Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1523

ตอนที่ 1523

“ตอนนี้พวกเธอต้องการอะไรบ้าง อยากจะซ่อนตัวอยู่บนภูเขาอีกระยะหนึ่ง หรือว่าตอนนี้จะให้ฉันรีบส่งคนไปช่วยเหลือพวกเธอเลย ช่วยพวกเธอออกมา”

ความคิดและคำพูดของเขาชัดเจนแจ่มแจ้ง ทำให้ในใจของฉินซีตื้นตันมาก

ฉินซีรู้สึกว่า ข้างกายของลู่เซิ่นมีเพื่อนและลูกน้องที่ทุ่มเททั้งกายทั้งใจขนาดนี้ เป็นเรื่องที่โชคดีมากๆเรื่องหนึ่งจริงๆ อย่างน้อยตอนที่พวกเขาประสบปัญหา ก็ยังสามารถมอบคนรุ่นหลังให้กับเขาได้อย่างไร้ความกังวล

ลู่เซิ่นกับฉินซีอยากจะออกไปจากที่นี่ตอนนี้จริงๆ ไม่อยากสร้างความลำบากให้คุณปู่เช่อีกแล้ว

แต่ว่า ตอนนี้อาการบาดเจ็บของลู่เซิ่นยังเดินทางไกลไม่ได้ แผนการช่วงนี้จึงทำได้เพียงเลื่อนออกไปก่อน

ฉินซีค่อยๆเอ่ยปาก: “เราเตรียมตัวออกเดินทางในอีกสามสี่วันข้างหน้า อาการบาดเจ็บของลู่เซิ่นยังต้องพักฟื้นอีกหน่อย พอดีกับสามสี่วันนี้ยังเพียงพอให้พวกคุณเตรียมการได้ เราต้องการรถหนึ่งคัน แล้วก็เงินสดจำนวนหนึ่ง รวมไปถึงเสื้อผ้าอีกหลายๆชุดด้วย”

เธอบอกความต้องการทั้งหมดแก่โจวเอ้อ ให้เขารีบไปเตรียมการ

โจวเอ้อพยักหน้า: “อื้ม ผมจะเตรียมเอาไว้ให้เรียบร้อย”

สิ่งของที่จำเป็นสำหรับการเอาตัวรอด โจวเอ้อคุ้นเคยเป็นอย่างดี

ฉินซีกำชับอย่างไม่วางใจขึ้นอีกประโยคหนึ่ง: “อย่าลืมนะ เรื่องนี้คุณห้ามทำเอง หาคนของพวกคุณที่ไม่ได้ใช้งานบ่อยๆ ไม่ก็คนที่จ้านเซินไม่เคยเห็นมาก่อน ให้เขาจัดการอย่างเงียบๆ อย่าให้จ้านเซินพบเข้าได้”

เธอกล้ายืนยันเลย ตอนนี้จ้านเซินก็คงจับตาดูการเคลื่อนไหวของโจวเอ้ออยู่เหมือนกัน

ถ้าโจวเอ้อมีการเคลื่อนไหวใดๆ คงหนีไม่พ้นสายตาของจ้านเซินหรอก

ถึงตอนนั้น จ้านเซินต้องรู้แน่ๆ ว่าพวกเขาเคยติดต่อกับโจวเอ้อ แล้วติดตามเบาะแสนี้ของโจวเอ้อ จนพบที่ซ่อนตัวของพวกเขา งั้นก็แย่แน่

ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่าต้องเสียใจภายหลัง เวลานี้ พวกเขาระมัดระวังรอบคอบให้มากหน่อยจะดีกว่า

“อื้ม คุณวางใจเถอะ”

โจวเอ้อพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม จดจำคำพูดเมื่อครู่ของฉินซีเอาไว้ในใจ

หลังจากฉินซีพูดสิ่งที่อยากพูดจนหมดแล้ว จึงส่งมือถือคืนให้ลู่เซิ่น

ลู่เซิ่นรับโทรศัพท์: “ใช่สิ นายให้คนสวมหน้ากากหนังคนที่ฉันทำขึ้นเมื่อคราวก่อนด้วยนะ อยู่ในตู้เซฟในห้องหนังสือน่ะ มีอันใหม่อยู่สองอัน”

เดิมทีลู่เซิ่นอยากจะทำอีกอัน แต่คิดจะทำหน้ากากหนังคน ต้องเสียเวลามาก แล้วยังต้องใช้วัสดุที่คงทนอีกด้วย

ตอนนี้พวกเขาอยู่ในป่าท่ามกลางหุบเขา จนปัญญาที่จะหาสิ่งของให้ครบครันอยู่แล้ว เขาจึงจำใจยอมแพ้วิธีการนี้ ให้โจวเอ้อเอาของเดิมที่เขาทำไว้อย่างดีแล้วมาด้วย

โชคดีที่ตอนอยู่ว่างๆที่โรงพยาบาล เขาแอบทำขึ้นมาอีกสองอัน ไม่งั้นตอนนี้คงทำได้เพียงใช้อันเก่าเท่านั้น

ถึงอันเก่าจะยังใช้ได้ แต่ไม่มีหน้ากากผู้หญิง

ลู่เซิ่นไม่อยากให้ฉินซีสวมของผู้ชาย แต่ฉินซีกลับยังไงก็ได้

รูปร่างของฉินซีสูงโปร่ง 178 ซม.ราวกับนางแบบ เทียบกับผู้ชายทั่วไปก็สูงโดดเด่นกว่านิดหน่อย

แต่ ตอนที่เธออยู่ต่อหน้าลู่เซิ่นที่สูงถึง190 กลับดูเตี้ยกว่าอย่างเห็นได้ชัด

ฉินซีคิดๆแล้ว จึงพูดเพิ่มเติม: “หน้ากากหนังคนสองอันเก่าก็เอามาด้วยดีกว่า”

เธอกลัวว่าระหว่างทางอาจจะเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดได้ หน้ากากหนังคนนั้นเพื่อให้ผิวหนังหายใจได้ตามปกติ จึงทำขึ้นมาบางมากๆ เหมือนกับกระดาษเลย อย่างนี้ก็เพื่อหลีกเลี่ยงเวลาที่สวมไปนานๆแล้วก่อให้เกิดความเปื่อยยุ่ย บางทีอาจจะเพราะหายใจไม่ค่อยสะดวก จึงทำให้เกิดสิวได้

ถ้าวันไหนไม่ทันระวังทำพังขึ้นมา พวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะหาวัสดุทำขึ้นมาใหม่ได้อีกไหม ดังนั้นจึงกักตุนไว้หน่อย คงไม่เลว

ลู่เซิ่นรู้สึกว่าที่ฉินซีพูดก็มีเหตุผล จึงพูดขึ้น: “ทำตามที่ฉินซีบอกแล้วกัน”

“อื้ม”

โจวเอ้อไม่มีความคิดเห็นอะไร: “งั้นหลังจากฉันเตรียมการเสร็จ จะโทรไปนัดเวลา แล้วส่งของไปให้พวกนายนะ”

เขาพูดขึ้นอย่างอาลัยอาวรณ์ ก็ไม่ใช่ว่าอยากจะวางสายมากขนาดนั้น

แต่ว่า เหตุผลของโจวเอ้อบอกเขา ตอนนี้ไม่ใช่เวลาอืดอาดยืดยาด ถ้าอยากให้ลู่เซิ่นกับฉินซีสบายดี ก็ควรจะเด็ดขาดสักหน่อย

“อื้ม”

ลู่เซิ่นเอ่ยปากนิ่งๆ: “ลำบากนายแล้ว”

ในใจของโจวเอ้อหลากหลายความรู้สึก: “ลู่เซิ่น นายอย่าพูดอย่างนี้ เรื่องพวกนี้ฉันสมควรทำ เอาเถอะ ตอนนี้ฉันจะไปเตรียมการแล้ว นายกับฉินซีพักผ่อนให้เต็มที่ ที่นั่นปลอดภัยไหม?”

เขาถามคำถามสุดท้าย ลู่เซิ่นพยักหน้า: “ปลอดภัย”

“นายไม่ต้องเป็นห่วงพวกเรา ไปเตรียมของที่ต้องการก่อนเถอะ”

ลู่เซิ่นกับโจวเอ้อพูดกันอีกไม่กี่คำ ก็วางสายไป

ฉินซีมองออก ความสัมพันธ์ระหว่างโจวเอ้อกับลู่เซิ่นลึกซึ้งแน่นแฟ้น: “โจวเอ้อเป็นคนหนึ่งที่เชื่อใจได้ ฉันเชื่อว่าจะไม่เกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้น”

เธอพิงอยู่บนไหล่ของลู่เซิ่น พูดปลอบโยนเบาๆ

มองใบหน้าด้านข้างที่งดงามละเอียดอ่อนของฉินซีแล้ว ลู่เซิ่นสุขใจมาก

เขาก้มหน้า ริมฝีปากบางๆตกอยู่บนริมฝีปากของฉินซี เสียงแหบพร่าของเขาพูดขึ้น: “ผมรู้ ผมไม่ได้กังวลเรื่องนี้ เพียงแค่ระหว่างทางที่หลบหนีไม่รู้ว่าจะมีความยากลำบากและอุปสรรคมากมายขนาดไหนที่รอคอยพวกเราอยู่……”

ไม่รอให้ลู่เซิ่นพูดจบ ฉินซีก็ใช้ริมฝีปากของเธอปิดลงไปบนปากของเขา

จูบเร่าร้อนที่อารมณ์พลุ่งพล่านของทั้งสองคน เข้มข้นร้อนแรง จนหยุดเอาไว้ไม่ได้แล้ว

โดยไม่รู้ตัว ลู่เซิ่นก็อุ้มฉินซีไปบนเตียงใหญ่

ใบหน้าขาวละเอียดของฉินซีแดงระเรื่อขึ้นมา พูดขึ้นด้วยความเขินอายรวมกับเป็นกังวล: “อาเซิ่น แผลของคุณ”

เธอไม่อยากให้บาดแผลของลู่เซิ่นได้รับบาดเจ็บอีกครั้งเพราะตนเอง ถ้าเป็นอย่างนี้ เธอคงโดนคุณปู่เช่ด่าตายแน่ๆ

“ไม่เป็นไร ผมจะระวังหน่อย”

ดวงตาแดงๆทั้งคู่ของลู่เซิ่นกำลังมองเธอ พูดขึ้นด้วยเสียงแหบพร่า

เขารอคอยวันนี้มานานมากแล้ว ตอนนี้ถือว่าชดเชยให้สมกับที่รอคอยได้แล้วสิ

มองแววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาของลู่เซิ่น ฉินซีจึงค่อยๆหลับตาลง

การกระทำของเธอ อนุญาตการเคลื่อนไหวของลู่เซิ่นไปโดยปริยายอย่างชัดเจน

บนใบหน้าของลู่เซิ่นปรากฏรอยยิ้มบางๆที่น่าดึงดูด เขาก้มหน้าลงไปจูบฉินซี ท่าทางที่จริงใจอย่างนั้น ราวกับปฏิบัติต่อสิ่งล้ำค่าด้วยความทะนุถนอม

ภายหลัง

ฉินซีขลุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของลู่เซิ่น บนใบหน้ายังคงแดงระเรื่อ

เสียงนุ่มนวลของเธอพูดขึ้น: “อาเซิ่น ฉันรู้ว่าคุณกำลังกังวลเรื่องอะไร แต่ คุณรู้ไหม? ในใจของฉัน เพียงแค่ได้อยู่กับคุณ ต่อให้ต้องอยู่ในกระท่อมผุๆพังๆก็มีความสุขแล้ว ที่ที่มีคุณอยู่ ก็คือบ้านของฉัน”

สำหรับฉินซีแล้ว คำว่าบ้านคำนี้ทั้งไม่คุ้นเคยทั้งอบอุ่นมาก

เธอคาดหวังมากจริงๆว่าจะได้สร้างครอบครัวกับลู่เซิ่น แต่ตอนนี้สำหรับพวกเขา แค่ได้อยู่อย่างสงบก็เป็นเรื่องที่ปรารถนาเหลือเกิน

แต่ฉินซียังคงไม่ยอมแพ้ เธอแค่รักลู่เซิ่น ในดวงตาและในหัวใจก็ไม่สามารถมอบให้คนอื่นได้อีกแล้ว

ลู่เซิ่นมองใบหน้าแดงระเรื่อของเธอ ในดวงตาดำขลับประกายความหลงใหลออกมา

ชีวิตของเขาก่อนหน้านี้อยู่ตัวคนเดียวมาโดยตลอด ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้เจอกับฉินซี ยิ่งไม่เคยคิดเลยว่าจะได้มีความรักที่เหมือนกับเทพนิยายอย่างนี้ เขาเตรียมตัวที่จะอยู่คนเดียวไปจนแก่เอาไว้แล้ว

แต่ในช่วงเวลานี้ เป็นเวลาที่ลู่เซิ่นมีความสุขที่สุด

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท