Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – บทที่ 1562 เข้าใจผิดครั้งใหญ่

บทที่ 1562 เข้าใจผิดครั้งใหญ่

แม้จะบอกว่าถูกโพสต์ลงในอินเทอร์เน็ตเพราะถูกแอบถ่าย และถูกองค์กรจับตามอง แต่พวกเขาก็รู้ก่อน จึงรีบออกจากสวนสนุก แล้วเปลี่ยนหน้ากากหนังคนทันที ก็สามารถเลี่ยงการไล่ฆ่าได้ ทำไมต้องพูดขนาดนั้นด้วย?

ฉินซีเม้มปาก ส่ายหัว “ถ้าเช่นนั้นคุณก็พูดเอง พวกเราหลบๆซ่อนๆตลอดเวลา แล้วเมื่อไหร่จึงจะสามารถประชันกับจ้านเซินได้จริงๆล่ะ?”

โจวเอ้ออึ้ง พูดอะไรไม่ออก

เมื่อเร็วๆนี้สถานการณ์ของบริษัทลู่ซื่อไม่ค่อยดี ลู่เซิ่นไม่ได้ปรากฏตัวมานานมากแล้ว ข่าวลือต่างๆนานาเต็มไปหมด ราคาหุ้นก็ตกมาหลายวันแล้ว

…….ถ้าด้วยเหตุผลนี้ การเคลื่อนไหวของลู่เซิ่นกับฉินซี ก็ใช่ว่าจะไม่เข้าใจ

หลังจากโจวเอ้อเงียบไป ลู่เซิ่นกล่าวว่า “ฉันรู้ไม่ว่าจะประชันกับจ้านเซินด้วยวิธีตัวต่อตัว หรือเบื้องหลังฉันจะมีคนคอยหนุน คิดจะล้มเขาในตอนนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ว่าโจวเอ้อ ถ้าคิดจะหลบซ่อนแล้วสะสมกำลังก็เป็นไปไม่ได้ ตอนนี้ เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการรวบรวมกำลังของพวกเราทั้งหมดที่มีอยู่”

โจวเอ้อขมวดคิ้ว แต่น้ำเสียงที่พูดได้ถูกชักชวนเรียบร้อยแล้ว “กำลังที่สามารถรวบรวมได้ ? ฉันกับตระกูลของฉันจะช่วยเหลือคุณอย่างเต็มที่ แต่ว่าตระกูลอื่นในเมืองหนาน………ที่เป็นเพื่อนที่ดีของบริษัทลู่ซื่อเหล่านั้นไม่ต้องพูดถึง แต่พวกที่ดีกับตระกูลมู่เหล่านั้น……..เกรงว่าจะกำลังรอหัวเราะเยาะคุณอยู่ ก็อย่าไปหวังว่าพวกเขาจะช่วยคุณเลย”

หลังจากที่โจวเอ้อพูดจบ สีหน้าเคร่งขรึมมาก แต่พอเงยหน้าขึ้นมองลู่เซิ่น เห็นว่าเขามีสีหน้าที่ผ่อนคลายมากกว่าเขาอีก จึงมีความสงสัยเล็กน้อย กำลังจะเปิดปากถาม แต่กลับถูกลู่เซิ่นขัดจังหวะก่อน

“คนของตระกูลมู่…….อีกไม่นานก็จะช่วยเหลือฉัน” เขาพูดอย่างมั่นใจ โจวเอ้อกลับไม่อยากจะเชื่อ

“ในช่วงนี้ก็มีข้อมูลข่าวสารอยู่บ้าง มีใครบ้างที่ไม่รู้ว่าพวกคุณสองตระกูลมีปัญหากัน แล้วคุณจะให้เขาช่วยคุณอย่างไร?”โจวเอ้อเยาะเย้ย

เมื่อไม่กี่เดือนก่อน มู่วี่สิงยังคงตามหาร่องรอยของฉินซีอยู่ ดูยังไงก็เหมือนว่าเขาต้องการจะลงมือกับฉินซี แต่ลูเซิ่นได้พาเวินจิ้งไปอย่างเงียบๆ สำหรับมู่วี่สิงแล้วนี่ไม่เหมือน “การแก้แค้น” โจวเอ้อคิดยังไงก็คิดไม่ออกว่า มู่วี่สิงจะช่วยลู่เซิ่นได้อย่างไร

รอยยิ้มของอลู่เซิ่นยังคงดูผ่อนคลายมาก “คุณเข้าใจเรื่องราวภายใน ก็ต้องรู้ว่า ระหว่างฉันกับมู่วี่สิง สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเวินจิ้งผู้หญิงคนนั้น”

ในตอนแรกเป็นเพราะการมอบหมายของหลินยี่ เขาจึงพาเวินจิ้งกลับมาประเทศFอย่างไม่ค่อยเต็มใจ ตอนนั้นเพียงแค่คิดว่าอาจจะทำให้มู่วี่สิงโกรธและมีผลตามมาเช่นนี้ แต่ไม่คิดว่าจะทำให้ฉินซีเข้าใจผิดครั้งใหญ่แบบนั้น

แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถปกป้องตัวเองได้แล้ว จะให้เวินจิ้งมาอยู่ข้างกายก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด สู้ถือโอกาสแสดงน้ำใจให้เวินจิ้งไปอยู่กับมู่วี่สิงดีกว่า และยังสามารถขจัดความเข้าใจผิดของมู่วี่สิงที่มีต่อตนเองมาโดยตลอดได้

โจวเอ้อพยักหน้า แต่ก็ยังเหมือนไม่เข้าใจ “ในเมื่อคุณรู้ว่ามู่วี่สิงเข้าใจคุณผิดมาโดยตลอด แล้วทำไมถึงคาดหวังว่าเขาจะยื่นมือมาช่วย?”

ลู่เซิ่นยิ้ม “เนื่องจากความเข้าใจผิดเกิดจากเวินจิ้งผู้หญิงคนนั้น ตอนนี้ ก็แก้ไขความเข้าใจผิดนี้ซะ ก็แค่นั้น?”

โจวเอ้ออึ้ง ใบหน้าค่อย ๆ แสดงอาการมึนงงเล็กน้อย แต่ก็ยังมีความลังเลเล็กน้อยในดวงตา “ความเข้าใจผิดนี้……เกรงว่าจะไม่ได้แก้ไขได้ง่ายๆเช่นนั้นล่ะสิ?”

ในเมื่อตอนที่ลู่เซิ่นพาเวินจิ้งไปเรื่องโด่งดังมาก โจวเอ้อก็ได้ยินข่าวลือมาบ้าง ลู่เซิ่นพาเวินจิ้งไปตรงหน้าของมู่วี่สิงแล้วเยาะเย้ยก่อนออกไป เมื่อไปถึงประเทศFก็จัดงานแต่งที่ยิ่งใหญ่มาก และเชื่อสนิทใจว่าระหว่างลู่เซิ่นกับเวินจิ้งเป็นสามีภรรยากัน

ถ้าครั้งนี้เขาพาเวินจิ้งมาอธิบายว่า ระหว่างพวกเขาเป็นเพียงความสัมพันธ์ระหว่างเรื่องงาน เกรงว่าจะยาก ที่ใครจะเชื่อทันที

เดิมทีในใจก็มีความคับข้องใจต่อมู่วี่สิงอยู่แล้ว น่าจะยากที่จะเชื่อคำอธิบายเหล่านี้

ลู่เซิ่นส่ายหัวเบาๆ “คำพูดนี้ฉันพูดเอง มู่วี่สิงน่าจะไม่เชื่อแน่นอน ต้องให้คนที่เหมาะสมไปพูด ถึงจะได้ผลดี”

โจวเอ้อก็ไม่ได้โง่ เมื่อฟังก็เข้าใจแล้ว ยักคิ้วขึ้นช้าๆ ตะลึงเล็กน้อย “คุณหมายถึง……ให้เวินจิ้งไป?”

แต่เท่าที่เขารู้ ตอนนั้นเวินจิ้งกับมู่วี่สิงทะเลาะกันหนักมาก ถึงได้ไปกับลู่เซิ่นด้วยความท้อใจ จะให้เธอไปอธิบายกับมู่วี่สิงให้เข้าใจ ให้เธอลดระดับตัวเองลง เธอจะยอมได้อย่างไร?

ลู่เซิ่นยิ้มแล้วไม่พูดอะไร เปลี่ยนเป็นฉินซีพูดแทน

เสียงของเธอยังคงอ่อนโยน แต่เนื้อหาในคำพูดของเธอ ไม่ได้อ่อนโยนนัก “อันที่จริงเรื่องนี้ หลังจากที่ฉันถูกจ้านเซินนำตัวไป ก็คิดที่อยากจะทำแล้ว มู่วี่สิงเข้าใจตระกูลลู่ผิดมาโดยตลอด สำหรับตระกูลมู่กับตระกูลลู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องดีเลย อย่างไรก็ถือว่าเป็นตระกูลอันดับหนึ่งและสองของเมืองหนาน ก็คงเหมือนนกกับหอยทะเลาะกัน แต่คนตกปลาได้รับประโยชน์ ถูกพวกตระกูลเล็กๆก็จะหาประโยชน์จากช่องโหว่ ตอนนั้นฉันอยู่กับลู่เซิ่นก็หารือกันเรื่องวิธีแล้ว แต่ถ้าโดนจ้านเซินขัดขวางแผนการ ตอนนี้กำลังต้องการความช่วยเหลือจากตระกูลมู่ เรื่องนี้ก็กลับคืนมาในแผนการของเราอีกครั้ง”

เธออ้อมไปอ้อมมาแต่ไม่มีการบอกว่าสรุปแล้วพวกเขาจะทำอะไรกันแน่ โจวเอ้อมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีนัก ดังนั้นเพียงแค่ขมวดคิ้วเล็กน้อยและไม่มีคำตอบ

ฉินซีก็ไม่ได้สนใจความเงียบของเขา เขาพูดของตัวเองจนเสร็จแล้ว หลังจากนั้นก็นิ่งไปไม่กี่วินาที แล้วก็พูดขึ้นว่า “ความจริงในใจของเวินจิ้งไม่เคยลืมจ้านเซินเลย แค่ตอนจากไปเด็ดขาดเกินไป ไม่ได้เผื่อทางเดินในอนาคตเลย ตอนนี้ถ้าจะกลับไปอีกครั้ง ก็คงจะรู้สึกอับอาย และจ้านเซินก็เข้าใจผิดมาโดยตลอด คิดว่าเวินจิ้งและลู่เซิ่นได้กลายเป็นครอบครัวเดียวกันไปนานแล้ว ดังนั้นไม่อยากแย่งเวินจิ้งกลับคืนมา ด้วยมือที่โหดเหี้ยม ทั้งสองคนคงไม่กล้าเดินเข้าหากัน ก็มีเพียงพวกเราคนข้างกายเท่านั้นที่จะช่วยดันพวกเขาเข้าหากันได้ โจวเอ้อ คุณก็น่าจะรู้ เวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับชายหญิงที่จะเปิดใจคุยกันเรื่องในใจ คือเวลาไหนใช่ไหม”

โจวเอ้อตกตะลึง เขารู้คำตอบจากคำถามของฉินซีแน่นอน

……หลังจากนัดบอดแบบตัวถึงตัว เป็นบรรยากาศลงตัวที่สุด ความในใจอะไรก็ไม่สามารถเก็บไว้ในใจได้

เขาแค่คาดไม่ถึง ฉินซีจะเสนอวิธีนี้ออกมา

ดังนั้นโจวเอ้อจึงไตร่ตรองสองสามวินาที ไม่ได้ตอบคำถามของเธอโดยตรง แต่กลับย้อนถาม “…….คุณต้องการจะทำเช่นนี้จริงๆหรอ?”

ฉินซีพยักหน้าอย่างมั่นใจ “ถ้าไม่ถูกจ้านเซินนำตัวไป ฉันก็คงจะแค่มีความคิดนี้ แต่จะไม่รีบร้อนที่จะนำไปใช้ ตอนนี้ฉัน สามารถบอกคุณได้อย่างมั่นใจว่า ฉันต้องการจะทำเช่นนี้ พวกเราต้องการกำลังของตระกูลมู่เพื่อต่อสู้กับองค์กร และเพื่อแก้ไขความเข้าใจผิดนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด”

โจวเอ้อกล้ามเนื้อทั้งตัวเกร็งไปสักครู่ จ้องมองแววตาที่แน่วแน่ของฉินซี แล้วค่อยๆจำนน ค่อยๆผ่อนคลายลง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน