Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – บทที่ 1555 ความเข้าอกเข้าใจกัน

บทที่ 1555 ความเข้าอกเข้าใจกัน

ความโกรธก่อนของถังย่าประดุจลูกโป่งที่โดนเจาะแตก หลังจากที่เสียงของจ้านเซินจบลง เธอก็ทรุดตัวลงทันที

ดวงตาของเธอแดงก่ำอย่างความคุมไม่ได้

หลังจากนั้นจู่ๆก็รู้สึกอับอายเล็กน้อย อย่าเลยเถิดไปกว่านี้เลย เขาใช้ปลายนิ้วเช็ดน้ำตาที่ซึมอยู่ที่หางตา ทำเป็นใจเย็นแล้วพูดว่า:

“รอเดี๋ยวเถอะ คนนั้นกำลังมา”

เธอรู้สึกว่าตัวเองนั้นทั้งน่าขันทั้งน่าสมเพช

จึงระบายความโกรธออกมา แต่พอจ้านเซินพูดแค่ประโยคเดียวก็ใจอ่อน พอตัดสินใจที่จะตัดใจแต่เพราะเพียงแค่สายตาของเขาทำให้เธอตัดใจไม่ได้

ตอนนี้น้ำตาเธอไหลพราก ตอนพูดเสียงก็ขึ้นจมูก จึงทำให้ดูน่าขันเล็กน้อย

เธอกำลังพยายามอย่างหนักในโลกของเธอ แต่สุดท้ายก็ต้องผ่านทุกข์ผ่านสุขเพียงคนเดียวตามลำพัง แต่จ้านเซิน เขาไม่ได้รู้อะไรเลย

ถึงแม้จะรู้แล้ว แม้แต่เพียงคำถามเดียวก็ไม่มี

จ้านเซินไม่ได้ตอบ ถังย่าก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ในห้องคนไข้กลับมาเงียบเชียบอีกครั้ง ถังย่าได้แต่กัดริมฝีปากของตัวเอง เพราะเกรงว่าตัวเองจะมีร้องไห้เล็ดลอดออกมา

โชคดีที่ความเงียบแบบนี้ไม่นานนัก เพราะถูกขัดจังหวะจากเสียงฝีเท้าที่มาจากระยะไกล

ประตูห้องคนไข้ถูกเปิดออก ใบหน้าที่หวาดกลัวของจูเซี่ยงเหวินปรากฏขึ้น

เขารู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่เขาโชคร้ายที่สุดแล้ว

อยู่ดีๆทำไมถึงต้องไปถ่ายสองคนนั้นด้วย?โดนจับรุมกระทืบไม่ว่า จะต้องมาตกไปอยู่ในกำมือของคนที่น่ากลัวยิ่งกว่าอีก

เขาอยู่บนรถเป็นเวลาหลายนาทีด้วยความหวาดกลัว แต่ชายชุดดำที่ยืนอยู่ข้างเขาคนนั้นจับตามองเขาอยู่ตลอดเวลา และเขาก็ไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่านั้น ระหว่างที่รอด้วยความเนิ่นนาน ใจของเขาก็ค่อยๆสงบลง ทันใดนั้นชายชุดดำก็มีการเคลื่อนไหว

เขาไม่พูดอธิบายอะไรเลย เพียงแค่เปิดประตูรถ ทำท่าเหมือนคุมตัวนักโทษ แล้วนำตัวจูเซี่ยงเหวินออกมาจากรถ จูเซี่ยงเหวินรู้สึกอึดอัด อดไม่ได้ที่จะดึงดันแล้วถามไปว่า: “นายจะทำอะไร?นายจะพาฉันไปไหน?!”

แต่ผู้ชายคนนั้นกลับไม่พูดอะไรเลย จูเซี่ยงเหวินสงสัยว่าเขาเป็นใบ้ การเผชิญหน้ากับจูเซี่ยงเหวินที่ดึงดัน เขาเอื้อมมือออกไป แล้วบีบไปที่ใกล้ๆกับบริเวณลำคอของจูเซี่ยงเหวิน

จูเซี่ยงเหวินรู้สึกเพียงว่าลิ้นของเขาเริ่มชา สักพักก็ไม่ได้มีเสียงออกมาอีก

เขารู้ตัวดีว่าต่อให้เขาดันทุรังยังไงก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นทำได้แค่เลิกต่อต้าน และเดินตามผู้ชายชุดดำเดินเข้าไปในโรงพยาบาลอย่างเงียบๆ

ทั้งสองคนเดินไปได้สักสองสามนาที ก็หยุดอยู่ตรงที่หน้าห้องคนไข้ห้องหนึ่ง ผู้ชายคนนั้นไม่ได้พูดอะไร ได้เพียงแต่เปิดประตูและผลักเขาเข้าไป

พอจูเซี่ยงเหวินเงยหน้าขึ้น ก็เห็นผู้หญิงที่ชื่อถังย่า กับผู้ชายที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้

แต่เขายังไม่ทันได้ดูอย่างละเอียด ก็ถูกผู้สายชุดดำที่อยู่ข้างหลังคนนั้นผลัก เดินโซเซเข้าห้องคนไข้

เขาแทบจะคุกเข่าลงที่พื้น ดีที่คว้าจับข้างๆแล้วพยุงตัวเองไว้ได้ทัน แต่เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงที่ชื่อถังย่าไม่ได้สนใจว่าเขาจะมีอาการอย่างไร เขายังไม่ทันได้ยืนขึ้นก็เอ่ยปากขึ้นว่า: “เอาคำที่เคยพูดกับฉันก่อนหน้านี้พูดอีกครั้งสิ”

จูเซี่ยงเหวินหยุดนิ่ง และเข้าใจทันที ผู้ชายที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้คนนั้นน่าจะเป็นหัวหน้าของถังย่า เธอพาตัวเขามา ก็เพื่อจะหาใครสักคนมารับมือ

แต่เขามองเห็นไม่ชัดว่าผู้ชายที่อยู่บนเตียงหน้าตาเป็นอย่างไร จูเซี่ยงเหวินสัมผัสได้ถึงออร่าที่พุ่งออกมาจากตัวเขา สัญชาตญาณของเขาบอกว่า บุคคลนี้เป็นคนที่ไม่ควรจะมีเรื่องด้วยมากกว่าถังย่า

ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะทำแชเชือน เรียบเรียงคำพูดแล้วบอกว่า: “วันนี้ฉันเห็นผู้ชายหน้าตาดีสองคนที่สวนสนุก สองนั้นเหมือนจะเป็นคู่รักกัน เลยรู้สึกประทับใจ เลยอยากจะถ่ายรูปพวกเขาเพื่อจะดึงดูดความสนใจ…… ”

ทักษะการบรรยายของจูเซี่ยงเหวินไม่ค่อยดีนัก คำพูดก็ค่อนข้างจะออกแนวจู้จี้หน่อยๆ ตรรกะก็ไม่ค่อยจะดีนัก แต่ตอนนี้ถังย่าไม่มีอารมณ์ที่จะไปต่อว่าเขา จ้านเซินกำลังมึนงงกับฤทธิ์ยาระงับประสาท จึงไม่ทันได้ขัดตัดบทเขา ปล่อยให้เขาเริ่มพูดจากตอนที่เจอลู่เซิ่นกับฉินซี เล่าไปเรื่อยๆจนถึงตอนได้พบถังย่า เขาจึงเอ่ยปากพูดว่า :“คลิปวิดีโออยู่ที่ไหน เอามาให้ฉันดู”

โทรศัพท์ถูกถังย่าเอาไปนานแล้ว เธอไม่ได้มองจูเซี่ยงเหวินเลย ยื่นมือออกไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมา แล้วส่งต่อให้จ้านเซิน

ตอนแรกจูเซี่ยงเหวินตั้งใจจะฟ้องว่าถังย่าปฏิบัติอย่างไรกับเขาบ้าง แต่จู่ๆก็ถูกตัดบทไป ยังมีอีกหลายประโยคที่เก็บงำไว้ เขารู้สึกเสียความรู้สึกมาก แต่พอเห็นชายที่นอนบนเตียงคนไข้เริ่มดูคลิปวิดีโออย่างใจจดใจจ่อ เขาก็รู้เลยว่าไม่น่าจะมีโอกาสได้พูดอีกแล้ว ได้เพียงแค่เพียงก้มศีรษะและเบ้ริมฝีปากของเขา

ในห้องคนไข้เงียบขึ้นมาอีกครั้ง มีเพียงเสียงของลู่เซิ่นกับฉินซีที่ออกมาจากในโทรศัพท์

ถังย่าดูวิดีโอนั้นหลายรอบแล้ว ตอนนี้ไม่อยากดูลู่เซิ่นกับฉินซีทำท่าทางสวีทกันเลย เลยหันหน้าไปหาจูเซี่ยงเหวินแล้วโบกมือ ส่งสัญญาณให้เขาออกไป จากนั้นก็หันหน้ากลับมา แล้วมองออกไปทางนอกหน้าต่าง

พอจูเซี่ยงเหวินได้รับความเป็นอิสระ เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขากลัวว่าถังย่าจะกลับใจ จึงบิดกลอนเปิดประตู และออกไปข้างนอก

เขาควบคุมการปิดประตูได้ไม่ดีนัก จึงทำให้เกิดเสียงดังขึ้น ถังย่าหันไปด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย แต่สายตาของเขาจ้องไปที่ใบหน้าของจ้านเซินโดยที่เขาไม่รู้ตัว

จ้านเซินกำลังใจจดใจจ่ออยู่กับการดูคลิปวิดีโอ ถ้าไม่ดูใกล้ๆเขาก็เห็นโทรศัพท์ไม่ชัดเจน เธอคิดว่าว่าจ้านเซินแทบจะเอาโทรศัพท์ติดไว้บนหน้าเสียแล้ว

คลิปวิดีโอไม่ยาวนัก สักพักก็ใกล้จะเปิดถึงท้ายคลิป ถังย่าไม่ได้หันหน้ากลับมา คิดว่าจะรอให้เขาดูให้จบ แล้วค่อยมาหารือหาวิธีแก้ไขด้วยกัน

แต่พอถึงท้ายคลิป เมื่อเธอกำลังจะเอ่ยปากพูด ทันใดนั้นก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา

จ้านเซินเลยต้องเปิดคลิปใหม่อีกรอบ

ถังย่าขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วหันไปมองจ้านเซิน อยากจะเอ่ยปากเตือนเขา แต่เมื่อเธอเห็นแววตาตอนที่จ้านเซินดูคลิปแล้ว จึงกลับถอยกลับทันที

ดวงตาของจ้านเซินเป็นประกาย

ราวกับ……นักเดินทางที่เดินอยู่ในทะเลทรายมาหลายวัน จู่ๆ ก็เห็นพื้นที่สีเขียวอยู่ตรงหน้า

เธอรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา แต่เธอกลับไม่สามารถเข้าใจจ้านเซินได้

เธอไม่ได้สุขสมหวังกับจ้านเซิน จ้านเซินก็ไม่สุขสมหวังกับฉินซีเหมือนกัน

ถ้าเธอมีโอกาสเธอจะอยู่ข้างๆจ้านเซินทุกวัน แต่สิ่งที่จ้านเซินต้องการคือคนที่ต้องการจะจากเขาไปตลอดเวลา

ความเจ็บปวดของเขา ก็คงไม่น้อยไปกว่าความเจ็บปวดของถังย่า

ดังนั้นถังย่าเป็นคนที่มีความอดทนมาก รออยู่ข้างๆ รอจ้านเซินดูคลิปวิดีโอซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งแบตโทรศัพท์ใกล้จะหมด เขาถึงยอมปิดหน้าจอ

แต่เขาไม่ได้วางแผนที่จะเอาโทรศัพท์คืนให้กับถังย่า เขากลับกำไว้ในมือแน่น แล้วหลับตา

ความอ่อนแอที่อยู่บนใบหน้าของเขาทำให้ถังย่าไม่รู้ว่าจะพูดอะไร คำถามที่เธอวางแผนจะถามทั้งหมดจึงหยุดไว้ก่อน

ลักษณะของจ้านเซิน……เห็นได้อย่างชัดเจนว่าไม่เหมาะที่จะปรึกษาหารือเรื่องลู่เซิ่นกับฉินซีเลย

สองคนเงียบไปเป็นเวลานานสักพัก จนกระทั่งจ้านเซินลืมตาแล้วพูดว่า

“ฉินซีไปจากฉัน แล้วจะมีความสุขใช่มั๊ย?

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท