Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1483

ตอนที่ 1483

บทที่1483 คลื่นใต้น้ำ

ถ้าฉินซีถูกจับ งั้นทั้งหมดที่เขาทำตอนนี้ จะมีความหมายอะไร

โจวเอ้อรีบก้าวไปข้างหน้า ดึงโจวซิงที่อารมณ์ตื่นเต้นไว้ “โจวซิง นายพูดให้มันน้อยๆหน่อย! ลู่เซิ่นเองก็ไม่อยากทำแบบนี้ นายไม่รู้ว่าสถานการณ์ในตอนนั้นร้ายแรงแค่ไหน”

เขายืนขวางอยู่ตรงหน้าของทั้งสอง มองไปที่โจวซิงด้วยใบหน้าตำหนิ ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่เห็นด้วย

น้องชายเขาคนนี้ดีหมดทุกอย่าง แต่เอาใจเขามาใส่ใจเราคิดเพื่อคนอื่นไม่เป็น

พูดให้ดูดีหน่อยก็คือมีเหตุผล แต่พูดไม่น่าฟัง ไม่มีรสชาติความเป็นคน

โจวซิงตระหนักได้ว่าอารมณ์ของตนสูญเสียการควบคุมแล้ว เขาสูดหายใจลึก บังคับให้ตัวเองใจเย็นลง “ขอโทษ”

เขาก้มศีรษะลง พูดเสียงอู้อี้

เสียงขอโทษนี้พูดให้ลู่เซิ่นฟังเป็นธรรมดา

ลู่เซิ่นรู้ว่าสาเหตุที่โจวซิงตื่นตัวแบบนี้ เป็นเพียงเพราะว่าเขาไม่ใส่ใจร่างกายตัวเอง ยืนอยู่ในมุมมองของหมอและเพื่อนคนหนึ่งที่คิดเผื่อเขาเท่านั้น ไม่ได้มีประสงค์ร้ายใดๆ

ดังนั้น ลู่เซิ่นจึงส่ายหน้า “นายไม่ต้องขอโทษฉัน ฉันเข้าใจความหมายของนาย”

เขาเอ่ยปากเบาๆ ท่าทางสงบนิ่ง

ได้ฟังลู่เซิ่นพูดแบบนี้ ในใจของโจวซิงก็ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก

โจวซิงมองอาการบาดเจ็บที่หนักขึ้นของเขา ก็ขมวดคิ้ว “เฮ้อ……ช่วงนี้ นายจะทำผลีผลามอีกไปไม่ได้แล้ว คำพูดของฉันเมื่อกี้ไม่ใช่จะพูดให้นายกลัวจริงๆ ถ้ามีโรคหลงเหลืออยู่ ไม่สามารถรักษาได้ นั่นก็เป็นเรื่องใหญ่ในชีวิต นายเองก็ไม่หวังว่าในอนาคตแม้แต่จะเดินตรงๆยังลำบากใช่ไหม”

เขาผ่อนคลายอารมณ์เล็กน้อย แล้วก็พูดอย่างจริงจัง หวังว่าลู่เซิ่นจะนำคำที่เขาพูดมาใส่ใจ ไม่ทำเป็นหูทวนลม

โจวซิงเหลือบมองโจวเอ้อ ส่งสัญญาณให้เขาช่วยตนพูดจูงใจลู่เซิ่น

ครั้งนี้หยุดลู่เซิ่นไว้ไม่ได้ โจวเอ้อเองก็มีความผิด

เห็นลู่เซิ่นได้รับบาดเจ็บ เขาเองก็ทุกข์ใจไปด้วย

โจวเอ้อหันตัว มองลู่เซิ่นที่ก้มหน้าจมอยู่ในความคิด แล้วเอ่ยปากในเวลาที่เหมาะสม “ใช่แล้ว ลู่เซิ่น ถ้าฉินซีรู้ ว่าเป็นเพราะเธอทำให้นายเดินยังลำบาก ในใจของเธอจะทุกข์ใจมากแค่ไหน”

เขารู้อย่างลึกซึ้ง ว่าในใจของลู่เซิ่น ฉินซีนั้นสำคัญที่สุด

ภายใต้การพูดจูงใจของทั้งสอง ลู่เซิ่นเองก็ค่อยๆใจเย็นลง

เขามองไปที่ดวงตาที่เป็นห่วงสองคู่นั้นของโจวซิงและโจวเอ้อ “ฉันรู้แล้ว หลังจากนี้ฉันไม่ทำแล้ว”

อันที่จริง ลู่เซิ่นเองก็ไม่สามารถรับประกันได้โดยสมบูรณ์ว่าครั้งหน้าจะทำอย่างนี้ไหม ถึงอย่างไรเขาก็ไม่อาจถ่างตามองดูฉินซีเสี่ยงอันตรายเพียงคนเดียว

แต่ว่า ลู่เซิ่นเองก็รู้ ถ้าเขาเป็นแบบนี้ต่อไป บาดแผลจะต้องหนักขึ้นเรื่อยๆแน่นอน

ถึงตอนนั้น มีโรคขึ้นมาจริงๆ เขาจะไปช่วยฉินซีได้ยังไง

ต่อให้ครั้งนี้ช่วยฉินซีออกมาแล้ว งั้นตอนที่จ้านเซินหาพวกเขาเจอ คิดจะพาฉินซีไป แล้วเขาจะปกป้องฉินซีไว้ ไม่ให้ฉินซีถูกบังคับจับไปได้ยังไง

เรื่องที่เหมือนกัน ลู่เซิ่นไม่หวังให้มันเกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง

คิดมาถึงตรงนี้ ลู่เซิ่นก็อดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่น

ได้ฟังเขาพูดแบบนี้ โจวซิงจิตใจของกับโจวเอ้อก็สงบลงได้ในที่สุด

โจวซิงเดินเข้าไป หยิบกล่องยาที่อยู่ด้านข้างขึ้นมา “นายอย่าพึ่งขยับ ฉันช่วยจัดการให้”

……

อีกด้านหนึ่ง

ภายในองค์กร รายงานผลตรวจของฉินซีก็ได้มาอย่างรวดเร็ว

เธอมองดู สมรรถภาพทางกายบนนั้นเป็นปกติมาก

แต่ว่า ฉินซีไม่ได้เอารายงานเล่มนี้ไปให้จ้านเซินทันที

เธอรู้ จ้านเซินในตอนนี้ยังอยู่ในความลังเล

จากท่าทีเมื่อวาน ดูออกไม่ยาก จ้านเซินในตอนนี้ไม่มีความคิดที่อยากจะส่งเธอออกไปปฏิบัติภารกิจเลย

ไม่แน่ว่า จ้านเซินกำลังสงสัยจุดประสงค์ที่เธอรีบร้อนจะออกไปอีกครั้งขนาดนั้น

คิดมาถึงตรงนี้ ฉินซีรู้สึกว่าตนจะใจร้อนแบบนี้ไม่ได้

เธอจำเป็นต้องใจเย็นลง แสร้งทำทีเป็นไม่สนใจ ไม่อาจปล่อยให้จ้านเซินเห็นความน่าสงสัยได้

ดังนั้น ฉินซีจึงทิ้งระยะไว้สองสามวัน ถึงค่อยมาหาจ้านเซิน

ในห้องหนังสือ จ้านเซินกำลังทำงานอย่างจริงจัง

“ก๊อกก๊อกก๊อก……”

เคาะประตู เสียงที่กลัดกลุ้มดังขึ้น

จ้านเซินขมวดคิ้ว จ้องเอกสารอย่างไม่ละสายตา เอ่ยปากแผ่วเบา “เข้ามา”

หลังจากได้รับคำอนุญาตจากเขา ฉินซีก็เปิดประตูห้องเดินเข้าไป

เมื่อเข้ามา เธอก็เห็นเค้าโครงใบหน้าที่ชัดเจนราวกับมีดของจ้านเซิน

เห็นจ้านเซินกำลังจัดการงาน ฉินซีก็ไปยืนเงียบๆอยู่ด้านหนึ่งไม่พูดอะไร

หลังจากจ้านเซินเซ็นชื่อของตนลงไปอย่างสง่างามที่มุมขวาล่างของเอกสารแล้ว ถึงค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา

เมื่อเขาเห็นว่าคนที่มาคือฉินซี ก็มีแสงแวบผ่านในดวงตาสีเข้ม

จ้านเซินวางเอกสารในมือลง สิบนิ้วไขว้กัน มองตรงไปที่ฉินซี เอ่ยปากถาม “ฉินซี เธอวิ่งมาหาฉันแต่เช้า มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”

อันที่จริง ฉินซีมาหาเขาทำไม จ้านเซินรู้ดียิ่งกว่าใคร

เขาเพียงแค่กำลังหลีกเลี่ยงช่วงเวลานี้โดยเจตนา ไม่อยากเผชิญหน้าก็เท่านั้น

ฉินซีมองพระอาทิตย์ดวงโตนอกหน้าต่าง “ไม่เช้าแล้ว พระอาทิตย์ส่องก้นแล้ว ฉันออกกำลังกายในห้องฝึกซ้อมมาตลอดช่วงเช้าแล้ว ถึงมาหานาย”

เธอชี้แสงแดดจ้านอกหน้าต่าง พูดอย่างไร้คำจะพูด

ฉินซีได้ฟังความหมายที่จ้านเซินพูด ก็รู้ว่า ตอนนี้เขายังคงไม่อยากมอบหมายให้ตนออกไปปฏิบัติภารกิจ

แต่ว่า มาก็มาแล้ว ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไง เธอก็จะลองดูเสียหน่อย

จ้านเซินมองตามทิศทางของนิ้วมือเธอ เห็นด้านนอกพระอาทิตย์ส่องแสงถึงพื้นแล้ว แผ่ออร่าที่ร้อนระอุ ก็อดไม่ได้ที่จะเก้อเขิน

ข้ออ้างนี้ของเขา มันชุ่ยเกินไปหน่อยแล้ว

“อะแฮ่ม……”

บนใบหน้าอันหล่อเหลาของจ้านเซิน เป็นครั้งแรกที่เผยท่าทางเขินอายออกมา

ฉินซีจ้องมองเขา ในใจรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

“โอเค ฉันทำงานนานเกินไปจนลืมเวลาไปแล้ว”

จ้านเซินหาข้ออ้างมาได้อย่างทันท่วงที ช่วยปกปิดสิ่งที่ตนพูดไปเมื่อกี้ “เธอพูดมาตามตรงเลย มาหาฉันมีธุระอะไร”

เขาจ้องฉินซีด้วยแววตาที่ร้อนแรง รอคำตอบของเธอ

ฉินซีสัมผัสได้ถึงการบีบคั้นที่แข็งแกร่งจากสายตาของเขาอย่างอธิบายไม่ได้ เธอรู้ดี จ้านเซินจะต้องไม่เต็มใจให้เธอเอ่ยปากพูดถึงเรื่องนั้นแน่

แต่ว่า เมื่อนึกถึงลู่เซิ่นที่ยังคำนึงถึงตนอยู่ด้านนอก ฉินซีก็เลือกที่จะเผชิญหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว “วันนั้นนายให้ฉันไปหาเหยาจ้าวทำการตรวจสอบโดยละเอียด นี่ให้นาย ผลตรวจออกมาแล้ว นายลองดู”

ขณะที่พูด เธอก็หยิบแบบฟอร์มรายงานที่ถูกพับจนไม่เป็นรูปเป็นร่างออกมาจากในกระเป๋ากางเกง ส่งให้จ้านเซิน

จ้านเซินมองไปที่ฟอร์มรายงานที่ยับเยินอย่างไร้คำพูดเล็กน้อย คลี่ออกทีละน้อยอย่างช่วยไม่ได้ การเคลื่อนไหวระมัดระวัง กลัวว่าจะทำฉีกขาด

จ้านเซินรู้แต่แรกแล้วว่ารายงานการทดสอบของฉินซีออกมาแล้ว

สองสามวันนี้ จ้านเซินเอาแต่คิดอยู่ตลอด ว่าฉินซีจะมาหาเขาเมื่อไหร่

แน่นอน เขาเดาไม่ผิด ฉินซีมาแล้ว

จ้านเซินตรวจดูอย่างละเอียด ให้แน่ใจว่าทุกรายการบ่งชี้ว่าเป็นปกติ “อืม ฉันดูแล้ว”

เขาวางฟอร์มรายงาน ไว้ท่ามกลางแฟ้มเอกสารด้านหนึ่ง เอ่ยปากด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท