Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – บทที่ 1553 จูบ

บทที่ 1553 จูบ

ถังย่าตกตะลึง พร้อมขมวดคิ้ว:“ เธอพูดให้ชัดเจนนะ อะไรที่เรียกว่ามีแนวโน้มจะทำร้ายผู้อื่น”

รูปลักษณ์ของถังย่าทำให้คนยากที่จะลืม ดังนั้นพยาบาลจำเธอได้ชัดเจน ตั้งแต่ผู้ป่วยห้อง8192มาก็เป็นเธอที่เคยอยู่ข้างๆตลอดเวลา พยาบาลเหล่านั้นลับหลังแล้วยังเคยพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับผู้ป่วย ต่างก็ลงความเห็นกันว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์เป็นคู่รักกัน ดังนั้นถึงแม่ว่าถังย่าจะถามลงรายละเอียด เธอก็ไม่ได้ปิดบัง เพียงแต่ลังเลแค่ครู่หนึ่ง จึงได้พูดความจริงออกมาว่า:“ ประมาณครึ่งชั่วโมงที่แล้ว ผู้ป่วยอาละวาดขั้นรุนแรง ทำร้ายรปภ.ของโรงพยาบาลเราไปหลายคน แม้แต่อารักขาที่คุณพามาด้วยก็ถูกเขาทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บไปหลายคน สุดท้ายคุณหมอเลยต้องฉีดยาระงับประสาท เขาถึงสงบสติลงได้ คุณหมอกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก จึงส่งเขาไปที่ห้องคนไข้พิเศษ ใช้ยาระงับประสาทควบคุมเขาไว้”

ถังย่าฟังคำพูดของพยาบาลแล้วกลับขมวดคิ้วหนักขึ้น:“ ยาระงับประสาท?ปริมาณยาระงับประสาทที่พวกคุณฉีดคือเท่าไร?”

พยาบาลชะงัก เสียงเบาดั่งเสียงยุงและแมลงวัน :“ ……ปริมาณสามเท่า”

สีหน้าของถังย่าเคร่งขรึม

เธอรู้ว่า จ้านเซินได้รับการฝึกพิเศษต่อการต่อต้านยา ยาระงับประสาทที่ใช้ได้กับคนธรรมดาทั่วไปสำหรับเขาแล้ว น่าจะใช้ไม่ได้ผล

แต่เธอก็นึกไม่ถึงว่าทางโรงพยาบาลจะใช้ยาในปริมาณสามเท่าในคราวเดียวกัน

เธอกัดฟันพูดแบบไม่ค่อยเต็มใจว่า:“พาฉันไปพบเขา เดี๋ยวนี้”

อาจจะเป็นเพราะสีหน้าของเธอแย่เกินไป พยาบาลพยักหน้าด้วยความหวาดกลัว ไม่ได้เอ่ยปากอะไรอีก แล้วพาเธอเดินไปที่ลิฟต์

ถ้าใช้ยาระงับประสาทเกินขนาด……ถ้าอาการหนักอาจจะทำให้เป็นอันตรายต่อชีวิตได้

บางทีอาจจะเป็นเพราะบรรยากาศในลิฟต์เงียบเกินไป พยาบาลอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น:“คุณถังไม่ต้องกังวลเกินไปนะคะ พวกเราฉีดตามปริมาณที่คุณหมอบอกค่ะ ไม่ได้สุ่มทำมั่วๆ”

แต่ยังพูดยังไม่ทันจบประโยค เธอเหลือไปเห็นสีหน้าถังย่า จึงเงียบปากโดยอัตโนมัติ

แม้ว่าถังย่าจะรู้ว่าคุณหมอประเมินตามลักษณะอาการของจ้านเซินแล้วถึงกล้าฉีด แต่ไม่ให้เธอกังวล เธอยากที่จะทำได้

เสียงของลิฟต์ที่ดังขึ้นทำลายความเงียบลง พยาบาลเองก็เกือบจะทนความกดดันจากถังย่าไม่ไหว เดินจ้ำอ้าวออกไปอย่างรวดเร็ว เลี้ยวสองสามรอบด้วยความถนัดในเส้นทาง แล้วเอื้อมมือออกไป:“ก็คือที่นี่ค่ะ”

ถังย่าอยู่ข้างหลังเธอไม่กี่ก้าว ก็เห็นการ์ดที่คุ้นเคยยืนอยู่หน้าประตูแบบระยะไกลๆ

แต่ไม่มีจูจื้อซิน

เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ ณ ตอนนี้จ้านเซินส่งผลต่ออารมณ์ความคิดทั้งหมดของเธอ เธอไม่มีเวลาว่างที่จะไปคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับจูจื้อซิน ดังนั้นเธอจึงพักเรื่องนี้เอาไว้ชั่วคราว แล้วกลับมาโฟกัสที่ตัวจ้านเซินอีกครั้ง เธอเดินเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงหน้าห้องคนไข้ ไม่มีคำทักทายใดๆกับการ์ดทั้งสองเลย เธอยื่นมือออกไปเปิดประตู

พยาบาลไม่ได้เอื้อมมือห้ามเธอ ปล่อยให้เธอเดินเข้าไปเอง

ในห้องผู้ป่วยเงียบกว่าข้างนอกมาก ได้ยินแค่เพียงเสียงหึ่งๆเบาๆของเครื่องมือที่กำลังทำงานอยู่เท่านั้น

ถังย่าลดเสียงฝีเท้าลงโดยไม่รู้ตัว แล้วค่อยๆเดินไปหัวเตียงคนไข้

แต่ก่อนเมื่อตอนที่จ้านเซินยังมีสติอยู่ เธอจะหยุดเว้นระยะห่างต่อหน้าจ้านเซินหนึ่งเมตรเสมอ

ไม่ว่าจ้านเซินเป็นผู้นำที่น่าเกรงขามขององค์กร หรือเพราะถังย่ามีเรื่องไม่ดีปิดบังในใจ ยังไงเธอก็จะไม่เข้าใกล้เขาจนเกินไป แต่อาจจะเป็นเพราะตอนนี้จ้านเซินนอนสงบนิ่งอยู่บนเตียง ทำให้ถังย่าเหมือนจะโดนมนต์สะกด เธอเดินใกล้เข้าไปทีละก้าวๆจนยืนอยู่ข้างเตียง จึงได้หยุดเดิน

เธอลดสายตาลงแล้วจ้องมองไปที่จ้านเซิน

เธอไม่เคยเห็นจ้านเซินเวลานอนหลับเลย ในทางตรงกันข้าม มีช่วงเวลาหนึ่ง เธอต้องรับผิดชอบตารางงานของจ้านเซิน เธอต้องปลุกเขาตื่นนอนแทบจะทุกวัน

แต่ตอนนั้นกับตอนนี้ไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง

ตอนนั้นเธอรู้ว่าถึงยังไงจ้านเซินจะตื่นขึ้นมาตอนไหนก็ได้ ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาจะหลับตาอยู่ ถังย่าบังคับตัวเองไม่ให้มองมากจนเกินไป เธอยืนอยู่ข้างๆอย่างมีระเบียบวินัย

คำพูดของพยาบาลคนนั้นดังก้องอยู่ข้างหูถังย่า

“คุณวางใจได้ แม้ว่าการฉีดยาระงับประสาทเป็นปริมาณมากถึงสามเท่า จะทำให้คุณจ้านเข้าสู่โหมดที่หลับลึกมากๆในตอนนี้ แต่ความสามารถในกระบวนการการเผาผลาญของคุณจ้านดีกว่าที่พวกเราเคยเจอมาในรอบหลายปี รอส่วนผสมของยาระงับประสาทถูกเผาผลาญแล้ว เขาก็จะตื่นขึ้นมาได้ตามปกติ” ณ เวลานั้นถังย่าให้ความสนใจแค่คำพูดครึ่งหลังของพยาบาล แต่ในเวลานี้ไม่รู้ทำไม จู่ๆสมองก็เต็มไปด้วยคำพูดในครึ่งประโยคแรก

“โหมดที่หลับลึกมากๆ”

ถังย่าพึมพำด้วยน้ำเสียงที่ต่ำ เธอโน้มตัวลงไปอย่างช้าๆ ค่อยๆยื่นมือออกมา จินตนาการตามโครงร่างกระดูกคิ้วของจ้านเซิน

เห็นได้ชัดว่าเป็นการกระทำที่ออกมาจากความรู้สึกที่ลึกซึ้ง ณ ตอนนี้เธอกลับรู้สึกศรัทธาขึ้นมา

กระดูกคิ้วของจ้านเซินสูงมาก ดังนั้นหน้าตาจึงดูเฉียบแหลม บวกกับรูปร่างสูงใหญ่และดูเย็นชา ดังนั้นตอนที่เขาฟื้นอยู่ ถึงแม้ว่าจะไม่จะได้พูดอะไร แค่เพียงยืนอยู่ข้างๆ ทุกคนก็ต่างก็รู้สึกห่างเหิน

แต่เขาที่กำลังหลับตาอยู่ตอนนี้ นอนอยู่บนเตียงคนไข้อย่างสงบ

ถึงแม้ว่าจะฉีดยาระงับประสาท บางทีเขาอาจจะยังหลับไม่สนิท จ้านเซินขมวดคิ้วเล็กน้อย ลักษณะอย่างนี้คนแปลกหน้ามองแวบเดียวก็จะรู้ว่าบุคคลคนนี้ไม่ควรที่จะมีเรื่องด้วย

แต่ถังย่ากลับติดกับดักความเป็นตัวของเขา

ปลายนิ้วของเธอสไลด์บนผิวของจ้านเซินไปมาอย่างกล้าๆกลัว

ถ้าหากจ้านเซินลืมตาขึ้นมาในตอนนี้ บางที่เขาอาจจะประหลาดใจกับแววตาที่ลึกซึ้งของถังย่า

“ทำไมนะ……”

เธอพึมพำ ไม่รู้ว่ากำลังถามจ้านเซินที่หลับใหลอยู่ หรือว่าถามตัวเอง

ทำไมต้องเป็นเขาด้วยนะ

ทำไมถึงต้องเป็นเขานะ

ทั้งๆที่รู้ว่าหัวใจของเขามีไว้ให้คนอื่นตลอดไป ไม่วันที่จะมีที่ว่างสำหรับตัวเอง แต่อย่างไรก็ไม่มีวิธีโน้มน้าวใจให้ยอมแพ้ได้

ไม่กล้าเอ่ยปาก ไม่กล้าอธิบาย กลัวว่าถ้าเขารู้แล้วจะถูกผลักไส ถึงขั้นกลัวว่าเขาจะเกลียดตัวเอง จึงได้เพียงแต่เก็บรักไว้ในใจอย่างไร้ซึ่งความหวัง เปรียบเสมือนการรักษาน้ำในอุ้งมือกลางทะเลทราย

บนใบหน้าของถังย่ามีความเศร้าปะปนอยู่ในความรู้สึกอันลึกซึ้ง รอยยิ้มที่มุมปากของเธอดูขมขื่นอย่างเห็นได้ชัด

นี่คือสิ่งที่ไม่มีวันจะได้มาครอบครอง แต่กลับไม่ยอมปล่อยผู้ชายไป……

บางทีการที่จ้านเซินหลับใหลชั่วคราวเหมือนเป็นการให้กำลังใจเธอ หรือบางทีความรักที่สิ้นหวังในหัวใจทำให้เธออาลัยตายอยาก เธอไม่รู้ว่าจู่ๆเอาความกล้าหาญมาจากไหน เธอดึงมือกลับมา แล้วหันหลังกลับ ไม่ให้เวลาตัวเองในการลังเลอะไรอีกต่อไป เธอค่อยๆ เอนตัวลงไปอย่างช้าๆ

เธอไม่กล้าหาญพอที่จะจูบไปที่ริมฝีปากของจ้านเซิน ริมฝีปากของเธอค่อยๆขยับมาตรงกลางระหว่างคิ้วของจ้านเซิน

หรือบางที เธอก็แค่เพียงอยากให้รอยหยักระหว่างคิ้วของจ้านเซินเรียบขึ้น

……นี่อาจจะเป็นโอกาสเดียวในชีวิตของเธอที่จะได้ใกล้ชิดสนิทสนมกับจ้านเซิน

ถังย่าไม่ได้หลับตา เธอไม่รู้ว่าต่อจากนี้จะได้มีโอกาสมองจ้านเซินในระยะห่างอย่างนี้อีกมั๊ย ดังนั้นเธอไม่ยอมปล่อยผ่านแม้แต่วินาทีเดียว

จนกระทั่งตอนที่ริมฝีปากของเธอกำลังจะสัมผัสตรงกลางระหว่างคิ้วของจ้านเซิน

ถังย่ารู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างกำลังปัดคางของเธอเบาๆ

มันนุ่มๆ เหมือนแปรงเล็กๆสองอัน

นี่คือ……

ถังย่าสะดุ้งตกใจไปทั้งตัว

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท