Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1518

ตอนที่ 1518

เมื่อปู่เช่เห็นเธอเผยรอยยิ้ม เขาได้ใจอย่างมาก

“แน่นอน เพื่อเธอฉันปรับปรุงเป็นพิเศษเลยนะ หากไม่อร่อย ฉันจะให้เธอดื่มเหรอ?”

เมื่อประโยคนั้นหลุดออก ฉินซีนิ่งไป

เธอไม่คิดเลย ว่าเพื่อเธอแล้วปู่เช่จะทำถึงขนาดนี้

พวกเขาไม่ได้เป็นหลานปู่กันจริงๆ ตอนแรกหากไม่ใช่เพราะปู่เช่ช่วยเธอเอาไว้ ตอนนี้เธอคงไม่ได้ชีวิตอยู่แล้ว

การที่ปู่เช่ช่วยชีวิตเธอเอาไว้ ฉินซีรู้สึกซาบซึ้งใจมากอยู่แล้ว

ตอนนี้ เขาทำเพื่อตนเองมากมายถึงขนาดนี้ ทำให้ฉินซีทำอะไรไม่ถูก

เธอไม่ชอบการติดค้างใคร เกรงว่าจะชดใช้ไม่ไหว

โดยเฉพาะปู่เช่ที่ไม่เรียกร้องอะไรเลย ทำให้ฉินซีไม่รู้จะตอบแทนเขาอย่างไร

ฉินซีรู้ดี หากเธอให้เงินกับปู่เช่ เขาไม่ต้องการแน่

เธอกล่าวอย่างปวดหัว “ขอบคุณค่ะคุณปู่ ท่านดีต่อฉันขนาดนี้ ฉันจะตอบแทนท่านได้อย่างไร”

ฉินซีคิดไม่ออกจริงๆ เพราะงั้นจึงกล่าวถาม

หากแต่ ประโยคของเธอ กลับทำให้ปู่เช่ด่ากลับมา

ๆปู่เช่ถลึงตาใส่เขาด้วยความโกรธ “นางเด็กบ้า การที่ฉันทำเพื่อเธอ ต้องการเธอตอบแทนหรือไง?”

เขาไม่ต้องการตีค่าความรู้สึกระหว่างคนด้วยเงินทอง

ลู่เซิ่นเห็นว่าเขากำลังโกรธ จึงรีบกล่าว “คุณปู่เช่ ฉินซีไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น เขาเพียงแค่พูดไม่เก่ง ท่านอย่าเข้าใจผิด”

เขารู้สึกเหนื่อยใจ ที่ต้องออกมาเป็นผู้ว่าความทุกครั้ง

แต่ ทั้งคู่ลู่เซิ่นไม่สามารถล่วงเกินได้เลย

ปู่เช่เข้าใจถึงความรู้สึกของฉินซีอยู่แล้ว เขาถอนหายใจออกมา “การที่ฉันได้พบกับเธอในป่าทึบแห่งนี้ เป็นวาสนาของเขา เพราะงั้นฉันถึงช่วยเธอเอาไว้ และเธอกับฉันก็เข้ากันได้ดี เพราะงั้นฉันถึงดีต่อเธอ เธอไม่ถึงรู้สึกกดดันอะไร ที่ฉันต้องการ มีเพียงแค่สิ่งเดียว…..”

พูดถึงตรงนี้ ปู่เช่หยุดชะงัก

ฉินซีจับจ้องเขานิ่ง พลันกล่าวถาม “ปู่เช่ มีเรื่องอะไร ท่านบอกมาได้เลย”

ขอเพียงแค่เป็นคำสั่งของปู่เช่ เธอต้องตกลงแน่

สิ่งที่ฉินซีกังวล คือการช่วยเขาไม่ได้ ยิ่งกลัวว่าเขาจะไม่เอ่ยขอ

ปู่เช่ดึงมือของเธอขึ้นกุม พลันกล่าวเสียงแผ่ว “ฉันหวังว่าหลังจากที่ฉันตายไป เธอช่วยเผาร่างของฉัน แล้วโปรยที่ป่าแห่งนี้ ให้ฉันไปกับสายลม ชีวิตนี้ฉันเป็นอิสระจนเคยชินแล้ว หวังว่าชาติหน้าฉันจะไร้ความกังวลอยู่อย่างอิสระ เธอจะทำให้ฉันสมหวังได้ไหม?”

ดวงตาขุ่นเกิดคราบน้ำตา เขาจับจ้องฉินซีด้วยความหวัง

นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่ได้รู้จักกับฉินซี เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเขาอย่างจริงใจ อย่างไรก็ตาม มันเป็นเพราะเรื่องแบบนี้

ฉินซีสลัดมือเขาออก “ฉันไม่ตกลง”

เธอกล่าวอย่างโมโห “คุณปู่เช่ อย่าพูดอะไรแบบนี้ ท่านต้องอายุยืนแน่ รอฉันจัดแจงเรียบร้อยเมื่อไหร่ ฉันจะมารับท่าน ให้ท่านไปอยู่กับเรา”

ฉินซีไม่ต้องการเห็นปู่เช่ในทีท่าแบบนี้ โดยเฉพาะการอยู่อย่างโดดเดี่ยว คนเดียวบนป่าทึบแห่งนี้ ต่อให้เป็นอะไรไป ก็ไม่แน่ว่าอาจจะมีคนพบเห็น

ปู่เช่กลับส่ายหน้า “ฉันไม่ชอบการสั่งเสียเหมือนกับคนธรรมดาทั่วไป หากเธอหวังดีกับฉัน ก็ให้ฉันอยู่ที่นี่แหละ ทำตามที่ฉันสั่ง ฉันไม่มีอะไรอื่นอีกแล้ว”

ความดื้อด้านของเขา ทำให้ฉินซีโกรธจัด

ลู่เซิ่นจับจ้องทั้งคู่ ใบหน้าที่งดงามเผยให้เห็นความลำบากใจ

“คุณปู่เช่ ท่านยังไม่แก่ เรื่องแบบนี้อีกหน่อยเราค่อยว่ากัน”

เขารู้ดี ฉินซีในตอนนี้รับไม่ได้เกี่ยวกับการพูดถึงความตายของปู่เช่อยู่แล้ว พวกเขาเพิ่งจะได้พบกันใหม่ ทำไมถึงต้องแยกจากกันอีกแล้ว

ปู่เช่หัวเราะอย่างยินดี “คนเรายังไงก็ต้องเผชิญหน้ากับความตาย ฉันมีชีวิตมายาวนานมากแล้ว เพราะงั้นเมื่อวันนั้นมาถึง ฉันสามารถเผชิญหน้าได้อย่างมั่นคง”

ตอนนี้ ลู่เซิ่นเห็นใบหน้าที่เย้ยหยันและสีหน้าที่เย็นเยือกของเขา

เขารู้สึกว่า การใช้ชีวิตบนเขามาโดยตลอด ยังมีความสุขได้ถึงขนาดนี้ เมื่อฉินซีจากไป กลับรู้สึกอาลัย

ลู่เซิ่นไม่รู้ว่าเพราะอะไร ที่ทำให้ปู่เช่ยอมอยู่อย่างโดดเดี่ยว ก็ไม่ยอมเข้าสังคม แต่เขาต้องมีเหตุผลของเขาแน่

ลู่เซิ่นเคารพในการตัดสินใจของเขา จึงไม่อยากที่จะบังคับ

ในระหว่างการสนทนาของทั้งคู่ ฉินซีค่อยๆ ใจเย็นลงบ้าง

เธอจ้องมองปู่เช่ที่อยู่ตรงข้าม “คุณปู่ ทีหลังอย่าพูดแบบนี้อีก ฉันจะดีต่อท่าน จะเลี้ยงดูท่านเอง แต่ท่านต้องรับปากกับฉัน ว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไป ได้ยินไหม?”

นี้เป็นครั้งแรกที่ฉินซีใช้น้ำเสียงที่เคร่งครัดกับปู่เช่ ปกติเธออยู่ต่อหน้าปู่ เช่ เสมือนกับเด็กสาวที่น่ารักคนหนึ่ง

แต่ คราวนี้ ฉินซีไม่สามารถทนได้อีกต่อไป

เธอสามารถทำได้ทุกอย่าง มีเพียงแค่สิ่งนี้ ที่เธอทำไม่ได้

ปู่เช่จ้องมองทีท่าที่ดูเป็นผู้ใหญ่ของเธอ ด้วยความระอา

เขาหัวเราะออกมากะทันหัน “ได้ ฉันไม่พูดแล้ว”

เพราะรอยยิ้มของปู่เช่ บรรยากาศในห้องครัวเกิดอบอุ่นขึ้นมา

ฉินซีก้าวไปข้างหน้า กอดปู่ เช่เอาไว้ “ท่านต้องอายุยืน ท่านต้องอยู่ดูลูกของฉันกับอาเซิ่น และช่วยเราเลี้ยง”

สำหรับฉินซีแล้ว แม้ว่าจะเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ ที่เธอได้อยู่กับปู่เช่ แต่เขาสำหรับเธอ เสมือนกับครอบครัวเดียวกัน

หากวันใดที่เธอกลับมา ไม่เห็นปู่เช่แล้ว เธอต้องเสียใจมากแน่

ปู่เช่นิ่งไป ก่อนที่จะหัวเราะออกมากะทันหัน

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

เขาลูปเคราสีเงินที่คาง พลันกล่าวไม่หยุด “ได้!ได้!ได้!ฉันจะมีชีวิตอยู่ต่อไป รอลูกของพวกเธอเกิดมา”

ปู่เช่อยู่เป็นโสดมาทั้งชีวิต สามารถพบกับฉินซีได้ ถือว่าเป็นความสุขที่สุดในชีวิตแล้ว

ไม่คิดเลยว่าจะมีโอกาสได้เห็นหน้าเหลน ทำให้เขาตื้นตันอย่างบอกไม่ถูก

ลู่เซิ่นจ้องมองรอยยิ้มของทั้งคู่ พลันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเช่นเดียวกัน

ไม่ว่าอย่างไร ขอเพียงแค่ฉินซีมีความสุขก็พอแล้ว

……

อีกด้าน

ถังย่าและจ้านเซินนั่งอยู่ข้างหลัง ซิวหน่ายซิงเป็นคนขับรถอยู่ด้านหน้า

สีหน้าของซิวหน่ายซิงในตอนนี้บูดบึ้ง เขาไม่เข้าใจ ว่าทำไมถังย่ายังจะให้อภัยจ้านเซินอยู่ เมื่อสักครู่เขาเกือบจะสังหารถังย่า

เขาอยากจะสบถด่าให้ถังย่าได้สติ แต่ตอนนี้จ้านเซินนั่งอยู่ข้างหลัง เขาได้แต่อดทนนั่งเงียบอยู่อย่างนั้น

บรรยากาศด้านหลังค่อนข้างแปลกๆ

ถังย่าเขยิบเข้าไปที่ชายหนุ่มข้างๆ ด้วยรอยยิ้มหวาน เธอแม้ตอนนี้ก็ยังคิดไม่ตก ว่าทำไมจ้านเซินถึงได้เปลี่ยนไปราวกับคนละคน

แม้กระทั่งเพื่อเธอ ถึงกับไม่ไล่ล่าฉินซีต่อ คงไม่ใช่เพราะได้รับการกระทบอย่างหนักหรอกนะ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท