ตอนที่ 111
บึ้ม!!
ร่างกายของซูฮยอนระเบิดตัวไปข้างหน้าเหมือนสปริง ฝูงงูหลายตัวพุ่งเข้าโจมตี
ภายในมือของเขาถืออาวุธอย่างละเล่ม ข้างหนึ่งถือดาบ อีกข้างหนึ่งถือหอก
[หอกปราบมังกร]
วุป!!
หอกในมือของซูฮยอนสั่นสะเทือนอย่างกําเริบ เมื่อระยะห่างระหว่างซูฮยอนและฝูงยนเข้ามา เขาหยุดอยู่กับที่กะทันหัน มือที่ถือหอกง้างไปด้านหลังและเหวี่ยงโจมตีเป้าหมายด้านหน้าเต็มแรง
ฉีก!! ฉีก!!
หอกปราบมังกรแตกเป็นชิ้นเล็กๆนับพัน งูตัวใดก็ตามที่เสนอหน้าออกมา ถูกหอกเสียบทะลุตัว ลําตัวโดนหอกปักลงไปบนพื้น แต่เพราะจํานวนงูมีเยอะหอกเล่มเดียวจึงจัดการพวกมันไม่หมด
หอกปราบมังกรมีประสิทธิภาพในการสังหารงูจํานวนมากก็จริง แต่ฝูงงูตรงหน้ามีจํานวนเยอะเกินไป เส้นทางที่หอกปราบมังกรสร้างไว้เปิดโล่งเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนฝูงกลุ่มใหม่จะอุดช่องว่าง
<<สงสัยต้องอีกรอบ>>
ซูฮยอนเอื้อมมือออกไปด้านหน้า อากาศที่ว่างเปล่าเริ่มเกิดการบิดเบี้ยวขึ้น เขาหยิบหอกปราบมังกรที่เก็บไว้ในมิติย่อยอีกเล่มออกมา
ทันใดนั้นเองซูฮยอนรู้สึกว่าสายตาเริ่มพร่ามัว สมดุลร่างกายเดี่ยวขึ้นเดี๋ยวลงผสมปนเปกัน อวัยวะภายในดิ้นพล่าน ราวกับว่าอยากออกมานอกร่างกาย
นี่มันพิษไม่ใช่เหรอ….
“บัดซบ”
ซูฮยอนขบฟันแน่น
เขาวางหอกปราบมังกรที่อยู่ในมือลง มืออีกข้างที่ถือดาบไว้เหวี่ยงดาบเป็นวิถีโค้ง
รัศมีดาบวิถีโค้งหมุนวนห้อมล้อมตัวซูฮยอนและฟันทุกอย่างที่อยู่รอบตัว
งูตัวที่ลอบโจมตีซูฮยอนที่เผลอถูกนั่นออกเป็นชิ้นๆ ซากร่วงลงพื้น
จากนั้นซูฮยอนก็ยกเท้ากระทืบพื้นอย่างแรง หัวงูที่ฝังอยู่ใต้พื้นถูกบดขยี้แหลกละเอียด การมองเห็นที่เคยพร่ามัวเริ่มหายเป็นปกติ สภาพแวดล้อมที่มๆกลับมาสว่างอีกครั้ง
ฟอ!! ฟอ!
เบื้องหน้าของซูฮยอนมีฝูงงูคลานยั้วเยี้ย ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าหรือด้านหลังถูกรุมล้อมไปด้วยฝูงงู
หนําซ้ํายิ่งปล่อยให้เวลาผ่านไป พิษที่สะสมอยู่ในร่างกายแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
<<เหมือนว่าฉันจะมัวเรื่อยเฉื่อยต่อไปอีกไม่ได้แล้ว>>
แม้งพวกนี้จะมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกมันคือโคลนนิ่งของอูโรโบรอส ดังนั้นพิษของพวกมันจึงไม่อาจมองข้ามได้
ความรุนแรงของพิษอ่อนแอลง เนื่องจากขนาดตัวโคลนนิ่ง แต่ถ้าปล่อยให้มันแพร่กระจายโดยไม่หาทางยับยั้ง ยิ่งเวลาผ่านไปผลเสียที่ตามมาจะเห็นเด่นชัดขึ้น
<<เฮ้อขนาดขับพิษออกจากร่างกาย ฉันยังไม่มีเวลาเลย>>
เขาต้องเร่งเข้าถึงหัวใจของอุโรโบรอสให้เร็วที่สุด
ดาบของซูฮยอนลุกท่วมไปด้วยเปลวเพลิง พลังเวทย์ทําให้ความยาวของดาบเพิ่มขึ้น เขาเหวี่ยงดาบเบาๆเส้นทางที่เต็มไปด้วยฝูงงูเปิดขึ้นชั่วขณะ ก่อนฝูงงูจากจุดอื่นๆจะมารวมกลุ่มกันและปิดช่องว่างไว้เหมือนเดิม
ซูฮยอนห่อหุ้มร่างกายของตัวเองด้วยเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์และพุ่งทะยานไปยังเป้าหมายด้าน หน้า
ฉัวะ!!
ทุกครั้งที่ซูฮยอนกวัดแกว่งดาบ งูที่อยู่เกาะกลุ่มด้านหน้า ลําตัวของพวกมันมักถูกนั่นขาดเป็น 2 ซีกเสมอ
การบุกทะลวงไปข้างหน้าของซูฮยอนเป็นเหตุให้การป้องกันลดลง กลยุทธ์ของเขาน่าตําหนิเหลือทน
แต่ก็ช่วยไม่ได้ เพราะเขาต้องแข่งกับเวลา เมื่อพิษเริ่มแพร่กระจายไปตามส่วนต่างของร่างกายซูฮยอนจึงตัดสินใจแน่วแน่ ว่าตัวเองจะไม่ยอมโดนกัดอีกเป็นครั้งที่ 2
ซูฮยอนกวัดแกว่งดาบมือเป็นระวิง เขาค่อยๆขยับเข้าใกล้เป้าหมายไปเรื่อยๆ
[ความเหนื่อยล้า: 68]
“แฮก แฮก”
ทําไมร่างกายของฉันถึงรู้สึกเหนื่อยเร็วผิดปกติ? หรือเป็นเพราะพิษที่แฝงอยู่ในร่างกาย?
การต่อสู้ที่ผ่านมาซูฮยอนไม่ถนอมพลังเวทย์อีกต่อไป ความเหนื่อยล้าในร่างกายจึงเพิ่มสูงขึ้น
สเตตัสสุขภาพก็ลดฮวบลงเช่นกัน ทุกย่างก้าวมีเสียงลมหายใจหอบเหนื่อยดังออกมาตามไรฟัน
แต่ผลตอบแทนที่ได้รับกลับมาคือ เขาเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้น
ระหว่างซูฮยอนกําลังกวัดแกว่งซ้ําไปซ้ํามา เขาให้ความสนใจส่วนหนึ่งตรวจสอบสเตตัสความเหนื่อยล้า ดวงตาของเขาพลันเปล่งประกายเจิดจ้า
<<ตอนนี้แหละ>>
[ความเหนื่อยล้า: 70]
[คุณลักษณะพิเศษ ฮีโร่อมตะถูกเปิดใช้งาน]
[โพละกําลังและความแข็งแกร่งกําลังฟื้นฟู สเตตัสและสถานะผิดปกติถูกฟื้นฟูบางส่วน]
[สเตตัสโดยรวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย]
อาการวิงเวียนศีรษะของซูฮยอนเริ่มบรรเทาลง พลังงานในร่างกายที่ร่อยหรอเริ่มฟื้นฟูเอ่อล้นออกมา
นอกจากความแข็งแกร่งทางด้านร่างกาย พลังเวทย์ยังถูกเติมเต็มอีกด้วย เผลอๆมากกว่าเดิมด้วยซ้ํา สกิลฮีโร่อมตะที่ซูฮยอนครอบครองจะถูกเปิดใช้งาน เฉพาะช่วงเวลาเจียนตายเท่านั้น
ดาบอันทรงพลังสะบั่นตัวงที่ขวางทางเป็นว่าเล่น เท้าซูฮยอนซากงูที่ตกลงมาจากฟ้าเหมือนห่าฝน ทุกการโจมตีเท้าของเขาขยับไปข้างหน้าตลอด
ดูจากสถานการณ์โดยรวมปัจจุบันเหมือนการต่อสู้จะไม่ยุติลงง่ายๆ แม้เขาจะสังหารงไปเป็นจํานวนมากแล้วก็ตาม ยิ่งเขยื้อนเข้าใกล้หัวใจ ฝูงงูก็ยิ่งรวมตัวหนาแน่นขึ้นตามไปด้วย
ศูนย์กลางของหัวใจเต็มไปด้วยฝูงงู มันไม่มีช่องว่างให้ซูฮยอนแทรกเลย
ซูฮยอนเอื้อมมือออกไปข้างหน้ากลางอากาศ เขาควานหาหอกปราบมังกรที่เหลืออีก 2 เล่มจากมิติย่อย
เขาดึงหอกทั้ง 2 เล่มออกมาด้วยมือเพียงข้างเดียว การโจมตีครั้งนี้จะเป็นการโจมตีครั้งสุดท้าย
ฟอ!!!
ขณะวิ่งตะลุยไปข้างหน้า ซูฮยอนรู้สึกว่ากล้ามเนื้อขาและกล้ามเนื้อแขนกระตุกเกร็งเป็นระ
เพราะสเตตัสความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าเนื่องจากผลของสกิลอมตะ แม้แต่พลังเวทย์เขายังสัมผัสได้ว่าพวกมันถูกยกระดับขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นหมายความว่าผลของสกิลขยายปัจจัยเวทย์ของเขา
เมื่อใดก็ตามที่ซูฮยอนถ่ายเทพลังเวทย์ลงไปในหอกปราบมังกร
หอกปราบมังกรสั่นสะเทือนอย่างหนักหน่วง ราวกับว่ามันพร้อมปริแตกได้ทุกเมื่อ
ซูฮยอนกุมหอก 2 เล่มด้วยมือข้างเดียว เขาควบคุมพลังเวทย์ในอัตราจํากัด เพื่อไม่ให้พลังเวทย์เกิดปฏิกิริยาระเบิด เขามีโอกาสเพียงครั้งเดียว ดังนั้นทุกขั้นตอนจึงต้องรัดกุม อะไรที่อดกลั้นได้ก็ต้องทํา เขาไม่ผลีผลาม พลังเวทย์ยังคงไหล่เข้าสู่หอกอย่างต่อเนื่อง
ฟอ!!
ก่อนที่ปากงูจะเขมือบหัวซูฮยอนได้สําเร็จ
ตูม!!
ซูฮยอนยืนมือออกไปด้านหน้า แสงสีฟ้าลอยออกมาจากฝ่ามือและระเบิดกลางอากาศ แสงจากการระเบิดทําลายทัศนวิสัยการมองเห็น
ฟอ!!
ฝูงงที่ปิดกั้นเส้นทางของซูฮยอนแตกไปคนละทิศคนละทาง หอกปราบมังกรแยกออกจากกันเป็นชิ้นเล็กและพุ่งโจมตีฉีกกระชากงูทุกตัว พวกมันสูญเสียการมองเห็นและอยู่ในสภาวะระส่ําระสาย หอกปราบมังกรจึงคราญชีวิตของมันอย่างง่ายดาย เส้นทางที่เคยเนื่องแน่นไปด้วยฝูงงู ปัจจุบันกลายเป็นพื้นที่โล่งๆ
ซูฮยอนถีบตัววิ่งไปตามทาง ไม่นานเขาก็เข้าใกล้หัวใจ
ตึก!! ตึก!!
หัวใจที่มีรูปทรงเหมือนแตงโมลูกเล็ก คือแกนกลางที่คอยส่งพลังงานหล่อเลี้ยงร่างกายให้แก่อูโรโบรอส
ฉัวะ!!
ซูฮยอนลงดาบไปที่หัวใจ
อย่างไรก็ตาม ดาบของเขากระดอนกลับเข้าหาตัว
ดาบสั่นระริกอย่างหนัก มือที่กุมด้ามดาบเอาไว้มีเลือดไหลซึมออกมา
บนพื้นผิวหัวใจเริ่มเกิดรอยปริแตก แต่ก็ยังไม่หนักพอที่จะทําให้หัวใจแตกออกจากกัน
<<ยุ่งยากเป็นบ้า>>
หัวใจของอูโรโบรอสเป็นองค์ประกอบที่ค่อนข้างแตกต่างจากอวัยวะของสิ่งมีชีวิตทั่วไป ช่วงเวลาที่เขาเดินสํารวจไปทั่วร่างกายของมอนสเตอร์ขนาดยักษ์ตัวนี้ ซูฮยอนไม่พบอวัยวะอย่างอื่นเลย
ในร่างกายของอูโรโบรอสมีเพียงแหล่งพลังงานขนาดย่อม เพื่อหล่อเลี้ยงร่างกายใหญ่โต ซึ่งแหล่งพลังงานที่ว่า สามารถทําให้ร่างกายใหญ่โตเคลื่อนไหวได้
ครืน!!
พื้นที่รอบๆกระงอนกระแง่นและสั่นสะเทือน หากลองเปิดหูฟังจะได้ยินเสียงคํารามดังออกมาจากข้างนอก อูโรโบรอสร้องครวญครางออกมาเพราะหัวใจได้รับความเสียหาย
<<มันได้ผลจริงด้วย>>
ซูฮยอนซัดดาบอีกรอบ
ฉัวะ!!
เขาลงดาบครั้งแล้วครั้งเล่า อย่างไรก็ตามพังผืดที่ห่อหุ้มหัวใจเอาไว้ไม่ยอมขาดออกจากัน นี่คือมาตรการป้องกันด่านสุดท้ายที่อูโรโบรอสสร้างขึ้น เพื่อปกป้องหัวใจของมัน
แต่ก็ไม่สามารถยับยั้งรอยแตกได้อยู่ดี ดาบของซูฮยอนถูกเสริมแกร่งด้วยสกิลอมตะ อานุภาพของมันจึงกล้าแกร่งมากขึ้น
ปัญหาเพียงหนึ่งเดียวที่เขากังวลคือ เขาเหลือเวลาอีกไม่นาน
ฟอ!!
ซูฮยอนมองรอบตัวและทําการเหวี่ยงดาบออกไป วิถีดาบเชือดงที่หวังโจมตีจากด้านหลัง แม้เขาจะเคลียร์ทางจนสามารถมาถึงหัวใจได้ แต่ในร่างกายของอูโรโบรอสมีฝูงอีกจํานวนนับไม่ถ้วน
ตั้งแต่เริ่มต้นจวบถึงปัจจุบัน เขาทราบเป็นอย่างดีว่าการสังหารงูตัวเล็กตัวน้อยทั้งหมดให้เหี้ยนเป็นได้แค่ฝันลมๆแล้งๆ
<<ฉันจําเป็นต้องเพิ่มเวลาอีกเล็กน้อย…>>
คิ้ว!!
มิรุเผยร่างของมันโดยการโบยบินอยู่บนหัวซูฮยอน มังกรของเขาไม่เคยออกมาข้างนอก หาก ไม่มีคําอนุญาตจากเขา การอบรมที่เข้มงวดทําให้มิรุยอมทําตาม ทว่าครั้งนี้มีรถือวิสาสะออกมาเอง โดยพลการ แต่ซูฮยอนไม่โกรธ กลับกันเขาดีใจมากกว่าด้วยซ้ํามิรุ!”
“ฉันขอฝากที่เหลือให้นายจัดการ”
[ปราณมังกร]
เปลวเพลิงสีแดงเข้มพ่นออกมาจากปากมิรุ
ร่างของงูที่พยายามพุ่งโจมตีซูฮยอนจากทั่วทิศ โดนเปลวเพลิงแผดเผาจนกลายเป็นผุยผง
มิรุไม่สามารถปล่อย [ปราณมังกร] ได้หลายครั้งนัก แต่การโจมตีมีอนุภาพทําลายล้างสูงกว่าบางสกิลเสียอีก
เขาตัดสินใจปล่อยให้มิรุจัดการฝูงงูจากด้านหลัง
ซูฮยอนหันไปเผชิญหน้ากับหัวใจและเหวี่ยงดาบโจมตีอีกรอบ
เคร๊ง!!
พังผืดที่เกาะอยู่รอบๆหัวใจเริ่มกะเทาะหายไปที่ละนิด
ซูฮยอนเหลือเวลาอีกไม่มากนัก เพราะสกิลอมตะเป็นสกิลที่โคตรอภิมหาโกง ดังนั้นผลของสกิลจึงคงอยู่ได้ไม่นาน
[ปราณมังกร]
[ปราณมังกร] ระลอกใหม่ถูกพ่นออกไปจากปากมิรุ
ครั้งนี้นับเป็นการโจมตีรอบที่สอง
[ปราณมังกร] ของมิรุถูกจํากัดขอบเขตไว้แค่สองรอบเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายผู้ใช้แบกรับภาระหนักเกินไป
อย่างไรก็ตาม
มิรุเค้นพลังเวทย์ที่โคจรอยู่ในร่างกายออกมาเป็นเฮือกสุดท้าย ระหว่างนั้นมีฝูงงูจํานวนหนึ่งดีดตัวขึ้นไปบนอากาศหวังเขมือบซูฮยอนจากด้านบน แต่หน้าเสียดายที่พวกมันถูกปัดเป่าด้วย [ปราณมังกร] ครั้งที่ 3 ของมิรุซะก่อน
ฟอ!!
จุดที่ซูฮยอนยืนอยู่เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางของฝูงงู เมื่อ [ปราณมังกร] ปล่อยออกไปกระทบลําตัวของบรรดางู คมเขี้ยวของพวกมันยังไม่ทันสัมผัสเป้าหมาย ลําตัวของพวกมันกลับละลายหายไปกลางอากาศ
[ปราณมังกร] 3 ครั้งติด
ซูฮยอนรู้สึกภูมิใจที่มิรุสามารถก้าวข้ามขีดจํากัดของตัวเองได้ เมื่อเสร็จสรรพจากการดึงพลังเฮือกสุดท้าย ร่างของมิรุที่กําลังลอยเท้งเต้งกลางอากาศ ดิ่งฮวบตกลงมากองบนพื้นพละกําลังทั้งหมดโดนสูบหายไปจนเกลี้ยง แม้แต่แรงกระพือปีกพยุงตัวยังทําไม่ได้
ยามนี้ถึงเวลาที่ตัวซูฮยอนต้องลงมือสานต่อความพยายามของมิรุ
ซูฮยอนซูดาบขึ้นไปเหนือหัว พลังเวทย์ถ่ายเทเข้าไปในดาบอย่างต่อเนื่อง
เมื่อพลังคงที่ เขาบีบดาบด้วยมือสองข้างแล้วเล็งพันไปที่กึ่งกลางหัวใจ
ดาบของซูฮยอนแทงลึกไปถึงแกนกลางหัวใจ
ฟ้อ!!
โฮกกกก!!!
เสียงกรีดร้องครวญครางของงู ดังก้องออกมาทั่วสารทิศ งูที่เคยพยายามฝังเขี้ยวบนตัวซูฮยอน ชักดิ้นทุรนทุราย
นอกจากเสียงเจ้าตัวเล็ก ซูฮยอนยังได้ยินเสียงกรีดร้องของอูโรโบรอสแซมมาตามสายลม
ดาบที่แช่อยู่กึ่งกลางหัวใจเริ่มสั่นกระเพื่อม พลังอันแก่กล้าและน่าเหลือเชื่อไหล่พรั่งพรูออกมารวมตัวอยู่บนปลายดาบ และด้วยมือของซูฮยอนที่ยังกุมอาวุธค้างไว้ พลังของอูโรโบรอสจึงแผ่ซ่านไปตามเนื้อตัวของซูฮยอนด้วยเช่นกัน
“หัวใจของอูโรโบรอส เป็นแหล่งพลังงานรูปแบบหนึ่ง ซึ่งตกผลึกมาจากพลังที่มันรวบรวมมาตลอดชีวิต ความหมายพื้นๆเข้าใจง่ายๆ มันคือแหล่งพลังงานที่มีความเข้มข้นและมีความบริสุทธิ์อย่างที่สุด”
คําแนะนําจากผู้อารักขา ซึ่งมีโอกาสได้รับรางวัล “ใหญ่กว่าเดิม” ภายในการทดสอบชั้นที่ 30
“ทําลายหัวใจของยูโรโบรอส โดยทั่วไปหมายถึงการสังหารมอนสเตอร์ ทว่าด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเจ้า การสังหารอูโรโบรอสเป็นไปแทบไม่ได้ แต่ยังมีสิ่งหนึ่งที่ข้ามั่นใจว่าเจ้าทําได้ นั่นก็คือลอบเข้าไปภายในร่างกายของมันแล้วทําลายหัวใจ”
“สังหารอูโรโบรอสเป็นภารกิจหลักของการทดสอบใช่หรือป่าวครับ?”
“ไม่ใช่ การสังหารอูโรโบรอสไม่มีความเกี่ยวข้องกับการทดสอบ ไม่ใช่สิ มอนสเตอร์ตัวนั้นเป็นแค่ส่วนหนึ่งจากการทดสอบทั้งหมด เจ้านั่นไม่ใช่เป้าหมายหลักของการทดสอบ มันเป็นเพียงภัยพิบัติที่เกิดขึ้นตามเนื้อเรื่องของการทดสอบเท่านั้น”
“ถ้างั้น ทําไมถึง…”
“ข้าเคยบอกเจ้าแล้วใช่หรือไม่ คําแนะนําของข้าทําให้เจ้าได้รับรางวัลชั้นที่ 30 เพิ่มเติม”
“เจ้าควรทําลายหัวใจของสิ่งมีชีวิตตัวนั้นซะ สิ่งที่เจ้าควรทํามีแค่นั้นแหละ”
สายตาของผู้อารักขาเหลือบมองไปที่หน้าซูฮยอน ราวกับอย่างถามว่า “เจ้าจะทําสําเร็จหรือไม่ ข้าอยากรู้จริงๆ”
มือที่ซูฮยอนกุมดาบเอาไว้ เริ่มมีเส้นเลือดปูดโปนเห็นเด่นชัด
นอกจากมือ ใบหน้าของซูฮยอนก็มีเส้นเลือดเหมือนกัน ทําให้ใบหน้าของเขาตอนนี้ดูน่าเกลียดน่ากลัว
เขารู้สึกว่ามีพลังบางอย่างเอ่อล้นไปทั่วร่าง มากถึงขั้นที่ว่าร่างกายพร้อมระเบิดได้ทุกเมื่อ
ปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นเพราะซูฮยอนไม่ได้เตรียมตัวมาดูดซับพลังงานอันมหาศาลนี้ แต่พลังงานของอูโรโบรอสที่แล่นไปทั่วร่างกายของซูฮยอนอย่างเกรี้ยวกราด ไม่ได้มีความประสงค์ร้ายเจือปน เขาจึงวางใจได้เปราะหนึ่ง
<<ฉันควรดีใจและหยุดแค่นี้ก่อนดีไหม?>>
หัวสมองของซูฮยอนหมุนประมวลผล
เขาสะดุดใจว่าตัวเองควรยอมแพ้และหยุดแค่นี้ก่อน แต่ในใจลึกๆก็รู้สึกว่ามันไม่คุ้มกับความทุ่มเทที่เสียไป ซูฮยอนจึงหาหนทางอื่น ที่ทําให้เขาไม่รู้สึกเสียใจหลังออกไปจากที่นี่ ทันใดนั้นความคิดสุดบรรเจิดก็เด้งขึ้นมาในหัว
<<คุณลักษณะอูโรโบรอส>>
ซูฮยอนกุมดาบด้วยมือข้างเดียว ก้มตัวลงวางมือสัมผัสส่วนร่างกายของอูโรโบรอส
[คุณกําลังใช้สกิลจําแลง เป้าหมายคืออูโรโบรอส]
[คุณกําลังดูดซับคุณลักษณะบางส่วนจากเป้าหมาย]
[คุณลักษณะ : เนตรที่สาม]