เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1576 สนามรบราชันภูต

บทที่ 1576 สนามรบราชันภูต

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1576 สนามรบราชันภูต

ท่าไม้ตายอมตะมังกรดาบบรรพกาล!

ท่าไม้ตายอมตะระเบิดวิญญาณ!

ท่าไม้ตายอมตะกําปั้นยักษ์หมื่นตัวตน!

ท่าไม้ตายอมตะหมื่นมังกร!

ฟางหยวนใช้วิธีการเกือบทั้งหมดของเขากับเทพธิดาจื่อเว่ย

เทพธิดาจื่อเว่ยหัวเราะ “ฟางหยวน เจ้ามีความสามารถเพียงเท่านี้นั้นหรือ?”

ท่าไม้ตายอมตะของนางสามารถป้องกันการโจมตีทั้งหมดของฟางหยวนได้อย่างง่ายดาย บางท่าถึงกลับสามารถตอบโต้ท่าไม้ตายอมตะของเขา

ท่าไม้ตายอมตะเหล่านี้ของฟางหยวนถูกเปิดเผยมานานแล้ว หลังจากเทพธิดาจื่อเว่ยได้รับข้อมูล นางก็สามารถอนุมานวิธีต่อต้านพวกมันได้ทั้งหมด

นี่คือพลังอํานาจที่น่าเหลือเชื่อของผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

อย่างไรก็ตามท่าไม้ตายของฟางหยวนยังมีประโยชน์อยู่บ้าง ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาพัฒนาท่าไม้ตายอมตะของตนเพื่อรับมือกับเทพธิดาจื่อเว่ยโดยเฉพาะ

“แต่ในแง่มุมของความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญา ข้ายังไม่สามารถเปรียบเทียบกับเทพธิดาจื่อเว่ย สุดท้ายนางจะสามารถอนุมานวิธีมือท่าไม้ตายอมตะทั้งหมดของข้าและข้าจะไม่สามารถต่อสู้กับนางได้อีก

คิดได้เช่นนี้ เจตจํานงแห่งการต่อสู้ของฟางหยวนก็พุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าแต่จิตใจของเขายังสงบนิ่งและเย็นชาราวกับน้ำแข็ง

เทพธิดาจื่อเว่ยยิ้มขณะที่นางส่งปราณสีม่วงออกไป

ปราณสีม่วงมีขนาดเท่ากับกําปั้นของเด็กทารกแต่มันพุ่งเข้าสู่จิตใจของอสูรปีวอกแรกกําเนิดและส่งผลกระทบต่อมันทันที

“เจี๊ยก!”

อสูรปีวอกแรกกําเนิดกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด มันยกมือขึ้นกุมศีรษะของตนเองด้วยความโกรธจัด

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ที่ควบคุมค่ายกลวิญญาณอมตะตกตะลึงกับฉากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

พลังการต่อสู้ของเทพธิดาจื่อเว่ยกระทั่งสูงกว่าเฉินอี้: ก่อนหน้านี้นางยังไม่ได้แสดงพลังที่แท้จริงออกมา แต่ตอนนี้ทุกท่าไม้ตายอมตะที่นางปลดปล่อยออกมากลับทรงพลังจนทําให้ทุกคนตกใจ

ฟางหยวนรู้สึกขมขื่นเล็กน้อย

เขายังมีอสูรวิญญาณแรกกําเนิดที่จับมาจากทะเลทรายผีเขียวอีกสองตัว แต่เขาไม่ต้อ งการใช้งานพวกมันในเวลานี้

โดยทั่วไปสัตว์อสูรแรกกําเนิดมักเป็นฝ่ายเสียเปรียบผู้อมตะระดับแปด เว้นเพียงพวกมันจะมีวิญญาณอมตะระดับแปดในการครอบครอง

อย่างไรก็ตามต่อหน้าผู้อมตะระดับแปดของวังสวรรค์ แม้สัตว์อสูรแรกกําเนิดจะมีวิญญาณอมตะระดับแปด แต่พวกมันก็ยังไม่สามารถจัดการพวกเขา

ตั้งแต่ฟางหยวนสามารถจับอสูรวิญญาณแรกกําเนิดทั้งสอง พวกมันก็ไม่เป็นภัยคุกคามต่อเทพธิดาจื่อเว่ยเช่นกัน

“เพื่อต่อต้านเทพปีศาจจิตวิญญาณ ในอดีตวังสวรรค์ทําการรวบรวมวิธีการบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณเอาไว้มากมาย นี่คือเหตุผลที่ข้าปล่อยอสูรปีแรกกําเนิดออกมา หากข้านําอสูรวิญญาณแรกกําเนิดออกมา เทพธิดาจื่อเว่ยจะจัดการพวกมันได้ง่ายขึ้น”

ฟางหยวนรู้สึกถึงแรงกดดัน

ศัตรูแข็งแกร่งเกินไป ฟางหยวนไม่มีความมั่นใจแม้แต่จะฆ่าฟงจิวเก้อที่อ่อนแอที่สุด เทพธิดาจื่อเว่ยและคนอื่นๆเป็นตัวตนชั้นสูงท่ามกลางผู้อมตะระดับแปด ไม่ว่าจะเป็นคนใดฟางหยวนก็ไม่มีโอกาสได้รับชัยชนะ

ในความเป็นจริงแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาถือว่าแข็งแกร่งมาก มันครอบครองสามพลังการต่อสู้ระดับแปด กล่าวได้ว่ามันเหนือกว่ามาตรฐานของกองกําลังใหญ่ของทั้งห้าภูมิภาคไปแล้ว

ในห้าภูมิภาค มีเพียงกองกําลังระดับสูงสุดเท่านั้นที่มีผู้อมตะระดับแปด พิจารณาจากภาคใต้ เหตุใดกองกําลังฝ่ายธรรมะอันดับหนึ่งเช่นตระกูลวถึงสามารถครองบังลังก์อันดับหนึ่งอยู่เป็นเวลานาน? มันเป็นเพราะพวกเขามีผู้อมตะระดับแปดสองคนอยู่ในยุคสมัยเดียวกันและมีอย่างน้อ ยหนึ่งคนที่จะอยู่ปกป้องฐานทัพของพวกเขาตลอดเวลา

แน่นอนว่าคฤหาสน์วิญญาณอมตะไม่ใช่สิ่งที่สามารถมองข้าม คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลายหลังมีพลังการต่อสู้ระดับแปดเช่นกัน

ความแข็งแกร่งของนิกายหลางหยาเทียบเท่ากับกองกําลังใหญ่ของห้าภูมิภาคหรือกระทั่งเหนือกว่า

แต่เปรียบเทียบกับวังสวรรค์ นิกายหลางหยายังอ่อนแอเกินไป

มังกรหินแรกกําเนิดถูกเฉินอี้ปราบปรามอย่างสมบูรณ์ ยักษ์สวรรค์กําลังดิ้นรนแต่ยังเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

ฟงจิวเก้อจัดการค่ายกลวิญญาณอมตะที่ฟางหยวนดัดแปลง ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งค่ายกลของเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ ไม่สามารถเปรียบเทียบกับฟางหยวนขณะที่ท่าไม้ตายอมตะเพลงแยกของฟงจิวเก้อรุนแรงถึงขั้นไร้สาระ แม้มันจะถูกตอบโต้โดยค่ายกลวิญญาณอมตะ แต่ทั้งสองฝ่ายยังถือว่าเท่าเทียม

การต่อสู้ของฟางหยวนกับเทพธิดาจื่อเว่ยติดอยู่ในสภาวะชะงักงันโดยไม่มีพัฒนาการใดๆ

เขาปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ได้

เมื่อจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าล้มเหลวในการค้นหาวิญญาณสติปัญญาและกลับเข้าสู่สนามรบ สถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายลง เว้นเพียงจิตวิญญาณจะเผยไพ่ตายใบใหม่ออกมา มิฉะนั้นพวกเขาจะพ่ายแพ้อย่างแน่นอน

“แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยามีต้นกําเนิดมาจากบรรพชนผมยาว มันต้องมีไพ่ตายใบขึ้น!

“แต่ตอนนี้ข้าไม่สามารถพึ่งพาความเป็นไปได้นั้น”

“ท่าไม้ตายเขตแดนอมตะสนามรบราชันภูต!”

ฟางหยวนบินเข้าไปหาเทพธิดาจื่อเว่ยก่อนจะกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายเขตแดนอมตะที่เขาพึ่งสร้างขึ้น

เนื่องจากท่าไม้ตายอมตะระเบิดวิญญาณก่อนหน้านี้ทําให้พื้นที่รอบๆเต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ ดังนั้นฟางหยวนจึงสามารถกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายเขตแดนอมตะสนามรบราชันภูตได้เร็วกว่าปกติ

แต่ถึงกระนั้นความเร็วของฟางหยวนก็ยังไม่สามารถดักจับเทพธิดาจื่อเว่ย

ผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยิ่งใหญ่สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติขณะที่ฟางหยวนเข้าใกล้นาง ดังนั้นนางจึงเร่งล่าถอยออกไป

สนามรบราชันภูตของฟางหยวนถูกสร้างขึ้นรวดมาก มันเร็วกว่าท่าไม้ตายเขตแดนอมตะส่วนใหญ่ที่มีอยู่บนโลกใบนี้

แต่มันยังไม่เพียงพอที่จะจับกุมเทพธิดาจื่อเว่ย!

ข้าล้มเหลว!” หัวใจของฟางหยวนจมดิ่งลง

เขาไม่สามารถจับกุมเทพธิดาจื่อเว่ยและยังสูญเสียพลังงานอมตะจํานวนมาก

“อย่างไรก็ตามความพยายามของข้าไม่ได้สูญเปล่าทั้งหมด ฟางหยวนมองฟงจิวเก้อที่ถูกกักขังไว้ในเขตแดนอมตะราชันภูตขณะที่เจตนาสังหารของเขาพุ่งสูงขึ้น “เช่นนั้นข้าจะฆ่าเขาก่อน!”

หากเทพธิดาจื่อเว่ยไม่ล่าถอยออกไป ฟางหยวนจะสามารถจับกุมคนทั้งสอง

สนามรบราชันภูตเป็นทักษะใหม่ของฟางหยวน แม้เทพธิดาจื่อเว่ยจะต้องการคลี่คลายมัน นางก็ต้องใช้เวลาพอสมควร

หากฟางหยวนสามารถกักขังฟงจิวเก้อและเทพธิดาจื่อเว่ย ในสนามรบจะเหลือเพียงยักษ์สวรรค์ มังกรหินแรกกําเนิด เฉินอี้ และค่ายกลวิญญาณอมตะเท่านั้น

อย่างไรก็ตามเมื่อฟงจิวเก้อถูกกักขัง ค่ายกลวิญญาณอมตะจึงได้รับอิสรภาพและมีโอกาสที่จะ ทําลายเรือนจําต้นไม้บรรพกาลเพื่อปลดปล่อยมังกรหินแรกกําเนิด

เฉินอี้สามารถจัดการยักษ์สวรรค์และมังกรหินแรกกําเนิดแต่ค่ายกลวิญญาณอมตะเป็นสิ่งที่แตกต่างออกไป เขาไม่สามารถจัดการมัน

หากฝ่ายของนิกายหลางหยาสามารถจัดการเฉินอี้ในช่วงเวลานี้ แม้จักรพรรดินีอสูรสายฟ้าจะกลับมา พวกเขาก็ยังสามารถรับมือกับนาง

แต่ตอนนี้ฟางหยวนสามารถดักจับเพียงฟงจิวเก้อ นั่นหมายความว่าค่ายกลวิญญาณอมตะต้องต่อสู้กับเทพธิดาจื่อเว่ย

อย่างไรก็ตามด้วยรากฐานของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา พวกเขาจะไม่พ่ายแพ้โดยง่าย

ดังนั้นเป้าหมายของฟางหยวนในเวลานี้ก็คือฆ่าฟงจิวเก้อ!

และเขาต้องทําอย่างรวดเร็วที่สุด! ยิ่งเร็วยิ่งดี!

หลังจากสังหารฟงจิวเก้อ ฟางหยวนจะเก็บเขตแดนอมตะราชันภูตและปลดปล่อยมังกรหินแรกกําเนิดกับยักษ์สวรรค์ เมื่อเวลานั้นมาถึง แรงกดดันของพวกเขาจะลดน้อยลง

ด้วยเหตุนี้ฟงจิวเก้อจึงกลายเป็นจุดสําคัญในการฝ่าฟันวิกฤต

“ท่าไม้ตายเขตแดนอมตะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณงั้นหรือ? ดูเหมือนมันจะมีส่วนผสมของเส้นทางแห่งการโจรกรรมรวมอยู่ด้วย!” เทพธิดาจื่อเว่ยมองไปข้างหน้าและเป็นครั้งแรกในการต่อสู้ ครั้งนี้ที่นางขมวดคิ้ว

เขตแดนอมตะเป็นมิติที่แยกออกจากโลกภายนอกอย่างสมบูรณ์ แต่เนื่องจากฟางหยวนใช้งานมันต่อหน้าเทพธิดาจื่อเว่ย นางจึงตระหนักถึงการคงอยู่ของมัน หากไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ นางจะไม่สามารถค้นพบการดํารงอยู่ของสนามรบราขันภูตที่เป็นเพียงจุดเล็กๆจุดหนึ่งเท่านั้น

แต่กระทั่งนางจะรู้ นางก็ยังไม่สามารถอนุมานมั่นได้อย่างง่ายดาย

นี่เป็นเพราะสนามรบราชันภูตไม่เพียงเกี่ยวข้องกับเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ แต่มันยังหยิบยืมพลังอํานาจมาจากท่าไม้ตายอมตะผนึกภูตผี หลังจากทั้งหมดมันเป็นหนึ่งในท่าไม้ตายอมตะราชันภูตของฟางหยวน

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท