Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1471

ตอนที่ 1471

ที่นี่คนเยอะมาก หรูเว่ยเสียงยังกล้าที่จะพูดต่อหน้าสาธรณะชน ไม่กลัวเรื่องรั่วไหลออกไปหรอ?

เมื่อเผชิญคำสั่งของหลูจื๋อหลิน หรูเว่ยเสียงได้แต่ปฏิบัติตามอย่างช่วยไม่ได้

แต่สายตาของเขาจ้องไปที่ฉินซีอยู่ตลอดอย่างไม่เต็มใจ ถ้าเธอฉวยโอกาสหนีไป หรูเว่ยเสียงก็จะเข้าไปทันที แล้วจับเธอไว้

ฉินซีรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าแววตาที่ร้อนแรงกำลังเฝ้ามองเธออยู่ รอยยิ้มที่เยาะเย้ยก็ปรากฏขึ้นในใจ

ต่อให้หรูเว่ยเสียงฉลาดอีกแล้วยังไง?

เมื่อเจอกับคนโง่อย่างหลูจื๋อหลิน ก็ยังต้องฟังคำสั่งปล่อยเธอไปอยู่ดี

การแสดงออกบนใบหน้าของฉินซีแสร้งทำท่าทางน้อยใจมองไปที่หลูจื๋อหลิน “ประธานหลู……”

เธอเอ่ยปากอย่างหวาดหวั่น ราวกับมีเรื่องอยากจะพูดมากมาย แต่ถูกทำให้กลัว ไม่รู้จะจัดระเบียบคำพูดอย่างไรไปครู่หนึ่ง

ท่าทางที่ละเอียดอ่อนนี้ ทำให้หลูจื๋อหลินทุกข์ใจในทันที

ถ้าไม่ใช่เพราะคนในพื้นที่นี้เยอะเกินไป เขาอยากที่จะตบหรูเว่ยเสียงซักทีจริงๆ

ไอ้ผู้ชายที่ทำเรื่องไม่สำเร็จล้มเหลว ทำเอกสารสำคัญของเขาหายแล้ว ตอนนี้ยังคิดจะทำให้ฉินซีกลัวจนหนีไปหรอ?

หลูจื๋อหลินระงับความโกรธในใจลง ก้าวก้าวเดียวไปถึงตรงหน้าฉินซี เอ่ยปากพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “คุณฉิน คุณไม่ต้องกลัว คนนี้คือลูกน้องของผมหรูเว่ยเสียง เมื่อกี้เขาจำคนผิด ทำตัวหยาบคายกับคุณโดยไม่ระวัง ต้องขอโทษจริงๆ”

เขารีบเอ่ยปากขอโทษ เกรงว่าความพยายามก่อนหน้าที่ทำมาทั้งหมดจะศูนย์เปล่า

ฉินซีไม่ได้สนใจเขา สายตาตกอยู่บนตัวของหรูเว่ยเสียง “ประธานหลูคุณดูเขาสิ คุณดูท่าทีของเขา ไม่มีความรู้สึกผิดเลยซักนิด เมื่อกี้ฉันนั่งอยู่ตรงนี้เงียบๆ ไม่รู้ว่าไปทำให้ใครขุ่นเคืองเข้า ถึงได้รับการปฏิบัติที่หยาบคายเช่นนี้”

เธอยกข้อมือขึ้น วางไว้ตรงหน้าของหลูจื๋อหลิน

เดิมทีฉินซีก็ผิวขาวนวลอยู่แล้ว โดยปกติใช้แรงเพียงเล็กน้อยก็จะกลายเป็นสีแดง

ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อกี้หรูเว่ยเสียงต้องการที่จะหยุดยั้งการหลบหนีของฉินซี ใช้แรงทั้งหมดที่มี วาดรอยเลือดไว้ที่ข้อมือของฉินซีโดยตรง

อาการบาดเจ็บของฉินซีน่าตกใจมาก หลูจื๋อหลินโมโหขึ้นมาทันที

เขาจ้องไปที่หรูเว่ยเสียงด้วยความโกรธ เห็นเขายังยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยื้อน ก็เอ่ยปากพูดด้วยความฉุนเฉียว “หรูเว่ยเสียงแกขอโทษคุณฉินเดี๋ยวนี้ ขอให้เธอยกโทษให้แก”

หลูจื๋อหลินคิดไม่ถึงเลยซักนิดว่า หรูเว่ยเสียงจะลงมือรุนแรงขนาดนั้น

เขากระทั้งรู้สึกว่าถ้าหรูเว่ยเสียง ลงมือหนักกว่านั้นอีกหน่อยข้อมือของฉินซีก็อาจจะหักได้

หลูจื๋อหลินตอนนี้เห็นหรูเว่ยเสียง ในใจทนไม่ไหว

เขาตัดสินใจว่าหลังจากกลับไปแล้วจะต้องลงโทษหรูเว่ยเสียงให้สาสม ให้เขารู้ว่ากฎคืออะไร เพื่อให้หลังจากนี้เขาไม่ทำตามใจตนเองตอนอยู่ข้างนอกอีก

หรูเว่ยเสียงยืนตัวตรงอยู่กับที่ เหมือนกับว่าไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด

เขามองตรงไปที่ฉินซี ดวงตาสีเข้มเขียนเต็มไปด้วยคำว่าไม่พอใจ

หรูเว่ยเสียงกล้าที่จะชี้ขาดว่ามือสังหารที่อยู่ในห้องนี้คือฉินซี แต่ว่าตอนนี้เขาไม่มีหลักฐานมายืนยันว่าตนพูดความจริง

เขาได้เพียงถูกหลูจื๋อหลินบังคับให้เดินไปตรงหน้าฉินซี เอ่ยปากเสียงต่ำ “ขอโทษครับคุณฉิน เมื่อกี้ผมจำคนผิด หวังว่าคุณจะให้อภัยในความผิดพลาดของผม”

หรูเว่ยเสียงเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง มองไปที่เธอด้วยสายตาแผดเผา เขียนเต็มไปด้วยคำว่าไม่เต็มใจ

คำขอโทษนี้ของเขาไม่มีความจริงใจอย่างเห็นได้ชัด

ฉินซีมองไปที่ท่าทางที่ไม่พอใจของเขา มุมปากก็โค้งขึ้น “คุณผู้ชายท่านนี้ คุณทำร้ายฉันรุนแรงขนาดนั้น คำขอโทษคำเดียวก็จบเรื่องได้หรอ?”

ดวงตาสีอำพันมีแสงแวบผ่าน เธอพูดอย่างดูถูก มองหรูเว่ยเสียงสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย

หรูเว่ยเสียงน้ำเสียงแข็งกร้าวขึ้นมาทันที เขาเอ่ยถามขึ้น “งั้นคุณจะเอายังไง?”

ฉินซียิ้มแต่ไม่พูดอะไร

ห้องจัดเลี้ยงเงียบลงทันที

ทุกคนกลั้นหายใจ รอคำตอบของฉินซี

ลู่เซิ่นยืนอยู่ตรงมุมมองไปที่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ตรงมุมปากของเธอ อารมณ์ก็กลายเป็นมีความสุขขึ้นมาทันที

เขาชอบมองการแสดงออกเล็กๆอย่างมีชัยของฉินซีที่สุด ราวกับสุนัขจิ้งจอกที่ขโมยปลาได้สำเร็จ

ทุกครั้งที่ฉินซีเผยรอยยิ้มแบบนี้ออกมา คาดการณ์ได้ว่าจะต้องมีคนทุกข์ทรมาน

ฉินซีเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นมาโดยตลอด เมื่อกี้อยู่ชั้นบนหรูเว่ยเสียงเตะเธอไปหลายครั้ง เป็นธรรมดาที่ตอนนี้เธอจะเอาคืน ไม่เช่นนั้นจะแค้นใจ

ในใจเธอพลิกกลับ ลูบคางแสร้งทำเป็นครุ่นคิด

“อืม…..”

“ให้ฉันคิดอย่างละเอียดหน่อยนะ”

ฉินซีแสดงท่าทางลำบากใจอย่างมาก อันที่จริงในใจคิดไว้อย่างดีแล้วว่าจะลงโทษเขายังไง

“ฉันคิดออกแล้ว!”

ฉินซีพูดขึ้นกะทันหัน ใบหน้าเผยความตื่นเต้นดีใจ

ราวกับว่าเธอหาของเล่นที่น่าสนุกเจอแล้ว พูดพลางยิ้มบางๆ “ในเมื่อเมื่อกี้คุณผู้ชายต้องการที่จะหักมือของฉัน ถ้าอย่างนั้นก็หักมือทั้งสองข้างของคุณ ถือว่าเป็นการขอโทษฉัน”

ฉินซียิ้มแต่ไม่ยิ้ม พูดทีเล่นทีจริง

พูดคำนี้ออกไป ทุกคนต่างก็ถอนลมหายใจเย็นออกมา

พวกเขาไม่คาดคิดมาก่อน ว่าฉินซีจะเสนอเงื่อนไขแบบนี้ออกมา ส่งเสียงกระซิบกระซาบทันที

“คุณฉินคนนี้สวยแต่รูปจูบไม่หอมจริงๆ ถึงแม้จะหน้าตาสะสวย แต่วิธีการก็เลวร้ายเกินไป คิดจะหักมือคนอื่น”

หนึ่งในนั้นมีคนพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ ชี้ไปที่พฤติกรรมของเธอ

ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงข้ามเธอ ได้ยินเธอพูดว่าร้ายฉินซี ก็โต้ตอบด้วยใบหน้าขุ่นเคือง “เธอจะไปเข้าใจอะไร! คุณฉินก็แค่ปกป้องตัวเองเท่านั้น เมื่อกี้เธอก็เห็นแล้ว เห็นๆอยู่ว่าผู้คุ้มกันคนนั้นคิดจะหักข้อมือของคุณฉิน ตอนนี้เธอยื่นข้อเสนอนี้ก็เพียงแค่ตาต่อตาฟันต่อฟันเท่านั้น มันเกินไปตรงไหน? ถ้าเป็นเธอ มีคนมารังแกเธอ เธอจะปล่อยให้เขารังแกหรอ?”

หลังจากได้เห็นความงามของฉินซีแล้ว เขาก็กลายเป็นแฟนคลับผู้ซื่อสัตย์ที่สุดของฉินซีไปแล้ว

เขาเอ่ยปากทีละคำ ทำเอาผู้หญิงที่พูดว่าร้ายฉินซีเมื่อกี้พูดอะไรไม่ออก

อันที่จริง ผู้หญิงคนเมื่อกี้เพียงแค่อิจฉาที่ฉินซีมีใบหน้าสวยงามกว่าเธอ ดังนั้นจึงจงใจที่จะทำให้ภาพลักษณ์ของเธอเสื่อมเสีย

เธอคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเป็นของจริงมากขนาดนี้ ไม่จำเป็นต้องเถียงกับเธออย่างชัดเจน

หญิงสาวรู้ว่าเอาชนะเธอไม่ได้ ได้แต่ปิดปากอุบอิบ

ลู่เซิ่นได้ยินฉินซีพูดแบบนี้ ใบหน้าก็เผยรอยยิ้มที่ลุ่มหลง

เขาไม่ได้รู้สึกว่าฉินซีทำเกินไป ถ้าเป็นเขาล่ะก็ เขาก็จะตัดสินใจแบบเดียวกัน

ถ้าไม่ใช่เพราะตอนนี้เขาลงมือไม่สะดวก หรูเว่ยเสียงก็คงไม่อยู่บนโลกไปนานแล้ว

ฉินซีไม่สนใจสายตาของคนอื่น เธอมองตรงไปที่หรูเว่ยเสียงแล้วเอ่ยปากถาม “คุณผู้ชาย คุณคิดว่าข้อเสนอของฉันเมื่อกี้เป็นยังไง?”

ขณะที่พูด เธอก็ยกข้อมือของตัวเองขึ้นมา เขย่ามันตรงหน้าของหรูเว่ยเสียง ให้เขาเห็นว่าบาดแผลร้ายแรงแค่ไหน

หรูเว่ยเสียงได้ยินคำนี้ของเธอ ใบหน้าก็ดูไม่ได้ขึ้นมาทันที

จ้องไปที่ฉินซีอย่างอันตราย ขบเคี้ยวเขี้ยวฟันพูด “ผมคิดว่าก็ไม่ยังไง”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท