Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1530

ตอนที่ 1530

ถ้าไม่ใช่เพราะความรัก บางทีฉินซีอาจจะยืนหยัดไม่ถึงตอนนี้

ฉินซีมองด้านหลังที่สูงใหญ่ของลู่เซิ่น ยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย

เธอยังคงเดินตามหลังเขาไปเรื่อยๆ เท้าเล็กๆของเธอเหยียบรอยเท้าของลู่เซิ่น เธออยากจะเดินไปกับลู่เซิ่นในทุกๆก้าว อยากจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของลู่เซิ่น ชีวิตที่เหลือก็จะไม่แยกจากกันอีกแล้ว

ริมแม่น้ำไม่ได้ไกลจากกระท่อมมาก

ก็ตอนที่ฉินซีกับลู่เซิ่นเดินไป จู่ๆก็รู้สึกเหมือนมีการเคลื่อนไหวรอบๆด้าน

ท่าทางของทั้งสองคนเปลี่ยนเป็นระแวดระวังขึ้นมาทันที

ฉินซีกับลู่เซิ่นสบตากัน พากันค่อยๆหลบ

ลู่เซิ่นจูงมือฉินซี พูดเบาๆ: “ทางเจ็ดนาฬิกา เมื่อกี้เหมือนมีเงาคน”

ฉินซีพยักหน้าด้วยสีหน้าเย็นชา: “ฉันก็เห็น”

คนนั้นสวมชุดสีดำ บนร่างกายสวมสัญลักษณ์ที่คุ้นตามาก

ฉินซีอยู่ในองค์กรมาหลายปี แค่เห็นก็มองออกแล้ว เป็นสัญลักษณ์ที่ลูกน้องของจ้านเซินสวมเอาไว้

ฉินซีก็เคยมีอันหนึ่ง แต่เป็นอีกระดับชั้นที่สูงขึ้น

ในองค์กรมีแค่เธอกับถังย่าที่เป็นระดับที่สูงขึ้น ส่วนคนที่เหลือต่างก็แบ่งแยกตามระดับชั้น

มือที่อยู่ข้างลำตัวกำหมัดแน่น เสียงแหบพร่าของฉินซีพูดขึ้น: “น่าจะเป็นคนที่จ้านเซินส่งมา”

เธอไม่คิดเลยว่า สายตาของจ้านเซินจะหาที่นี่พบได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้

ดูแล้วเขาพยายามอย่างหนักจริงๆที่จะจับเธอกับลู่เซิ่นกลับไป

ลู่เซิ่นรู้สึกได้ถึงความโหดร้ายที่มากขึ้นเรื่อยๆจากบนร่างของฉินซี เขาขมวดคิ้ว ซ่อนตัวอยู่หลังกองฟาง จับมือของฉินซีแน่น: “อย่าร้อนรน ใจเย็นๆ พวกเขาน่าจะยังไม่เห็นเรา”

เขาปลอบโยนฉินซีเบาๆ กังวลว่าเธอจะวู่วาม แล้ววิ่งเข้าไปฆ่าคนพวกนั้นทันที

ด้วยคำปลอบโยนของลู่เซิ่น ฉินซีจึงหายใจเข้าลึกๆ

แล้วเธอก็ต้องเบิกตาโพลงทันที: “คุณปู่เช่ล่ะ?”

ฉินซีตึงเครียด สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

คุณปู่เช่คงจะไม่เกิดเรื่องใช่ไหม เมื่อครู่คนพวกนั้นได้ไปที่กระท่อมไหม

เธอทำท่าจะยืนขึ้น จะไปหาคุณปู่เช่

ลู่เซิ่นจึงต้องดึงเธอเอาไว้: “ฉินซี!”

เขาพูดเบาๆ จับข้อมือของเธอเอาไว้

“คุณปล่อยฉัน ฉันจะไปหาคุณปู่เช่”

ฉินซีพยายามดิ้นรนสุดกำลัง ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำ

ถ้าพวกเขากล้าลงมือกับคุณปู่เช่ เธอจะไม่ให้อภัยพวกเขาเด็ดขาด

ฉินซีไม่เคยโมโหเหมือนอย่างตอนนี้มาก่อนเลย เธอปฏิบัติต่อคุณปู่เช่เหมือนกับเป็นปู่แท้ๆ ถ้าคุณปู่เช่เกิดเรื่อง ชีวิตนี้เธอก็หมดหนทางที่จะยกโทษให้ตนเอง

ลู่เซิ่นเห็นเธอกระวนกระวายใจ จึงทำได้เพียงออกแรงให้มากขึ้น รั้งเธอเอาไว้: “ฉินซี คุณต้องเชื่อในตัวคุณปู่เช่ เขาฉลาดขนาดนั้น เป็นไปได้ยังไงที่จะตกไปอยู่ในมือของจ้านเซิน ถ้าคุณไปตอนนี้ ก็จะแหวกหญ้าให้งูตื่นนะ”

เขากัดฟันพูดอยู่ข้างหูของฉินซี หวังว่าฉินซีจะใจเย็นลงได้เร็วๆ

ฉินซีคิดๆ ทำได้เพียงอดกลั้นความตื่นเต้นในใจ

เธอขมวดคิ้วด้วยความวุ่นวายใจ: “งั้นตอนนี้เราควรทำยังไง นี่จะเอาแต่ซ่อนอยู่ตรงนี้จริงๆเหรอ ไม่ทำอะไรเลย มองคุณปู่เช่โดนคนของจ้านเซินจับไปยังงั้นใช่ไหม?”

ฉินซีพูดด้วยความเดือดดาล เธอเสียใจมากๆ ทำไมถึงไม่รีบออกไปจากที่นี่สักหน่อยนะ ถึงกับทำให้จ้านเซินหาเจอจนได้

แต่ ตอนนี้จะพูดอะไรก็สายไปแล้ว

พวกเขาทำได้เพียงพยายามคิดหาวิธีแก้ไขปัญหา

ลู่เซิ่นสมองไว: “ผมจำได้ว่าด้านหลังมีถนนเล็กๆเส้นหนึ่ง เราไปที่นั่นกัน แล้วดูว่าคุณปู่เช่โดนคนขององค์กรจับเอาไว้หรือเปล่า”

แค่พูดออกไป ฉินซีก็แทบรอไม่ไหวแล้ว

“งั้นเรารีบไป”

ฉินซีดึงมือของเขา บ่งบอกให้เขาอยู่ด้านหน้านำทางไป

ทั้งสองคนก้มตัว ค่อยๆเคลื่อนไหว

……

ตอนนี้

คุณปู่เช่กำลังรับมือกับคนในองค์กรอยู่

จั่วยีมองคุณปู่เช่ที่อยู่ตรงหน้า พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดุดัน: “ผู้เฒ่า คุณเห็นผู้ชายผู้หญิงหล่อๆสวยๆคู่หนึ่งผ่านมาบ้างไหม?”

น้ำเสียงของเขาไม่ได้นอบน้อมสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้พุ่งถลาเข้ามา เหมือนกับโจรอย่างนั้น

เดิมทีคุณปู่เช่กำลังตุ๋นยาขึ้นมาใหม่ จู่ๆก็ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวลอยเข้ามา จึงค่อยๆลุกขึ้น

เขามองผู้ชายชุดดำที่เข้ามาพวกนั้น ขมวดคิ้ว: “พวกนายเป็นใคร?”

คุณปู่เช่ยืนยืดตัวตรงอยู่ที่เดิม ไม่ได้แสดงท่าทีหวาดกลัว เพราะอีกฝ่ายมีคนมากกว่าเลย

ตรงกันข้าม ความโมโหปะทุเข้ามากลางอกของคุณปู่เช่

แค่เห็นเขาก็มองออกแล้ว คนกลุ่มนี้คงจะมาตามหาฉินซีกับลู่เซิ่น

นึกถึงฉินซีที่ต้องประสบกับเรื่องเลวร้ายเหล่านั้นตอนอยู่ในองค์กร คุณปู่เช่ก็ยิ่งโกรธมาก

สาวน้อยที่แสนดีคนหนึ่ง โดนพวกเขาบีบบังคับจนกลายเป็นอย่างนี้ ตอนนี้ไม่ง่ายเลยที่จะหนีออกมา เจ้าพวกนี้ยังดึงดันที่จะตามหาอย่างไม่ลดละอีก

จั่วยีพูดขึ้นอย่างเย็นชา: “ผู้เฒ่าไม่ต้องสนใจหรอกว่าพวกฉันเป็นใคร แค่ตอบคำถามฉันมาก็พอ”

เขาจ้องมองไปที่คุณปู่เช่ เขารู้สึกว่าผู้เฒ่าคนนี้ดูแล้วไม่ธรรมดาเลย ไม่งั้นทำไมถึงไม่หวาดกลัวตอนที่เห็นพวกเขาเลยล่ะ

แต่จั่วยีคิดดูอีกที สามารถซ่อนตัวอยู่กลางหุบเขาได้ ก็ไม่ควรประเมินตัวตนของเขาต่ำจนเกินไปแล้ว บางทีตอนที่เขายังหนุ่มๆ อาจจะเจอฉากอย่างนี้จนชินแล้วก็ได้ ตอนนี้ก็เลยไม่รู้สึกอะไร

คุณปู่เช่คำรามออกมา มองพวกเขาที่ท่าทางไม่มีมารยาท ไม่พอใจอย่างมาก: “ที่นี่เป็นบ้านของฉัน ในเมื่อพวกนายไม่บอกว่าพวกนายเป็นใคร งั้นก็เชิญพวกนายออกไป ฉันไม่มีหน้าที่ต้องตอบคำถาม”

เขากวาดสายตาไปที่จั่วยีอย่างเมินเฉย แล้วก้มตัวลง ตุ๋นยาต่อไป

ท่าทางของคุณปู่เช่ ทำให้จั่วเอ้อโมโหมาก

“พี่ พี่จะพูดจาเหลวไหลกับไอ้แก่นี่ทำไม เราเข้าไปค้นหาเลยก็พอ”

ตอนที่พวกเขาค้นหาอยู่ที่ตีนเขา ก็พบรถคนนั้นที่ลู่เซิ่นกับฉินซีขับหนีมา

แม้จะโดนฟางข้าวปกปิดเอาไว้ แต่เพราะกี่วันมานี้ลมแรงฝนตกหนัก จึงเปิดเผยร่องรอยออกมาเล็กน้อย

ดังนั้น จั่วยีกับจั่วเอ้อจึงชี้ขาดว่าฉินซีกับลู่เซิ่นคงจะขึ้นไปบนเขาลูกนี้แน่ๆ

พวกเขาจัดการส่งคนมากมาย ไปค้นหาตามถนนเส้นเล็กๆบนเขา

หาอยู่ทั้งวันทั้งคืน จึงได้พบกระท่อมหลังนี้

คุณปู่เช่เกลียดที่คนอื่นเรียกเขาอย่างนี้ที่สุด จึงกระทืบเท้าด้วยความโมโหทันที: “นายบอกว่าใครเป็นไอ้แก่! นายเคยได้รับการสั่งสอนมาหรือเปล่า เข้าใจเรื่องที่ต้องเคารพนอบน้อมคนเฒ่าคนแก่แล้วก็มีเมตตาต่อเด็กๆบ้างไหม! นายคิดว่าที่นี่เป็นภูเขา แล้วก็จะพุ่งเข้าบ้านใครก็ได้งั้นเหรอ? ฉันไม่อยากสนใจพวกนาย พวกนายก็ยังไม่รีบไสหัวไป แต่กลับยิ่งหยามเกียรติ รังแกคนเฒ่าคนแก่อย่างฉันงั้นเหรอ ไม่มีประโยชน์หรอก!”

เขาพูดอย่างดุดัน คำรามออกมาอย่างมีพลัง

จั่วเอ้อไม่คิดว่าจู่ๆเขาก็จะฉุนเฉียวขึ้นมา จึงตื่นตระหนกตกใจ

จั่วยีขมวดคิ้วมองน้องชายที่สะเพร่า

จั่วยีคิดๆ แล้วพูดขึ้น: “ผู้เฒ่า เราไม่ได้ตั้งใจรังแกกดขี่คุณ เพียงแค่อยากถามคุณเรื่องหนึ่งเท่านั้น คุณเคยเห็นชายหญิงหนุ่มสาวคู่หนึ่งผ่านมาแถวนี้บ้างไหม ผู้ชายคนนั้นยังได้รับบาดเจ็บอีกด้วย”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท