Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1478

ตอนที่ 1478

หลูจื๋อหลินจะมานั่งรอความตายที่นี่ทำไม จะโง่เกินไปหรือเปล่า

เส้นทางที่หลอจี่หอางเดินผ่านมามีมากกว่าพวกเขา คดีที่สืบสวนก็มากกว่า

สาเหตุที่หลูจื๋อหลินไม่ได้หนี หนึ่งเพราะเขาคิดวิธีไว้แล้ว ว่าจะรับมือตำรวจยังไง

เขาเชื่อมั่นในความรู้สึกตัวเองมาก ตนสามารถหลบการติดตามของตำรวจได้ อยู่ที่เมืองไห่พัฒนาต่อไป

สองคือ เพราะหลูจื๋อหลินเองก็ไม่คิดว่า จดหมายรายงานนิรนามฉบับนี้จะตกอยู่ในมือของตำรวจอย่างรวดเร็ว เขาคิดที่จะโอนทรัพย์สินทั้งหมดออกไปภายในหนึ่งวันมันเร่งรีบเกินไป

หลูจื๋อหลินทนไม่ได้ที่จะสละทรัพย์สมบัติขนาดนั้น ดังนั้นจึงยอมเสี่ยง อยากจะรอให้สถานการณ์นี้ผ่านพ้นไป ค่อยคิดหาวิธีออกจากเมืองไห่

ข้างต้น เป็นเพียงการคาดการณ์ของหลอจี่หอาง ตามประสบการณ์การทำคดีมาหลายปีเท่านั้น

ส่วนเรื่องที่มันเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่ หลอจี่หอางก็ไม่รู้แล้ว

ถ้าหลูจื๋อหลินสามารถอ่านใจได้ จะต้องประหลาดใจมาก

เพราะที่หลอจี่หอางคาดเดาไว้นั้นแม่นยำมาก เขาวิเคราะห์ความคิดของเขาออกมาอย่างชัดเจนไม่ขาดตกบกพร่องได้อย่างไร ช่างน่ากลัวเสียจริง

หลอจี่หอางมองเขาด้วยสายตาที่แผดเผา ไม่ได้ปล่อยวางความระแวดระวังในตัวเขา เพราะคำพูดนั้นของเขาเลย “ดูท่า ประธานหลูเองก็เป็นคนที่มีความรู้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็ขอเชิญคุณไปที่สถานีตำรวจกับเราด้วย อย่าให้ผมกับลูกน้องต้องลำบาก”

เขาพูดแผ่วเบา ยกยอหลูจื๋อหลิน

หลูจื๋อหลินในตอนนี้แม้ว่าจะไม่อยากไป ในฉากแบบนี้ ก็ต้องคล้อยตาม ได้แต่ไปกับหลอจี่หอาง แต่เขาได้คิดวิธีรับมือไว้แล้ว

หลูจื๋อหลินปิดประตูห้องลงอย่างไม่รีบไม่ร้อน “โอเค ผมต้องให้ความร่วมมือเป็นธรรมดา งั้นตอนนี้พวกเราไปกันเถอะ สายๆผมต้องกลับไปทำงานอีก”

เขาไม่รู้ว่า เขาไปในครั้งนี้ คิดจะออกมา ก็เป็นเรื่องยากแล้ว

……

ในองค์กร ที่ห้องหนังสือ

ฉินซีได้ยินข่าวว่าหลูจื๋อหลินถูกตำรวจพาตัวไปแล้ว ใบหน้าก็เผยรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ้ง

ถ้าไม่ใช่เพื่อปฏิบัติภารกิจ ตอนนี้หลูจื๋อหลินก็ถูกเธอทุบตีจนหน้าช้ำจมูกบวมไปนานแล้ว

ใครให้หลูจื๋อหลินถ้ำมองเธอตลอดเวลา คิดจะลงมือกับเธอ

แค่อาศัยที่เขาเป็นตาแก่หน้าตาน่าเกลียด ก็คู่ควรกับเธอ?

ฉินซียกมุมปากขึ้นอย่างเยาะเย้ย อันที่จริงหลูจื๋อหลินก็ไม่ได้หน้าตาดูไม่ได้ กลับกัน ด้วยอายุของเขา สามารถรักษารูปลักษณ์แบบนี้ได้ ก็นับว่ายอดเยี่ยมแล้ว

บนใบหน้าหลูจื๋อหลินดูเป็นชายรุ่นใหญ่ที่มีอารมณ์ขันแบบผู้ใหญ่ สาวน้อยมากมายต่างชื่นชอบคนประเภทที่ทำให้เจ็บปวด แล้วยังมีเงิน

แต่ว่า สิ่งของอย่างเงิน ฉินซีมีอยู่แล้ว เธอสามารถเลี้ยงตัวเองได้

ที่ฉินซีต้องการคือรักแท้ แล้วก็หน้าตากับรูปร่าง ลู่เซิ่นห่างไกลจากหลูจื๋อหลินตั้งไม่รู้เท่าไหร่

โดยเฉพาะอายุ หลูจื๋อหลินเป็นพ่อเธอได้แล้ว เป็นธรรมดาที่ฉินซีจะไม่สนใจ

จ้านเซินมองรอยยิ้มตรงมุมปากของเธอ เอ่ยถามด้วยความแปลกใจเล็กน้อย “ฉินซี เธอเป็นอะไร?”

เขาไม่รู้เลยว่าหลูจื๋อหลินซ่อนความคิดสกปรกที่มีต่อฉินซีไว้ ถ้าหากเขารู้ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาดที่จะให้อภัยเขาง่ายดายแบบนี้

ฉินซีได้ยินเสียงของเขา ก็ได้สติกลับมา ส่ายหน้า “ไม่มีอะไร”

เธอเอ่ยปากเบาๆ “ภารกิจครั้งนี้เสร็จสิ้นก็ดีแล้ว ฉันก็นับว่าไม่เนรคุณต่อความไว้วางใจที่นายกับองค์กรมีต่อฉัน”

ฉินซีนั่งสงบนิ่งอยู่บนโซฟา ดูแล้วสงบยิ่งกว่าตอนที่เข้าองค์กรครั้งแรกไม่น้อยเลย

การเปลี่ยนแปลงแบบนี้ ทำให้จ้านเซินมีความสุขมาก

จ้านเซินมองใบหน้าที่ขาวนวลของเธอ ขยับริมฝีปากบาง “อืม ภารกิจครั้งนี้ เธอทำได้ดีมาก บอกซิ เธออยากได้ของขวัญอะไร ถือว่าเป็นรางวัล”

อันที่จริง นี่เป็นแค่สิ่งที่ทุกคนควรทำเท่านั้น

แต่ว่า เพราะจ้านเซินชอบฉินซี ดังนั้นจึงปฏิบัติกับเธอเป็นพิเศษ

ฉินซีขมวดคิ้ว “นี่เป็นแค่หน้าที่ที่ฉันควรทำเท่านั้น จ้านเซินนายไม่จำเป็นต้องปฏิบัติกับฉันเป็นพิเศษ ถ้านายทำกับฉันแบบนี้ คนในองค์จะมองฉันยังไง นายจะให้ฉันใช้ชีวิตอยู่ในองค์กรต่อไปยังไง นายก็รู้ ฉันเกลียดสายตาแปลกๆแบบนั้น”

ริมฝีปากบางขยับ เธอพูดทีละคำ น้ำเสียงจริงจัง

ฉินซีมองตรงไปที่จ้านเซิน แสดงความมุ่งมั่นของตนอย่างไม่ลดละ

นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่กลับมาถึงองค์กร ที่ฉินซีใช้น้ำเสียงหนักแน่นพูดกับจ้านเซิน

แต่จ้านเซินนอกจากในตอนแรกแล้ว ใบหน้ามีความมืดมนเล็กน้อย จากนั้นจู่ๆก็เผยรอยยิ้มจางๆ การเปลี่ยนแปลงที่แปลกเป็นพิเศษนี้ ทั้งหมดมาจากประโยคครึ่งหลังที่ฉินซีพูดเมื่อกี้

จ้านเซินฟังออกจากปากของเธอ ว่าฉินซีวางแผนที่จะใช้ชีวิตอยู่ในองค์กรต่อ

งั้นก็พูดได้ว่า เธอลืมลู่เซิ่นไปแล้วใช่ไหม อยากที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง

ถ้าเป็นแบบนั้น เขาก็ไม่จำเป็นต้องจับตาดูฉินซีอย่างเคร่งครัดอีก

จ้านเซินไม่รู้ว่า นี่เป็นเพียงวิธีการหนึ่งของฉินซีเท่านั้น คิดจะใช้วิธีนี้ ให้จ้านเซินลดการป้องกันในใจ

ความพิเศษที่จ้านเซินมีต่อฉินซี เป็นเรื่องที่ทุกคนในองค์กรรู้อยู่แก่ใจ

แต่ว่า แม้ว่าภายในองค์กรจะมีกฏที่เข้มงวด ก็ยังมีข้อยกเว้น

ทุกคนต่างรู้สึกว่าฉินซีมีวาสนามาก ได้เป็นที่โปรดปรานของจ้านเซิน มีแค่ฉินซีที่รู้สึกว่า นี่เป็นการทรมานอย่างนึง ถ้าทำได้ เธออยากที่จะเอาสิ่งที่เรียกว่า “วาสนา” นี้ส่งให้คนอื่นจริงๆ

ฉินซีมองเขาด้วยแววตาแผดเผา เห็นการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ที่หาได้ยากบนในหน้าจ้านเซินอย่างชัดเจน ในใจเผยความยินดี บนใบหน้ากลับยังคงเผชิญหน้ากับเขาอย่างจริงจัง

เธอรู้ คำพูดเมื่อกี้ของเธอ ทำให้ก้นบึ้งในหัวใจของจ้านเซินเกิดคลื่น และเริ่มทำงาน

จ้านเซินสบตากับดวงตาสีเข้มคู่นั้นของเธอ เห็นความมุ่งมั่นในแววตาของเธออย่างชัดเจน จึงพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้ “งั้นก็ได้ ในเมื่อเธอพูดแบบนี้ งั้นก็แล้วแต่เธอ”

ตอนนี้เขารู้สึกว่าไม่ง่ายเลยที่จะผ่อนคลายความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฉินซี ไม่อยากบีบบังคับเธอจนแน่นเกินไป

ตราบใดที่ฉินซียังอยู่ในองค์กรอย่างปลอดภัย อยู่ข้างกายเขา จ้านเซินก็ปล่อยวางได้อย่างเหมาะสม

ฉินซีสัมผัสได้อย่างชัดเจน ว่าช่วงนี้ จ้านเซินกำลังประนีประนอมทีละน้อย

การเปลี่ยนแปลงแบบนี้ ทำให้ฉินมีความสุขมาก

เธอรู้สึกว่า ระยะห่างที่เธอจะได้อยู่กับลู่เซิ่น ดูเหมือนจะใกล้เข้ามาอีกขั้นแล้ว

เธอไม่อยากอยู่ในองค์กรต่อไป แม้ว่าพึ่งจะเจอกันผ่านไปยังไม่ถึงวัน แต่ว่าฉินซีเริ่มคิดถึงลู่เซิ่นแล้ว

ฉินซีอยากที่จะหาโอกาศเจอลู่เซิ่นในครั้งต่อไปจนแทบรอไม่ไหว

เธอแสร้งทำทีสงบนิ่ง เพื่อเลี่ยงไม่ให้ถูกจ้านเซินเห็นความน่าสงสัย

จ้านเซินขมวดคิ้ว “เธอพึ่งจะกลับมา ไม่พักผ่อนซักสองสามวันหรอ? ฉันวางแผนให้เธอรับภารกิจเดือนหน้า”

เขาบอกความคิดของตนต่อฉินซี สีหน้าของฉินซีเปลี่ยนเป็นดูไม่ได้ทันที

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท