Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1472

ตอนที่ 1472

หรูเว่ยเสียงสูดหายใจลึก บังคับตัวเองให้ใจเย็นลง

เขาก้มหน้าสบตากับฉินซี สายตาของทั้งสองบรรจบกันกลางอากาศ ปะทะกัน เกิดประกายไฟที่รุนแรง สงครามที่ปราศจากดินปืน ดำเนินไปอย่างไร้รูปร่าง

หรูเว่ยเสียงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “คุณฉิน เมื่อกี้ผมได้อธิบายกับคุณแล้ว ผมทำไปโดยไม่ได้ตั้งใจ คนที่มีตัวตนมีฐานะอย่างคุณ ต้องการจะทำให้ผู้คุ้มกันอย่างผมลำบากหรอ?”

เขาจงใจพูดเยินยอฉินซี อยากให้เธอรู้สึกอับอายในตัวเอง

แต่หรูเว่ยเสียงไม่รู้เลยว่าฉินซีไม่เคยสนใจเสียงของคนภายนอก เธอขอแค่ตัวเองมีความสุข

ได้ยินเขาพูดแบบนี้ ใบหน้าของฉินซีก็เผยรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ้ง “ใครบอกว่าฉันมีตัวตนมีฐานะ ฉันเป็นแค่นักเรียนแลกเปลี่ยนที่พึ่งกลับมาจากต่างประเทศเท่านั้น ครั้งนี้ถูกประธานหลูเชิญมา ก็อยากจะใช้โอกาสที่หาได้ยากนี้ ดูโลกภายนอก กลายเป็นว่ายังไม่ได้เห็นโลกภายนอก ก็เกือบจะไม่มีชีวิตอยู่แล้ว”

เธอตบหน้าอกด้วยความกลัว ใบหน้าเผยสีหน้าไม่ได้รับความเป็นธรรม

ฉินซีถอนหายใจ แล้วพูดต่อ “ฉันรู้ว่าผู้หญิงที่อ่อนแออย่างฉันมาที่เมืองไห่ตัวคนเดียว ไม่มีคนสนับสนุนให้พึ่งพา ถูกรังแกก็เป็นเรื่องที่เห็นได้ทั่วไป แต่ว่าฉันไม่เหมือนกับผู้หญิงที่ยอมจำนนพวกนั้น ในเมื่อไม่มีใครปกป้องฉัน งั้นฉันก็ได้แต่ปกป้องตัวเองแล้ว”

เธอกำมือทั้งคู่แน่น มองไปที่หรูเว่ยเสียงด้วยน้ำเสียงจริงจัง

ท่าทางที่มีเจตจำนงมั่นคงเช่นนี้ ได้รับความโปรดปรานจากผู้คนไม่น้อย

ทุกคนรู้สึกว่าบนตัวฉินซีมีออร่าแตกต่างไปจากผู้คน เธอไม่เหมือนกับพวกผู้หญิงที่พึ่งพาผู้ชายเพื่อความอยู่รอด

ฉินซีมีความคิดเป็นของตัวเอง อารมณ์นิสัยของเธอเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนในที่นี้ไม่มี

เพราะเอกลักษณ์ของเธอ ถึงได้เปล่งประกาย

หรูเว่ยเสียงสบตากับดวงตาสีอำพันของเธอ ในใจมีความว้าวุ่นเล็กน้อย

หรือว่าฉินซีคิดจะตัดมือทั้งคู่ของเขาจริงๆ?

ถ้าเขาไม่มีมือแล้ว นั่นก็หมายความว่าเขาอยู่ไม่ไกลจากความตายแล้ว เพราะว่าหลูจื๋อหลินจะไม่เลี้ยงคนไร้ประโยชน์ไว้ข้างกายเด็ดขาด

หรูเว่ยเสียงรู้จักคนอย่างหลูจื๋อหลินดี ด้วยเหตุนี้ความหวาดกลัวจึงเกิดขึ้นในใจ

ใบหน้าของเขากลายเป็นซีดขาวขึ้นมา มองไปที่แสงสลัวที่แวบขึ้นในดวงตาของฉินซี

หลูจื๋อหลินรู้ว่าฉินซีไม่ใช่คนที่ควรไปยั่วยุ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเธอจะเสนอเงื่อนไขนี้ขึ้นมา

ใบหน้าของเขาเผยรอยยิ้มที่น่าอึดอัด พูดเสียงต่ำ “คุณฉิน ผมรู้ว่าเรื่องในวันนี้ทั้งหมดเขาทำไม่ถูก หนึ่งในนั้นผมก็เป็นสาเหตุ เพราะผมไม่ได้ดูแลลูกน้องของผมให้ดี หวังว่าคุณฉินจะเป็นคนใจกว้าง ให้อภัยเขาซักครั้งไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเขา”

เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เรื่องวุ่นวายจนจัดการไม่ได้ หลูจื๋อหลินจึงเอ่ยปากช่วยพูดให้หรูเว่ยเสียงสองสามคำ

ตอนนี้มือสังหารรอบตัวมีมากมาย มักจะมีคนมาเอาชีวิตของเขา หลูจื๋อหลินยังต้องพึ่งหรูเว่ยเสียงให้คอยปกป้องอยู่ข้างกายเขา

ถ้าไม่มีหรูเว่ยเสียงแล้ว นั่นก็เท่ากับว่าเขาเสียผู้ช่วยที่แข็งแกร่งไป

ให้หรูเว่ยเสียงตัดแขนตัวเองเพื่อผู้หญิงคนเดียว เขาไม่ยินยอมเด็ดขาด

หลูจื๋อหลินเอ่ยปากพูดต่อ “ถ้าคุณฉินยังโกรธอยู่ ผมจะชดเชยให้คุณด้วยวิธีอื่น ถ้าหากคุณจะต้องตัดมือเท้าของคนอื่นให้ได้ถึงจะหายกัน งั้นก็ให้ผมมาแทนเขาเถอะ ถึงอย่างไรหรูเว่ยเสียงก็เป็นลูกน้องของผม ผมสั่งสอนเขาไม่ดีเอง”

เขาแสร้งทำเป็นตำหนิตัวเอง ก้มหัวลงใบหน้าเผยความละอายใจ

ท่าทางของหลูจื๋อหลินจริงใจขนาดนั้น แต่ในคำพูดกลับเต็มไปด้วยการบีบบังคับ

เขากำลังบังคับให้ฉินซีตัดสินใจ ถ้าตอนนี้ฉินซียังจะตัดข้อมือของหลูจื๋อหลิน นั่นก็จะดูเกินเลยเกินไปแล้ว

เคล็ดลับนี้ใช้ความฉลาดสูง ฉินซีปรบมือให้เขาในใจ

วิธีนี้ของหลูจื๋อหลิน ไม่เพียงแต่ขจัดความคิดของเธอที่จะลงโทษหรูเว่ยเสียง แต่ยังสร้างชื่อเสียงที่ดีในการดูแลลูกน้องต่อหน้าผู้คน อย่างไร้รูปร่างด้วย

เมื่อได้ยินผู้คนเริ่มกระซิบกระซาบยกย่องหลูจื๋อหลินว่าเป็นคนเมตตาอ่อนโยน ดวงตาสีเข้มของฉินซีก็มีความเย้ยหยันแวบผ่าน

ถ้าหลูจื๋อหลินยังนับว่าเป็นคนเมตตาอ่อนโยน งั้นบนโลกนี้ก็ไม่มีคนเลวแล้ว

เรื่องที่เขาเคยทำมา ร้ายกาจยิ่งกว่านักโทษประหารในเรือนจำเป็นหมื่นเท่า

คิดถึงตรงนี้ ความเยาะเย้ยในแววตาของฉินซีก็เปลี่ยนเป็นความรังเกียจ

ภายใต้การเฝ้ามองของผู้คน เธอไม่อาจไม่แย้มรอยยิ้มบางๆได้ “ประธานหลู เมื่อกี้ฉันเพียงแค่หยอกผู้คุ้มกันของคุณเล่นเท่านั้น คุณจะประหม่าไปทำไม? คุณคงไม่คิดว่าฉันจะใช้วิธีการที่โหดร้ายแบบนี้มาจัดการเขาหรอกนะ?”

ฉินซีพูดด้วยรอยยิ้มที่สว่างไสว ทำให้สายตาของผู้คนพร่ามัว

เสียงของเธอชัดเจนรื่นหูราวกับเสียงกระดิ่ง ทำให้ผู้คนต่างคิดไปโดยไม่รู้ตัวว่าเธอเป็นเพียงเด็กสาวน่ารักบริสุทธิ์ ไม่มีการคุกคามใดๆ

มีแค่หรูเว่ยเสียงที่มองออกว่าภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้มมีบุคลิกที่อันตรายซ่อนอยู่

น่าเสียดายที่ตอนนี้เขาไม่มีทางพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นได้ ได้แต่ยืนอยู่กับที่ รับความเมตตาจากฉินซี

“ประธานหลู คุณวางใจเถอะ ฉันไม่เหมือนกับคนใจไม้ไส้ระกำพวกนั้น แม้ว่าลูกน้องของคุณทำให้ฉันบาดเจ็บ แต่ฉันก็ไม่อาจเฝ้ามองเขาทำลายชีวิตแบบนี้ได้”

ฉินซีพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ระหว่างคิ้วตาเต็มไปด้วยอ่อนโยน

ได้ยินเธอพูดแบบนี้ หลูจื๋อหลินก็ถอนหายใจยาวในใจ

เมื่อกี้เขาเกือบจะจริงจังแล้ว ยังนึกว่าฉินซีเป็นตัวละครที่ไม่ควรไปยั่วยุ

ตอนนี้ดูเหมือนเขาจะกังวลมากไป ฉินซีเป็นเพียงแค่เด็กสาวเท่านั้น แม้จะเย็นชานิดหน่อย แต่ไม่ได้มีใจคิดร้ายอะไร

คิดถึงตรงนี้ หลูจื๋อหลินก็ชื่นชอบฉินซีมากขึ้นนิดหน่อย

สามารถที่จะรักษาความสงบในสถานการณ์เช่นนี้ได้ กระทั่งรู้ว่าควรใช้วิธีการไหนมาปกป้องตัวเอง เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลยจริงๆ

ฉินซีไม่ลนลานเมื่อเจอเรื่องอันตราย ทั้งยังโต้ตอบอย่างสงบเป็นธรรมชาติ ยิ่งแสดงให้เห็นว่าหัวใจของเธอแข็งแกร่งเพียงใด

เป็นครั้งแรกที่หลูจื๋อหลินไม่ได้ชื่นชมเธอเพราะรูปร่างหน้าตา ที่เขาเลื่อมใสคือจิตวิญญาณและความตั้งใจของฉินซี

ยิ่งสัมผัสมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าฉินซีไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น

เธอดูเหมือนมีความลับมากมาย เช่นเดียวกับหมอกที่ต้องเดินเข้าไปแล้วถึงจะค้นพบได้ทีละน้อย

หลังจากเปิดหีบสมบัติทีละอัน ล้วนแต่ทำให้เขาตื่นเต้นดีใจ

บนใบหน้าจริงจังของหลูจื๋อหลิน ในที่สุดก็เผยรอยยิ้มขึ้น “คุณฉินเป็นคนจิตใจดีจริงๆ แกยังไม่รีบขอบคุณความเมตตาของคุณฉินอีก”

เขาเหลือบมองไปที่หรูเว่ยเสียง บ่งบอกให้เขารีบก้าวไปข้างหน้า แก้ไขเรื่องนี้ หยุดสร้างปัญหาต่อได้แล้ว

หรูเว่ยเสียงรู้ว่ารอบนี้เขาแพ้

ด้วยความทำอะไรไม่ได้ เขาได้เพียงเดินไปตรงหน้าฉินซีก้มหัวรับผิด “ขอบคุณคุณฉิน จิตใจกว้างขวาง ยกโทษให้ผมในครั้งนี้”

ฉินซีมองใบหน้าที่เคร่งขรึมของเขา ริมฝีปากแดงก็ขยับ “เอาเถอะ นายก็ไม่ต้องขอบคุณฉัน”

เธอยกแขนขึ้น หยุดการเคลื่อนไหวของหรูเว่ยเสียง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท