Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1508

ตอนที่ 1508

ฉินซีจ้องมองดวงตาของลู่เซิ่น กล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำ “กระทั่งฉันได้พบกับคุณ ชีวิตของฉันถึงได้มีสีสันขึ้นมา ฉันเริ่มมีความหวังขึ้นมาในชีวิต ฉันโชคดีมาก ที่ชีวิตนี้ได้พบกับคุณ และได้รักกับคุณ”

ลู่เซิ่นไม่รู้ว่าควรจะอธิบายความรู้สึกในใจอย่างไร เขาไม่เคยคิดเลยว่าฉินซีจะรักเขามากถึงขนาดนี้

ลู่เซิ่นเอื้อมมือออกไปคว้าเธอเข้ามากอด พลันกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “ฉินซี รับปากกับผม ชีวิตนี้จะไม่จากผมไปไหน”

เขาคิดไม่ออกเลย หากวันหนึ่งไม่มีฉินซีอยู่แล้ว โลกใบนี้จะมืดมนขนาดไหน

ฉินซีก้มตาลง พลันกล่าวด้วยรอยยิ้ม “วางใจเถอะ อาเซิ่น ชีวิตนี้ฉันรักแค่คุณคนเดียว เราจะไม่แยกจากกันอีก”

เธอกุมมือของลู่เซิ่นเอาไว้แน่น มอบตัวเองให้กับเธอด้วยความสุข

ฉินซีรู้ดี ว่าบนโลกนี้ไม่มีใครอีกแล้วที่จะรักเธอได้มากกว่าลู่เซิ่นอีกแล้ว

อุณหภูมิค่อยๆ เพิ่มขึ้น ทั้งสองรักกันอย่างลึกซึ้ง

ขณะที่ฉินซีและลู่เซิ่นจะประกบริมฝีปากกันและกัน ประตูห้องถูกผลักออกกะทันหัน

“พวกเธอสองคนพูดจบหรือยัง? ฉันรอพวกเธอสองคนช่วยฉันทำอาการอยู่นะ”

ปู่เช่ผลักประตูเข้ามา กล่าวอย่างไร้ความอดทน

ฉินซีและลู่เซิ่นตกใจจนนิ่งอยู่กับที่ ไม่คิดเลยว่าปู่เช่จะผลักประตูเข้ามาในเวลานี้

เมื่อได้ยินประโยคของปู่เช่ ฉินซีใบหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันที

เธอเป็นคนขี้อายอยู่แล้ว ไม่ชอบที่จะเปิดเผยเรื่องลับในที่สาธารณะ

ไม่คิดเลยว่าคุณปู่เช่จะรับรู้เหตุการณ์ทั้งหมดข้างนอก ความรู้สึกนี้ราวกับเปลื้องเสื้อผ้ายืนอยู่ข้างนอกให้คนอื่นจ้องมอง

ฉินซีหน้าแดงจนผลักลู่เซิ่นออก รีบวิ่งไปที่คุณปู่ “มาแล้ว มาแล้ว”

เธอก้มหน้าลง ไม่มีหน้าที่จะไปพบเจอใครทั้งนั้น

ปู่เช่จ้องมองทีท่าเหนียมอายของเธอ ริมฝีปากหยักยกขึ้น

ทีแรกเขาคิดว่าหญิงสาวที่แข็งแกร่งอย่างฉินซี ในด้านความรักก็คงจะแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่น ตอนนี้ดูเหมือนว่า ผู้หญิงที่ตกอยู่ในห้วงแห่งความรักนั้นมักจะเหมือนกันทั้งนั้น

เนื้อตัวของลู่เซิ่นยังคงมีกลิ่นอายที่งามสง่าของฉินซีติดอยู่ เขาจับจ้องแผ่นหลังที่เดินจากไป ด้วยความอาลัย

แต่อยู่ต่อหน้าปู่เช่ ลู่เซิ่นไม่กล้าเสียมารยา เกรงว่าเขาจะต่อต้านเขาอยู่กับฉินซี

ภายใต้ความไร้หนทาง ลู่เซิ่นได้แต่อดทนลุกขึ้น คิดที่จะเข้าร่วมการทำอาหาร

ปู่เช่จ้องมองการเคลื่อนไหวของเขา พลันขมวดคิ้วแน่น “คนป่วยอย่างแกคิดจะทำอะไร? นอนลงซะ อย่ามาสร้างปัญหาให้กับฉัน”

ปู่เช่ลูปเคราสีขาวราวกับหิมะ พร้อมทำตาขวางกล่าวกับลู่เซิ่นด้วยเสียงเย็นชา

สายตาของเขาทำให้ลู่เซิ่นนิ่งแข็งอยู่กับที่ ได้แต่นั่งลงอย่างว่าง่าย “ได้ครับ คุณปู่เช่”

ในเมื่อปู่เช่ว่าอย่างนั้นแล้ว เขาเองก็ต่อต้านไม่ได้

……

ในห้องครัว

เมื่อปู่เช่เข้ามาก็ได้พบกับฉินซีคุกเข่าลงที่หน้าก๊อกน้ำเพิ้อล้างผัก

แผ่นหลังที่ตั้งอกตั้งใจของฉินซี ปู่เช่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ในใจ

ใครจะไปคิดว่าหญิงสาวร่างบางเช่นนี้ ภายในร่างกายจะมีพลังที่แข็งแกร่งซ่อนอยู่

หากแต่ทุกคนได้เห็นเพียงมุมที่แข็งแกร่งของเธอ แต่กลับไม่เห็นความอ่อนแอชั้นใน

ปู่เช่เดินไปที่ข้างเธอ เอ่ยเสียงแผ่ว “ว่ามาสิ มันอะไรกันแน่?”

เมื่อสักครู่ต่อหน้าลู่เซิ่น เขาไม่สะดวกที่จะเอ่ยถาม ตอนนี้มีเพียงแค่หลานปู่สองคนเท่านั้น ปู่เช่จึงไม่มีอะไรต้องหลบหลีก

ฉินซีได้ยินเสียงฝีเท้าของเขาตั้งนานแล้ว ขณะที่เธอคิดที่จะหันหน้ากลับไปเสียงของเขาก็ดังขึ้นเสียก่อน

คำถามของปู่เช่ ทำให้ฉินซีนิ่งแข็ง ก่อนที่จะกล่า“ไม่มีอะไร แต่เกิดปัญหาขึ้นนิดหน่อย คุณปู่เช่ไม่ต้องกังวลไปหรอก”

หลายปีมานี้ ปู่เช่อาศัยอยู่บนเขานี่มาโดยตลอด ใช้ชีวิตอย่างอิสรเสรี ฉินซีไม่ต้องการให้ตัวเองเป็นภาระของเขา

ปู่เช่เห็นว่าเธอไม่ยอมพูด สีหน้าของเขาบูดบึ้งทันที “ฉินซี ตอนนี้เธอมองฉันเป็นคนนอกไปแล้วใช่ไหม?”

เขากล่าวอย่างเย็นชา สายตาจับจ้องฉันซี

ปู่เช่กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งครัด ฉินซีสะดุ้งในใจ “คุณปู่เช่ ฉันเปล่าทีแรกท่านช่วยชีวิตฉันเอาไว้ ท่านก็เป็นเหมือนปู่ของฉันจริงๆ ฉันจะมองท่านเป็นคนนอกได้อย่างไร?”

ฉินซีวางตะกร้าลงอย่างรนราน รีบอธิบายกับเขาอย่างร้อนรน

ปู่เช่เข้าใจในการกระทำอย่างเธอ แต่เพื่อบีบเค้นให้ได้ความจริง เขายังคงทำทีว่าเขาผิดหวังมาก “ในเมื่อเธอไม่ได้มองฉันเป็นคนนอก แล้วทำไมถึงไม่บอกความจริงกับฉัน?”

เขาเป็นกังวลว่าฉินซียังคงไม่ยอมปริปาก จึงกล่าวเสริมไปหนึ่งประโยค “หากเธอไม่อยากบอกฉัน ฉันก็ไม่มีเหตุผลที่จะช่วยเหลือพวกเธอ เธอพาลู่เซิ่นออกไปได้เลยตอนนี้”

ปู่เช่เหลือบมองหญิงสาว น้ำเสียงเคร่งขรึม “แต่ร่างกายของลู่เซิ่นในตอนนี้ เขาคงจะเดินออกไปจากเขานี่โดยปลอดภัยไม่ได้หรอก เธอตัดสินใจเอาเองแล้วกัน”

ประโยคของเขาทิ่มแทงหัวใจของลู่เซิ่นเข้าให้อย่างจัง วันนี้ฉินซีลำบากใจรอบด้าน

ด้านหนึ่ง ฉินซีไม่ต้องการลากให้ปู่เสี้ยเข้ามาเกี่ยวข้องในหายนะครั้งนี้ อีกด้าน เธอไม่อยากจะให้ลู่เซิ่นเป็นอะไรไป ระหว่างการเดินทาง

ฉินซี ขมวดคิ้วแลอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ท้ายที่สุด เธอก็ตัดสินใจจงได้ “ก็ได้ ปู่เช่ ฉันจะบอกก็ได้”

ฉินซีถอนหายใจเฮือกใหญ่ ใบหน้าที่ขาวนวลเผยให้เห็นอาการไร้หนทาง

“อันที่จริงตอนนี้ฉันกับลู่เซิ่นกำลังหนีเอาชีวิตรอด ร่างกายของเขาบาดเจ็บเพราะช่วยฉัน ถึงได้สาหัสขนาดนั้น”

ฉินซีกล่าวด้วยความเจ็บปวด

เมื่อปู่เช่ได้ยินเธอว่าอย่างงั้น ความสับสนปรากฏบนใบหน้าที่เหี่ยวย่น “พวกเธอสองคนอยู่ดีๆ ทำไมจะต้องหนี ก่อคดีอะไรมาใช่ไหม?”

เขาไม่รู้กฎระเบียบขององค์กร ในหัวจึงตีความไปทั่ว

ฉินซีส่ายหน้า “คุณปู่คะ จำที่ฉันบอกไปได้ไหม ฉันทำงานอยู่ที่องค์กรหนึ่ง ก่อนหน้านี้ที่คุณปู่ช่วยฉันเอา เพราะฉันได้รับบาดเจ็บจากการทำภารกิจ จึงตกมาอยู่ที่นี่”

เธอกล่าวอย่างช้าๆ อธิบายเรื่องราวกับปู่เช่ด้วยความอดทน

ปู่เช่พยักหน้า ฟังอย่างตั้งใจ “อืม ฉันจำได้”

แม้ว่าเขาจะอายุมากแล้ว แต่หัวสมองของเขาไม่เสื่อมสภาพเลย

ฉินซีเม้มริมฝีปาก กล่าวอย่างเบื่อหน่ายเล็กน้อย “องค์กรที่ฉันอยู่มีกฎระเบียบ ห้ามใครแต่งงานเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะเป็นการผิดกฎระเบียบ จะได้รับการลงโทษ”

เป็นความผิดของกฎบ้าๆ นี่ ไม่เช่นนั้นตอนนี้พวกเขาก็คงไม่ต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้

ปู่เช่ไม่คิดเลย ว่าบนโลกของเราในตอนนี้จะยังมีที่แบบนี้อยู่อีก

เขาถลึงตาโตอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ถ้างั้นเธอออกจากองค์กรไม่ได้หรือ?”

ที่ที่ไร้มนุษยธรรมแบบนั้น ยังจะอยู่ต่อไปทำไมกัน รีบออกมาแต่โดยเร็วซะจะดีกว่า

ปู่เช่เพราะไม่ใช่การถูกผูกมัดด้วยกฎเกณฑ์ เพราะงั้นถึงได้เลือกที่จะอาศัยอยู่บนเขาที่ที่ไร้ผู้คน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท