Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – บทที่1539 รางวัลของคุณ

บทที่1539 รางวัลของคุณ

ถ้าเป็นเมื่อก่อน ฉินซีกับลู่เซิ่นทำเช่นนี้ ก็ไม่อะไรที่ไม่เหมาะสม

ฉินซีกับลู่เซิ่นหนุ่มหล่อสาวสวยคู่นี้ ทำให้ทุกคนต้องอิจฉา

แต่ตอนนี้ ฉินซีใส่หน้ากาก ดูเหมือนคุณชายน้อยที่ผิวบางเนื้อนุ่มและรูปหล่อ ส่วนลู่เซิ่นภาพลักษณ์คือหนุ่มหล่อ ทั้งสองจับมือกัน ยากที่จะไม่ให้ใครจ้องมอง

ฉินซีสัมผัสถึงสายตาที่แผดเผาจากทั่วทุกมุม ขมวดคิ้ว “อาเซิ่น หน้ากากของฉันมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?ทำไมพวกเขาถึงมองพวกเรา?”

เธอถามด้วยความสงสัย รู้สึกกังวลใจเล็กน้อย

ฉินซีในเวลานี้ยังไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง โดยส่วนใหญ่ถ้าทั้งสองออกไปข้างนอกด้วยกัน ก็มักจะจับมือกัน ไม่สามารถเปลี่ยนได้ในทันที เพราะคิดว่านี่เป็นสิ่งที่สมควรทำ

ตอนขึ้นมาลู่เซิ่นก็ไม่ได้สังเกตเลย ต่อมาทุกคนต่างจ้องไปที่มือที่จับกันของทั้งสองคน ทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นได้ว่า สาเหตุเกิดจากตรงไหน

เขาเขย่าแขนของฉินซี กล่าวอย่างทำอะไรไม่ถูก “หน้ากากไม่มีปัญหา แต่ว่าพวกเขาคิดว่าพวกเราสองคนมีปัญหาเกี่ยวกับรสนิยมทางเพศ”

ลู่เซิ่นในใจรู้สึกพูดไม่ออก นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกคำถามในเรื่องแบบนี้

“โอ้?”

สมองของฉินซีหยุดนิ่งทันที เธอกะพริบตาปริบๆ มองลู่เซิ่นด้วยความไม่เข้าใจ รอเขาอธิบายเพิ่มเติมให้

ลู่เซิ่นมองหน้าตาซื่อๆของเธอ ลูบหัวเล็กๆของเธอ “ฉันหมายถึง พวกเขาคิดว่าพวกเราเป็นเกย์”

การกระทำที่ปรนเปรอเช่นนี้ ทำให้สาวๆที่เฝ้ามองอยู่รอบๆก็ถอนหายใจ

พวกเธอไม่คาดคิดเลย เดิมทีตั้งใจมาเที่ยวสวนสนุก แต่ได้เห็นภาพสวยๆเช่นนี้ การมาสวนสนุกในครั้งนี้คุ้มค่ามาก

ถึงแม้ทั้งสองคนตรงหน้าจะไม่โดดเด่นเป็นพิเศษ แต่ก็ไม่ขี้เหร่แน่นอนและมีความออร่าเป็นพิเศษ

จากการเดาของฝูงชน ชายร่างสูงตรงหน้าน่าจะเป็นฝ่ายรุก เพราะหลั่งฮอร์โมนในตัวเขาไปทุกที่คนตัวเล็กที่อยู่ข้างๆเขา ผู้ชายที่ผิวบอบบางกว่าเด็กผู้หญิงน่าจะเป็นฝ่ายรับ

คู่รักที่ต่างกันมากคู่นี้ มันทำให้จิตใจหวั่นไหวมาก

มีสาววายแอบเอาโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูป ลู่เซิ่นหรี่มองความเคลื่อนไหวของเธอ แล้วขมวดคิ้ว

เขาปล่อยมือฉินซี ตรงไปข้างหน้า เดินไปตรงหน้าสาววายคนนั้น

การเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ทำให้ฉินซีอึ้งไปสักพัก

ฝูงชนมองดูลู่เซิ่นเดินเข้าไป สาวน้อยที่ถูกดึงกระเป๋าตกใจกลัวแล้วถอยหลังไป

ลู่เซิ่นเดินไปหาเธอแล้วยืนนิ่ง เด็กผู้หญิงคิดว่าเขามาเพื่อตีคน คิดอยากจะหนี แต่ขาทั้งสองข้างหมดแรง ทำได้เพียงยืนอยู่ที่เดิม หลับตาลงอย่างขี้อาย

ดูเธอตัวสั่น ลู่เซิ่นรู้สึกตลกเล็กน้อย

เด็กผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ น่าจะยังไม่บรรลุนิติภาวะ ดูตัวเล็ก หน้ากลมๆ

ทุกคนกลั้นหายใจ อยากเห็นว่าลู่เซิ่นจะทำอะไรเด็กผู้หญิงที่แอบถ่าย

ฉินซีไม่กังวลเลยแม้แต่นิดเดียว เธอรู้ว่าลู่เซิ่นไม่มีทางทำร้ายเด็กผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้

เธอยืนเงียบๆอยู่กับที่ แสดงรอยยิ้มที่มุมปาก

ลู่เซิ่นพูดด้วยเสียงแหบ “สาวน้อย คนรักของพี่ชายไม่ชอบถ่ายรู้นะ ดังนั้นคุณช่วยลบรูปออกจากโทรศัพท์ให้หน่อยได้ไหม?”

เสียงของเขาอ่อนโยนมาก ราวกับว่ากลัวสาวน้อยที่อยู่ตรงหน้า ตกใจ

สาวน้อยคาดไม่ถึงว่าลู่เซิ่นที่ดูน่ากลัว แต่ภายในเป็นคนที่มีความอ่อนโยนเช่นนี้

ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความไม่อยากเชื่อขนตาสั่นเล็กน้อย

สาวน้อยคิดว่าฉินซีน่ารักกว่า อย่างไรก็ตาม ตอนที่เธอกับลู่เซิ่นอยู่ใกล้กัน สังเกตเห็นดวงตาของเธอสวยมาก เหมือนทะเลดาว ทำให้ผู้คนอยากหลงใหล

เผชิญกับคำถามของลู่เซิ่น สาวน้อยพยักหน้าอย่างตะลึง “ได้ค่ะ ฉันจะลบเดี๋ยวนี้”

ทันใดนั้นเธอก็สติฟื้นคืน หยิบโทรศัพท์ออกมา ลบรูปถ่ายต่อหน้าลู่เซิ่น

ลู่เซิ่นกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณมาก นี่เป็นรางวัลสำหรับคุณ”

เขาหยิบลูกอมออกมาจากกระเป๋าหนึ่งอัน ยื่นให้สาวน้อย

ตั้งแต่ต้นจนจบ ท่าทางของลู่เซิ่นอ่อนโยนมาก ทำเอาทุกคนอิจฉา

ฉินซีมองการเคลื่อนไหวของเขา รอยยิ้มที่มุมปากค่อยๆขยายออก

จากพฤติกรรมของลู่เซิ่นสามารถรู้ได้ว่าในอนาคตเขาจะต้องเป็นคนที่รักลูกสาวมาก

ดูเหมือนไม่ต้องกังวลว่าลู่เซิ่นจะไม่ดีกับลูกสาวแล้ว แต่กังวลว่าถ้าคลอดลูกชาย ลู่เซิ่นจะไม่ชอบแล้วยกให้คนอื่นไปเลี้ยง

ฉินซีจำได้ว่า ก่อนหน้านี้ก่อนเข้านอน เคยพูดคุยกับลู่เซิ่น ตอนนั้นลู่เซิ่นบอกว่า เขาอยากได้ลูกสาวที่เหมือนฉินซีหนึ่งคน

ตอนนี้เธอเพิ่งรู้และเข้าใจว่า ที่ลู่เซิ่นพูดเป็นเรื่องจริงทั้งหมด

ลู่เซิ่นลุกขึ้น มองไปที่ฝูงชน “ฉันกับคนรักของฉัน เพียงแค่อยากจะมาเที่ยวสวนสนุก หวังว่าทุกคนจะให้พื้นเล็กๆสำหรับพวกเราบ้าง อย่าถ่ายรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต และอย่าพูดต่อ ความจริงนี่เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ถ้าฉันรู้ว่าทุกคนส่งรูปของพวกเราออกไป เผยแพร่ในชุมชน ฉันก็จะใช้วิธีการทางกฎหมาย เพื่อมาปกป้องสิทธิของฉันและของคนรักของฉัน”

เขาพูดทีละคำทีละประโยค ยืนหยัดอยู่ท่ามกลางทุกคน

ทุกคนไม่รู้ว่าล้อมเป็นวงกลมตั้งแต่เมื่อไหร่ โดยมีฉินซีกับลู่เซิ่นอยู่ตรงกลางวง

หรือเป็นเพราะว่าตัวของลู่เซิ่นมีออร่าที่เหนือกว่า ไม่ว่าจะเวลาไหนหรืออยู่ที่ไหนก็ไม่สามารถสลายไปได้ สิ่งที่สลักอยู่ในกระดูกเช่นนี้ มันจะไม่หายไปเพราะรูปลักษณ์ภายนอกที่เปลี่ยนไป

ลู่เซิ่นกล่าวด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม น้ำเสียงไม่หนักและไม่เบา แต่ว่าส่งเสียงเตือนในใจทุกคน

ทุกคนรู้ว่า ไม่ควรยุ่งกับลู่เซิ่น สามารถเห็นได้จากออร่าในตัวเขา

ฉินซีได้ยินเขาพูดว่าคนรักเต็มปากเต็มคำ ในใจมีความสุขมาก เหมือนกินลูกอมน้ำผึ้ง

ตอนนี้เธอเป็นผู้ชาย ถ้าเรียกเธอว่าแฟนสาว หรือเรียกว่าภรรยาก็จะไม่สะดวก แต่การเรียนคนรัก ยังคงรักษาให้ความเคารพเธอ นอกจากนี้ยังทำให้รู้สึกถึงความหวงแหนและความเคารพ

ฉินซีตัดสินใจในใจแล้ว ต่อไปนี้ถ้าอยู่ข้างนอก จะให้ลู่เซิ่นเรียกตัวเองแบบนี้

คนรอบข้าง ไม่ได้รู้สึกโกรธในสิ่งที่ลู่เซิ่นพูด กลับรู้สึกยิ่งชอบเขา

มิน่าล่ะฉินซีถึงได้เลือกที่จะอยู่กับลู่เซิ่น เพราะเป็นผู้ชายที่มีความรับผิดชอบสูง และมีออร่าขนาดนี้ มีใครบ้างจะไม่ชอบ

ก็แค่เพศเดียวกันนี้ไม่สามารถเป็นสาเหตุได้

พอลู่เซิ่นพูดจบ ก็เดินไปข้างๆฉินซี จับมือเธอ “พวกเราไปเล่นกันเถอะ”

เมื่อก่อนฉินซีอยากมาสวนสนุก แต่ด้วยเหตุผลหลายประการ สุดท้ายก็ไม่ได้มา ตอนนี้ถือว่ามือโอกาสแล้ว ลู่เซิ่นอยากจะชดเชยให้เธอ

ถ้าทั้งสองคนออกไปพเนจรจริงๆ วิ่งไปสุดขอบโลก อยากจะเล่นสิ่งเหล่านี้ ก็น่าจะทำได้ยากมากแล้ว

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท