Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1481

ตอนที่ 1481

บทที่1481 กลับโรงพยาบาล

เหยาจ้าวเม้มริมฝีปากค่อยๆเอ่ยปาก “ฉินซี เธออธิบายกับฉันมาตรงๆ ความหมายในคำพูดนี้ของเธอคือกำลังบอกว่าฉันยอดเยี่ยมไม่พอหรอ?”

ฉินซีมองดูอารมณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของเขา ยังนึกว่าเกิดเรื่องใหญ่โตอะไรขึ้น ในใจตึงเครียด

ใครจะนึกว่า วงจรกลับจะพิเศษขนาดนี้

ฉินซีอยากที่จะแงะสมองเขาออกจริงๆ ดูว่าข้างในมีอะไรอยู่บ้าง

ทำไมหักเลี้ยวมาถึงตรงนี้ได้ แปลกมากจริงๆ

ฉินซีพูดอธิบายอย่างช่วยไม่ได้ “ฉันไม่ได้พูดว่านายยอดเยี่ยมไม่พอ ฉันแค่กำลังบอกนายว่า นายไม่จำเป็นต้องรีบร้อนขนาดนั้น ของที่เป็นของนายอาจจะล่าช้า แต่ต้องมาแน่นอน”

เธอเอ่ยปากพูดอย่างจริงจังจริงใจ มองตรงไปที่เหยาจ้าว

“ไม่ถูกต้อง!”

“จิตสำนึกของเธอไม่มีทางเรียบง่ายขนาดนั้น เธอรู้สึกว่ายังมีความหมายที่ลึกซึ้งกว่านั้น ฉินซี เธอพูดมาตรงๆเถอะ ฉันไม่โกรธหรอก”

เหยาจ้าวรู้สึกจริงๆว่าพละกำลังของเขาไม่ดีเท่าเมื่อก่อนแล้ว เขาเองก็อยากรู้ว่าตนเป็นอย่างไรในสายตาคนนอก ค้นหาว่าปัญหาอยู่ตรงไหน แบบนี้จึงจะสามารถยกระดับต่อไปได้

เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามซอกแซกของเหยาจ้าว ฉินซีก็อดไม่ได้ที่จะกรอกตาทันที

ตอนนี้ในใจเธอเสียใจอย่างมาก ทำไมเมื่อกี้ไปอธิบายกับเหยาจ้าวมากมายขนาดนั้น หลังจากอธิบายไปเขาก็ไม่ฟังซักคำ นี่มันช่างเปลืองน้ำลายจริงๆ

แล้วยังทำให้ตนโมโหไม่เบา นี่มันช่างเป็นเรื่องที่ความพยายามสูญเปล่า

ฉินซีหันตัวเตรียมจะจากไป “พอ! นายค่อยๆคิดไปเถอะ ฉันยังมีเรื่องที่สำคัญกว่าต้องไปทำ ไม่ถกเถียงกับนายต่อแล้ว”

เธอโบกมือ หันตัวจะจากไป

ฉินซีโดนรังควานขนาดนั้น ตอนนี้ลืมไปโดยสิ้นเชิงเลยว่า เมื่อกี้มาหาเหยาจ้าวเพื่ออะไร

ฉินซีหันตัวอย่างไร้เยื่อใย เห็นเธอจะจากไปแล้วจริงๆ เหยาจ้าวก็มือไม้พันกันรีบเข้าไปหยุดไว้ “เฮ้เฮ้เฮ้! ฉันล้อเธอเล่นหน่า เธอดันโกรธเข้าจริงๆ”

เหยาจ้าวจับข้อมือเธอไว้แน่น ป้องกันไม่ให้เธอหลุดพ้น

ได้ยินเขาพูดแบบนี้ ดวงตาสีดำเข้มของฉินซีก็เผยแสงเฉียบคม

อันตรายค่อยๆใกล้เข้ามา เหยาจ้าวตัวสั่นเทาทันที

เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า ความโกรธที่แผ่ออกมาจากร่างของฉินซี กำลังแพร่กระจายทีละนิด อีกเดี๋ยวก็จะเผาไหม้ร่างกายของเขาแล้ว

ความรู้สึกที่น่ากลัวแบบนี้ ทำให้สมองของเหยาจ้าวหมุนอย่างรวดเร็ว

ไม่ได้ ตอนนี้เขาจำเป็นต้องคิดว่าจะผ่านพ้นภัยพิบัตินี้ไปได้อย่างไร

ในใจเหยาจ้าวเสียใจอย่างมาก เมื่อกี้ทำไมต้องไปยั่วโมโหฉินซี ตอนนี้เข็ดหรือยัง?

ทันใดนั้นในสมองเขาก็มีแสงแวบผ่าน

มีแล้ว!

เหยาจ้าวโห่ร้องในใจ

“ใช่แล้ว เธอมาหาฉันมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”

เหยาจ้าวเปลี่ยนหัวข้อเป็นเรื่องธุรกิจ เตือนฉินซี

ฉินซีถึงตระหนักได้ว่าตนมาที่นี่เพื่ออะไร ถูกเหยาจ้าวขัดจังหวะจนเกือบจะลืมไปแล้ว

เธอระงับความโกรธไว้ในใจ เอ่ยปากพูดอย่างเย็นชา “จ้านเซินให้นายทำการตรวจสอบอย่างละเอียดให้ฉัน เขาบอกต้องให้แน่ใจว่า ตอนนี้ทุกระบบในร่างกายฉันดีทุกด้าน ถึงจะพิจารณาให้ฉันรับภารกิจอันต่อไป”

ฉินซีพูดอย่างตรงไปตรงมา ในใจเธอไม่กังวลเรื่องนี้เลย

ต่อให้มีตรงไหนไม่เพียงพอจริงๆ เธอก็สามารถขอให้เหยาจ้าวช่วยแก้ไขได้

อีกอย่างตอนนี้ฉินซีรู้สึกว่าสภาพร่างกายของตนค่อนข้างดี เทียบกับตอนที่พึ่งกลับมาองค์กร ไม่รู้ว่าดีกว่ากี่เท่า

“ดูท่าเขายังคงไม่ค่อยวางใจเธอ”

ดวงตาเหยาจ้าวมีแสงแวบผ่าน ค่อยๆเอ่ยปากพูด

สาเหตุที่จ้านเซินหาคำพูดเหล่านี้มา ก็เพียงแค่อยากหาข้ออ้างให้ฉินซีอยู่ข้างกาย ป้องกันไม่ให้เธอออกไปข้างนอกอีกเท่านั้น

เรื่องพวกนี้คนที่มีสายตาล้วนสามารถดูออก แต่ใครให้จ้านเซินเป็นผู้นำล่ะ

ตราบใดที่วันนึงเธอยังอยู่องค์กร เธอก็จำเป็นต้องปฏิบัติตามคำสั่งของจ้านเซิน

“อืม”

ฉินซีพยักหน้า เห็นด้วยกับมุมมองของเขา

คนที่มีสายตาล้วนดูความคิดของจ้านเซินออก จ้านเซินก็ยังคิดที่จะปกปิดไว้

เหยาจ้าวยักไหล่ เอ่ยปากอย่างเฉยเมย “ในเมื่อเขาต้องการให้ตรวจสอบเธออย่างละเอียด งั้นตอนนี้เรามาเริ่มกันเถอะ รอผลตรวจออกมา ส่งไปแล้ว ค่อยดูว่าเขาจะว่ายังไง”

ในเมื่อตอนนี้พวกเขายังอยู่ในองค์กร ถูกจ้านเซินควบคุม

นอกเหนือจากปฏิบัติตามคำสั่งของจ้านเซิน ก็ไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้แล้ว

ฉินซีฟังออกถึงความทำอะไรไม่ได้ในน้ำเสียงเขา ก็ถอนหายใจตาม “โอเค”

……

เมืองไห่

ลู่เซิ่นหลังจากงานเลี้ยงจบลง ก็กลับไปที่โรงพยาบาล

เขากลับมาอย่างเร่งรีบ ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เวลาที่จากไปนานเกินไป ถูกถังย่าพบความน่าสงสัย

ในห้องผู้ป่วย โจวซิงเห็นเขากลับมาอย่างปลอดภัย ใบหน้าก็เผยรอยยิ้มปิติยินดี

เขาเข้าไปต้อนรับ เอ่ยถามอย่างมีความสุข “จัดการเรื่องเป็นยังไงบ้าง? ได้เจอฉินซีสำเร็จไหม?”

สองวันมานี้ โจวซิงเอาแต่กังวลใจอยู่ในโรงพยาบาล ไม่มีจิตใจทำอะไร

ตอนนี้เห็นลู่เซิ่นกลับมาแล้ว ในที่สุดจิตใจของเขาก็สงบลงได้

โจวเอ้อไม่รอให้ลู่เซิ่นเอ่ยปาก ก้าวล้ำหน้าไปก่อน บอกข่าวดีกับเขา “ด้วยไอคิวของลู่เซิ่นแล้ว จะไม่ได้เจอฉินซีได้ยังไงล่ะ นายอย่าลืมนะ หน้ากากหนังคนลู่เซิ่นเป็นคนทำขึ้นมา”

ต่อให้ไม่มีงานเต้นรำสวมหน้ากากครั้งนี้ โจวเอ้อก็กล้าตัดสินว่า ลูกน้องที่จ้านเซินจัดเตรียมมาไม่สามารถหาร่องรอยของลู่เซิ่นได้ ถึงอย่างไรหน้ากากหนังคนนั่นก็ทำมาได้อย่างสมจริงมาก แม้แต่เขาก็จำไม่ได้

โจวซิงพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ใช่แล้ว เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นของที่ละเอียดลออขนาดนี้ ฉันยังนึกว่าของสิ่งนี้สร้างขึ้นจากละครศิลปะการต่อสู้ คิดไม่ถึงว่ามีจริงๆ”

เมื่อนึกย้อนถึงหน้ากากหนังคนที่มีทักษะเหนือคนอื่น ในใจโจวซิงก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงถอนหายใจออกมา

ลู่เซิ่นมองท่าทางเออออไปตามกันของทั้งสอง ก็เม้มริมฝีปาก “พอแล้ว พวกนายสองคนไม่ต้องชมฉันแล้ว เรื่องนี้ห้ามบอกใครเด็ดขาด แล้วก็ไม่ต้องไปบอกใครว่าในมือฉันมีของที่สามารถเปลี่ยนใบหน้าได้”

น้ำเสียงของเขาพลิก สีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมา

ถ้าของสิ่งนี้เผชิญโลก จะต้องเกิดความโกลาหลอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น ก็ไม่อาจคาดเดาได้

ตอนนี้ความคิดของลู่เซิ่นล้วนอยู่บนตัวของฉินซี เขารู้ว่าที่ฉินซีต้องการคืออะไร เขาเองก็มีความคิดแบบเดียวกันกับฉันซี

ใจเขาอยากที่จะช่วยฉินซีออกมาจากองค์กร ทั้งสองหาสถานที่ที่ทิวทัศน์งดงาม ไปใช้ชีวิตที่สงบและมีความสุข ไม่อยากที่จะเดินบนปลายมีดอีกต่อไปแล้ว

“หน้ากากหนังคน” มันเย้ายวนเกินไป ใช้งานได้จริงเกินไปแล้ว

เมื่อคนเหล่านั้น รู้ว่าในมือลู่เซิ่นมีของแบบนี้อยู่ จะต้องมาแอบขโมยไปแน่ กระทั่งจะลงมือกับลู่เซิ่น จับเขาไปทำ

“ครับ”

โจวเอ้อและโจวซิงเองก็ตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ ทั้งสองพยักหน้าโดยพร้อมเพรียงกัน

เห็นช่วงที่ผ่านมา พวกเขาใจนิ่งลงไม่น้อย ใบหน้าลู่เซิ่นก็เผยรอยยิ้มที่พึงพอใจ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท