Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร – ตอนที่ 228

ตอนที่ 228

TXV – 228 ความจริงหรือคำหลอกลวง !

รถ BMW M6 สีแดงได้มาถึงชุมชนและจอดที่หน้าแฟลตแห่งหนึ่งจากนั้นหลางซือเหยาก็ได้เดินไปที่แฟลตแห่งนั้น ไม่นานเซี่ยเหล่ยก็มาถึงเขาขับรถไปจอดใกล้ๆกับบริเวณแฟลตอย่างนิ่งเงียบที่สุด

เซี่ยเหล่ยมองไปที่หลางซือเหยาที่กำลังเดินเข้าไปที่แฟลต

เมื่อหลางซือเหยาเดินเข้าแฟลตไปแล้ว เซี่ยเหล่ยก็ได้กระพริบตาเล็กน้อยก่อนมองทะลุเข้าไปเพื่อดูว่าหลางซือเหยาได้เดินไปที่ไหนบ้าง เขาเห็นเธอเดินขึ้นบันไดและเปิดประตูห้องหนึ่งที่ชั้นสามของตึก

สถานที่แห่งนี้หลางซือเหยาไม่เคยพูดถึงและเซี่ยเหล่ยเองก็ไม่เคยมาเช่นกัน

สถานที่แห่งนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ที่พักสำหรับให้อาศัยอยู่เพราะภายในห้องมีกล้องจุลทรรศน์ เครื่องวิเคราะห์และอีกหลายๆอย่าง ห้องนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นห้องแล็ปเล็กๆซะมากกว่า

ภายในห้องนั้นหลางซือเหยาได้เอาสิ่งที่เธอเก็บไว้ในกระบอกโลหะขนาดเล็กออกมา เธอเปิดฝากออกและใส่มันลงในหลอดทดลองและใส่ในเครื่องทดสอบด้วยเช่นกันจากนั้นจึงเปิดเครื่องทดสอบ……..

เซี่ยเหล่ยคิดในใจว่า “เธอกำลังศึกษาเกี่ยวกับตัวเรา …… เธอทำไปทำไมกัน?”

ในจังหวะนี้หลางซือเหยาก็ได้หยิบยาแคปซูลที่เธอแอบสับเปลี่ยนออกมา จากนั้นก็เดินไปที่เครื่องวิเคราะห์ ไม่นานเธอก็เริ่มทำการวิเคราะห์หาส่วนผสมของตัวยาแคปซูลชนิดนี้

หลังจากนั้นสองนาทีร่างกายของหลางซือเหยาก็สั่นอย่างฉับพลัน จากนั้นเธอก็สูญเสียการควบคุมพร้อมล้มลงไปที่พื้น ทั้งสองมือของเธอจับไปที่หัวและแสดงท่าทางว่ากำลังเครียด

ยาเม็ดที่เธอขโมยมานั้นเป็นเพียงยาแก้หวัดธรรมดาก็เท่านั้น มันเป็นยาแก้หวัดธรรมดาที่สามารถหาได้ทั่วไป เธอเป็นคนที่ยอดเยี่ยมจริงๆ เธอรู้แล้วว่ามันเป็นแค่ยาแก้หวัดธรรมดา เธอจึงได้แสดงท่าทางแบบนั้นออกมา……..

ก่อนหน้านี้เซี่ยเหล่ยได้เดินเข้ามาในแฟลตและในตอนนี้เซี่ยเหล่ยได้มาถึงหน้าห้องที่เธออยู่ แต่เขาก็ยังกังวลอยู่ว่าจะทำอย่างไรต่อดี

แต่เขาก็คิดไปได้ว่าตอนนี้คงถึงเวลาที่จะต้องเผชิญหน้ากับหลางซือเหยาแล้ว

ก๊อก ก๊อก ก๊อก ….. ก๊อก ก๊อก ก๊อก เซี่ยเหล่ยเคาะประตู

หลางซือเหยาได้มองไปที่ประตูที่ปิดอยู่อย่างสนิทพร้อมแสดงท่าทางตึงเครียดออกมา

เซี่ยเหล่ยยังคงเคาะประตูอยู่ ก๊อก ก๊อก ก๊อก …..

หลางซือเหยาลุกขึ้นจากพื้นและเดินไปที่ประตู เธอมองออกไปจากช่องตาแมวและเห็นว่าคนที่เป็นคนเคาะประตูคือเซี่ยเหล่ยเมื่อเห็นแบบนั้นแล้วเธอกัดลิมฝีปากของตัวเองในทันที

ในขณะนี้หลางซือเหยายังไม่ได้เปิดประตู

เซี่ยเหล่ยจึงพูดขึ้นว่า “ซือเหยาเปิดประตู ผมมาที่นี่คนเดียว ผมมาเพื่อเจรจาได้หรือไม่?”

ในที่สุดหลางซือเหยาก็ยอมเปิดประตู

เซี่ยเหล่ยเดินเข้าไปในห้อง

จากนั้นหลางซือเหยาก็ปิดประตู

จังหวะที่เดินสวนกันพวกเขาไม่ได้พูดอะไรต่อกันเพียงแค่มองหน้ากันก็เท่านั้น

จากนั้นเซี่ยเหล่ยก็พูดขึ้นอย่างเคร่งขึมว่า “ทำไม?”

“ฉัน …… ” หลางซือเหยาพูดได้เพียงแค่คำเดียวจากนั้นน้ำตาของเธอก็ไหลออกมา

เซี่ยเหล่ยส่ายหัวแล้วพูดว่า “น้ำตางั้นเหรอ ผมไม่เชื่อน้ำตาของคุณหรอก บอกผมมาว่าทำไม?”

หลางซือเหยาได้กัดลิมฝีปากของตัวเองและยังไม่ได้พูดอะไรขึ้นมา

ยิ่งเวลาผ่านไปบริเวณดวงตาของเซี่ยเหล่ยก็มีน้ำตาคลอที่เบ้าแต่เขาก็แข็งใจไว้ไม่ให้น้ำตามันไหลออกมา

หลางซือเหยาสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนพูดขึ้นว่า “คุณจะฆ่าฉันก็ได้ถ้าหากมันจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น”

“บอกความจริงกับผมมา” เซี่ยเหล่ยยังคงพูดขื้นเหมือนเดิม

หลางซือเหยายังคงเงียบและก็ร้องไห้ขึ้นอีกครั้ง

เซี่ยเหล่ยหัวเราะแล้วพูดขึ้นว่า “ผมบอกคุณแล้ว ว่าผมไม่เชื่อหรอกที่คุณร้องไห้ น้ำตานี้มันก็หลอกลวงกันอยู่ดีหากคุณไม่บอกอะไรกับผมก็ไม่เป็นไรเพราะยังไงเมื่อถึงที่สุดแล้ว ผมจะให้หลงบิงจัดการต่อ “จากนั้นเซี่ยเหล่ยก็ดึงมือถือออกมา

“รอก่อน” หลางซือเหยาพูดอย่างตึงเครียดจากนั้นก็พูดต่อว่า “อย่าเรียกเธอมา ฉันจะบอกคุณเอง”

เซี่ยเหล่ยวางโทรศัพท์ลงแล้วพูดขึ้นว่า “พูดมาให้หมดเดี๋ยวนี้ !”

หลางซือเหยายิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดขึ้นว่า “พ่อของฉันส่งฉันไปเรียนที่ประเทศสหรัฐอเมริกาในตอนนี้ฉันยังเด็กเพราะลุงฉันอยู่ที่นั่น เขาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอยู่ในสถาบันเสริมความงามและในตอนนั้นความสามารถด้านกังฟูของฉันไปเข้าตาเขาเข้า เขาจึงแนะนำให้ฉันไปที่หน่วยข่าวกรองกลางของสหรัฐอเมริกาซึ่งก็คือ CIA นั้นเอง ฉันได้รับการฝึกต่างๆในช่วงที่ฉันยังเรียนมัธยมจนถึงช่วงมหาลัยฉันก็ได้รับความไว้วางใจให้ทำภารกิจต่างๆ ซึ่งผลลัพธ์จากการทำภารกิจมันออกมาดีเยี่ยมทุกครั้ง หลังจากนั้นพวกเขาก็เลยให้ฉันเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงและเรื่องนี้พ่อของฉันเองก็ยังไม่รู้ด้วย เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย “

เซี่ยเหล่ยพูดว่า “ไม่จำเป็นที่จะต้องห่วงไป เพราะยังไงสำหรับผม เขาก็ยังเป็นอาจารย์ของผมอยู่เสมอ”

หลางซือเหยาถอนหายใจอย่างโล่งอกจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ก่อนที่ฉันจะกลับมายังประเทศจีน ฉันถูกย้ายไปอยู่ที่กลุ่มปฎิบัติการพิเศษซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบบางอย่างมันถูกเรียกว่า ‘นิ่งสยบการเคลื่อนไหว’ ”

” นิ่งสยบการเคลื่อนไหว”? เรื่องนี้มันมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของผมอย่างนั้นเหรอ ” เซี่ยเหล่ยพูดขึ้น

“ใช่…และไม่ใช่เพียงแค่คุณเท่านั้นแต่จุดเริ่มต้นของกลุ่มนี้มีขึ้นก็เพราะพ่อของคุณเซี่ยฉางห่าย” หลางซือเหยาพูดเสร็จก็มองไปที่เซี่ยเหล่ยจากนั้นก็พูดต่อว่า “คุณอาจจะยังไม่รู้ว่าพ่อของคุณเป็น สายลับอิสระ เขามีอีกชื่อว่าจิงเค่อแต่พวกเราเรียกเขาว่ามือสังหารทมิฬ”

เซี่ยเหล่ยตกใจอย่างมากและไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาได้ยิน

“ฉันรู้ว่าคุณคงจะยอมรับความจริงนี้ได้ยากแต่จริงๆแล้วเขาเป็นคนที่ทำงานเพื่อเงิน อย่างไรก็ตามเราไม่รู้ว่าเขาเป็นใครและกำลังทำอะไรอยู่ในตอนนี้ตอนแรกเราคิดว่าเขาทำงานให้กับรัฐบาลของจีนแต่หลังจากตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วพบว่ามันไม่ใช่ เราได้ลงทุนใช้ทั้งคนและอุปกรณ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับ เซี่ยฉางห่ายก็พบว่าเขานั้นเป็นคนที่รอบคอบอย่างมากและตอนนั้นเองฉันก็ได้รู้เรื่องราวของคุณด้วยเช่นกันจากนั้นคุณก็เข้ามาเรียนที่โรงเรียนของพ่อฉัน ฉันก็เลยปรากฏตัวขึ้นที่ประเทศจีน “

เมื่อหลางซือเหยาพูดจบ เธอก็เงียบขึ้นอีกครั้ง

เซี่ยเหล่ยหัวเราะแล้วพูดขึ้นว่า “การที่ทำให้ผมรักคุณก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนด้วยอย่างงั้นเหรอ? “

“นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของแผน แต่… ” หลางซือเหยาพูดไม่ทันเสร็จก็ร้องไห้ออกมา จากนั้นก็พูดต่อว่า “ความรู้สึกของฉันกับคุณนั้นเป็นเรื่องจริงซึ่งถ้าฉันยังไม่ถูกจับได้ ฉันก็จะใช้โอกาสนี้ในการถอนตัวเพื่อให้ตัวเองได้อิสระภาพจากนั้นก็จะมาใช้ชีวิตร่วมกับคุณ “

เซี่ยเหล่ยส่ายหัวแล้วพูดว่า ” ผมไม่สนใจแล้วว่ามันจะเป็นจริงหรือไม่แต่ทั้งคุณและผมไม่สามารถที่จะอยู่ร่วมกันได้อีกต่อไป…. “

หลางซือเหยาร้องไห้ฟูมฟายออกมาอีกครั้งหลังจากคำพูดของเซี่ยเหล่ยจบลง

เซี่ยเหล่ยพูดต่อว่า ” แต่นี่คุณก็ยังไม่ได้พูดถึงส่วนสำคัญเลย คุณยังไม่ได้พูดเกี่ยวกับการกระทำของ ‘กลุ่มนิ่งสยบการเคลื่อนไหว’ แล้วทำไมคุณถึงติดตามพ่อของผมแล้วทำไมผมถึงกลายเป็นเป้าหมายของคุณด้วย? “

“อย่าถามฉันเลย อย่าถามฉันเลย” หลางซือเหยาพูดพลางแสดงออกถึงท่าทางที่เจ็บปวด

เซี่ยเหล่ยพูดอย่างหมดความอดทนไปว่า “พูดมา! บอกผมมาเดี๋ยวนี้”

“คุณ …… ” หลางซือเหยาถอนหายใจยาวมากจากนั้นก็พูดต่อว่า “เพราะว่าพ่อของคุณมีความสามารถอย่างมาก เขาได้ขโมยโครงการ AE ของสหรัฐอเมริกาไป “

หลางซือเหยายังคงพูดต่อว่า “โครงการนี้เป็นความลับสุดยอดของสหรัฐอเมริกา แม้แต่เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐอเมริกาจำนวนมากก็ไม่ทราบเรื่องนี้แต่พ่อของคุณไม่เพียงรู้ถึงการมีอยู่ของโครงการนี้เท่านั้นแต่พ่อของคุณยังได้ขโมยมันไปด้วย”

เซี่ยเหล่ยได้คิดตามคำพูดของหลางซือเหยาและก็นึกถึงยาแคปซูลขึ้นมาในทันทีซึ่งก็คิดไปว่าเพราะยานี้ทำให้เขามีความสามมารถพิเศษขึ้นมานั่นอธิบายได้ว่าทำไมเขาถึงสามารถมองทะลุสิ่งต่างๆได้!

“และหลังจากที่เราได้พบเบาะแสจากพ่อของคุณที่บ่งบอกถึงการมีตัวตนอยู่ของคุณนั้น เราก็ได้ทำการตรวจสอบประวัติของคุณอย่างละเอียดตั้งแต่คุณเกิดจนถึงปัจจุบันจากนั้นเราก็วิเคราะห์สติปัญญาของคุณจึงทำให้พบว่าคุณได้กินยาแคปซูลนี้เข้าไปแล้ว เราจึงมีแผนที่จะลักพาตัวของคุณไปยังสหรัฐเมริกาเพื่อทำการวิจัยแต่คุณกลับมีความสัมพันธ์กับหน่วยงานลับ 101 ของประเทศจีนซึ่งมีการรักษาการอย่างเข้มงวด ซึ่งหากเราได้ทำการบางอย่างกับคุณอย่างโจ่งแจ้งก็จะทำให้เป็นที่สนใจจาก หน่วยงานลับ 101 ได้เมื่อเป็นแบบนี้แล้วฉันจึงต้องนำตัวอย่างทุกอย่างของคุณมาทดลองแทนการพาตัวคุณไปที่สหรัฐอเมริกา “

เซี่ยเหล่ยยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า “ศูนย์วิจัย AE อยู่ที่อมริกาใช่มั้ย ผมจำได้ว่าครั้งหนึ่งคุณเคยชวนผมให้เดินทางไปยังต่างประเทศนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนอย่างนั้นใช่มั้ย? “

หลางซือเหยาไม่ได้ตอบคำถามของเซี่ยเหล่ย…….

ภายในใจของเซี่ยเหล่ยรู้สึกขมขื่นอย่างมากจากนั้นเขาก็พูดต่อว่า “ผมคิดว่าถ้าผมยังไม่รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของคุณแล้วล่ะก็ผมคงจะแต่งงานกับคุณหลังจากนั้นที่ที่เราจะฮันนีมูนก็คงจะหนีไม่พ้นในสหรัฐอเมริกาและเมื่อถึงที่นั่นคุณก็คงจะหาทางให้ผมขึ้นรถแต่แทนที่จะพาผมไปท่องเที่ยว คุณก็คงจะพาไปผมยังศูนย์วิจัย AE ใช่มั้ย? “

หลางซือเหยามองไปที่ตาของเซี่ยเหล่ยจากนั้นก็พูดขึ้นทันทีว่า “ฉันไม่มีทางเลือกหรอกนะ ใครที่ทรยศองค์กรจะถูกไล่ล่าจนกว่าจะได้ตัวมาไม่ว่าจะเป็นที่ไหนของโลก พวกเขาก็จะยังค้นหาเพื่อจับตัวให้ได้และอีกอย่างคุณลืมเรื่องที่คุณไปเยอรมันกับหลงบิงแล้วอย่างนั้นเหรอ ฉันสามารถบอกพวกเขาได้ว่าคุณอยู่ที่นั่น เพื่อให้พวกเขาไปจับตัวคุณซึ่งมันจะง่ายมากเพราะคุณก็อยู่ห่างไกลจากดูแลของ หน่วยงานลับ 101 แต่ฉันก็ไม่ทำเพราะว่าฉันก็อยากจะปกป้องคุณเหมือนกัน คุณไม่คิดถึงเรื่องนี้บ้างยังงั้นเหรอ? “

เมื่อเซี่ยเหล่ยได้ยินดังนั้น เขาก็หยุดชะงักไปชั่วขณะเพราะเขาคิดตามคำพูดที่หลางซือเหยาพูดมาซึ่งก็เป็นความจริงว่าเธอสามารถที่จะทำเช่นนั้นได้แต่เธอก็ไม่ทำ

“หลังจากทำแบบนั้นฉันก็ถูกสอบสวนแต่พวกเขาก็ยังต้องการให้ฉันทำงานให้กับองค์กรอยู่ พวกเขาเลยบังคับให้ฉันพิสูจน์ตัวเองดังนั้นฉันจึงต้องเอาภาพของเครื่องจักรอัจฉริยะส่งให้พวกเขาและนี่ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับอเลน่าว่าทำไมเธอจึงถูกทำเช่นนั้น ฉันพูดไปเยอะมาก แต่ดูเหมือนว่ายังไงคุณก็คงจะไม่เชื่อฉันแต่สำหรับฉั คุณเป็นคนแรกสำหรับทุกๆอย่าง! ” เมื่อหลางซือเหยาพูดเสร็จน้ำตาเธอก็ร้องไห้หนักขึ้นอีกครั้ง

เซี่ยเหล่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยล้าไปว่า “ผมไม่รู้ว่าผมจะเชื่อในสิ่งที่คุณพูดได้มากน้อยแค่ไหนกัน”

“ถ้าคุณไม่สำคัญกับฉัน ฉันจะบอกความจริงทั้งหมดให้คุณฟังอย่างนั้นเหรอ? ฉันได้รับการฝึกมาอย่างหนักซึ่งถ้าฉันไม่อยากจะบอกจริงๆแล้วล่ะก็ถึงจะเป็นหลงบิงก็ไม่สามารถทำให้ฉันพูดได้หรอก “หลางซือเหยายังคงมองไปที่เซี่ยเหล่ย จากนั้นก็พูดต่อว่า “บอกฉันสิว่าคุณรู้ว่าความรู้สึกของฉันนั้นเป็นของจริง? “

เซี่ยเหล่ยไม่ได้พูดอะไรแต่ก็พยักหน้า

มุมปากของหลางซือเหยาได้แสดงออกมาถึงรอยยิ้ม

เซี่ยเหล่ยพูดว่า ” คำถามสุดท้ายของผม คุณก็ศึกษาผมมาเป็นเวลานานแล้ว ตอนนี้คุณสรุปได้ว่าอย่างไรบ้างหล่ะ?”

หลางซือเหยาส่ายหัวแล้วพูดขึ้นว่า “ตอนนี้คุณเป็นคนเดียวในโลกที่ได้กินยาแคปซูลนี้เข้าไป ตอนนี้คุณพัฒนาไปไกลมากแล้วแต่เราก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าคุณพัฒนาไปไกลแค่ไหนกันและจากการที่เราวัดไอคิวของคุณแล้วผลที่ได้มันน่าทึ่งมาก ความสามารถในการเรียนรู้ของคุณถือว่ายอดเยี่ยมและอวัยวะต่างๆของคุณก็ยังแข็งแรงกว่าคนปกติแต่จะมีความแข็งแรงมากแค่ไหนนั้นเราก็ยังไม่รู้แน่ชัด จากทั้งหมดที่พูดมานี้จึงทำให้เราไม่รู้แน่ชัดว่าสุดท้ายแล้วผลจะเป็นอย่างไรซึ่งฉันก็ไม่สามารถที่จะถามคุณได้ก่อนหน้านี้ ดังนั้นตอนนี้คุณช่วยบอกฉันได้หรือไม่? “

ดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่รู้ว่าตาซ้ายของเซี่ยเหล่ยมีความสามารถในการมองทะลุสิ่งต่างๆ รวมไปถึงการจดจำภาพได้เหมือนภาพถ่ายที่เป็นหัวใจสำคัญของการเรียนรู้ภาษาของเขา…….

เซี่ยเหล่ยเงียบซักพักก่อนพูดขึ้นว่า “คุณรีบออกจากประเทศนี้ไปซะและไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แล้วอย่ากลับมาที่นี่อีก”

“คุณ …… คุณต้องการจะไล่ฉันงั้นเหรอ?” หลางซือเหยาพูดขึ้น

เซี่ยเหล่ยตอบไปว่าว่า “ตอนนี้เราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันแล้ว”

หลางซือเหยากัดลิมฝีปากแล้วพูดขึ้นว่า “คุณต้องการจะให้มันเป็นแบบนี้อย่างนั้นเหรอ?”

เซี่ยเหล่ยหลบตาของหลางซือเหยาก่อนพูดขึ้นว่า “รีบไปก่อนที่ผมจะเปลี่ยนใจ”

หลางซือเหยาเดินเข้าไปใกล้กับเซี่ยเหล่ยจากนั้นก็จูบไปที่แก้มของเขาก่อนเดินจากไป

เซี่ยเหล่ยยืนอยู่ซักพักน้ำตาเขาก็เริ่มไหลจากนั้นก็เอามือขึ้นมาปาดน้ำตาแต่ถึงแม้ว่าจะปาดไปเท่าไหร่ น้ำตาของเขาก็ยังไหลออกมาไม่หยุดอยู่ดี……….

ติดตามตอนต่อไป………..

Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร

Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร

Status: Ongoing

เซี่ยเหล่ยสูญเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่เด็กเขาจึงต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อดิ้นรนเอาตัวรอดและสิ่งที่สำคัญเขาต้องเลี้ยงดูน้องสาวของเขา แต่อยู่มาวันหนึ่งก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้น

เขาประสบอุบัติเหตุในโรงงานซึ่งทำให้ตาของเขาบอดแต่หลังจากที่เขาตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลเขาก็รู้ได้ทันทีเลยว่าตาเขาไม่ได้บอดแต่มันมีความสามารถพิเศษเพิ่มขึ้นมา !!

ในตอนนี้เขากำลังจะใช้ความสามารถพิเศษที่เขาได้มาในทางชั่วร้ายเพื่อสร้างชีวิตของเขาและน้องสาวให้ดีขึ้นเหมือนคนอื่นๆ

เซี่ยเล๋ยจะประสบความสำเร็จในการทำสิ่งชั่วร้ายกับพลังที่เขาเพิ่งค้นพบหรือไม่ ?

ข้าจะเป็นคนกำหนดชะตาชีวิตของข้าเอง !!!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน