Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – บทที่ 1566 เข้ากันไม่ได้

บทที่ 1566 เข้ากันไม่ได้

ฉินซีไม่แสร้งทำเป็นเข้มแข็งต่อหน้าลู่เซิ่น

เธออยู่ในองค์กรมานาน ภารกิจที่ยากกว่านี้หลายเท่าก็ผ่านมาแล้ว

ดังนั้นเมื่อเธอเดินเข้าไปในทางเข้าหลักของบาร์ ทำตัวผ่อนคลายมาก

เมื่อก้าวเข้าไปอีกก้าว เมื่อใบหน้าของฉินซีปรากฏใต้แสงไฟในบาร์ เธอก็รู้สึกถึงสายตาที่จ้องมองมาจากทุกทิศในทันที

ที่เปิดเผยหน้าตา ที่สำรวจ ที่มุ่งร้าย และแม้กระทั่งที่เป็นศัตรู ——ฉินซีสงสัยว่าน่าจะเป็นคนขององค์กร

แต่เธอไม่ได้ตกใจกลัวสายตาเหล่านี้มากนัก ฝีเท้าของเธอไม่มีการหยุดเลย ก้าวเดินเข้าไปด้านใน

อย่างที่กล่าวโจวเอ้อกล่าวไว้ ตำแหน่งของเวินจิ้งชัดเจนมาก แค่ฉินซียืนมองจากประตูก็จะเห็นเธอทันที

เธอนั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์คนเดียว ถือแก้วค็อกเทลหลากสี พร้อมกับรอยยิ้มจางๆ ที่มุมปากของเธอ กำลังพูดคุยกับบาร์เทนเดอร์

ที่จริงแล้วมีคนนั่งดื่มคนเดียวในบาร์มีไม่น้อย และรูปร่างหน้าตาของเวินจิ้ง ก็ไม่ได้โดดเด่นเป็นพิเศษ สิ่งที่ทำให้เธอโดดเด่นเป็นพิเศษน่าจะเป็นนิสัยของเธอที่ไม่เข้ากับบาร์ที่มีเสียงดัง

แม้แต่ฉินซียังต้องยอมรับว่า เวินจิ้งมีนิสัยเฉพาะตัวที่บอกไม่ถูก เหมือนกับน้ำอุ่นหนึ่งแก้วที่อุณหภูมิกำลังดี เมื่อมองแวบแรก ก็ทำให้รู้สึกสะดุดตา

…….. บางทีนี่อาจเป็นสาเหตุที่มู่วี่สิงไม่สามารถปล่อยเธอไปได้

ขณะที่ฉินซีกำลังคิดในใจ เดินไปทางด้านขวาของเวินจิ้งอย่างไม่รีบร้อน——แก้วไวน์ของเวินจิ้งวางอยู่ทางด้านขวาของเธอ

ฉินซีได้เอาแคปซูลไว้ด้านในมือขวาก่อนแล้ว และในขณะนี้ก็จงใจยื่นมือซ้ายตบไหล่ซ้ายของเวินจิ้ง

ในบาร์เสียงดังมาก เวินจิ้งจึงไม่ได้ยินเสียงเท้าของฉินซีที่เดินเข้ามา บาร์เทนเดอร์ถูกเรียกออกไปพอดี เธอกำลังก้มดูโทรศัพท์อย่างตั้งใจ และไม่ได้สังเกตว่ามีคนหนึ่งเดินเข้ามาข้างกาย จู่ๆก็มาตบไหล่ ทำให้ตกใจ จึงหันมองไปด้านซ้ายอย่างทันใด

………ไม่มีใครอยู่ทางด้านซ้าย เธอหันหลังกลับด้วยความสงสัยเล็กน้อย จึงสังเกตเห็นว่ามีคนยืนอยู่ทางด้านขวาของเธอหนึ่งคน

เธอเงยหน้าขึ้นช้าๆและมองไป——

“ฉินซี?” น้ำเสียงของเวินจิ้งมีความแปลกใจเล็กน้อย

ฉินซีแค่ยิ้มจางๆ แล้วนั่งลงข้างๆเธอ แล้วกวักมือเรียกบาร์เทนเดอร์เพื่อขอน้ำโซดาหนึ่งแก้ว

“ฉันไม่คิดว่าคุณก็จะมาที่แบบนี้ด้วย” บาร์เทนเดอร์เสิร์ฟน้ำโซดาของฉินซีขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ยกขึ้นจิบเล็กน้อย แล้วจึงเริ่มพูด

เวินจิ้งมองเธอขึ้นและลง

ตั้งแต่เธอรู้ว่าฉินซีเป็นสายลับ เธอก็เริ่มอยากรู้มากขึ้นเกี่ยวกับฉินซี แต่มีลู่เซิ่นคั่นอยู่ระหว่างเธอกับฉินซี จึงไม่มีโอกาสที่จะได้สนทนากันอย่างสันติ ใช่ว่าเวินจิ้งจะไม่รู้สึกเสียใจกับเรื่องนี้เลย

ตอนนี้มีโอกาสได้ใกล้ชิดสักครั้งหนึ่ง เธอจะไม่ยอมปล่อยมันไปง่ายๆอย่างแน่นอน

และตอนนี้ผู้หญิงที่นั่งข้างๆเธอ นอกจากออร่าที่จงใจปกปิดและรูปลักษณ์ที่งดงาม ก็ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากคนอื่นๆมากนัก…… สองอย่างนี้ต่างกัน กับสถานะที่เธอเป็นสายลับ ดูเหมือนไม่เกี่ยวข้องกันเลย

ในเวลานี้ เธอเอนกายพิงเคาน์เตอร์บาร์อย่างสบายๆ ดื่มน้ำโซดาอย่างเกียจคร้าน ก็เหมือนกับทุกคนที่มาบาร์แห่งนี้ หลังเลิกงานก็มาผ่อนคลาย

ฉินซีสัมผัสได้ถึงการจ้องมองของเวินจิ้งบนตัวของเธอ และในที่สุดก็เก็บสายตากลับไปราวกับว่ามองพอแล้ว

เพื่อหลีกเลี่ยงการจ้องตากับเวินจิ้ง ฉินซีจึงก้มหน้าดื่มน้ำโซดาในมือ จากการหรี่ตามอง ในที่สุดก็เห็นเวินจิ้ง ยกมือหยิบแก้วขึ้นและจิบไวน์

เธอจึงแอบโล่งใจในใจของเธอ

ยาในมือขวาของเธอใส่ลงในแก้วไวน์ของเวินจิ้ง ตั้งแต่ที่เธอเอื้อมมือออกไปตบไหล่เวินจิ้ง และเวินจิ้งหันมาทางด้านซ้ายแล้ว ยาชนิดนั้นไม่มีสีและไม่มีกลิ่น และละลายได้เร็วมากในน้ำ เมื่อเวินจิ้งหันมา ในแก้วไวน์ก็เป็นปกติ ดูไม่ออกว่ามีอะไรเปลี่ยนไป

และเนื่องจากเวินจิ้งดื่มไปหนึ่งคำ แน่นอนว่าไม่สามารถหนีฤทธิ์ของยาได้แล้ว

ในใจของฉินซีสงบลง และแสดงท่าทางชิวๆอยู่ข้างๆเวินจิ้ง ทำให้เวินจิ้งดื่มไวน์อีกครั้ง อดไม่ได้หันกลับมาถามเธอ “ฉันเจอคุณที่นี่ น่าจะเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงมากกว่า”

ฉินซีเงยหน้าขึ้น หรี่ตาลงเพื่อมองเวินจิ้ง และพูดอย่างเฉยเมย “ฉันไม่เหมือนคุณ ตอนนี้ในนามคุณเป็นภรรยาของลู่เซิ่น ถ้าหากถูกคนพบในสถานที่เช่นนี้ น่าจะไม่ใช่เรื่องดีสำหรับตระกูลลู่”

เวินจิ้งดื่มไวน์คำสุดท้ายในแก้ว จากนั้นหันกลับและยิ้มให้ฉินซี “ฉันกับลู่เซิ่นมีความสัมพันธ์กันยังไง ไม่มีใครรู้ดีเท่าคุณแล้ว แล้วทำไมต้องพูดคำเหล่านี้กับฉันด้วย?”

ฉินซีก้มหน้าดื่มน้ำโซดา ไม่ได้ตอบกลับทันที

ทั้งสองคนเงียบไปสักพัก

เวินจิ้งไม่ได้คุยกับฉินซีต่อ แต่หันไปคุยกับบาร์เทนเดอร์ในหัวข้อที่พวกเขายังพูดคุยไม่จบ และฉินซีก็นั่งอยู่ข้างๆ นับเวลาแล้วจิบน้ำโซดาของเธอไป

เมื่อน้ำโซดาของเธอหมดลง เวินจิ้งก็เริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติแล้ว

“ทำไมคืนนี้ที่นี่ของพวกคุณถึงได้ร้อนขนาดนี้?” เธอขมวดคิ้วและถามบาร์เทนเดอร์ ขณะที่เธอพูด เธอเอามือไปดึงปลอกคอเสื้อของตัวเอง

สีหน้าของบาร์เทนเดอร์ตกใจ “ร้อนมากหรอ? ก็เหมือนปกติไม่ใช่หรอ?”

เวินจิ้งเห็นใบหน้าของเขาไม่ชัดเจน และเธอก็รู้สึกมึนๆ “หรือว่าคืนนี้คุณผสมไวน์แรงเกินไป?”

บาร์เทนเดอร์ส่ายหัวอย่างแน่วแน่ “เป็นไปไม่ได้”

เวินจิ้งพึมพำกับตัวเอง “น่าแปลกจริง……..ทำไมฉันถึงได้ร้อนจัง ไม่ได้ ฉันจะไปห้องน้ำ”

พูดจบ เธอก็กระโดดลงจากเก้าอี้เคาน์เตอร์บาร์ แล้วมุ่งหน้าไปที่ห้องน้ำ

ฉินซีเงยหน้าขึ้นและดื่มน้ำโซดาของตัวเองจนหมด แล้วเดินตามเธอไปที่ห้องน้ำของผู้หญิง

ทำไมเวินจิ้งถึงรู้สึกร้อน?แน่นอนน่าจะเป็นเพราะฤทธิ์ของยา

เมื่อครู่ฉินซีนั่งอยู่ข้างๆเธอ มองเห็นได้ชัดเจนที่สุด

ใบหน้าของเวินจิ้งเริ่มแดง และในดวงตาของเธอก็ค่อย ๆ เลือนราง —— ซึ่งเป็นสัญญาณของฤทธิ์ยาได้เริ่มทำงานแล้ว

อย่างไรก็ตาม การเริ่มมีอาการของยานี้จะค่อยเป็นค่อยไป นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ยังเป็นเวลานานกว่าที่ฤทธิ์ของยาจะเริ่มมีอาการอย่างสมบูรณ์ และเวินจิ้งไม่สามารถควบคุมได้……. เพียงพอสำหรับเธอที่จะหามู่วี่สิงเจอ

เพื่อความปลอดภัยของเวินจิ้ง ฉินซีจึงเลือกที่จะตามไป

เวินจิ้งถึงห้องน้ำ เอามือรองน้ำแล้วสาดเข้าที่หน้า จากนั้นเงยหน้ามองตัวเองในกระจก——

หน้าแดงไปหมด ตาเบลอ

ในใจของเวินจิ้งมีเสียงปลุกเตือนดังขึ้น

——มีอะไรผิดปกติ!

เมื่อเวินจิ้งต้องการจะยืนตัวตรง จู่ๆก็มีร่างอื่นปรากฏขึ้นในกระจก

คนคนนั้นเดินเข้ามาช้าๆ ด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก

“ฉินซี” เวินจิ้งมองดูใบหน้าที่มีรอยยิ้มที่มุมปาก พึมพำว่า “ฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ”

รอยยิ้มบนใบหน้าของฉินซีไม่เปลี่ยน “แน่นอนสิ”

สีหน้าของเวินจิ้งเปลี่ยนไป “คุณหมายความว่าอย่างไร?”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท