Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1485

ตอนที่ 1485

บทที่1485 ท่าทีเปลี่ยนไป

บางทีนี่อาจจะเป็นเหมือนกระจก ตกลงบนพื้นแล้ว ทิ้งร่องรอยแตกเอาไว้ ต่อให้ใช้กาวติดเข้าด้วยกัน ก็ยังคงมีแผลเป็นที่ชัดเจนมาก

แผลเป็นนี้ ไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถลบออกได้

ไม่ว่าเรื่องอะไรก็เป็นเหมือนกัน เมื่อเกิดวิกฤตขึ้นแล้ว อยากที่จะซ่อมแซมให้ดี ก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายขนาดนั้น

จ้านเซินแม้ว่าจะเป็นผู้นำขององค์กร แต่ว่าเขาก็เป็นคนที่มีเลือดมีเนื้อ ไม่ใช่หุ่นยนต์จริงๆ

มีแค่มนุษย์ ที่มีอารมณ์และความปรารถนา เพียงแต่ขึ้นอยู่กับว่าจะกระตุ้นอารมณ์หรือไม่

แม้ว่าต่อหน้าการแสดงออกของจ้านเซินเย็นชาไร้อารมณ์ แต่ว่าภายในใจของเขา มีพื้นที่ของความนุ่มนวลอยู่เสมอ แสร้งทำเป็นคนที่เขาต้องการความอ่อนโยน

ตัวของฉินซีอยู่ตรงนี้ แต่ว่าเธอกลับไม่รู้

เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของฉินซี เป็นอีกครั้งที่จ้านเซินไม่รู้ว่าควรพูดอะไรถึงจะดี

ทั่วร่างของจ้านเซินแผ่ความกดอากาศต่ำ หลังจากนั้นครู่หนึ่งก็เอ่ยปาก “เธอกลับไปก่อนเถอะ สองวันนี้ฉันจะเลือกงานที่เหมาะสมออกมา แล้วบอกเธอ”

ท้ายที่สุดเขาก็เลือกที่จะประนีประนอมอีกครั้ง ยอมถอยให้กับคำถามนี้

ฉินซีได้ยินเขาพูดแบบนี้ ใบหน้าก็เผยสีหน้ามีความสุข

มุมปากเธอโค้งขึ้นเล็กน้อย พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “โอเค”

“งั้นฉันไปกินข้าวก่อนนะ นายจะไปด้วยไหม?”

ฉินซีเรียกเขาด้วยอารมณ์มีความสุข แต่จ้านเซินกลับไม่มีความอยากอาหารเลยแม้แต่น้อย

เขาส่ายหน้า “ไม่ล่ะ เธอไปเถอะ”

เห็นจ้านเซินอารมณ์ไม่ดี ฉินซีก็ไม่บังคับ

เธอรู้ว่า ทุกอย่างที่ตนทำเมื่อกี้ อาจจะทำให้จ้านเซินทุกข์ใจ

แต่ว่า ตอนนี้ฉินซีไม่สามารถสนใจอะไรมากขนาดนั้นแล้ว

ความเจ็บปวดระยะสั้นนั้นดีกว่าระยะยาว เอาแต่ลากต่อไป สำหรับพวกเขาสามคนแล้ว รวมทั้งถังย่าด้วย ล้วนแต่เป็นเรื่องไม่ดี

หลังจากถูกจ้านเซินปฏิเสธ ฉินซีก็หันตัวจากไป

ในตอนที่หันตัว ใบหน้าของฉินซีก็เผยรอยยิ้มเจิดจ้า

ฉากนี้ เป็นธรรมดาที่ไม่อาจถูกจ้านเซินเห็นได้ ไม่อย่างนั้นเขาจะต้องเปลี่ยนความคิดอย่างแน่นอน

ระหว่างทางที่ไปโรงอาหาร ฉินซีเดินตัวลอยไปทั้งตัว

ครึ่งทาง ฉินซีก็พบกับเหยาจ้าว

เหยาจ้าวมองรอยยิ้มที่มุมปากของเธอ ใบหน้าเผยสีหน้าสงสัย “ฉินซี เธอรอเดี๋ยว!”

ฉินซีไม่เห็นเขา เดินผ่านไปทันที

ทั้งใจของเธอมีแต่ลู่เซิ่น นึกถึงว่าอีกเดี๋ยวก็จะได้ออกไปเจอเขาอีกแล้ว ในใจก็อดไม่ได้ที่จะกระโดดด้วยความดีใจ

เหยาจ้าวรีบดึงเธอลงมา “ฉินซี ฉันพูดกับเธออยู่นะ เธอไม่ได้ยินหรอ?”

รู้จักฉินซีมาเป็นเวลานานขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นฉินซีท่าทางมีความสุขจนวิญญาณออกจากร่างแบบนี้

ระหว่างที่เดินยังฮัมเพลง ถ้าไม่ยับยั้งเอาไว้ อีกเดี๋ยวก็จะกระโดดขึ้นมา มีความสุขไปทั้งใจจริงๆ

เดิมทีฉินซีเดินอยู่ดีๆ จู่ๆถูกดึงไว้ เกือบจะล้มไปกับพื้น

ถ้าเปลี่ยนเป็นในวันปกติ เธอคงโกรธไปนานแล้ว แต่ว่าวันนี้กลับยังคงมีรอยยิ้มเต็มใบหน้า

ฉินซียิ้มฮิฮิมองไปที่เหยาจ้าว “เหยาจ้าว นายหาฉันมีเรื่องอะไรหรอ?”

ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว ทำให้เหยาจ้าวตกใจ

ถ้าฉินซีโกรธในทันที เหยาจ้าวรู้สึกว่าตนคุ้นชินกับมันแล้ว ถึงอย่างไรวันปกติเวลาฉินซีเห็นเขา ก็มักจะดุร้าย

เหยาจ้าวพูดถามอย่างสงสัย “ฉินซี เธอเป็นอะไร เธอคงไม่ใช่ถูกของสกปรกอะไรทำให้ตัวงอหรอกนะ รีบฟื้นหน่อย อย่าทำฉันตกใจสิ!”

เขาจับแขนของฉินซีด้วยความตื่นตระหนก ออกแรงเขย่า

ไม่ใช่เพราะเหยาจ้าวงมงาย แต่การแสดงออกของฉินซีในวันนี้ผิดปกติมากจริงๆ ทำให้เขาไม่อาจหยุดจินตนาการไปมั่วซั่วได้

ฉินซีถูกเขาเขย่าจนสมองมึนงง ถึงค่อยๆได้สติกลับมา

“หยุด!”

ฉินซีตะโกนอย่างแรง ในที่สุดก็หยุดการกระทำของเหยาจ้าวที่เขย่าอย่างต่อเนื่อง

เธอคว้ามือของเหยาจ้าว พูดอย่างขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน “นายมีอะไรก็พูดดีๆไม่ได้หรอ ทำไมต้องเอาวิธีการที่หยาบคายแบบนี้มาปฏิบัติกับฉัน”

อารมณ์ที่ดีอยู่แต่เดิมของฉินซี ถูกเหยาจ้าวขัดจังหวะโดยตรง

เธอจ้องไปที่เหยาจ้าวด้วยความโกรธ ถ้าไม่ใช่เพราะเมื่อกี้จ้านเซินรับปากคำขอของเธอแล้ว ตอนนี้เธอคงตบเหยาจ้าวเข้าที่สมองไปนานแล้ว ให้เขารู้ว่าอะไรคือจิตใจมนุษย์ที่โหดร้าย

เหยาจ้าวสบตากับดวงตาที่โกรธเคืองมุ่งร้ายคู่นั้นของเธอ ในใจก็โล่งอกทันที “ฉินซี ในที่สุดเธอก็ฟื้นกลับมาแล้ว เมื่อกี้นี้เธอเป็นอะไร ฉันตกใจหมดเลย”

เขาตบหน้าอก ดูท่าจะถูกฉินซีทำให้ตกใจไม่น้อย

ฉินซีมองท่าทางที่แข็งแกร่งซื่อตรงของเขาอย่างไร้คำพูด ยิ่งคบค้ากับเหยาจ้าวลึกลงไปเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งพบว่า สมองวงจรกลับของเหยาจ้าวคนนี้แตกต่างกับคนอื่นโดยสิ้นเชิง

หรือจะบอกว่า ในโลกของนักศึกษาแพทย์ชั้นนำ สมองล้วนแต่มีโครงสร้างแบบนี้ ไม่สามารถคิดเหมือนคนปกติได้

ฉินซีพูดอย่างมีไฟลุกด้วยความโกรธ “อะไรเป็นอะไร หรือว่าแม้แต่ท่าทางมีความสุขของคนอื่นนายก็ยังดูไม่ออกหรอ? เหยาจ้าว! นายไม่มีตาหรือไง!”

เธอมองไปที่เหยาจ้าวอย่างรังเกียจ รู้สึกว่าพวกเขาจะต้องไม่ใช่ญาติที่แท้จริงแน่ ไม่อย่างนั้น ทำไมเหยาจ้าวถึงได้โง่ขนาดนี้

ไอคิวสมองของเขา เผยออกมาแค่ในการเรียนหมอหรอ

เหยาจ้าวไม่ได้คิดถึงด้านนั้นจริงๆ ได้ยินคำพูดของฉินซี ก็ชะงัก

อันที่จริง เหยาจ้าวเชื่ออย่างแน่นอนว่า ฉินซีอยู่ในองค์กรไม่มีทางพบเจอเรื่องที่ควรค่าแก่การมีความสุขได้ ดังนั้นจิตใต้สำนึกจึงมองข้ามไป

เผชิญหน้ากับคำถามของฉินซี เหยาจ้าวก็เกาศีรษะด้วยความขัดเขิน “ฮิฮิ ฉันก็แค่คิดไม่ถึงเอง?”

เขาถอยไปครึ่งก้าวอย่างวางตัวไม่ถูก ใบหน้าเผยอารมณ์ที่หวั่นเกรง

ในใจของเหยาจ้าวเสียใจอย่างมาก รู้แต่แรกเขาก็ไม่พุ่งไปข้างหน้าอย่างนั้นหรอก ควรจะสังเกตเสียหน่อยก่อน ใช้สมองหน่อย

ฉินซีเห็นการแสดงออกทั้งหมดของเขาอย่างเต็มตา ฝ่ามือที่วางอยู่ข้างตัวก็กำหมัดแน่น “คิดไม่ถึง! ฉันเอาสมองของนายมาแก้ไขหน่อย นายก็คิดได้แล้ว!”

เธอแสร้งพูดอย่างดุร้าย แต่ความเป็นจริงไม่ได้โกรธจริงๆ

เหยาจ้าวดูออกว่าเธอแค่แสดงสีหน้าดุร้าย ดังนั้นจึงยิ้มแหะแหะ ก้าวเข้าไปเกลี้ยกล่อม “ฉันรู้ตัวว่าผิดแล้วจริงๆ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันสาบานว่าจะไม่ให้มีครั้งต่อไปเด็ดขาด”

เขารู้สึกว่าตนเป็นพี่ชายที่น่าอับอายจริงๆ

ทั้งๆที่น้องสาวต้องกลัวพี่ชายถึงจะถูก มาถึงทางด้านเขากลับพลิกไปอีกทางโดยสิ้นเชิง

มองรอยยิ้มที่ประจบของเหยาจ้าว แม้ว่าในใจฉินซีจะอยากยิ้มแค่ไหน แต่การแสดงออกยังคงเผยสีหน้ารังเกียจ “พอแล้วพอแล้ว! นายไปห่างๆฉันหน่อย ให้คนอื่นเห็นมันจะไม่ดี จะนึกว่าระหว่างพวกเราสองคนมีความสัมพันธ์อะไรที่ไม่เหมาะสม”

ขณะที่เธอพูด ก็กำลังจะผลักมือของเหยาจ้าวออก แต่ใครจะรู้ว่าจู่ๆท่าทางของเหยาจ้าวก็เปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมา

อารมณ์ของเขาพุ่งสูง บีบเอวด้วยความโมโห “เราสองคนเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ฉันจะดูซิว่าใครกล้าพูดไร้สาระลับหลัง”

เขาพูดอย่างร้ายกาจ แสร้งทำทีเป็นโกรธเคือง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท