เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1285

ตอนที่ 1285

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1285 ความพยายามของฟางหยวน

แปลโดย iPAT

“หากคิดว่าสามารถหลบหนี ลืมมันไปซะ! วันนี้ข้ามีเป้าหมายเดียวเท่านั้น นั่นคือเจ้า! เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าจ่ายไปเท่าใดเพื่อหลอมรวมวิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์? เจ้าทำลายแผนการของข้า เจ้าคือคนที่ข้าเกลียดชังที่สุดในชีวิต หากข้าไม่ฆ่าเจ้า ข้าจะไม่สามารถนอนหลับอย่างสงบ!” ปีศาจอมตะเซี่ยหูมองฟางหยวนด้วยความเกลียดชัง

แต่ฟางหยวนยังไร้ความรู้สึก

เขาเหมือนก้อนหิน เหมือนคนหูหนวก ไม่ว่าจะเป็นคำขู่หรือคำสัญญา ไม่มีสิ่งใดสามารถส่งผลกระทบต่อเขา

ฟางหยวนยังคงเดินไปข้างหน้า

โดยไม่รู้ตัวเสียงคำรามของพังพอนหางสุนัขเหมาหลี่ชิวเริ่มเบาลง

การแสดงออกของมันเปลี่ยนแปลงไป

มันกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แปลกประหลาดและไม่อยากจะเชื่อ “ไม่มีทาง…”

“เกิดสิ่งใดขึ้น?” ผู้อมตะดำรู้สึกสับสน

ในเวลานี้ไม่ว่าจะเป็นปีศาจอมตะเซี่ยหู ไป่เฉินเทียน หรือเว่ยหลิงหยา การแสดงออกของพวกเขาล้วนเปลี่ยนไปเช่นกัน

พวกเขาสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง

ในไม่ช้าผู้อมตะคนอื่นๆก็เริ่มอุทาน

“หือ?”

“นี่คือกลิ่นอายของวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“วิญญาณชนิดใด เป็นไปไม่ได้ เขามีวิญญาณระดับเก้างั้นหรือ?”

“แปลก นี่ไม่เหมือนกลิ่นอายของวิญญาณอมตะ หรือมันอาจไม่สมบูรณ์ แปลกมาก!”

ทันใดนั้นดวงตาของอวี๋อี้เย่ซือก็ส่องประกายขึ้น “สถานการณ์นี้ เขากำลังหลอมรวมวิญญาณ!”

ผู้อมตะบางคนเย้ยหยัน “จะเป็นไปได้อย่างไร? หลอมรวมวิญาณในแม่น้ำหวนคืนงั้นหรือ?”

นั่นเป็นเรื่องจริง วิญญาณไม่สามารถใช้งานในแม่น้ำหวนคืน เว้นเพียงมันจะเป็นวิญญาณอมตะระดับเก้า

แม้ฟางหยวนจะมีวิญญาณสติปัญญา แต่มันอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

เขาไม่สามารถใช้วิญญาณโดยไม่ต้องกล่าวถึงการหลอมรวมวิญญาณ

ฟางหยวนรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงบางอย่างภายในร่างกายเช่นกัน

เขายังไร้อารมณ์ ‘ดูเหมือน…ข้ากำลังหลอมรวมวิญญาณอยู่จริงๆ มันเกิดสิ่งใดขึ้น? ทุกย่างก้าวที่ข้าเดิน กลิ่นอายในร่างกายของข้ายิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ”

กระทั่งฟางหยวนก็ยังไม่เข้าใจ แต่เขารู้ว่านี่คือจุดเปลี่ยน!

สถานการณ์เลวร้ายอย่างที่สุด ไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น ฟางหยวนก็ต้องการทดลอง

เขายังเดินหน้าต่อไป

ทีละก้าว

เขาเดินไปอย่างมั่นคงและไร้อารมณ์ความรู้สึก

“เหตุใดเขาถึงสงบนัก?” ผู้อมตะบางคนถาม

ในที่สุดกลุ่มผู้อมตะก็เริ่มตระหนักถึงเรื่องนี้

นั่นเป็นความจริง

นอกจากฟางหยวน ใบหน้าของทุกคนที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันต่างบิดเบี้ยวและแสดงให้เห็นถึงความเจ็บปวด บางคนเป็นบ้า บางคนสะอื้นร้องไห้

แต่เหตุใดฟางหยวนถึงไร้อารมณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ?

กลุ่มผู้อมตะเงียบ

พวกเขารู้ความนัยที่แฝงอยู่ในคำถามนี้ นั่นคือ เหตุใดหลิวกวนซื่อผู้นี้ถึงสามารถอดทนได้นานนัก? นอกจากนี้ดูเหมือนเขายังสามารถเดินหน้าและอดทนได้ตลอดไป!

มันเป็นไปได้อย่างไร?

ทุกคนถูกกวาดออกจากแม่น้ำหวนคืน แต่เขายังอยู่ที่นั่นได้อย่างไร?

เหตุใดถึงเป็นเขา?

เหตุใดถึงเป็นเขา!

ไม่มีผู้ใดสามารถตอบคำถาม ทุกคนตกลงสู่ความเงียบ

ฟางหยวนยังเดินหน้าต่อไปขณะที่กลิ่นอายของวิญญาณอมตะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

ในไม่ช้าแสงสีขาวบริสุทธิ์ก็ส่องประกายออกมาจากร่างของเขา

“มัน…มันเกิดขึ้นจริงๆ!” ดวงตาของเหมาหลี่ชิวเบิกกว้าง มันอ้าปากค้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

“ท่านปู่เหมา เกิดสิ่งใดขึ้น?” ผู้อมตะคลื่นสมุทรถามอย่างไม่สามารถอดทน

“เห้อ…ข้าไม่สามารถซ่อนมันได้อีก” เหมาหลี่ชิวถอนหายใจและแสดงออกราวกับผู้พ่ายแพ้

“มีวิญญาณอมตะที่ถูกหลอมรวมขึ้นในร่างกายของเขา ชื่อของวิญญาณอมตะดวงนี้ก็คือ ความพยายาม!” เหมาหลี่ชิวกล่าว

“วิญญาณอมตะความพยายาม!?” ผู้อมตะดำตกตะลึง

ผู้อมตะคนอื่นๆก็เช่นกัน

“ในตำนานมนุษย์คนแรกมีการกล่าวถึงวิญญาณความพยายาม วิญญาณความพยายามทำให้ผู้คนสามารถพิชิตแม่น้ำหวนคืน มันไม่ได้เป็นเพียงตำนานงั้นหรือ?” อวี๋อี้เย่ซือถาม

“ไม่ มันมีอยู่จริง” ไป่เฉินเทียนกล่าว เขาเป็นผู้อมตะของวังสวรรค์และล่วงรู้ความลับมากมาย

“มีบางคนเคยครอบครองมัน คนผู้นั้นยังเคยเป็นเจ้าวังสวรรค์มาก่อน ท่านคือเทพอมตะบัวสวรรค์!” เว่ยหลิงหยางกล่าวเสริม

“กระไรนะ!?” กลุ่มผู้อมตะตกตะลึง

“แต่เราไม่เคยคาดหวังว่าวิธีหลอมรวมมันจะเป็นเช่นนี้ เทพอมตะบัวสวรรค์ไม่เคยกล่าวถึงมัน” ไป่เฉินเทียนถอนหายใจ

“แน่นอนว่าเขาย่อมไม่บอก นี่เป็นเรื่องน่าละอายอย่างแท้จริง ฮ่าฮ่าฮ่า” เหมาหลี่ชิวเย้ยหยัน

ได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ ซือเจิ้งอี้ไม่สามารถทนได้ เขาตะโกน “หนูสกปรก เจ้ากล้าดูแคลนเทพอมตะงั้นหรือ?”

ซือเจิ้งอี้ตะโกนต่อว่าสัตว์อสูรแรกกำเนิดในตำนาน นี่ทำให้ผู้อมตะภาคกลางรู้สึกเป็นห่วงเขา

แต่เหมาหลี่ชิวไม่โกรธ “เด็กน้อย เจ้ารู้หรือไม่ ทั้งเทพอมตะและเทพปีศาจ กระทั่งการบ่มเพาะของพวกเขาจะสูง พวกเขาก็ยังเป็นมนุษย์ มนุษย์มีอารมณ์ความรู้สึก พวกเขายังมีข้อบกพร่องและมีจุดอ่อน”

“ในยุคนั้นเทพอมตะบัวสวรรค์ติดอยู่ในแม่น้ำหวนคืนและไม่สามารถหลบหนี แต่สุดท้ายเขาก็สามารถพิชิตแม่น้ำหวนคืนและกลายเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถครอบครองมัน”

“เจ้าของแม่น้ำหวนคืนคนแรก?” กระทั่งปีศาจอมตะเซี่ยหูก็ยังตกใจ แม่น้ำหวนคืนอยู่ในการครอบครองของเขามาอย่างยาวนาน แต่เขาไม่เคยรู้ความลับเหล่านี้

“นี่หมายความว่า…” สายตาของกลุ่มผู้อมตะหันไปทางฟางหยวนทันที

เหมาหลี่ชิวถอนหายใจและกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ “นั่นเป็นเรื่องจริง ด้วยวิธีนี้เขาจะประสบความสำเร็จในการหลอมรวมวิญญาณความพยายามและกลายเป็นเจ้าของแม่น้ำหวนคืนคนที่สอง!”

กลุ่มผู้อมตะกลายเป็นพูดไม่ออก พวกเขามองฟางหยวนที่ยังเดินหน้าต่อไป

เขาเดินไปอย่างไร้ความรู้สึกแต่แม่น้ำหวนคืนยังขยายออกไปราวกับโชคชะตากำลังเย้ยหยันเขา

แต่เขายังเดินหน้าต่อไป

ราวกับว่า…ไม่มีผู้ใดสามารถหยุดเขา

อย่างน้อย…ในแม่น้ำหวนคืนก็ไม่มีผู้ใดสามารถหยุดเขา

ย้อนกลับไปในชีวิตแรกของฟางหยวน

เขานั่งอยู่ในบ้านไม้ไผ่และมองไปที่หมู่บ้านบนภูเขาชิงเหมา

เขากำหมัดแน่นด้วยความมุ่งมั่น

‘ถึงเวลาที่ข้าจะละทิ้งอดีต’

‘การเดินทางมายังโลกใบนี้เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของข้า! เพราะที่นี่ ข้าสามารถบรรลุชีวิตนิรันดร์!’

‘ข้าต้องใช้ประโยชน์จากโอกาสที่หายากนี้ มิฉะนั้นข้าจะมองหน้าตนเองได้อย่างไร?’

‘แน่นอนว่าตอนนี้ข้ายังต้องดูแลความเป็นอยู่ของข้าและน้องชายของข้า ฮ่าฮ่า เจ้าตัวเล็กนั่น…’

หลังจากปลุกทะเลวิญญาณ

บนสนามประลอง ฟางหยวนเต็มไปด้วยความตกใจและความโกรธ

‘ข้าถูกวางกับดัก!’

‘ผู้ใดทำเรื่องเช่นนี้ ผู้ใดไม่ต้องการให้ข้าได้รับชัยชนะ คำตอบชัดเจนมาก!’

“พี่ใหญ่ ยอมแพ้ซะ ท่านไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า เพราะพรสวรรค์ของเราแตกต่างกัน สวรรค์ขิลิตมาให้เราแตกต่างกัน” ฟางเจิ้งกล่าวอย่างมีความสุข

ฟางหยวนหันหลังกลับและจากไป แต่เขายังเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

‘เมื่อหมู่บ้านปฏิเสธข้า ลุงกับป้าจงใจผลักไสข้า แล้วข้าจะอยู่ที่นี่ต่อเพื่อสิ่งใด?’

‘หากข้ายังอยู่ที่นี่ ข้าจะแข็งแกร่งขึ้นและจะได้รับชีวิตนิรันดร์ได้อย่างไร?’

ในขบวนสินค้า

ผู้ใช้วิญญาณเคราหนาเสียชีวิต ฟางหยวนยืนอยู่หน้าหลุมศพของเขา

เด็กน้อยร้องไห้ “ลุงหนวด หลับให้สบาย”

“ขอบคุณสำหรับของขวัญชิ้นสุดท้าย”

“แต่ข้าไม่เหมือนท่าน ข้าจะไม่ละทิ้งความฝันเพียงเพราะอายุที่มากขึ้น”

“โลกนี้กว้างใหญ่ขณะที่พวกเราเป็นเพียงตัวละครที่ไร้นัยสำคัญ ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างหนัก! ข้าจะทำให้ดีที่สุดอย่างแน่นอน!”

วัยเด็ก วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่

ภูเขาชิงเหมา ขบวนสินค้า พเนจรไปทั่ว

วัยกลางคน วัยชรา และวิญญาณอายุยืน

ภาคใต้ ทะเลทรายตะวันตก ทะเลตะวันออก ภาคเหนือ และภาคกลาง

หลังจากกำเนิดใหม่โดยวิญญาณกาลเวลา ภูเขาชิงเหมา แดนศักดิ์สิทธิ์สามกษัตริย์ แดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู แดนศักดิ์สิทธิ์เมืองหลวงของภาคเหนือ ภูเขาอี้เทียน และแม่น้ำหวนคืน!

ฟางหยวนผ่านการทดสอบที่ยากลำบากมาทีละขั้น

ไป่เฉินเทียนขมวดคิ้วคิด ‘พลังใจชนิดใด? เหตุใดเขาจึงสามารถอดทนได้ถึงระดับนี้?’

ปีศาจอมตะเซี่ยหูก่นเสียงเย็น เขาไม่ดูถูกผู้อมตะระดับเจ็ดผู้นี้อีกต่อไป “นี่หมายความว่าหลิวกวนซื่อผู้นี้จะกลายเป็นเจ้าของแม่น้ำหวนคืนงั้นหรือ?”

เหมาหลี่ชิวมองฟางหยวนและจิกกรงเล็บลงบนพื้น

เปลือกตาของไป่หนิงปิงและไห่ลั่วหลันกระตุก

จ้าวเหลียนหยุนตื่นขึ้นแล้ว นางมองศพของหม่าหงหยุนที่ยังอยู่ในอ้อมแขนของฟางหยวนและกรีดร้องอยู่ในใจ ‘หงหยุน หงหยุน เจ้าทิ้งข้าไปเช่นนี้ได้อย่างไร? หากไม่มีเจ้า ข้าจะอยู่บนโลกใบนี้และมีชีวิตอยู่เพื่อสิ่งใด?’

ความพยายามของแต่ละคนแตกต่างกันอย่างไร?

ผู้อมตะทั้งหมดสามารถตอบคำถามนี้

เพราะแต่ละคนต้องอดทนกับบางสิ่ง บางคนอดทนต่อความรับผิดชอบ บางคนอดทนต่อความเกลียดชัง บางคนอดทนต่อความตื่นเต้น และบางคนอดทนเพราะความรัก

แต่คำตอบของฟางหยวน

เขายังไร้อารมณ์และความรู้สึก เขายังเดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

ครั้งหนึ่งเขาเคยกรีดร้องและค่อยๆสูญเสียเสียง

ครั้งหนึ่งเขาเคยร้องไห้และค่อยๆสูญเสียน้ำตา

ครั้งหนึ่งเขาเคยเสียใจและค่อยๆแข็งแกร่งขึ้น

ครั้งหนึ่งเขาเคยมีความสุขและค่อยๆไม่หวั่นไหวต่อโลกหล้า

และตอนนี้…

เหลือเพียงใบหน้าที่ไร้อารมณ์ความรู้สึก สายตาแข็งกระด้าง มีเพียงความพยายามเท่านั้นที่ยังคงอยู่ในหัวใจ

นี่คือตัวตนของเขา ตัวละครที่ไร้นัยสำคัญ ฟางหยวนที่มีเพียงความพยายาม!

แสงสว่างขึ้น!

วิญญาณความพยายามถือกำเนิดแล้ว!

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท