การกลับมาของฮีโร่ – ตอนที่ 118

ตอนที่ 118

ตอนที่ 118

กลางหน้าผากซูฮยอนมีรอยแยกแง้มเปิดขึ้น เนตรที่สามโผล่ออกมาจากรอยแยกนั้น

ดวงตากลางหน้าผากมองลึกไปยังเปโตรผ่านลูกแก้วคริสตัล ซึ่งเขากําลังจับตาดูซูฮยอนจากสถานที่ไหนสักแห่ง

และในเวลาต่อมาริมฝีปากของซูฮยอนค่อยๆคลี่ยิ้มออก จนกลายเป็นรอยยิ้มเยาะ

“ฉันหาแกเจอแล้ว!!”

ซูฮยอนใช้เวลาประมาณหนึ่งเพื่อค้นหาเป้าหมายที่เพ่งเล็ง เปโตรต้องการยืดเวลาออกไปอีกสักพักแล้วรอเวลาที่เหมาะสมเพื่อเข้าร่วมการต่อสู้ในระหว่างนั้นเขาก็สังเกตสถานะของซูฮยอนอย่างรอบคอบไปพลางๆ

แต่การรอคอย เปิดโอกาสในซูฮยอนค้นพบตําแหน่งของอีกฝ่ายก่อน

ผัวะ!!

ซูฮยอนเงื้อมือตบหน้าผู้ตื่นขึ้นที่พยายามตะครุบเขาจากด้านหน้า หลังจากนั้นซูฮยอน โคจรพลังเวทย์ลงไปที่ขาและกระทุ่งเท้าพุ่งไปยังทิศทางที่เขาหมายตาไว้

ฟรีบ!!

เขาเหยียบหลังคาสิ่งปลูกสร้างและกระโดดไปข้างหน้า สายตามองทิวทัศน์รอบตัว

เปโตรอยู่ไม่ไกลจากจุดที่ซูฮยอนต่อสู้มากนัก อีกฝ่ายนับว่ามีสมองหลักแหลมพอสมควร เพ ราะเปโตรเฝ้าดูสถานการณ์นอกขอบเขตการตรวจจับของซูฮยอน

ถนนทางเดินเริ่มคับแคบลงเรื่อยๆ สภาพแวดล้อมโดยรอบ รกร้าง วังเวง จุดที่ซูฮยอยมาถึงคือบริเวณชานเมือง

เขาวิ่งต่อไปอีกหน่อย ก่อนหยุดชะงักยืนอยู่กับที่

“หวัดดี พวกเราได้เจอกันสักทีนะ”

“แก!! ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

เปโตรโผล่ออกมาจากจุดที่เขาแอบซ่อน สายตาจ้อมมองซูฮยอนอย่างตื่นกลัว

เขาย้ายสายตาออกจากซูฮยอนแล้วมองไปยังลูกแก้วคริสตัลมกลิ้งอยู่บนพื้น เมื่อไม่กี่นาที่ก่อนหน้าภาพที่ฉายบนลูกแก้วคริสตัลเป็นฉากลูกกะจ๊อกนัวเนียโจมตีใส่ซูฮยอน แต่ภาพที่ลูกแก้วคริสตัลกําลังจับภาพอยู่ในปัจจุบันเป็นภาพมุมสูงเหนือหัวของเขาขึ้นไป

สถานการณ์ตอนนี้ทั้ง 2 คนกําลังเผชิญหน้ากันตัวต่อตัว เปโตรไม่รู้ว่าควรทําอะไรต่อไปดี เขายืนอยู่เฉยๆและกลืนน้ําลายลงคอด้วยความกลัดกลุ้ม

ไม่สําคัญว่าซูฮยอนค้นหาเขาเจอได้ยังไง แต่ทันทีที่เขาสังเกตเห็นตาดวงที่สามกลางหน้าผาก

เปโตรตระหนักแน่ชัดว่าคู่ต่อสู้ของเขาในตอนนี้ ครอบครองความสามารถพิเศษบางอย่างอยู่

“นายอยากเจอฉันเพราะเรื่องอะไร หากต้องการเบลนดิ้ง ฉันสามารถจัดเตรียมให้นายได้ตามต้องการ

สถานการณ์ในปัจจุบันเลยเถิดมาไกลกว่าเป้าหมายที่วางเอาไว้แต่แรก สิ่งที่ควรดําเนิ นต่อไปคือการเจรจาไกล่เกลี่ย

เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่เหนือความคาดหมาย เปโตรจึงไม่มั่นใจตัวเองว่าจะสามารถเอาชนะซูฮยอนได้ไหม

“ข้อเสนอของฉันเป็นไงบ้าง นายเองคงรู้สรรพคุณของเบลนดิ้งดี”

“ฉันไม่ต้องการ” ซูฮยอนตอบกลับด้วยน้ําเสียงราบเรียบ

“อะไรนะ?”

“ฉันอุตส่าห์ด้นั้นมาถึงชั้นที่ 31 ไม่ใช่อยากเป็นพวกขี้ยาสักหน่อย และนายไม่ต้องวิตกกังวลมากขนาดนั้นก็ได้ ฉันยังไม่มีแผนฆ่านายในเร็วๆนี้”

ซูฮยอนเขม็งมองเปโตรขณะใช้แผ่นหลังพิงกําแพงบริเวณละแวกนั้นด้วยท่าที่เกียจคร้าน

สถานการณ์ปัจจุบันมีหนึ่งคนเป็นทุกข์และมีอีกหนึ่งคนผ่อนคลายสบายอารมณ์

“แน่นอนว่าต้องประเมินจากสถานการณ์โดยรวมอะนะ ถ้าไม่ให้ความร่วมมือ ฉันอาจลงมือฆ่านายจริงๆก็ได้” ซูฮยอนพูด

“นายวางแผนจะทําอะไร?”

“ถ้านายยังอยากมีชีวิต นายควรเป็นฝ่ายตอบคําถามให้ฉันมากกว่า”

แสงสว่างในแววตาของซูฮยอนเปลี่ยนไปฉับพลัน

เปโตรเผลอจ้องมองเข้าไปในดวงตาที่สามของซูฮยอน เขารู้สึกว่าแขนขาของตัว เองอ่อนเปลี้ยเพลียแรงความหนาวเย็นเริ่มคืบคลานเข้ามาเรื่อยๆคล้ายกับว่าตน เองกําลังโดนมอนสเตอร์น่าเกรงขามพันเกลียวรอบตัว

ความหวังอันน้อยนิดพังทลายลง เขาไม่สามารถต่อกรหรือเป็นคู่มือให้ซูฮยอนได้เลย นี้สินะที่เขาเรียกกันว่าขว้างงูไม่พ้นคอ

<<ระดับพลังขนาดนี้ เกินกว่าแรงค์ S ทั่วไปแล้ว!>>

ที่ผ่านมาเปโตรไม่เคยเผชิญหน้ากับแรงค์ S เป็นการส่วนตัวมาก่อนเลยสักครั้ง อย่างไรก็ตามเขาทราบเป็นอย่างดีว่ามาตรฐานขั้นต่ําสําหรับบรรลุเงื่อนไขแรงค์ S คืออะไร

ตัวเปโตรเองก็ถือได้ว่ามีสกิลและความสามารถระดับหนึ่ง มากพอที่จะบรรลุเงื่อนไขแรงค์ Sด้วยซ้ํา

จึงเป็นเหตุผลว่าทําไมเขาถึงตั้งสมมติฐาน ว่าตัวเขาในตอนนี้ ไม่ต่างอะไรกับแรงค์ S มากนัก

หลังจากเผชิญหน้ากับซูฮยอนตรงๆ เขาเริ่มเข้าใจอะไรหลายอย่างมากขึ้น หากเกิดการต่อสู้ขึ้นจริงๆ อย่าว่าแต่ทําให้อีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บเลย แม้แต่ปลายเล็บเขาก็สร้างบาดแผลไม่ได้

“นะนายต้องการอะไร?”

“ในที่สุดนายก็พร้อมพูดคุยสักทีนะ”

มันไม่สมควรเรียกว่าการพูดคุย ต้องเรียกว่าการบังคับขู่เข็ญถึงจะเข้าท่ากว่า

ซูฮยอนชม้อยตามองเปโตร ซึ่งตอนนี้อีกฝ่ายกําลังแสดงท่าทางขบฟันกรอดด้วยความอัปยศ

“สิ่งที่ฉันต้องการมีเพียงอย่างเดียว นั้นก็คือหยุดการแพร่ระบาดของเบลนดิ้ง”

“นายกําลังบอกให้ฉันหยุดขายเบลนดิ้งใช่ไหม?”

“ต่อให้นายรับปากว่าจะไม่ขายเบลนดิ้งอีกต่อไป แต่นายคงไม่รักษาคําพูดตลอดรอดฝั่ง คนบ้าๆอย่างนายกลับกลอกเชื่อถือไม่ได้ ต่อหน้าพูดรับปากดิบดี ทว่าลับหลังกลับทําอีกอย่าง”

“นายต้องการอะไรจากฉันกันแน่?

“ฉันไม่เชื่อคําพูดที่ออกมาจากปากของนาย ดังนั้นฉันต้องหาวิธีบางอย่างเพื่อควบคุมนายเอาไว้”

ซูฮยอนก้าวเดินไปหาเปโตรและยื่นมือออกไปด้านหน้า

เปโตรสะดุ้งโหยงและพยายามถอยหลังหนี

“แกจะทําอะไรหยุดนะ”

ขณะเปโตรจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของซูฮยอน ลําตัวของเขาแข็งเกร็งขึ้นชั่วพริบตา ความรู้สึกตอนนี้เหมือนทุกสัดส่วนร่างกายของเขาเปลี่ยนสภาพเป็นท่อนไม้แห่งกะทันหัน

“อีก..อีก”

มือของซูฮยอนคว้าลําคอเปโตรเอาไว้แน่น แรงบีบค่อยๆเพิ่มขึ้น เล็บแหลมคมจิกลงบริเวณเนื้ออ่อนแถวลําคอ

เส้นเลือดในตาขาวของเปโตรปูดโปนเด่นชัดขึ้น

<<ฉันกําลังจะตายงั้นเหรอ…>>

แต่ไม่นานซูฮยอนก็คลายมือออกจากลําคอ ทันทีที่เปโตรเป็นอิสระ เขาทรุดลงนั่งกับพื้นมือยกขึ้นมาจับลําคอตัวเอง ปากไอเสียงดัง หายใจเข้าออกตัวโยก ดวงตา 2 ข้างแดง…น่ากลัว

ตอนแรกเปโตรคิดว่าจะเอาชีวิตรอดไปจากที่นี้ได้อย่างไร แต่ไม่นานเขาก็รู้สึกเอะใจ สภาพร่างกายของเขาเริ่มมีบางอย่างผิดแปลกไปจากเดิม

“แกทําอะไรกับฉัน…”

“ก็ไม่มีอะไรมาก จะบอกว่ามันเหมือนพิษละมั้ง”

“พิษ ?”

“ตามความเป็นจริงมันไม่ใช่พิษหรอก มันเป็นแค่พลังเวทย์ประเภทหนึ่งซึ่งแตกต่างจากเวทย์ในตัวของนาย แต่การทํางานของมันก็คล้ายๆพิษอยู่นะ”

นี่คือความสามารถอีหนึ่งอย่างของเนตรที่สาม วิธีใช้งานคือฉีดพลังเวทย์ของอูโรโบรอสที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายซูฮยอนไปยังบุคคลอื่น ซึ่งปฏิกิริยาของมันมีความสามารถไม่ต่างอะไรกับกรดพิษของจริง

“หากนายมีพลังอ่อนด้อยกว่าฉัน ภายในระยะเวลาไม่ถึงเดือนพลังนั้นจะค่อยๆกลืนกินร่างกายของนาย ไม่ต้องบอกบทสรุปสุดท้าย นายคงรู้สินะว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

“แกโกหก ไหนบอกจะไม่ฆ่าแกงกันไง!!”

เปโตรไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อนในชีวิต พิษที่แฝงตัวมาในพลังเวทย์เนี่ยนะ? เป็นไปได้เหรอ?

ถ้ามันเป็นพิษจริงๆเขายังพอใช้พลังเวทย์ขับออกมาได้ แต่พิษที่กําลังไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเขาตอนนี้ไม่ใช่พิษธรรมดา

เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าตนเองจะประสบเคราะห์ซ้ํากรรมซัดหนักขนาดนี้

ไม่สิเขาไม่อยากยอมรับมันด้วยซ้ํา ถ้าเป็นไปได้เขาอยากให้มันเป็นเพียงความฝันมากกว่า

“นายอาจไม่เชื่อคําพูดของฉัน แต่ไม่นานนายจะรู้ซึ่งมันด้วยตนเอง หวังว่านายจะเลือกอย่างชาญฉลาด ฉันให้เวลานายกลับไปคิดทบทวนให้ดี” ระหว่างซูฮยอนกําลังเดินจากไปเขาไม่วายหันหน้ากลับมาพูดอีกประโยค

“ฉันจะรออยู่ที่โรงเหล้าร้านเดิม มีความคิดเห็นอย่างไรก็ไปบอกฉันที่นั่นได้ คนอย่างนายต้องได้รับประสบการณ์โดยตรงถึงจะเชื่อ”

ซูฮยอนพูดทิ้งท้ายจบ ก็เดินจากไป..

สายตาของเปโตรตรึงไว้ที่แผ่นหลังซูฮยอน หลังจากนั้นไม่นานร่างกายของเขาสั่นงันงกอย่างรุนแรง

เขาคิดว่าตัวเองจะต้องตายจากน้ํามือซูฮยอนซะแล้ว แต่กลับเกิดเรื่องไม่คาดฝัน ตัวเขายังมีชีวิตอยู่

<<เขาจากไปง่ายๆอย่างงี้เลยเหรอ? >>

หากเปโตรต้องการ เขาสามารถหนีการจับกุมจากซูฮยอนได้ โดยการกลับเข้าสู่โลกแห่งความจริงแล้วหาแหล่งกบดานลับตาพักพิง ต่อให้เป็นซูฮยอนก็ไม่มีทางตามหาตัวเขาพบ

อย่างไรก็ตามยังเหลือปัญหาที่น่ากังวลและคอยตามรังควานจิตใจ คําพูดที่ซูฮยอนทิ้งท้ายเอาไว้มีความน่าเชื่อถือและอาจเป็นความจริง..

<<ไม่เชื่อ ยังไงฉันก็ไม่เชื่อ>>

เปโตรลูบบริเวณลําคอของเขา ซึ่งมีรอยนิ้วมือของซูฮยอนฝากเอาไว้เมื่อครู่

<<มาลองดูกันว่าจะเป็นจริงอย่างที่เขาพูดไว้ไหม…>>

สามวันต่อมา

เปโตรรีบรุดหน้ามาหาซูฮยอนที่โรงเหล้า

“นายโผล่มาเร็วกว่ากําหนดตั้ง 1 วัน แน่ะ” ซูฮยอนพูดจบพลางหมุนเก้าอี้ไปเผชิญหน้ากับผู้ มาเยือนหน้าใหม่

ผู้มาเยือนหน้าใหม่ผิวหนังภายนอกดูซีดเซียวผิดตา “ร่างกายฉันแกทําบ้าอะไรกับฉันกันแน่?”

“นายลืมคําพูดของฉันไปแล้วหรือไง ฉันควรพูดให้นายฟังอีกรอบดีไหม?”

“มันเป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ?”

ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เปโตรสังเกตเห็นความผิดปกติของร่างกายตัวเอง เขารู้สึกว่าระบบไหลเวียนเลือดทํางานผิดแผกไปจากเดิม เขาลองเพ่งสมาธิควบคุมมัน แต่มันไม่ยอมทําตามความประสงค์ของเขา

เหตุการณ์ผิดปกติทั้งหมดที่เกิดขึ้น มีต้นเหตุมาจากพลังเวทย์ของซูฮยอนที่ฉีดเข้ามาให้ตัวเขาเมื่อ 2-3 วันที่แล้ว พลังงานเหล่านั้นค่อยๆกัดกินอวัยวะภายในของเปโตรอย่างช้าๆ

“ฉันนึกว่านายจะอดทนได้อีกอย่างน้อย 1 วัน นายเป็นพวกดื้อรั้นคงมีความอดทนสูงกว่าปกติแต่ที่ไหนได้ นายก็กลัวตายเป็นเหมือนกันสินะ”

คําพูดขอดค่อนของซูฮยอนทําให้เปโตรขบฟันแน่น

เปโตรขบฟันกรอดพลางเหลี่ยวหลังมองออกไปนอกโรงเหล้าผ่านช่องว่างหน้าต่าง ตอนนี้ข้างนอกมีผู้คนจับกลุ่มกันอยู่บริเวณหน้าโรงเหล้ามืดฟ้ามัวดิน

“คนชั่วอย่างนาย มาถึงชั้นที่ 31 ได้ด้วยพลังของตัวเอง กลายเป็นคนขี้ขลาดตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? มาหาฉันทั้งที ถึงกับขนคนตามด้วยงั้นเหรอ”

เปโตรไม่ได้หามาซูฮยอนเพียงคนเดียว เขาพาผู้ตื่นขึ้นจํานวนหนึ่งติดสอยห้อยตามมาด้วย

เปโตรจะมีแผนในใจหากการเหตุการณ์ไม่เป็นดั่งใจหวัง เขาจะใช้กําลังเข้าสู้

“ถ้านายไม่ยอมถอนพิษออกจากร่างกายของฉัน ฉันจะ…”

“นายรู้อะไรไหม ทักษะการต่อสู้ของนายขึ้นสนิมเกือบหมดและตัวนายยังสูญเสียสัญชาตญาณของตัวเองไปอีก ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้นายตกใจกลัวสิ่งรอบข้างมากกว่าเมื่อก่อนตัวนายในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับเศษสวะ ข้อดีที่เหลือของนายคงเป็นคนที่มีความทะนงตัวสูงล่ะมั้ง”

ซูฮยอนจ้องมองดวงตาของเปโตรแล้วกล่าว “ถ้าฉันไม่ยอมถอนพิษให้นายล่ะ นายจะฆ่าฉันเหรอ?”

รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏบนริมฝีปากซูฮยอน

“ฆ่านาย?”

ร่างกายของเปโตรแข็งทือกะทันหัน

สถานการณ์แบบเดิมวกกลับมาอีกครั้ง

เจตนาเข่นฆ่าเข้มข้น แรงกดดันที่รุนแรง ทําให้เปโตรเกิดความรู้สึกไม่อยากจ้องตาของซูฮยอนตรงๆ

ก่อนมาที่นี่เขาพร่ําบอกกับตัวเองหลายรอบ ว่าจะลบเลือนความหวาดกลัวออกไปจากหัวและเผชิญหน้ากับดวงตาของซูฮยอนอย่างตรงไปตรงมา แต่พอมาเจอสถานการณ์จริง ทุกอย่างไม่ เป็นดั่งภาพที่จินตนาการไว้

<<บัดซบเอ้ย เรื่องคอขาดบาดตายตามมารังควานอีกแล้ว>>

ขนาดยังไม่เริ่มสู้ เปโตรสามารถเดาล่วงหน้าได้เลยว่าผลลัพธ์สุดท้ายจะเป็นยังไง

ด้านหลังของซูฮยอนมีภาพเงางูขนาดมหึมามองเห็นได้เลือนลาง งูตัวนั้นมีเกล็ดสีดําขลับ ดวงตาเหลืองผ่องอําพัน แค่แรงกดดันจากภาพเงาเพียงอย่างเดียว ก็มีอนุภาพมากพอให้เปโตรยอมก้มหัวแต่โดยดี

ขาของเปโตรที่ยึดตรงเริ่มสั่นงกๆ เขาก้มหน้างุดแล้วพูด “นะนายต้องการให้ฉันทําอะไร?”

“ฉันเคยแจ้งให้นายทราบแล้วไม่ใช่เหรอ สิ่งที่ฉันต้องการคือหยุดการแพร่ระบาดของเบลนติ้ง”

“ถ้าเป็นเรื่องนั้นละก็…”

“ฉันไม่เชื่อคํามั่นสัญญาที่เปล่งออกมาจากวาจา แม้ฉันจะลงมือฆ่านายจริงๆ ไม่ช้าก็เร็ว เปโตรคนที่สองจะถือกําเนิดขึ้นและค้าขายเบลนดิ้งตามเดิม เป้าหมายที่ฉันต้องการ คือหาวิธีป้องกันที่ไร้ข้อผิดพลาด เพื่อกันไม่ให้เหตุการณ์ซ้ําสองเกิดขึ้นอีกครั้ง” ซูฮยอนพูดจบพลางยกมีอชี้นิ้วไปทางเปโตร

“และนายเป็นคนที่ฉันเลือก”

“ฉัน?”

“ถ้าไม่ใช่ฉัน ผู้คนบนชั้นที่ 31 คงไม่มีใครกล้ามีเรื่องกับนาย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ฉันเลือกนาย เพราะนายเป็นคนแรกที่ริเริ่มแจกจ่ายเบลนดิ้ง ฉันจึงค่อนข้างมั่นใจ หากเป็นนายคงสามารถจํากัด ไม่ให้คนอื่นเข้าถึงเบลนดิ้งได้”

เบลนดิ้งถูกแปรรูปมาจากหญ้าที่พบเห็นได้ทั่วไปบนโลกชั้นที่ 31 เนื่องจากส่วนผสมหาง่ายตามข้างทาง ต่อให้เปโตรหายไปจากชั้นที่ 31 เบลนดิ้งก็ไม่ได้หายตามเขาไปอยู่ดี

แผนที่เข้าท่ามากที่สุดคือการปาวประกาศว่าการผลิตเบลนดิ้งเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และคนมีอํานาจมากพอที่จะสามารถทําให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ คงไม่มีใครเหมาะสมกับหน้าที่นี้มากไปกว่าเปโตรอีกแล้ว

“นายต้องการให้ฉันเป็นเครื่องมือ โดยมีชีวิตเป็นหลักประกัน?”

“เป็นคนริเริ่มแจกจ่ายเบลนดิ้ง ข่มขู่ผู้คนสร้างความหวาดกลัว มีเอี่ยวคดีฟอกเงิน พัวพันคดีฆาตกรรมจนมีคนเสียชีวิตนับไม่ถ้วน หากโดนจับตัวได้ขึ้นมา แล้วศาลตัดสินโทษประหารชีวิตฉัน จะไม่แปลกใจเลย เพราะฉะนั้นห้ามลืมสิ่งที่นายเคยทําไว้ในอดีตเด็ดขาด ตัวนายในตอนนี้ไม่มีสิทธิ์ยืนอยู่ที่นี่และหายใจอย่างสบายใจเฉิบด้วยซ้ําจําไว้”

คําวิพากษ์วิจารณ์ไม่อ้อมค้อมทําให้เปโตรก้มหัวลงพร้อมขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอีกครั้ง คําพูดของซูฮยอนถูกต้องทุกอย่าง ปัจจุบันเขาเป็นอาชญากรที่ถูกสํานักงานผู้ตื่นขึ้นทั่วโลกเฝ้าติดตาม..

หากทางสํานักงานสามารถจับกุมเปโตรได้ เขาคงหมดหนทางต่อรอง นอกจากก้มหน้ายอมรับคําตัดสิน

“นายตัดสินใจได้หรือยัง จะยืนรอความตายอยู่เฉยๆหรือจะร่วมมือกับฉันด้วยความสมัครใจเพื่อหยุดการแพร่ระบาดของเบลนดิ้ง” ซูฮยอนพูด

“นี่มันไม่ใช่การเจรจา แต่มันเป็นการมัดมือชกชัดๆ”

“เดิมที่ฉันไม่เคยลดตัวไปเจรจากับอาชญากรอยู่แล้ว ไม่สิพูดให้ถูกหากฉันบังเอิญเจอพวกอาชญากร ฉันจะลงมือฆ่าพวกเขาทันที เหตุผลที่ฉันไว้ชีวิตนาย เพราะนายยังมีประโยชน์อยู่”

“ตัวจริงของนายแตกต่างจากข่าวลือที่ฉันได้ยินมาลิบลับ ทุกคนนึกคิดมาตลอดว่าคิ มซูฮยอนเป็นชายผู้ช่วยโลกโดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ คําพูดอย่างน้อยที่มักได้ยินตามวงสนทนาคือคิมซูฮยอนเป็นยอดฮีโร่ผดุงความยุติธรรมช่วยเหลือพลเมืองไร้พลัง ต่อกรกับกิลด์ดัมพ์อย่างไม่กลัวตายอะไรทํานองนั้น”

ซูฮยอนมีด้านที่แตกต่างจากเขาและผู้ตื่นขึ้นคนอื่น แรงค์ S ส่วนใหญ่หลังจากพิชิตดันเจี้ยนเสร็จสรรพพวกเขาจะรีบวิ่งแจ้นไปหาสํานักข่าวและเผยแพร่ความสําเร็จให้ชาวโลกได้รับรู้

อย่างไรก็ตามซูฮยอนไม่เคยทําอะไรเพื่อประโยชน์ส่วนตนเลย และดูเหมือนเขาจะไม่สนใจชื่อเสียงเงินทองด้วยเช่นกัน

ต่อให้ไม่มีเรื่องเงินๆทองๆมาเกี่ยวข้อง ซูฮยอนก็ยังเดินหน้าช่วยเหลือพลเมืองทั่วไปอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นการประมือกับกิลด์ดัมพ์ศูนย์รวมคนเลวทราม ไหนจะเรื่องบุกโจมตีดันเจี้ยนระดับสีน้ําเงินเพื่อป้องกันการระบาดนั้นอีก

ผู้คนทั่วโลกจึงยกย่องซูฮยอนเป็นฮีโร่ตัวจริง

“นี่คือโฉมหน้าที่แท้จริงของนายงั้นเหรอ?”

“ภาพลักษณ์ที่นายได้ยินจากคําบอกเล่าหรือต่อหน้าตอนนี้ ทั้งสองด้านไม่ใช่ของปลอม” ซูฮยอนกล่าว

“ใครก็ตามที่มีบุญคุณต่อฉัน ฉันจะสนองบุญคุณคืนกลับไปเป็น 2 เท่า ส่วนคนเลวทรามอย่างพวกนาย ฉันจะสนองบทลงโทษขั้นเด็ดขาด ฉันหมายถึง…”

ซูฮยอนมองลอดช่องหน้าต่างโรงเหล้า สายตาไปหยุดอยู่บริเวณกลุ่มลูกน้องของเปโตรซึ่งพวกเขาก็มองมายังซูฮยอนด้วยเหมือนกัน

“สําหรับคนน่าขยะแขยงอย่างพวกนาย ฉันไม่ใช่ผู้ชายใจดีเหมือนหน้าตาหรอกนะ หวังว่าจะเข้าใจสิ่งที่ฉันพูด”

“หนอยแน่ อวดดีมากนักเหรอ พวกเราบุกโจมตีมันเลย!!”

“ฮูเร่ย์!!”

ลูกน้องเปโตรคาดคะเน บางทีซูฮยอนอาจค้นพบกลุ่มของพวกเขาแล้วก็ได้ เพราะฟังจากน้ําเสียงที่เล็ดลอดออกมาตามช่องว่าง เหมือนกําลังด่าทอพวกเขาอยู่ยังไงชอบกล

พวกเขาเพิกเฉยไม่ได้อีกต่อไป รีบพากันวิ่งกรูเบียดเสียดเข้าโรงเหล้าที่ละคน

จังหวะเดียวกันนั้น เปโตรค่อยๆเงยหน้าขึ้นและตะโกนเสียงกร้าว “หยุดเดี๋ยวนี้!”

เสียงตะโกนของเปโตรทําให้กลุ่มคนที่กําลังถลาโจมตีแสดงอาการว้าวุ่นใจออกมาฉับพลัน

พวกเขาหยุดยืนอยู่กับที่แน่นิ่งเหมือนรูปปั้นหิน

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งความสามารถของเปโตร ที่ควบคุมกลุ่มคนได้อย่างอยู่หมัด

“เชี่ยเอ้ย…”

เปโตรกําหมัดแน่นจนเล็กแหลมคมจิกเข้าเนื้อ ตอนแรกเขาวางแผนเอาไว้ว่าจะใช้ชื่อเสียงระมือของซูฮยอนดึงดูดความสนใจจากฝูงชน แล้วอาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีออกจากที่นี่แต่สถานการณ์โดยรวมตอนนี้อยู่เหนือการควบคุมและไม่มีทางเลือกสําหรับเขา

“ได้ไม่มีปัญหา ฉันยอมรับข้อตกลง นายอยากให้ฉันทําอะไร?”

การกลับมาของฮีโร่

การกลับมาของฮีโร่

คิมซองอิน ฮีโร่ ที่แข็งแกร่งที่สุดของมวลมนุษยชาติ

เขาเดิมพันด้วยพลังทั้งหมดของเขา ในการต่อสู้กับเหล่ามอนสเตอร์ที่กำลังรุกรานโลก

ทว่า…ความตั้งใจของเขาก็ไม่สำเร็จ โลกมนุย์ถูกทำลาย

แต่ตำนานยังไม่ตาย เมื่อเขาได้มีโอกาสย้อนกลับไปในอดีต เมื่อ 20 ปีที่แล้ว

การเดินทางครั้งใหม่ของเขาได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน