Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1489

ตอนที่ 1489

บทที่ 1489 หยั่งเชิง

แม้ว่าฉินซีจะไม่เข้าใจว่าทำไมจ้านเซินถึงถามแบบนี้ แต่ตอนนี้เธอคิดแค่จะไปหาลู่เซิ่นที่โรงพยาบาล ดังนั้นจึงไม่ได้คิดอย่างลึกซึ้ง

“โอเค”

ฉินซีพยักหน้า หันตัวจากไป

เธอพึ่งจะออกไป จ้านเซินก็หยิบมือถือออกมา

เขาต่อสายโทรไปหาถังย่า

ถังย่าที่อยู่ปลายสาย ตอนที่ได้รับโทรศัพท์จากจ้านเซิน ใบหน้าก็เผยสีหน้าตื่นเต้นดีใจ

ถังย่ารีบลุกขึ้นมานั่งจากบนเตียง กดปุ่มรับสาย “ฮัลโหล จ้านเซิน”

ในน้ำเสียงของเธอมีความสุขใจ น้ำเสียงมีชีวิตชีวา

แต่ในเสียงของจ้านเซินเต็มไปด้วยความหนักอึ้ง “ถังย่า ฉันต้องการให้เธอทำเรื่องเรื่องหนึ่ง”

เขาพูดสั่งโดยตรง “พรุ่งนี้ฉินซีจะออกไปทำภารกิจ ถึงตอนนั้น หล่อนจะถือโอกาสไปหาลู่เซิ่นที่โรงพยาบาล เธอพาคนไปกลุ่มนึง หยุดพวกเขาสองคนไว้”

จ้านเซินให้โอกาสฉินซีหลายครั้งมากแล้ว แต่เธอกลับไม่รักษาไว้

เขารู้สึกว่าความจริงใจของเขาถูกฉินซีกำไว้ในฝ่ามือ เหยียบย่ำตามอำเภอใจ

ความรู้สึกที่ทำร้ายความภูมิใจในตนเองแบบนี้ ทำให้จ้านเซินไม่อาจทนได้

เขารู้สึกว่า ตนเองให้อิสระและลุ่มหลงฉินซีมากเกินไป ดังนั้นถึงทำให้ตอนนี้เธอกลายเป็นแบบนี้

ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นเขาก็ต้องเด็ดปีกนี้ของฉินซีอย่างเด็ดขาด

ฆ่าลู่เซิ่นให้ตาย ต่อหน้าต่อตาฉินซี ให้ใจเธอตายด้านโดยสมบูรณ์

ได้ยินคำสั่งของจ้านเซิน รอยยิ้มบนใบหน้าของถังย่าก็ค่อยๆหายไป

ฉินซี ฉินซี ฉินซีอีกแล้ว!

ถ้าบอกว่าไม่ริษยาเลย งั้นก็เป็นเรื่องไม่จริง

แต่ว่า ถังย่าก็ทำอะไรไม่ได้ เธอไม่สามารถควบคุมความคิดของจ้านเซินได้

น้ำเสียงของถังย่าก็เย็นชาลงตาม “จ้านเซิน นายคิดดีแล้วหรอ? ถ้านายทำแบบนี้จริงๆ จะไม่มีโอกาสกู้คืนมาแล้วนะ”

เธอเตือนอย่างจริงจัง เป็นห่วงว่าถึงตอนนั้นจ้านเซินจะเสียใจ

ถังย่าไม่รู้ ว่านี่เป็นผลจากการพิจารณาอย่างลึกซึ้งของจ้านเซินแล้ว

จ้านเซินรู้สึกว่า เรื่องนี้มันถ่วงเวลาเกินไปแล้ว

เขาหรี่ตาลงอย่างอันตราย ค่อยๆเอ่ยปาก “ระหว่างฉันกับฉินซี มันควรจะตัดไปได้ตั้งนานแล้ว”

จ้านเซินเอ่ยปากพูดอย่างมีความนัยลึกๆ ทำให้ถังย่ารู้สึกทำอะไรไม่ถูก

เธอไม่รู้ว่า คำว่าตัดขาดจากปากของจ้านเซิน ที่แท้คือเตรียมที่จะยอมแพ้ในตัวฉินซี ให้หล่อนสมหวังกับลู่เซิ่น

หรือว่า จะฆ่าลู่เซิ่นให้ตาย แล้วขังฉินซีไว้ในองค์กร

แต่ไม่ว่าจะเป็นผลลัพธ์แบบไหน ถังย่าก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะคัดค้าน

เธอเป็นเพียงแค่ลูกน้องของจ้านเซินเท่านั้น เธอได้แต่เลือกที่จะเชื่อฟัง

ถังย่าระงับความขมขื่นในใจ พยักหน้า “โอเค ฉันเข้าใจแล้ว งั้นพรุ่งนี้นายจะมาไหม?”

เธอเอ่ยถามอย่างคาดหวัง เรื่องใหญ่ขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จ้านเซินจะไม่อยู่ในเหตุการณ์

ถังย่าไม่ได้เจอจ้านเซินมาหลายเดือนแล้ว ในใจเต็มไปด้วยความคิดถึง

“ไป”

จ้านเซินในฐานะคู่กรณี ถ้าเขาไม่อยู่ในเหตุการณ์ ถังย่าควบคุมตัวสองคนนั้นไว้ก็ไม่มีความหมายอะไร

อีกอย่าง ตอนนี้ฝีมือของฉินซีฟื้นตัวกลับมาเหมือนเดิมแล้ว สามารถประมือกับถังย่าได้อย่างสูสี บวกกับลู่เซิ่น โจวเอ้อ ถังย่าเพียงคนเดียว ไม่แน่ว่าจะเอาชนะในสถานการณ์ที่เสียเปรียบได้

“พรุ่งนี้หลังจากฉินซีออกไปปฏิบัติภารกิจ ฉันจะออกเดินทางไปหาเธอ เธอปักหลักอยู่ตรงนั้นให้ดี รอฉัน”

จ้านเซินคิดไว้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เพียงแค่ต้องรอการมาถึงของวันพรุ่งนี้

ถังย่าคิดว่าอีกเดี๋ยวก็จะได้เจอจ้านเซินแล้ว ในที่สุดในใจก็โล่งใจขึ้นเล็กน้อย

เธอพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “โอเค ฉันจะสั่งการไป”

แม้ว่าถังย่าจะรู้สึกเสียดายความรักระหว่างฉินซีกับลู่เซิ่น แต่ภายในใจของเธอ จ้านเซินยังคงสำคัญกว่าหน่อย เธอจะไม่ไปส่งข่าวล่วงหน้า ไม่อย่างนั้นจะเป็นการทรยศ

……

เรื่องทางด้านจ้านเซิน ฉินซีไม่รู้เลย

เธอตื่นแต่เช้า เตรียมตัวสำหรับการเดินทางครั้งใหม่

ตอนแรกเพราะจ้านเซินกังวลว่าฉินซีจะแอบหนีไปตอนไม่มีคน ดังนั้นตอนที่ฉินซีออกไปปฏิบัติภารกิจจะส่งบอดี้การ์ดสองสามคน ให้ไปกับฉินซี เรียกอย่างดิบดีว่าเป็นการปกป้อง แต่อันที่จริงก็เพื่อเฝ้าดูฉินซีเท่านั้น

ตอนนี้ จ้านเซินยอมแพ้โดยสมบูรณ์แล้ว

เรื่องระหว่างพวกเขาสองคน วันนี้ก็จะได้เห็นผลลัพธ์ และไม่มีความจำเป็นที่จะเฝ้าดูอีกต่อไปแล้ว

เมื่อฉินซีรู้ว่าวันนี้ออกไป ได้ออกไปคนเดียว ใบหน้าก็เผยความประหลาดใจ “จ้านเซิน นายแน่ใจว่าจะไม่ให้จั่วยีจั่วเอ้อไปกับฉันหรอ?”

ช่วงที่ผ่านมา ฉินซีคุ้นชินกับการมีจั่วยีและจั่วเอ้อหางน้อยๆสองอันนี้แล้ว

ความผิดปกติอย่างกะทันหันของจ้านเซิน ทำให้ฉินซียอมรับได้ยาก

เผชิญหน้ากับคำถามของเธอ จ้านเซินพูดอย่างเฉยเมย “แน่ใจ”

เขาเงยหน้าเล็กน้อย มองไปที่ฉินซี “ทำไม? เธอไม่ยินยอมหรอ? ถ้าเธอยังอยากให้จั่วยีกับจั่วเอ้อไปกับเธอ ฉันก็ไม่ถือสา ตอนนี้ฉันสามารถโทรศัพท์ไป เรียกให้สองคนนั้นกลับมาจากข้างนอก”

คำพูดของจ้านเซิน ฉินซีฟังเรารู้สึกแปลกๆอยู่ตลอด

แต่ว่า ฉินซีก็ฟังออก ว่าจั่วยีจั่วเอ้อกำลังปฏิบัติภารกิจอยู่ข้างนอก

นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่จ้านเซินไม่ได้ส่งทั้งสองคนมาหรือเปล่า

คิดมาถึงตรงนี้ ในใจของฉินซีก็ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก

ดูเหมือนว่าเธอจะสงสัยเกินไป เรื่องราวไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้น

ฉินซีขยับริบฝีปากแดง พูดพลางยิ้มบางๆ “ไม่ต้องหรอก ถ้านายไม่วางใจ จะจัดแจงให้สองคนไปกับฉันใหม่ก็ได้”

เธอส่ายหน้า ดูแล้วสงบมาก

ได้ยินเธอพูดแบบนี้ ดวงตาของจ้านเซินก็มีความอันตรายแวบผ่าน

ในใจจ้านเซินเต็มไปด้วยการถากถาง ทั้งสองที่เคยสนิทกันขนาดนั้น ตอนนี้เวลาพูดคุย กลับเต็มไปด้วยการหยั่งเชิงและหลอกลวง

ถ้าฉินซีซื่อสัตย์เหมือนอย่างที่เธอแสดงออกมาจริงๆ พวกเขาก็ไม่อาจเดินมาถึงจุดที่เป็นอยู่ตอนนี้

จ้านเซินส่งกระเป๋าเดินทางให้เธอ “ไม่เป็นไร ฉันเชื่อใจเธอ ถ้าเธออยากจะไปจริงๆ ฉันก็หยุดเธอไม่ได้ ไม่ใช่หรอ?”

เขามองตรงไปที่ฉินซี น้ำเสียงมีความหมายลึกซึ้ง

ฉินซีเอาแต่รู้สึกว่าในคำพูดของเขามีบางอย่าง

เธอแสร้งทำทีเป็นฟังไม่เข้าใจ ยิ้มเบาๆ “ฮิฮิ ฉันจะไปไหนได้ล่ะ!”

ฉินซีรับกระเป๋าเดินทางมา ไม่เตรียมที่จะพัวพันต่อ

เธอเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ “โอเค ใกล้ได้เวลาแล้ว ฉันไปล่ะ อีกสองวันปฏิบัติภารกิจเสร็จก็กลับมา พวกนายรอฉันอยู่ที่องค์กรนะ”

พูดจบ ฉินซีก็โบกมือ หันตัวเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

จ้านเซินยืนตัวตรงอยู่ที่เดิม มองแผ่นหลังของเธอ ดวงตาสีดำเข้มประกายแสงมืดมนไม่ชัดเจน

หัวใจของเหยาจ้าวไม่สงบ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เขาเอาแต่รู้สึกว่าไม่ค่อยเหมาะสม

แต่ว่า ตอนนี้เขาไม่สามารถหยุดยั้งได้แล้ว

พอร่างของฉินซีหายไปอย่างสมบูรณ์ จ้านเซินก็หันตัวทันที “กลับเถอะ”

เขาก้าวขาคู่เรียวยาว กลับไปถึงห้องหนังสือ

ทุกอย่างล้วนแต่เป็นปกติขนาดนั้น ทำให้เหยาจ้าวไม่พบความน่าสงสัยใดๆ

เหยาจ้าวกับฉินซีต่างก็ไม่รู้

พอฉินซีจากไปได้ไม่นาน จ้านเซินก็หาตัวแทน แล้วออกจากองค์กรไปอย่างเงียบๆ

เวลานี้ เหยาจ้าวยังคงจดจ่ออยู่ภายในห้องทดลอง ทำผลงานของเขา รู้สึกอย่างเรียบง่ายว่าจ้านเซินไม่ได้รู้เรื่องอะไรเข้า

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท