหน้าตาของฉินซีจะไม่เหมือนใคร และคงจะไม่ขี้เร่อะไร

แต่ว่า กลับไม่คิดเลยว่าฉินซีจะสวยขาดนี้

ผู้คนต่างไม่รู้ว่าจะสรรหาคำไหนมาเปรียบเปรยความงามของเธอ ฉินซีน่าจะเป็นนางฟ้าที่สวรรค์ส่งมา สวยจนสะดุดสายตาของทุกคน

เมื่อลู่เซิ่นเห็นฉากนี้ก็กำหมัดแน่น

เขาอยากที่จะเก็บหน้ากากขึ้นมา แล้วสวมใส่ให้กับฉินซี

ลู่เซิ่นไม่อยากที่จะให้ผู้ชายพวกนั้นใช้สายตาราวกับหมาจ้องมองฉินซี

สายตาของพวกเขามองฉินซีด้วยความหยาบคาย

โจวเอ้อเดินมายังข้างกายของลู่เซิ่น พูดเตือนขึ้นว่า:“อย่าขัดขวางภารกิจของฉินซี สงบสติอารมณ์หน่อย”

เขามองออกว่าลู่เซิ่นกำลังหึงอยู่ กลัวว่าเขาจะทำอะไรบุ่มบ่ามลงไป

เมื่อสักครู่นี้โจวเอ้อควรที่จะขัดขวางการขึ้นไปบนตึกของลู่เซิ่น แต่เขาก็เป็นกังวลว่าฉินซีจะรับมือไม่ไหว ก็เลยรับปาก

ตอนนี้จากที่พวกเขาเห็น ฉินซีไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขา หากหรูเว่ยเสียงไม่เคารพฉินซี ผู้ชายที่อยู่ในงานปาร์ตี้นี้ทั้งหมดก็คงจะฆ่าเขาให้ตาย

อีกทั้งตอนนี้หลูจื๋อหลินก็ยังคงพยายามที่จะเอาอกเอาใจฉินซี คงไม่ลงมือตอนนี้แน่ เพราะจะทำให้เขาสู้หน้าเธอไม่ได้ นอกเสียจากว่าเขาจะมีหลักฐานยืนยันแน่ชัดว่าฉินซีเป็นคนขโมยเอกสารไป

“ผมทราบครับ”

ลู่เซิ่นเอ่ยปากขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง พลางเม้มปาก

ตัวของหลูจื๋อหลินนั้นอยู่ห่างจากฉินซีพอสมควร แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าสายตาของคนทั้งงานปาร์ตี้จับจ้องไปที่มุมๆหนึ่ง และจู่ๆเขาก็รู้สึกว่าเหตุการณ์เริ่มไปปกติ

เขาเดินผ่านผู้คน เพื่อรีบไปหาฉินซีให้เร็วที่สุด

ชายที่อยู่ตรงข้ามกับฉินซี เมื่อเห็นใบหน้าที่สะสวยของฉินซีแล้วก็เกิดอาการคึกหันไปพูดกับหรูเว่ยเสียงว่า:“ผมบอกให้คุณปล่อยมือ คุณไม่ได้ยินเหรอ?”

เขาพูดขึ้นด้วยความโมโห อยากที่จะแสดงให้ฉินซีเห็นถึงความเป็นสุภาพบุรุษของเขา

คุณชายหางที่อยู่ข้างๆเพื่อได้เห็นโฉมหน้าของฉินซีก็เริ่มหวั่นไหว

มิน่าล่ะหลูจื๋อหลินถึงได้สนใจเธอนัก ผู้หญิงที่สวยขนาดนี้ ทั้งเมืองไห่ก็คงหาสวยแบบนี้ไม่ได้

ความสวยของฉินซีทำให้เธอได้เปรียบเป็นอย่างมาก ในที่สุดคุณชายหางก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเธอถึงได้กล้าทำตัวอันธพาลขนาดนี้

คุณชายหางเดินเข้ามาที่ด้านหน้าของฉินซีอย่างกระเหม็ดกระเเหม่:“หรูเว่ยเสียงเห็นแก่หน้าผมเถอะ ปล่อยผู้หญิงคนนี้ไปเถอะ คุณลู่นั่งคุณลู่นั่งอยู่ตรงนี้อย่างสงบ ไม่ได้ล่วงเกินคุณ แล้วทำไมคุณจะต้องโกรธด้วยล่ะ

อีกทั้ง คุณก็รู้ว่า คุณฉินเป็นคนดังที่อยู่ข้างกายประธานหลู หากเขารู้ว่าคุณไม่ให้เกียรติคุณฉิน คุณจะต้องถูกทำโทษอย่างแน่นอน”

เดิมทีเขาก็ชอบผู้หญิงสวยอยู่แล้ว และอยากที่จะได้ฉินซีมาครอบครองด้วย

ไม่นาน ผู้ชายทั้งหมดก็เริ่มคล้อยตามและเอ่ยปากขึ้นว่า:“ใช่แล้ว!คุณเป็นผู้ชาย แล้วจะมาคิดเล็กคิดน้อยกับผู้หญิงทำไม!หรือว่าคุณถูกใจคุณฉิน ก็เลยใช้วิธีการนี้ดึงความสนใจจากเธอ”

“คุณสวยราวกับไซซี จะคู่ควรกับองครักษ์อย่างคุณได้อย่างไรกัน ผมขอล่ะคุณล้มเลิกความต้องใจเถอะ รีบปล่อยคนซ่ะ!”

เสียงระคายหูค่อยๆดังเข้ามา หลังจากเห็นรูปร่างหน้าตาของฉินซีแล้ว ทุกคนต่างเข้าข้างเธอ

ฉินซีก้มหน้าลง ผมยามปกปิดรอยยิ้มอย่างมีเลศนัยของเธอ

ไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่าบางครั้งความงามก็ทำให้เธอได้ประโยชน์ไม่น้อย

แต่มีประโยคหนึ่งที่ว่า เรื่องร้ายก็นำมาซึ่งสิ่งที่ดีและสิ่งที่ดีก็นำมาซึ่งเรื่องที่เลวร้าย

มีข้อดี ก็ต้องมีข้อเสีย

หน้าตาของฉินซีในสายตาผู้ชายแล้วเป็นสิ่งที่หอมหวาน

แต่ว่าในสายตาของผู้หญิงกลับเป็นหนามยอกอก

นี่ไม่!

เดิมทีผู้หญิงที่อยู่ในงานปาร์ตี้ต่างเป็นมิตรกับเธอ แต่ตอนนี้เต็มไปด้วยแววตาของศัตรู

หากสายตาสามารถฆ่าคนได้แล้วล่ะก็ ตอนนี้ฉินซีก็รู้สึกว่าตนคงตายไปหลายรอบแล้ว

ผู้หญิงเหล่านี้อยากที่จะให้หรูเว่ยเสียงฆ่าฉินซีให้ตายแทบแย่ ทางที่ดีคือกรีดหน้าของเธอให้เสียโฉม ถ้าทำเช่นนี้เธอจะได้ไม่มาแย่ผู้ชายของตน

แต่ว่าฉินซีล้วนไม่สนใจสิ่งเหล่านี้

เสียงที่ดังเอะอะนี้ ทำให้หลูจื๋อหลินตามเข้ามา

เมื่อหลูจื๋อหลินเห็นหรูเว่ยเสียงจับตัวฉินซีไว้สีหน้าก็เปลี่ยนไป

เขาโกรธเป็นอย่างมาก และดึงหรูเว่ยเสียง:“คุณกำลังทำอะไร รีบปล่อยคุณฉินซะ”

หลูจื๋อหลินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม จ้องมองเขาด้วยสายตาโกรธแค้น

เขาต้องใช้ความพยายามอย่างหนักกว่าจะเชิญฉินซีมาร่วมงานได้ และในงานนี้เขาก็รู้สึกว่าท่าทีที่ฉินซีมีต่อเขาเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก

เมื่อเห็นว่าฉินซีที่กำลังจะตกอยู่ในกำมือของเขา กลับถูกหรูเว่ยเสียงจับตัวเธอไว้

หลูจื๋อหลินโกรธจนแทบจะปะทุออกมา ในใจของเขารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ที่ปล่อยให้หรูเว่ยเสียงจัดการโดยคนเดียว

หรูเว่ยเสียงขมวดคิ้ว พลางพูดเสียงต่ำว่า:“ประธานหลูเธอก็คือ……”

คำพูดที่เขาต้องการพูด กลับถูกหลูจื๋อหลินจ้องตาเขม็งใส่ :“ผมบอกให้คุณปล่อย!”

หลูจื๋อหลินรู้สึกว่าหรูเว่ยเสียงไม่รู้จักแยกแยะ เมื่อก่อนเขาคงตาบอดที่เลือกเขามาใช้งาน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท