Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1522

ตอนที่ 1522

ไม่งั้น ตอนนี้ฉินซีกับลู่เซิ่นคงไม่ตกอยู่ในสถานการณ์อย่างนี้

โจวซิงยังเอาแต่พูดเจื้อยแจ้วไม่หยุด: “บนร่างกายของลู่เซิ่นยังมีบาดแผลอยู่ พวกเขาน่าจะหนีไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่ ไม่งั้นร่างกายของลู่เซิ่นคงทนไม่ไหว”

อารมณ์ของเขาค่อยๆสงบลง โจวซิงรู้ว่าตอนนี้รีบร้อนไปก็ไม่มีประโยชน์

โจวซิงกำลังมองสีหน้าแย่ๆของโจวเอ้อ ยากที่จะสงบลงได้: “พี่ อย่าเพิ่งร้อนรนไปเลย เราค่อยๆตามหา เมื่อกี้ผมไปสืบมาแล้ว คนของจ้านเซินที่ด้านนั้นก็ยังไม่มีเบาะแส”

เขาเดินไปที่ด้านหน้าของโจวเอ้อ ตบบ่าของเขาเบาๆ เอ่ยปากให้คำแนะนำ: “พี่ ผมเข้าใจความรู้สึกของพี่ตอนนี้ แต่พี่ต้องยืนหยัดเอาไว้ ลู่เซิ่นกับฉินซียังรอพวกเราอยู่ ตอนนี้คนที่พึ่งได้มีแค่พี่แล้วนะ ถ้าพี่ไม่เข้มแข็งอีกคน แล้วจะมีใครที่ช่วยฉินซีกับลู่เซิ่นได้ล่ะ?”

โจวซิงกำลังพูดเกลี้ยกล่อม โจวเอ้อก็กำลังฟังอย่างสงบ

จากนั้นไม่นาน

โจวเอ้อก็สูดหายใจเข้าลึกๆ บังคับให้ตนเองใจเย็นลงมา: “ฉันรู้แล้ว”

เขาเอ่ยปากด้วยเสียงแหบพร่า บนใบหน้าขาวละเอียดเห็นเบ้าตาที่ดำคล้ำอย่างชัดเจน

ตั้งแต่หลังจากที่ฉินซีกับลู่เซิ่นหายตัวไป โจวเอ้อก็ไม่เคยได้หลับสนิทเลย

เขาไม่กล้าหลับ กลัวว่าหลังจากหลับไปแล้วจะได้รับข่าวไม่ดี

โจวเอ้อรู้สึกว่าการหายตัวไปของลู่เซิ่นกับฉินซีเป็นเพราะตนเอง ความกดดันที่มากมายทำให้เขาไม่รู้จะผ่อนคลายลงได้ยังไง

เขาเอ่ยปากขึ้นอย่างฉับพลัน: “โจวซิงนายส่งคนออกไปให้มากอีกหน่อย ก่อนที่จ้านเซินจะเจอพวกเขา เราต้องหาฉินซีกับลู่เซิ่นให้เจอ”

โจวเอ้อหน้าตาเคร่งขรึม หลังจากกำชับโจวซิงไปแล้ว ก็รู้สึกดีขึ้นเยอะ

โจวซิงเห็นเขาไม่สติหลุดลอยเหมือนเมื่อครู่แล้ว ในใจจึงคลายกังวลลงได้: “อื้ม ผมจะไปจัดการตอนนี้เลย”

เขาพยักหน้าอย่างจริงจัง แล้วหมุนตัวจะออกไป

แต่ทว่า ในตอนนี้ มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะ จู่ๆก็สั่นขึ้นมา

โจวเอ้อเบิกตาโพลงด้วยความประหลาดใจ ตาดำหดตัวเล็กน้อย

พระเจ้ารู้ดี เขารอคอยสายนี้มานานแล้ว

นี่เป็นวิธีติดต่อกันในช่วงเวลาวิกฤตของเขากับลู่เซิ่น ตอนที่ลู่เซิ่นหายตัวไป โจวเอ้อก็เอาแต่พกมือถือเครื่องนี้ไว้ข้างตัว เปิดเสียงอยู่ตลอด เพื่อตอนที่ลู่เซิ่นโทรเข้ามา เขาจะได้รับทันที

หัวใจของโจวเอ้อเต้นอย่างรุนแรง ใบหน้าปรากฏความตื่นเต้นออกมา

เขารอมานานขนาดนี้ ในที่สุดก็สมหวังแล้ว

โจวเอ้อรีบหยิบมือถือขึ้นมา กดรับอย่างรวดเร็ว

โทรศัพท์เพิ่งจะดังขึ้นแค่หนึ่งวินาที ก็มีคนรับแล้ว

ใบหน้าของลู่เซิ่นปรากฏความประหลาดใจออกมา แล้วยิ้มมุมปาก: “ฮัลโหล”

เสียงทุ้มๆลอดผ่านโทรศัพท์ลอยเข้าไปในหูของโจวเอ้อ เบ้าตาของเขาจึงแดงขึ้นมาทันที

พูดกันว่าผู้ชายจะไม่ร้องไห้ง่ายๆ ถ้าไม่ถึงจุดที่เสียใจจริงๆ

พระเจ้ารู้ดี กี่วันนี้มานี้โจวเอ้อทรมานยังไงบ้าง ตอนนี้ได้ยินเสียงของลู่เซิ่นอีกครั้ง ไม่นึกว่าในใจจะมีความรู้สึกที่ไม่ได้เจอกันมานานเกิดขึ้น

โจวเอ้อเม้มปาก ไม่ได้พูดอะไร กลัวว่าเสียงที่พูดออกมาจะทำให้ลู่เซิ่นรู้สึกได้ว่าตนเองแปลกๆไป เขาไม่อยากให้ลู่เซิ่นเป็นห่วงตนเองอีก

แต่ทว่า เขาไม่พูด ลู่เซิ่นก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติแล้ว

ลู่เซิ่นยิ้มบางๆแล้วพูดขึ้น: “โจวเอ้อ นายอย่ากังวล ตอนนี้ฉันสบายดี ไม่เป็นอะไรเลย”

เขากำลังปลอบโยนด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น เพียงเล็กน้อยก็เดาความในใจของโจวเอ้อได้อย่างทะลุปรุโปร่งแล้ว

โจวเอ้อพูดขึ้นด้วยเสียงแหบพร่า: “ลู่เซิ่น ตอนนี้นายอยู่ที่ไหน?”

ในใจของเขากำลังคิดที่จะเคลื่อนไหว อยากจะรีบไปรับลู่เซิ่นกลับมา

ลู่เซิ่นบอกเขาอย่างละเอียด: “ตอนนี้ฉันอยู่บนภูเขาที่ห่างไกล ห่างจากเมืองไห่มาก ถ้าไม่มีคนนำทางมา นายน่าจะหาไม่เจอ”

แค่พูดออกไป โจวเอ้อก็รีบตอบกลับทันที: “ไม่เป็นไร นายบอกตำแหน่งที่อยู่คร่าวๆให้ฉัน ตอนนี้ฉันจะรีบส่งคนไป แค่ฉันหา ก็ต้องเจอแน่ๆ ไม่ก็นายส่งโลเคชั่นมาให้ฉัน ฉันจะได้ตามทางไป”

ในน้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความรีบร้อน กลิ่นของความกังวลใจนั้น ลู่เซิ่นที่อยู่แสนไกลก็รู้สึกได้อย่างชัดเจน

ลู่เซิ่นมองมือถือรุ่นเก่าในมือ แล้วยิ้มๆ: “ตอนนี้ฉันจนปัญญาที่จะส่งโลเคชั่นไปให้นาย”

เขาต้องการสมาร์ทโฟนสักเครื่องหนึ่ง แต่สถานการณ์ในตอนนี้ไม่ยินยอม สามารถหาอย่างนี้มาได้ก็ไม่เลวแล้ว

โจวเอ้อขมวดคิ้ว ถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ: “เพราะอะไร?”

หรือว่าลู่เซิ่นเจอกับความลำบากที่นั่นเข้าแล้ว ใช่สิ! ต้องเป็นเพราะบนภูเขาไม่มีอินเตอร์เน็ต สัญญาณไม่ดีสินะ

โจวเอ้อไม่ได้นึกถึงมือถือของฝั่งนั้นเลย ในหัวของเขาคิดว่า ตอนนี้มันยุคไหนแล้ว ใครจะยังใช้มือถือรุ่นเก่าอยู่อีกล่ะ

“เพราะฉันไม่มีสมาร์ทโฟน มือถือเครื่องนี้ทำได้แค่รับสายโทรออก ส่งข้อความเท่านั้นเอง”

เบอร์ของลู่เซิ่นก็เพิ่งเปลี่ยนใหม่ สาเหตุที่โจวเอ้อรู้ว่าลู่เซิ่นโทรมา เป็นเพราะว่ามือถือเครื่องนี้ของโจวเอ้อมีแต่ลู่เซิ่นเท่านั้นที่รู้ นอกจากเขาแล้วเป็นไปไม่ได้ที่จะมีบุคคลที่สองโทรเข้ามาอีก

โจวเอ้อได้ฟังประโยคนี้ ก็เบิกตาโพลงด้วยความประหลาดใจ

ตอนที่ได้ยินว่าลู่เซินโทรมา โจวซิงก็หยุดฝีเท้าลง

เขารีบมาที่ข้างกายของโจวเอ้อ พูดขึ้นอย่างรอไม่ไหว: “ลู่เซิ่นกับฉินซีใช่ไหม? นายถามๆลู่เซิ่น ตอนนี้บาดแผลของเขาเป็นยังไงบ้าง พกยาติดตัวไปด้วยไหม”

ตอนนั้นทั้งสองคนรีบร้อนออกไป ลู่เซิ่นยังใส่ชุดคนไข้อยู่เลย เขาคงหยิบยาไปไม่ทัน แล้วก็ไม่รู้ว่าที่ฉินซีมียาหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็คงแย่แน่ๆ

ด้วยความที่โจวซิงเป็นหมอ จึงให้ความสนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ

เมื่อครู่โจวเอ้อเอาแต่สนใจเรื่องอื่นๆ ลืมถามเรื่องนี้ไปเลย

เขากำลังคิดจะพูด แต่กลับได้ยินลู่เซิ่นที่ได้ยินแล้วชิงตอบออกมาก่อน: “โจวซิงนายก็อย่ากังวลเลย บาดแผลบนตัวฉันดีขึ้นมากแล้ว พกยาติดตัวมาด้วย ฉินซีก็อยู่กับฉัน พวกเราสบายดี”

เสียงของโจวซิงดังมากจริงๆ คงยากที่เขาจะไม่ได้ยิน

รู้ว่าตอนนี้พวกเขาคงเป็นห่วงตนเองมากแน่ๆ ลู่เซิ่นจึงบอกพวกเขาอย่างตรงไปตรงมา

ลู่เซิ่นกลัวพวกเขาไม่เชื่อ จึงส่งมือถือให้ฉินซี ให้สัญญาณเธอพูด

เห็นสายตาของลู่เซิ่น ฉินซีจึงรับมือถือไป พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน: “โจวเอ้อ โจวซิงพวกคุณวางใจเถอะ ตอนนี้เราสบายดีมากๆ ก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ของจ้านเซินเป็นยังไงบ้าง พวกเขายังคงตามหาพวกฉันอยู่ใช่ไหม?”

จริงๆแล้ว อยู่ที่นี่ก็ดีมากๆ แต่สิ่งที่ฉินซีกลัวที่สุดคือจู่ๆวันหนึ่งจ้านเซินจะตามหาพวกเขาจนเจอ แล้วทำให้คุณปู่เช่พลอยเดือดร้อนไปด้วย

เธอชัดเจนในนิสัยของจ้านเซินมาก เขาเป็นคนที่หัวแข็งมากคนหนึ่ง ถ้าหาพวกเขาไม่เจอ จ้านเซินก็จะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด

สาเหตุที่ตอนนี้ฉินซีถามโจวเอ้อ ก็แค่อยากยืนยันสักหน่อย

โจวเอ้อกำหมัดแน่น น้ำเสียงเคร่งขรึมพูดขึ้น: “ใช่ จ้านเซินส่งคนออกไปตามหาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามทิศทางที่พวกเธอหนีไป ขยายอาณาเขตค้นหาอย่างละเอียดทุกซอกทุกมุม พวกเราก็พยายามขวางเอาไว้”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท