เซี่ยเหล่ยกลายเป็นบุคคลอื่นในช่วงเวลาอันสั้น เขาใช้เวลาเพียงแค่สองนาทีเท่านั้น ผิวของเขาก็กลายเป็นหยาบกร้านและมีรอยแผลเป็นมากมายตามใบหน้า เขาในตอนนี้ดูเป็นคนป่าเถื่อนและโหดร้าย
คุณเป็นยังไงบ้าง… เฉินตูเทียนหยินถามด้วยความประหลาดใจอย่างมาก
เซี่ยเหล่ยยิ้มก่อนจะพูดว่า ผมโอเค ผมสามารถสร้างให้คุณได้ด้วยนะถ้าคุณต้องการ
เฉินตูเทียนหยินส่ายหน้าก่อนจะพูดว่า ไม่เป็นไรดีกว่า
ผมกำลังจะไปแล้ว คุณรอผมอยู่ที่นี่นะ เซี่ยเหล่ยพูดจบก็เดินออกไปจากห้องทันที
เฉินตูเทียนหยินมองไปที่หน้าจอโน๊ตบุค เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่เธอไม่เคยพบเจอมาก่อน เธอไม่เคยมีประสบการณ์แบบในวีดีโอที่เธอกำลังดูอยู่เลย เธอรู้สึกว่ามันแปลกใหม่ พวกเขามีท่าทางหลายรูปแบบแต่อย่างไรก็ตามหัวใจของเธอในขณะนี้รู้สึกอิ่มเอมใจมากว่าสิ่งใด เพราะเธอรู้สึกประทับใจอย่างมากที่เซี่ยเหล่ยพาเธอมาทำตามแผนที่วางไว้นี่แสดงให้เห็นว่าเซี่ยเหล่ยไว้ใจเธอและปฏิบัติต่อเธอเหมือนเป็นคนในครอบครัวจริงๆ เธอรู้สึกดีมาก
บนหน้าจอโน้ตบุ๊คขณะนี้กำลังแสดงภาพเซี่ยเหล่ยกำลังใช้คีย์การ์ดเปิดประตูเข้าไปในห้องที่พวกเขากำลังอยู่
เฉินตูเทียนหยินมองที่หน้าจอตลอดเวลาแม้ว่าจะมีภาพที่เธอไม่ค่อยอยากจะมองซักเท่าไหร่ แต่ด้วยความยากรู้ของเธอว่าเซี่ยเหล่ยกำลังจะทำอะไรต่อทำให้เธออดทนและมองมันต่อไป
ในอีกห้องหนึ่งเจิ้งฉีที่เห็นว่าเซี่ยเหล่ยกำลังเดินเข้ามาในห้องของเขา เขาก็พูดอย่างเกรี้ยวกราดทันทีว่า คุณเป็นใคร? ออกไปจากห้องเดี๋ยวนี้! เซี่ยเหล่ยรีบวิ่งไปเข้าหาก่อนจะคว้าตัวเจิ้งฉีพร้อมกับโยนเขาลงไปนอนกองอยู่ที่พื้น เจิ้งฉีตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวด
เจิ่งหยินหยินเองก็คล้านอย่างช้าๆออกมาจากผ้าหุ่มก่อนจะรีบแต่งตัวให้เรียบร้อย
เฉินตูเทียนหยินขมวดคิ้วพร้อมกับพูดกับตัวเองว่า ไร้ยางอาย
ในอีกห้องเซี่ยเหล่ยพูดเสียงดังด้วยความไม่พอใจว่า คุณ! คุณกล้าแตะต้องผู้หญิงคนนี้อย่างนั้นเหรอ? เธอเป็นผู้หญิงของพี่ใหญ่ผม? คุณไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วอย่างนั้นใช่มั้ย?
ใครคือพี่ใหญ่ของคุณ เจิ้งฉีถาม
คุณไม่มีค่ามากพอที่จะรู้หรอกนะว่าพี่ใหญ่ของผมคือใคร แต่ผมสามารถบอกคุณได้เลยว่าเขามีอำนาจมากพอที่คนทั้งเมืองชิงตู่ไม่มีคนไหนกล้าจะต่อต้านเขา นอกจากนี้แม้แต่เย่คุนเองก็ยังต้องเคารพและหวั่นเกรงเขา เซี่ยเหล่ยพูด เจิ้งฉีมองไปที่เจิ่งหยินหยิน เขาไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะมีความสำคัญมากขนาดนั้นได้ยังไง
เจิ่งหยินหยินรีบวิ่งไปคุกเข่าต่อหน้าเซี่ยเหล่ย เธอคร่ำครวญพร้อมกับพูดไปด้วยว่า พี่เซี่ย ฉันผิดไปแล้ว ได้โปรดอย่าบอกเรื่องนี้กับพี่ใหญ่ได้มั้ย? ถ้าเขารู้ เขาเอาฉันตายแน่!
ใบหน้าของเจิ่งหยินหยินซีด มันแสดงให้เห็นว่าเธอกลัวมากจริงๆ
พี่ใหญ่รู้แล้ว ไม่งั้นผมจะมาที่นี่ได้ยังไง? เซี่ยเหลี่ยพูดอย่างเย็นชา
อะไรนะ? ฉันตายแน่ … ฉันต้องตายแน่ๆ! ฉันจะทำยังไงดี ฉันยังไม่อยากตาย เจิ่งหยินหยินโหวกเหวกโวยวาย
เซี่ยเหล่ยมองไปที่เจิ้งฉีก่อนจะพูดว่า บอกมาว่าอยากตายรูปแบบไหน ฝังทั้งเป็น? รัดคอ? หรือถูกยิง?
ผะ ผะ…ผม เจิ้งฉีกลัวจนพูดออกมาไม่เป็นประโยค เอาหล่ะ ถ้าอย่างนั้นผมจะเลือกให้คุณเอง ถูกยิงก็แล้วกัน เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมกับหยิบปืนออกมาจากเอวจากนั้นก็เล็งปากกระบอกปืนไปที่หน้าผากของเจิ้งฉี
ด้วยความกลัวทำให้เจิ้งฉีฉี่แตก…..
แต่ พี่ใหญ่ของผมก็ยังมีใจเมตตาอยู่บ้าง เขาจึงมีข้อเสนอที่จะไว้ชีวิตของคุณ เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมกับเปลี่ยน้ำเสียงและรอยยิ้มจางๆก็ปรากฏที่มุมปากก่อนจะพูดต่อว่า ข้อเสนอก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร เพียงแค่คุณทำงานให้กับเขาเล็กๆน้อยๆเท่านั้น
เจิ้งฉีเห็นแสงสว่างที่จะทำให้ตัวเองรอดตาย เขารีบคว้ามันไว้ทันทีโดยพูดขึ้นว่า ได้โปรด ต้องการให้ผมทำอะไรผมจะทำให้ทุกอย่างเลย
เซี่ยเหล่ยพูดช้าๆว่า แน่นอน พี่ใหญ่ของผมต้องการให้คุณทำงานให้แต่มีข้อแม้ว่าคุณห้ามถามอะไรเด็ดขาด
คุณต้องการให้ผมทำอะไร? เจิ้งฉีถาม เรื่องง่ายๆ ตอนนี้คุณรับผิดชอบหน้าที่ในการทดสอบอาวุธปืนให้กับบริษัทฮั่นยุทโธปกรณ์ใช่มั้ย? สัปดาห์นี้คุณได้ทำการทดสอบปืนไรเฟิลจู่โจมเฉิงหวู่แล้วสินะ
ใช่แล้ว เจิ้งฉีพยายามสงบสติอารมณ์พร้อมกับตอบออกกไปก่อนจะพูดต่อว่า การออกแบบของปืนรุ่นนี้ไม่เหมือนใครมันมีประสิทธิภาพมาก แต่ในขณะเดียวก็มีปัญหาที่ใหญ่มากเช่นกัน ในการทดสอบครั้งแรกและครั้งที่สองนั้นไม่มีปัญหาอะไรและมันก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ครั้งที่สามเป็นครั้งที่เราเจอปัญหา เราพบว่าความเสถียรของมันลดลงครึ่งหนึ่ง รวมถึงแรงถีบกลับของมันก็มีมากขึ้นกว่าการทดสอบครั้งแรกและครั้งที่สองมากจริงๆ
จากปัญหานี้คุณมีความคิดเห็นอย่างไร? เซี่ยเหล่ยถาม
ผมคิดว่าเราไม่สามารถผลิตปืนไรเฟิลรุ่นนี้ได้เพราะสภาพของมันเมื่อผ่านการใช้งานจริงแล้วมันก็จะไม่ต่างอะไรจากเศษเหล็กที่ยิงกระสุนได้ เจิ้งฉีพูดอย่างจริงจัง
คุณวางแผนจะบอกเรื่องนี้กับเย่คุนเมื่อไหร่? เซี่ยเหล่ยถาม
ผมวางแผนจะบอกเขาวันนี้ แต่… เขาจ้องมองที่เจิ่งหยินหยินก่อนจะพูดต่ออย่างตะกุกตะกักว่า เธอบอกว่าเธอท้องและเธอต้องการจะเจรจากับภรรยาของผม ดังนั้นเช้านี้ผมจึงยังไม่ได้บอกประธานเย่ ผมวางแผนจะเคลียปัญหากับเธอก่อน จากนั้นก็ค่อยกลับไปรายงานประธานเย่ทีหลัง แต่แล้วคุณก็เข้ามา….
เจิ้งฉีเป็นชายที่กลัวภรรยามากดังนั้นเขาจะไม่รอช้าที่จะเคลียปัญหาในเรื่องนี้เป็นอันดับแรก เซี่ยเหล่ยสืบและรู้ถึงความเป็นจริงข้อนี้ดังนั้นเขาจึงใช้ประโยชน์จากมันให้มากที่สุด
โอเค ถ้าอย่างนั้นก็อย่าบอกเรื่องนี้กับเย่คุน เซี่ยเหล่ยพูด
ห๊ะ? ทำไมหล่ะ? เจิ้งฉี ไม่เข้าใจ พี่ใหญ่ไม่ต้องการให้คุณบอกเรื่องนี้กับเย่คุน นอกจากนี้คุณจะต้องสับเปลี่ยนผลการทดสอบปืนไรเฟิลจู่โจมเฉิงหวู่ให้มันอยู่ในสภาพปกติ คุณต้องรายงานผลการทดสอบว่าไม่มีปัญหาอะไรเลยแถมประสิทธิภาพของมันก็ยอดเยี่ยมมากอีกด้วย
เอ่อ เรื่องนี้มัน… เจิ้งฉีพูดเห็นได้ชัดว่าเขาค่อนข้างที่จะลังเลใจ
เซี่ยเหล่ยยิ้มก่อนจะพูดเย้ยหยันว่า ถ้าคุณไม่ทำตามที่พี่ใหญ่ผมต้องการ ภรรยาของคุณจะได้เห็นวีดีโอที่คุณและผู้หญิงคนนี้เสพสุขกันอย่างแน่นอน นอกจากนี้คุณจะไม่มีวันได้เจอลูกสาวของคุณอีกเลยด้วย สุดท้ายพี่ใหญ่ของผมก็จะส่งคุณไปลงนรก นี่คือทั้งหมดที่ผมจะจัดการกับคุณถ้าคุณปฏิเสธ
ใบหน้าของเจิ้งฉีซีดลงทันที เขาพูดต่อด้วยเสียงที่สั่นเทาไปด้วยความกลัวว่า ผมไม่สามารถทำได้ ผมจะถูกไล่ออกหากผมทำแบบนั้น และ…และผมจะต้องรับผิดชอบทุกอย่าง ชีวิตต่อจากนั้นของผมจะพังทลายทันที พี่ใหญ่คิดเรื่องนี้เผื่อคุณเอาไว้แล้ว เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมกับหยิบบัตรเครดิตขึ้นมาก่อนจะพูดต่อว่า มันมีวงเงินอยู่จำนวนห้าล้านหยวน มันมากพอที่จะให้คุณเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ รหัสคือตัวเลขหกหลักสุดท้ายที่อยู่ด้านหลังของบัตร คุณสามารถถอนเงินได้ทุกเมื่อด้วยบัตรใบนี้
เพียงแค่เสี้ยววินาทีเจิ้งฉีก็ตอบตกลงโดยไม่ต้องคิดมากเลยว่า ผมจะทำตามที่คุณบอกเอง
เซี่ยเหล่ยยิ้มก่อนจะพูดว่า คุณเป็นคนฉลาด คุณตัดสินใจได้ถูกแล้ว แต่ผมอยากจะเตือนอะไรคุณเอาไว้หน่อย อย่าเล่นตุกติกกับพี่ใหญ่ของผมเด็ดขาดเพราะไม่อย่างนั้นพี่ใหญ่ไม่เอาคุณไว้แน่
ผมจะไม่ทำอะไรตุกติกอย่างแน่นอน อันที่จริงผมเองก็เบื่อและหมดความอดทนกับเย่คุนแล้วเหมือนกันแต่ก็ดีผมจะใช้โอกาสนี้ลาออกไปเลย เจิ้งฉีพูด
โอเค ดีมาก เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมลดปากกระบอกปืนลงก่อนจะหันไปพูดกับ เจิ่งหยินหยินว่า คุณยังมัวทำอะไรอยู่ ไปคุกเข่าขอโทษกับพี่ใหญ่เดี๋ยวนี้ ไป!
ฉัน… ฉันจะไปเดี๋ยวนี้เลย เจิ่งหยินหยินพูดพร้อมรีบวิ่งออกไปทันที
ไม่นานเซี่ยเหล่ยก็กลับออกไปเช่นกัน
ในขณะนี้ทั้งห้องเหลือเพียงแค่เจิ้งฉี เขาถือบัตรเครดิตที่เซี่ยเหล่ยทิ้งไว้ให้อยู่พักใหญ่ก่อนที่รอยยิ้มจะปรากฏที่มุมปากของเขา
ห้าล้านหยวนถือว่าเป็นเงินก้อนใหญ่มากสำหรับพนักงานประจำที่ได้รับเงินเดือนเหมือนคนอื่นทั่วๆไป มีคนมากมายที่ทำงานทั้งชีวิตก็ไม่อาจจะหาเงินจำนวนมากขนาดนี้ได้ ดังนั้นการที่เขาได้รับข้อเสนอนี้ทำให้เขาไม่จำเป็นต้องไตร่ตรองอะไรเลย เขาจึงตอบตกลงได้ทันที
ก่อนอื่นต้องตรวจสอบยอดเงินและรหัสผ่านก่อน ถ้ามันใช้ไม่ได้หล่ะก็…เรื่องการทดสอบจะถึงหูเย่คุนทันที! เจิ้งฉีพูดก่อนจะเดินออกจากห้องไปเช่นกัน หลังจากออกจากห้องแล้วเซี่ยเหล่ยก็กลับมายังห้องที่จองไว้ ในขณะที่เขากำลังถอดหน้ากากอยู่นั้น เฉินตูเทียนหยินโผเข้ามากอดเขาพร้อมกับพูดข้างหูของเขาว่า ฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่าคุณจะใช้วิธีแบบนี้ ฉันว่าคุณสามารถเปลี่ยนสายอาชีพไปเป็นนักแสดงได้เลยนะ
เซี่ยเหล่ยโอบเอวของเฉินตูเทียนหยินก่อนจะพูดว่า ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยทำเรื่องเหล่านี้มาก่อนเลย ผมได้เรียนรู้มันทั้งหมดจากสำนักงานลับ101 บางสิ่งบางอย่างมันก็จำเป็นต้องทำแม้ว่าจะผิดกฎหมายไปบ้าง แต่นั่นก็เพราะผมไม่มีทางเลือก
ฉันเข้าใจแล้ว เฉินตูเทียนหยินพูดก่อนจะพูดต่อว่า ในขณะนี้รัฐวิสาหกิจเป็นผู้ครอบครองตลาดที่แข็งแกร่งที่สุด พวกเขาร่ำรวย มีอำนาจและหยิ่งผยอง นักธุรกิจที่เป็นของเอกชนไม่สามารถแข่งขันกับพวกเขาได้เลย หากคุณเข้าไปขวางทางธุรกิจที่พวกเขากำลังทำอยู่ แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องกีดกันรวมถึงไล่คุณออกไปให้พ้นทางของพวกเขา ซึ่งบริษัทฮั่นยุทโปกรณ์และกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีนเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น ดังนั้นมันไม่ผิดหรอกนะถ้าคุณจะทำการตอบโต้พวกเขาและเพราะพวกเรามีอำนาจน้อยกว่าดังนั้นถ้าจะใช้วิธีผิดกฎหมายไปบ้างก็คงไม่เป็นไร
ทันทีที่เฉินตูเทียนหยินพูดจบ เซี่ยเหล่ยก็ขยับเข้าไปใกล้ก่อนจะจู่โจมไปที่ริมฝีปากของเธอ เฉินตูเทียนหยินตัวอ่อนทันที
ในโลกนี้มีเพียงแค่ผู้ชายที่ชื่อเซี่ยเหล่ยเท่านั้นที่สามารถทำให้เธอเป็นแบบนี้ได้
ขณะเดียวกันเสื้อผ้าของพวกเขาก็ค่อยๆหล่นลงไปกองกับพื้นทีละชิ้นๆ
ครึ่งชั่วโมงต่อมาทุกอย่างจบลง
Hubby ตอนนี้ก็เกือบจะครบหนึ่งเดือนแล้วเรื่องของกู๋เค่อเหวิน … เฉินตูเทียนหยินเริ่มพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว ท่าทางของเธอดูไม่สบายใจและดูเป็นกังวลมาก ไม่ต้องกังวล ผมได้รับอนุญาตจากผู้บริหารฉือของสำนักงานลับ101แล้ว เขาอนุญาติให้ผมพากู๋เค่อหวู่ไปประเทศญี่ปุ่นได้ เซี่ยเหล่ยพูดปลอบใจเธอ
พวกเขาอนุญาตแล้วอย่างนั้นเหรอ? เฉินตูเทียนหยินถามด้วยความประหลาดใจ
เขาก็ไม่ได้เต็มใจหรอก แต่ผมเองทำประโยชน์ให้กับพวกเขาไว้มากมาย นี่เหมือนเป็นการตอบแทนของพวกเขา เซี่ยเหล่ยพูดจบก็นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อว่า แต่อย่างไรก็ตาม คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกแล้ว ผมจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยเพื่อคุณเอง
ขอบคุณนะ แต่ยังไงฉันก็กังวลเกี่ยวกับการเดินทางไปญี่ปุ่นของคุณอยู่ดี เฉินตูเทียนหยินพูด
ไม่เป็นไร คุณก็เห็นว่าผมสามารถแปลงโฉมตัวเองได้ดังนั้นผมจะทำมันก่อนจะไปประเทศญี่ปุ่น ไม่มีใครจำผมได้แน่นอน
แต่กู๋เค่อเหวินก็ไม่ใช่มือสมัครเล่น คุณเองก็บอกว่าเธอเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ซีไอเอ แสดงว่าเธอต้องมีผู้ช่วยอยู่ มันอาจจะทำให้คุณตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายร้ายแรงก็ได้นะ
เซี่ยเหล่ยขยับตัวเข้าไปหาเฉินตูเทียนหยินก่อนจะกระซิบเบาๆว่า เบื้องบนต้องการให้ผมฆ่าทั้งกู๋เค่อเหวินและกู๋เค่อหวู่ มันจะไม่มีการเจรจาอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น นอกจากนี้ผมก็ไม่ได้ทำงานคนเดียว ผมได้รับกำลังสนับสนุนจากสำนักงานลับ101ด้วย คุณไม่ต้องกังวลหรอกนะ
เฉินตูเทียนหยินมีท่าทางผ่อนคลายทันที และในขณะนี้เธอนอนอย่างสงบอยู่ภายใต้อ้อมแขนของเซี่ยเหล่ย
