Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1524

ตอนที่ 1524

ความคิดของลู่เซิ่นกับฉินซีเหมือนกัน ถ้าทั้งสองคนได้อยู่ด้วยกัน ต่อให้ต้องหนีไปจนถึงวันสิ้นโลกก็ยังมีความสุข

ประจวบเหมาะที่พวกเขาสามารถใช้โอกาสในครั้งนี้ เดินเล่นไปได้ทุกที่

ลู่เซินลูบแก้มของเธอเบาๆ สายตาที่ลึกซึ้งกำลังมองเธอ: “ผมเข้าใจแล้ว”

เขาจับมือของเธอเอาไว้แน่น วางไว้ที่ข้างริมฝีปากจูบอย่างแผ่วเบา

……

และในเวลานี้

ภายในองค์กร หลังจากที่เหยาจ้าวรู้ว่าฉินซีหนีไปแล้ว ในใจก็ทั้งตกใจทั้งชื่นชม

จริงๆเขาก็คาดการณ์เอาไว้แล้ว ท่าทางในครั้งนี้ของฉินซีไม่เหมือนกับแต่ก่อนเลย ตอนนั้นเขาก็รู้สึกแปลกๆ ในใจมีความกังวล แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก

เหยาจ้าวคิดว่า ฉินซีเป็นคนที่มีเหตุผลมากๆคนหนึ่งมาโดยตลอด

แต่นึกไม่ถึง ในครั้งนี้กลับทำตัวมุทะลุไปได้

ดูแล้ว คนที่มีความรัก มักจะไม่มีเหตุผลกันทั้งนั้น

เหยาจ้าวกำลังมองนกที่นอกหน้าต่าง แล้วถอนหายใจออกมา: “เฮ้อ……”

ความเป็นจริง เหยาจ้าวก็อยากออกไปจากที่นี่มากๆ

เพียงแต่น่าเสียดาย ตอนนี้เขายังไม่ถึงเวลานั้น

อาจจะเป็นเพราะเขามีเหตุผลมากจนเกินไป จึงเอาแต่กังวลเรื่องนี้ กังวลเรื่องนั้น ไม่ได้นิสัยใจคอเหมือนกับฉินซี จึงล่าช้ามาจนถึงตอนนี้

เหยาจ้าวหยุดการเคลื่อนไหวในมือ ความคิดค่อยๆล่องลอยออกไปไกล

ก็ในตอนนี้

จู่ๆประตูห้องทดลองก็โดนผลักเข้ามา

ประตูกระแทกไปบนกำแพง เสียงที่หนักอึ้งดังออกมา

เสียง “ปัง” ดึงสติของเหยาจ้าวกลับมาทันที

เขามองไปที่ประตูด้วยความงุนงง ไม่รู้ว่าใครกันที่ใช้แรงมหาศาลขนาดนี้

แต่ทว่า ตอนที่เขาเห็นจ้านเซิน ก็ประหลาดใจเล็กน้อย

ทำไมจู่ๆจ้านเซินถึงกลับมาที่องค์กร ฉินซีหนีไปแล้ว ตอนนี้เขาไม่ควรจะตามหาไปทั่วทุกที่เหรอ ทำไมยังมีเวลากลับมาอีกล่ะ

เหยาจ้าวรู้สึกแปลกๆ แต่ในใจก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี อยู่ลางๆ

จ้านเซินก้าวเข้ามาหาเขาอย่างแน่วแน่ บนใบหน้าที่หล่อเหลาปรากฏความดุดันออกมา

เขาจ้องมองเหยาจ้าว ที่ยืนอยู่ข้างกายเขา กัดฟันเอ่ยปากพูดขึ้น: “ฉันขอถามนาย ตอนนี้ฉินซีอยู่ไหน?”

จ้านเซินตามหาฉินซีมาหลายวันแล้ว แต่ไม่เจอร่างของฉินซีกับลู่เซิ่นเลย

เขาค่อยๆร้อนรน หุนหันพลันแล่นขึ้นเรื่อยๆ

ก็ตอนที่จ้านเซินกลัดกลุ้มจนทนไม่ไหว จู่ๆจั่วยีก็นึกถึงเหยาจ้าว

ตอนที่อยู่ในองค์กร ฉินซีกับเหยาจ้าวชอบตัวติดกัน

ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนดีมาก เป็นเรื่องที่ทุกคนในองค์กรต่างก็รู้ดี

ไม่แน่ว่าฉินซีกับเหยาจ้าวอาจจะติดต่อกันส่วนตัว หรืออาจจะบอกได้ว่าก่อนฉินซีหนีไป เคยปรึกษากับเหยาจ้าวอย่างลับๆอยู่แล้ว

จ้านเซินรู้สึกว่าที่จั่วยีพูดมาก็มีเหตุผลมาก จึงมาซักถามเหยาจ้าวด้วยท่าทีดุดัน

เขาจำได้ ถังย่าเคยบอกเขา เหมือนกับเหยาจ้าวเริ่มต่อต้านแล้ว

ตอนนั้นจ้านเซินจึงทดสอบเหยาจ้าวเล็กน้อย แต่กลับโดนเหยาจ้าวเลี่ยงไปได้

ตอนนี้ดูแล้ว พวกเขาสองคนคงจะวางแผนเอาไว้ล่วงหน้าแล้วสินะ

นึกถึงตรงนี้ ในใจของจ้านเซินก็ยิ่งโมโห

ไม่นึกว่าภายใต้การจับจ้องของเขาเหยาจ้าวกับฉินซีจะมีการเคลื่อนไหวเล็กๆน้อยๆพวกนี้ นี่ทำให้จ้านเซินรู้สึกโดนหยามเกียรติเป็นอย่างมาก

วันนี้ เขาต้องบังคับให้เหยาจ้าวพูดออกมาให้ได้ว่าฉินซีอยู่ที่ไหน

แต่ที่เขาไม่รู้ ในใจของเหยาจ้าวก็ไม่รู้อะไรเลยจริงๆ

ถึงเขาจะสังหรณ์ใจว่าเรื่องราวมันแปลกไป แต่กลับคิดไม่ถึงว่า ฉินซีจะหนีไปอย่างวู่วามเช่นนี้จริงๆ

เผชิญหน้ากับคำถามของจ้านเซิน เหยาจ้าวจึงไม่รู้เรื่องอะไรเลยอย่างเห็นได้ชัด

เขาวางกล่องอุปกรณ์ในมือลง กระพริบๆตา เอ่ยปากนิ่งๆ: “จ้านเซิน นายหมายความว่าไง?”

เหยาจ้าวเป็นคนฉลาด เขาจึงรู้ทันทีว่าจุดประสงค์ที่จ้านเซินมาในครั้งนี้เพื่ออะไร

ตอนนี้เขาทำได้เพียงพยายามทำให้จ้านเซินเชื่อ เขาไม่รู้ว่าฉินซีอยู่ไหนจริงๆ ไม่งั้น กลัวว่าคงจะได้เจ็บตัวแน่ๆ

นึกถึงตรงนี้ เหยาจ้าวก็ฝืนยิ้มออกมา

ฉินซีหนีไปอย่างไม่ลังเล ปัญหายากๆตอนนี้มอบให้เขาเป็นคนจัดการทั้งหมด

เหยาจ้าวไม่รู้ว่าตนเองจะทำให้จ้านเซินเชื่อได้หรือไม่ ตอนนี้ก็ทำได้เพียงพยายามลองดู

ฉินซีที่อยู่กลางหุบเขาไกลโพ้นจู่ๆก็จามออกมา ถูๆจมูก

ลู่เซิ่นจึงเอาผ้าห่มไปคลุมบนร่างของเธอ ขมวดคิ้ว พูดขึ้นเบาๆด้วยเสียงอบอุ่น: “เป็นหวัดเหรอ?”

เขาถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง สายตาจ้องอยู่บนไหล่เปลือยเปล่าของฉินซี ช่วยเธอห่มผ้าให้มิดชิด

“ไม่น่าจะใช่นะ”

ฉินซีส่ายหน้า พูดขึ้นด้วยความไม่แน่ใจ

ช่วงนี้ เธอดื่มซุปบำรุงร่างกายที่คุณปู่เช่ตุ๋นตลอดเลย ฉินซีรู้สึกว่าร่างกายของตนเองกระปรี้กระเปร่ามากกว่าแต่ก่อนเยอะเลยแล้วก็ค่อยๆฟื้นตัวขึ้นด้วย

ตอนนี้ไม่ว่าฉินซีจะทำอะไร มักจะรู้สึกคล่องแคล่วปราดเปรียว มีแรงเหลือล้น

เธอก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหลังจากออกมาจากองค์กร มีลู่เซิ่นอยู่ข้างๆจิตใจก็เลยเปลี่ยนแปลงไป หรือเป็นเพราะซุปยาของคุณปู่เช่ได้ผลดีมาก หรือไม่ก็เป็นเพราะทั้งสองอย่าง

ฉินซียังไม่รู้ว่า ตอนนี้เหยาจ้าวกำลังตกที่นั่งลำบาก

เพราะการหลบหนีไปของเธอ จ้านเซินจึงเอาความเดือดดาลทั้งหมด ระบายไปบนร่างของเหยาจ้าว

ถ้าฉินซีรู้ว่า ตนเองเป็นต้นเหตุ ที่ทำให้เหยาจ้าวเดือดร้อน เธอคงหาวิธีพาเหยาจ้าวออกมาด้วยแน่ๆ

แม้วันที่หลบหนีจะไม่ดีเท่าไหร่ แต่ก็สบายใจกว่ามากๆที่จะต้องโดนบีบบังคับอยู่ในองค์กร ฉินซีรู้ดี เหยาจ้าวเองก็คาดหวังให้ตนเองได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระเช่นกัน

แต่ก่อน ตอนที่ฉินซีไปหาเหยาจ้าว มักจะเห็น เขานั่งเหม่อลอยตามลำพังอยู่ในห้องทดลอง มองทิวทัศน์นอกหน้าต่าง มองนกที่บินไปบินมาอย่างอิสระบนท้องฟ้า

ก่อนหน้านี้ ฉินซีไม่ค่อยเข้าใจ คิดว่าเหยาจ้าวคงเบื่อหน่ายเกินไปแน่ๆ

แต่ตอนนี้ ฉินซีกลับเข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว

การกระทำในตอนนั้นของเหยาจ้าว เป็นเพราะความปรารถนาที่มากเกินไป แต่กลับหมดหนทางที่จะหนีออกมาได้ ดังนั้นจึงเลือกที่จะใช้วิธีนี้ผ่อนคลายความกลัดกลุ้มในใจ

ฉินซีนึกขึ้นได้ ตอนนั้นที่เธอฟื้นฟูความทรงจำ จ้านเซินพาเหยาจ้าวมาตรวจเธอ ท่าทีของเหยาจ้าวเย็นชามาก ราวกับโดนคนในองค์กรกลืนกินไปแล้ว แม้แต่น้ำเสียงที่พูดออกมาก็เหมือนกับเครื่องจักรกล

ตอนนั้นฉินซียังคงผิดหวังมาก ไม่คิดว่าแม้แต่เหยาจ้าวลูกพี่ลูกน้องของเธอก็โดนหลอมละลายไปด้วย งั้นภายในองค์กรก็จะไม่มีใครสักคนที่เธอสามารถพูดความในใจได้อีกแล้ว

ภายหลัง ฉินซีเพิ่งจะรู้ เดิมทีสาเหตุที่เหยาจ้าวทำอย่างนั้น เพียงแค่อยากได้รับความเป็นส่วนตัวและอิสระที่มากขึ้นเท่านั้นเอง

สำหรับเหยาจ้าวแล้ว เขาไม่สามารถได้รับความเชื่อใจจากจ้านเซินโดยสิ้นเชิงได้

อันที่จริงเขาเข้ามากลางคัน ความคิดก็พัฒนาเต็มที่แล้ว ดังนั้นสิ่งที่ยึดถือปฏิบัติกันภายในองค์กร เขาสามารถทำได้ตาม แต่กลับไม่ยอมรับด้วยใจจริง

ดังนั้น จ้านเซินจึงเอาแต่ระมัดระวังตัวจากเขา

ต่อมา จ้านเซินก็ค้นพบว่า เหมือนเขาจะคอยช่วยฉินซีหลบหนีจากการควบคุมขององค์กรอยู่ลับๆ จึงทำให้เขายิ่งไม่พอใจ

ดังนั้นในแต่ละวันที่เหยาจ้าวอยู่ในองค์กรจึงยากลำบากเป็นพิเศษ เพื่อความอยู่รอดต่อไปในองค์กร ใช้ชีวิตให้อิสระสักหน่อย เหยาจ้าวจึงต้องทำอย่างนี้เพื่อเปลี่ยนแปลง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท