Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร – ตอนที่ 286

ตอนที่ 286

TXV – 286 คำเตือนของพ่อ !

ในระหว่างที่กำลังจะเดินออกจากตลาดขายของ เซี่ยเหล่ยก็เห็นร้านขายข้าวสาลี ถั่วและพืชผลอื่นๆ รวมทั้งเจ้าของร้านด้วยเช่นกัน เขาเป็นผู้ชายเคราเฟิ้ม พันผ้าโพกหัว รูปร่างสูงใหญ่ดูแข็งแรงตามฉบับคนปาทาน

เมื่อเข้าไปใกล้มากขึ้นถ่างหยู่เหยี่ยก็กระซิบ “ตรงนั้นน่ะ คนที่ยืนอยู่ตรงประตูคือคาลาไกด์ของเรา”

เซี่ยเหล่ยสำรวจรอบๆ ตรงนี้มีคนน้อยแต่ก็ยังถือว่าคึกคักอยู่และถึงแม้เขาจะไม่เห็นใครมีพิรุธ เซี่ยเหล่ยก็ยังรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจอยู่ดีเพราะเขารู้สึกได้ถึงสายตาที่กำลังจ้องมองมาที่เขาและถ่างหยู่เหยี่ยได้ตลอดเวลา

เซี่ยเหล่ยมีความสามารถในการมองทะลุก็จริงแต่นั่นก็ไม่ใช่ทักษะครอบจักรวาลในสถานการณ์คับขัน เขาก็สังเกตทุกคนอย่างละเอียดไม่ได้ยิ่งไปกว่านั้นคือเขายังขาดประสบการณ์อยู่ด้วย

ถ่างหยู่เหยี่ยเดินนำเซี่ยเหล่ยไปยังร้านถั่วร้านนั้นแต่ไม่ได้หยุดยืนที่ร้าน เธอกลับตรงไปยังร้านเครื่องประดับเงินทองข้างๆแทน

เครื่องเงินเครื่องทองของปากีสถานถือว่าโด่งดังระดับโลก ร้านเครื่องประดับร้านนี้ก็มีเครื่องประดับงานประณีตอยู่มากมาย ส่วนใหญ่ทำจากเงินมีที่ทำจากทองอยู่บ้าง แต่ค่อนข้างน้อย

เจ้าของร้านเครื่องประดับดูเป็นคนตามฉบับคนรัฐปัญจาบ เมื่อเห็นคนจีนทั้งสองเดินมาเขาก็รู้สึกตื่นเต้น ถ่างหยู่เหยี่ยพูดคุยกับคนขายด้วยภาษาอูรดูที่คล่องแคล่วอยู่สักพัก ก่อนจะได้เครื่องเงินติดมือกลับมาจำนวนหนึ่ง ส่วนเจ้าของร้านก็แค่รับเงินไปเฉยๆ

หลังจากเดินออกมาจากร้านเครื่องประดับ เซี่ยเหล่ยคิดว่าถ่างหยู่เหยี่ยคงจะกลับไปที่ร้านขายถั่ว แต่เธอไม่แม้แต่จะมองไปที่ร้านนั้นเลย ซ้ำยังเดินไปที่ร้านอื่นในตลาดอีกต่างหาก

เซี่ยเหล่ยอดหันกลับไปมองไม่ได้ เขาเห็นคาลาเดินไปที่ร้านขายเครื่องประดับ เขาจึงมองทะลุเข้าไปภายในร้าน เขาเห็นคาลากำลังคุยอยู่กับเจ้าของร้านเครื่องประดับแล้วหยิบธนบัตรออกมา เจ้าของร้านส่งเหรียญให้เหมือนเป็นเงินทอน แต่ระหว่างที่ส่งเหรียญให้ เขาก็แอบใส่กระดาษที่ขยำเป็นก้อนกลมรวมเอาไว้ด้วย

เมื่อเห็นแบบนี้แล้ว เซี่ยเหล่ยก็เบนสายตากลับมา

ที่พวกเขาไม่ได้คุยกันทั้งหมดทุกเรื่องนั่นเพราะบางเรื่องถูกเขียนเอาไว้ในกระดาษแล้ว

เซี่ยเหล่ยรู้สึกกระอักกระอ่วนในใจลึกๆ เพราะตอนนั้นเขากำลังเพลิดเพลินไปกับการดูเครื่องเงินต่างๆ โดยไม่รู้เลยว่าถ่างหยู่เหยี่ยส่งกระดาษนั่นไปตอนไหนแต่ถึงเซี่ยเหล่ยจะเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เขาก็ต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้เอาไว้ก่อน รอจนกระทั่งออกมาจากตลาด เซี่ยเหล่ยจึงถามขึ้น “ไม่ไปหาคาลาเหรอ? เราออกมาแบบนี้เลยเนี่ยนะ?”

ถ่างหยู่เหยี่ยพูดสีหน้าเรียบนิ่ง “เขารู้อยู่แล้วล่ะว่าต้องทำอะไร เรากลับกันเถอะ เดี๋ยวคืนนี้เขาจะออกมารอเรานอกเมืองเอง”

เซี่ยเหล่ยไม่ได้ถามอะไรมากแต่เดินตามเธอกลับไปที่เซฟเฮ้าท์อย่างเดิม หลังจากเดินมาได้สักพัก เซี่ยเหล่ยก็หันกลับไปสังเกตรอบตัวอีกครั้งความรู้สึกถูกมองยังคงอยู่อย่างเดิมเพียงแต่เขายังหาคนน่าสงสัยไม่เจอโดยเฉพาะผู้หญิงที่นี่ต่างมีผ้าคลุมสีดำที่ปกปิดมิดชิดมากจนทำให้เขาใช้ตาซ้ายมองสำรวจได้ไม่ครบทุกคน

“เจออะไรเหรอ?” ถ่างหยู่เหยี่ยสังเกตเห็นพฤติกรรมแปลกๆของเซี่ยเหล่ย

เขาตอบ “ผมรู้สึกว่ามีคนจ้องมองเราอยู่ตลอดเลยแต่ผมหาไม่เจอว่าใคร คุณรู้สึกเหมือนกันมั้ย?”

ถ่างหยู่เหยี่ยพูดต่อ “ฉันไม่รู้สึกอะไรนะแต่ถ้ามีคนติดตามเราอยู่จริงๆ ฉันต้องรู้แล้วสิที่แถวนี้อยู่ในขอบเขตของการเฝ้าระวังของเราไม่ต้องกังวลไป คุณต้องรู้สึกประหม่าแบบนี้อยู่แล้วเพราะคุณเพิ่งเคยทำภารกิจแบบนี้ครั้งแรกไงล่ะ ครั้งแรกของฉันก็แบบนี้แหละ”

เพียงฟังจบเซี่ยเหล่ยก็รู้สึกผ่อนคลายลงมากแต่ก็ยังคอยมองรอบตัวอยู่ดีแค่จำนวนครั้งลดลงเท่านั้น

ระหว่างเดินข้ามถนนที่ทางแยกรถ Toyota Camry คันหนึ่งก็ลดกระจกลงผู้หญิงผมบลอนด์คนหนึ่งยื่นหน้าออกมานอกรถและถุยหมากฝรั่งทิ้งลงพื้น

เซี่ยเหล่ยรีบหลบแล้วพูดขึ้นด้วยความโมโห “คุณทำอะไรเนี่ย?”

สาวผมบลอนด์พูดเป็นภาษารัสเซีย “คุณว่าไงนะ? ฉันไม่เข้าใจ คุณระวังตัวไว้ก็แล้วกันครั้งหน้ามันจะไม่ใช่แค่หมากฝรั่งแต่เป็นลูกปืนแทน”

เซี่ยเหล่ยขมวดคิ้วทันทีเขาตอบเป็นภาษารัสเซียกลับไป “นี่คุณขู่ผมเหรอ? แต่คุณถุยหมากฝรั่งนั่นใส่ผมนะ? คุณต้องขอโทษผมสิ”

คนผมบลอนด์ฉีกยิ้มกว้าง “คุณระวังตัวไว้ก็แล้วกัน ครั้งหน้ามันจะไม่ใช่แค่หมากฝรั่งแต่เป็นลูกปืนแทน”

“นี่คุณ!” เซี่ยเหล่ยเดินไปที่รถคันนั้น

แต่ไฟจราจรที่แดงอยู่ก็เขียวพอดี สาวผมบลอนด์จึงเหยียบคันเร่งทิ้งเซี่ยเหล่ยไว้ข้างหลังทันที

ถ่างหยู่เหยี่ยดึงตัวเซี่ยเหล่ยกลับมาที่ทางเท้า “ช่างมันเถอะ อีกอย่างฉันไม่เข้าใจที่พวกคุณคุยกันด้วยแต่ฉันว่าคุณไม่ต้องไปแคร์ผู้หญิงที่ไม่ได้รับการอบรมแบบนั้นหรอก คุณต้องระลึกถึงสิ่งที่เรากำลังทำเอาไว้นะ อย่าให้อะไรมากระทบสิ ภารกิจสำคัญที่สุด”

เซี่ยเหล่ยมองไปที่รถ Toyota Camry ที่ผ่านไปแล้ว……

ผู้หญิงผมบลอนด์คนเดิมยื่นหน้าออกมาจากกระจกอีกครั้ง พลางชูนิ้วกลางใส่เซี่ยเหล่ยพร้อมๆกับทำปากขมุบขมิบเหมือนพูดอะไรสักอย่าง

“แม่มเอ๊ย ถ้าเธอกลับมานะ ฉันจะจัดแทนคุณสักฉาด!” ถ่างหยู่เหยี่ยเองก็โมโหเช่นกันสาวบลอนด์คนนั้นควรโดนสักหน่อยจริงๆ

เซี่ยเหล่ยยังมองไปที่รถไม่วางตาในหัวนึกภาพผู้หญิงคนนั้นชูนิ้วกลางและทำปากขมุบขมิบซ้ำอีกครั้ง เขาอ่านปากภาษารัสเซียของเธอก่อนจะได้ใจความว่าหมากฝรั่ง หมากฝรั่ง หมากฝรั่ง

สีหน้าเขาเปลี่ยนไปทันที เซี่ยเหล่ยหันกลับมามองหมากฝรั่งบนพื้นซึ่งยังคงมีรอยพิมพ์ฟันของเธออยู่อีกครั้ง มันเป็นหมากฝรั่งเคี้ยวแล้วเรียกง่ายๆว่าขยะดีๆนี่เอง แต่สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจก็คือ ถ้าเธอพูดแค่ครั้งสองครั้งมันก็คงเป็นเรื่องปกติแต่ทำไมเธอต้องพูดว่า ‘หมากฝรั่ง’ ถึงสามครั้งด้วยล่ะ?

ประโยคที่เธอพูดไว้ก็ผุดขึ้นมาในหัวเซี่ยเหล่ยว่า ‘คุณระวังตัวไว้ก็แล้วกัน ครั้งหน้ามันจะไม่ใช่แค่หมากฝรั่ง แต่เป็นลูกปืนแทน’

เธอย้ำประโยคนี้ถึงสองครั้งนี่ไม่ใช่วิธีที่ผู้หญิงรัสเซียทั่วไปพูดกันเลย

“ไปเถอะ อย่าไปมองเลย” ถ่างหยู่เหยี่ยปล่อยมือเซี่ยเหล่ยก่อนจะเดินนำไป

เซี่ยเหล่ยเดินตรงไปเหยียบหมากฝรั่งนั่นไว้ใต้รองเท้าตัวเองและรีบตามถ่างหยู่เหยี่ยที่มุ่งหน้ากลับเซฟเฮ้าท์อย่างเดิม

ตอนนั้นเซี่ยเหล่ยรู้แล้วว่าหมากฝรั่งนี่ต้องมีอะไรแน่ๆซึ่งวิธีถูกต้องที่เขาควรทำคือบอกถ่างหยู่เหยี่ยก่อนแล้วค่อยมาเช็กหมากฝรั่งนี่ต่อแต่เมื่อเขานึกถึงคนๆหนึ่งขึ้นมา เซี่ยเหล่ยก็เปลี่ยนใจ

คนที่เซี่ยเหล่ยนึกถึงก็คือเซี่ยฉางห่าย พ่อของเขาเอง……

ครั้งล่าสุดที่เซี่ยฉางห่ายส่งสาวรัสเซียมาเพื่อติดต่อเขา เธอก็ถูกหลางซือเหยาฆ่าไปเสียก่อนครั้งนี้ยังคงเป็นผู้หญิงรัสเซียเหมือนเดิม คำใบ้เองก็ชัดเจนมากด้วยมีความเป็นไปได้สูงว่าคนที่อยู่เบื้องหลังผู้หญิงรัสเซียคนนั้นจะเป็นเซี่ยฉางห่ายและถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ การบอกถ่างหยู่เหยี่ยจะไม่เป็นการขุดหลุมฝังตัวเองหรอกเหรอ?

เมื่อมาถึงเซฟเฮ้าท์แล้วถ่างหยู่เหยี่ยก็เรียกเหล่าเจ้าหน้าที่มาประชุมเรื่องแผน เซี่ยเหล่ยร่วมฟังด้วยอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะใช้ข้ออ้างขอตัวไปห้องน้ำเพื่อกลับไปที่ห้องตัวเองแล้วแกะหมากฝรั่งที่ติดอยู่ใต้รองเท้าออกมาอย่างระมัดระวัง

ในหมากฝรั่งนั้นมีเศษกระดาษรวมอยู่ด้วยเขียนเอาไว้ว่า ‘ลูกพ่อ ลูกถูกจับตามองอยู่ออกจากปากีสถาน อย่าไปอัฟกานิสถาน อันตราย’

ไม่มีการลงชื่อใดๆเอาไว้แต่ก็คงไม่จำเป็นอีกแล้วในเมื่อเซี่ยเหล่ยรู้ดีอยู่แล้วว่าใครเป็นคนเขียน

“พ่อ……” เซี่ยเหล่ยใจกระตุกมือสั่นเทาอย่างช่วยไม่ได้ “เขายังไม่ตาย เขายังมีชีวิตนี่ลายมือเขา เราจำได้นี่ลายมือเขา! เขาอยู่ที่นี่ด้วย!”

เสียงและใบหน้ายิ้มแย้มของเซี่ยฉางห่ายปรากฏขึ้นมาราวกับเทปที่เล่นซ้ำในใจเซี่ยเหล่ย น้ำใสๆไหลออกมาจากตาทั้งคู่และหยดลงพื้นผ่านสองแก้ม เซี่ยเหล่ยยิ้มออกมาอย่างปิดไม่มิดรู้สึกได้ถึงความสุขและความตื่นเต้นในใจ

แต่จู่ๆก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นที่หน้าประตู

เซี่ยเหล่ยรีบขยำเศษกระดาษให้เป็นก้อน ยกแขนขึ้นเตรียมปาหมากฝรั่งผสมเศษกระดาษลงถังขยะแต่ก็เปลี่ยนใจกะทันหัน เซี่ยเหล่ยแสดงสีหน้าเคร่งเครียดก่อนจะจุกหมากฝรั่งเข้าปากแล้วกลืนลงท้องไป……

ที่ที่เขาอยู่ตอนนี้ไม่ใช่สถานที่ธรรมดา ทุกคนที่นี่ล้วนผ่านการฝึกเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงมาแล้วความประมาทเลินเล่อเล็กๆน้อยๆก็ทำให้คนรู้ความลับของพ่อเขาได้เลย!

เมื่อกลืนหมากฝรั่งไส้กระดาษโน้ตลงไปแล้ว เซี่ยเหล่ยก็รีบเช็ดน้ำตาด้วยแขนเสื้อตัวเอง

ทันทีที่เช็ดเสร็จ ถ่างหยู่เหยี่ยก็เปิดประตูเข้ามา “ไปกินข้าวได้แล้ว ต้องให้ฉันมาเรียกทุกครั้งเลย นี่คุณลงไปเองบ้างไม่ได้รึไง”

เซี่ยเหล่ยขมวดคิ้ว “ต้องกินข้าวเร็วขนาดนี้เลยเหรอ?”

“กินก่อนเวลา เราจะออกไปหลังมื้อเย็น” ถ่างหยู่เหยี่ยกล่าว

“เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?” เซี่ยเหล่ยพูดพลางนึกถึงคำเตือนของพ่อ

“คาลา ออกจากเมืองล่วงหน้าไปแล้ว เราต้องไปพบเขา” ถ่างหยู่เหยี่ยพูดต่อ

“โอเค งั้นเราไปกินข้าวแล้วไปอัฟกานิสถานกัน” เซี่ยเหล่ยกล่าวก่อนจะเดินออกจากห้องไป

เซี่ยฉางห่ายส่งโน้ตมาเตือนเซี่ยเหล่ยว่าเขาถูกจับตามองและให้เขากลับไป ห้ามไม่ให้ไปอัฟกานิสถานแต่ดูเหมือนคำเตือนนี้จะมาช้าไปหน่อยเพราะถ้าเซี่ยฉางห่ายส่งมาก่อนที่เซี่ยเหล่ยจะมาถึงที่นี่ เขาก็คงจะปฏิเสธภารกิจนี้ไปแล้วแต่สถานการณ์ตอนนี้มันถอยกลับไม่ได้แล้วอีกอย่างเขาจะทิ้งถ่างหยู่เหยี่ยและเจ้าหน้าที่กว่า10คนแล้วหนีไปได้ยังไง? อันที่จริงไม่จำเป็นต้องพูดอะไรให้มากความเพราะการหนีเอาตัวรอดไปคนเดียวแบบนั้นคือการทรยศดีๆนี่เอง!

อย่างไรก็ตามเหตุผลเหล่านั้นก็ไม่ใช่สาเหตุในการตัดสินใจไปอัฟกานิสถานต่อของเซี่ยเหล่ยเลย ส่วนเหตุผลจริงๆของเขาคือเซี่ยฉางห่าย พ่อผู้หายตัวไปนานนับ 6 ปีโดยไม่มีข่าวคราวใดๆให้ได้ยินแม้จะระบุตำแหน่งแน่ชัดของเขาได้ยากแต่เซี่ยเหล่ยก็จะใช้โอกาสนี้หาเขาให้เจอ!

“เรากำลังถูกจับตามองถ้าเต็ม 10 ก็คงมี 8.268 ส่วนแล้วที่เป็น CIA ของสหรัฐ แต่ถ้าจ้องมาก็ต้องจ้องกลับ เซี่ยเหล่ยคนนี้จะไม่เป็นเป้าหมายของใครทั้งนั้น ถ้าเขาอยากจับเราหรือฆ่าเราก็คงต้องมาคุยกับปืนเราก่อน” เซี่ยเหล่ยในตอนนี้พร้อมเสียยิ่งกว่าพร้อม

หลังจากมื้อเย็นผ่านไป เซี่ยเหล่ยก็พูดกับถ่างหยู่เหยี่ย “หยู่เหยี่ย ผมขอใช้สไนเปอร์ของคุณหน่อยสิ”

ถ่างหยู่เหยี่ยส่งสไนเปอร์ไรเฟิลให้เซี่ยเหล่ยตามที่ขอก่อนจะพูดว่า “ฉันให้ยืมได้นะ แต่ตอนเอามาคืนแล้วคุณช่วยดัดแปลงให้พี่ชายฉันสักกระบอกด้วยสิ”

เซี่ยเหล่ยมองเธอโดยไม่ได้พูดอะไรต่อ

“ไม่เหรอ? งั้นก็วางไว้ตรงนี้แหละ” ถ่างหยู่เหยี่ยส่งมือออกไปเพื่อเอาปืนคืน

แต่เซี่ยเหล่ยจับปืนแน่นและยื่นมือไปเขย่ามือเธอเป็นการตอบรับแทน “ตกลง”

ติดตามตอนต่อไป………..

Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร

Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร

Status: Ongoing

เซี่ยเหล่ยสูญเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่เด็กเขาจึงต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อดิ้นรนเอาตัวรอดและสิ่งที่สำคัญเขาต้องเลี้ยงดูน้องสาวของเขา แต่อยู่มาวันหนึ่งก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้น

เขาประสบอุบัติเหตุในโรงงานซึ่งทำให้ตาของเขาบอดแต่หลังจากที่เขาตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลเขาก็รู้ได้ทันทีเลยว่าตาเขาไม่ได้บอดแต่มันมีความสามารถพิเศษเพิ่มขึ้นมา !!

ในตอนนี้เขากำลังจะใช้ความสามารถพิเศษที่เขาได้มาในทางชั่วร้ายเพื่อสร้างชีวิตของเขาและน้องสาวให้ดีขึ้นเหมือนคนอื่นๆ

เซี่ยเล๋ยจะประสบความสำเร็จในการทำสิ่งชั่วร้ายกับพลังที่เขาเพิ่งค้นพบหรือไม่ ?

ข้าจะเป็นคนกำหนดชะตาชีวิตของข้าเอง !!!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน