เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – บทที่ 1592 วิหารห้วงมิติ

บทที่ 1592 วิหารห้วงมิติ

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1592 วิหารห้วงมิติ

ภาคใต้

ฟางหยวนบุกเข้าไปในเทือกเขาไผ่เมฆาและปล้นสะดมมัน เขารู้ถึงความสําคัญของแหล่งทรัพยากรนี้และพร้อมสําหรับการโต้กลับของตระกูลจื่อ

ท่าไม้ตายอมตะมือปีศาจปล้นวิญญาณ!

มือปีศาจปล้นวิญญาณซ่อนอยู่พุ่งไปยังคฤหาสน์วิญญาณอมตะของตระกูลจื่อ

นั่นทําให้ผู้อมตะตระกูลจื่อตกตะลึง

อย่างไรก็ตามคฤหาสน์วิญญาณหลังนี้กลับส่องแสงสีทองออกขณะที่มือปีศาจปล้นวิญญาณพุ่งเข้าไป

โดยไม่คาดคิดฟางหยวนสูญเสียความเชื่อมต่อกับมือปีศาจปล้นวิญญาณของเขาไปอย่างกะทัน

ดวงตาของเขาส่องประกายขึ้น สมกับเป็นหนึ่งในสิบคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดวิหารห้วงมิติ!”

ตระกูลจื่อมีคฤหาสน์วิญญาณอมตะสองหลัง ทั้งสองล้วนไม่ธรรมดาแต่วิหารห้วงมิติทรงพลังกว่ามันสามารถต่อต้านผู้อมตะระดับแปด!

จากภาพลักษณ์ มันดูเหมือนวิหารที่สร้างมาจากหินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์และเรืองแสงสีทอง นั่นทําให้มันดูอบอุ่นและยิ่งใหญ่

ในสงครามห้าภูมิภาคจากชีวิตแรกของฟางหยวน กองกําลังใหญ่ทั้งหมดต่อสู้กันเองทําให้โลกตกสู่ความโกลาหล คฤหาสน์วิญญาณอมตะถูกระดมออกมาในการต่อสู้บ่อยครั้ง นั่นทําให้ผู้คนเริ่มตัดสินความแข็งแกร่งของพวกมันและจัดอันดับคฤหาสน์วิญญาณอมตะ

วิหารห้วงมิติของตระกูลจื่อถูกจัดไว้ในอันดับเก้า นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย

มันมีท่าไม้ตายอมตะที่เรียกว่ามิติเคลื่อนที่ สิ่งนี้สามารถดักจับผู้อมตะระดับแปด เมื่อวังสวรรค์โจมตีภาคใต้ คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้สามารถวางกับดักผู้อมตะระดับเจ็ดจํานวนสี่คน และผู้อมตะระดับแปดอีกสองคน มันมีประโยชน์มากในการต่อสู้ครั้งนั้น

ข้าเกรงว่ามือปีศาจปล้นวิญญาณของข้าจะติดอยู่ในมิติเคลื่อนที่ นั่นทําให้ข้าขาดการติดต่อกับมัน การใช้มิติเคลื่อนที่ต้องจ่ายด้วยราคามหาศาลและต้องใช้เวลาเตรียมตัว แต่พวกเขากลับตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ดูเหมือนพวกเขาจะเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี ฟางหยวนมองเห็นปัญหาอย่างรวดเร็ว

“เขามีวิธีขโมยวิญญาณเช่นนี้จริงๆ”

“ปีศาจฟางหยวนเริ่มรับมือได้ยากขึ้นเรื่อยๆแล้ว โชคดีที่พวกเราเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี”

“เราได้รับข้อมูลจากวังสวรรค์ทันเวลา หากเขาประสบความสําเร็จในการขโมยวิญญาณอมตะของคฤหาสน์วิญญาณอมตะของเรา มันจะเกิดสิ่งใดขึ้น?”

ผู้อมตะตระกูลซื้อรู้สึกหวาดกลัวและโล่งอกในเวลาเดียวกัน

“ฆ่า!”

“เตรียมท่าไม้ตายอมตะมิติเคลื่อนที่สําหรับวิธีบนเส้นทางแห่งการโจรกรรมของฟางหยวน!”

“แต่พวกเราต้องระวัง ปีศาจฟางหยวนผู้นี้มีท่าไม้ตายอมตะสายป้องกันเกราะหวนคืน”

ภายใต้การควบคุมของผู้อมตะตระกูลจื่อ คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดวิหารหัวงมิติปลดปล่อยกลิ่นอายที่ทรงพลังออกมา

ฟางหยวนล่าถอยขณะที่เขาส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เข้าสู่สวรรค์สีเหลือง

วินาทีต่อมาหัวใจของเขาก็สั่นสะท้านขึ้น เป็นไปตามความคาดหมาย วังสวรรค์แสดงภาพการต่อสู้ก่อนหน้านี้ในสวรรค์สีเหลือง

ภาพการใช้มือปีศาจปล้นวิญญาณของเขาถูกเผยเช่นกัน นอกจากนี้ยังสวรรค์ยังเปิดเผยผลการอนุมานมากมายที่เกี่ยวข้องให้ทุกคนรับรู้

มันเป็นผลการอนุมานเกี่ยวกับความลับของฟางหยวน

วังสวรรค์กําลังเปิดเผยความลับของเขา

นั่นทําให้ผู้อมตะทั้งห้าภูมิภาคตกใจมาก พวกเขาต่างพูดคุยกันเกี่ยวกับวิธีการของฟางหยวนและรู้สึกอิจฉา

นี่เป็นการระเบิดครั้งใหญ่

ข้อมูลของผู้อมตะเป็นสิ่งสําคัญ หากท่าไม้ตายของพวกเขาถูกเปิดเผย พวกเขาจะถูกศัตรูตอบโต้ได้อย่างง่ายดาย

เช่นเดียวกับตระกูลชื่อในเวลานี้ พวกเขาสามารถป้องกันมือปีศาจปล้นวิญญาณโดยการจับมันไว้ในมิติเคลื่อนที่และกําลังทําวิจัยมันอย่างลับๆ

หากพวกเขาไม่ได้รับข้อมูลล่วงหน้า ฟางหยวนจะประสบความสําเร็จ เขาจะสามารถขโมยวิญญาณอมตะได้สองหรือสามตวงและกลายเป็นฝ่ายได้เปรียบ

ฟางหยวนเคยใช้สวรรค์สีเหลืองเพื่อก่อกวนจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าและทําลายศักดิ์ศรีของวังสวรรค์ ตอนนี้วังสวรรค์กําลังจัดการฟางหยวนด้วยวิธีเดียวกัน

“เทพธิดาอเว่ยต้องกังวลมากว่าข้าจะใช้ท่าไม้ตายนี้ขโมยวิญญาณอมตะเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับตนเอง!”

“เนื่องจากนางมีเวลาทําเรื่องนี้ ข้าเกรงว่าการต่อสู้ที่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาคงจบลงแล้ว”

หัวใจของฟางหยวนสั่นสะท้านขึ้น

เขาต้องการให้วังสวรรค์และถ้ําสวรรค์นิรันดรต่อสู้กันจนตาย มันจะดีที่สุดหากแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาถูกทําลาย แต่ทั้งสองฝ่ายฉลาดมาก พวกเขาไม่ได้ทําเรื่องโง่เขลาเช่นนั้น

“ข้าเกรงว่าวังสวรรค์จะล่าถอย อย่างไรก็ตามเพื่อจัดการแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา เทพธิดาจื่อเว่ย เฉินอี้ และฟงจิวเก้อได้รับบาดเจ็บในระดับที่แตกต่างกัน ขณะที่จักรพรรดินีอ รสายฟ้าเสียชีวิตในสนามรบ อีกด้านหนึ่งถ้ําสวรรค์นิรันดรได้รับแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา นั่นจะทํา ให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้น”

อีกสิ่งหนึ่งที่ฟางหยวนสังเกตเห็นก็คือองค์ชายฟงเขียนที่เป็นสายลับของภาคกลางยังไม่เปิดเผยตัว

“องค์ชายฟงเชี่ยนซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆเพื่อรอโอกาส

“วังสวรรค์จะเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี แม้จะไม่มีองค์ชายฟงเซี่ยน แต่พวกเขายังสามารถหลบหนี้”

วังสวรรค์รู้ว่าฟางหยวนเป็นปีศาจต่างโลกที่ย้อนเวลากลับมาเกิดใหม่ แต่พวกเขาไม่รู้ว่าฟางหยวนรู้จักตัวตนที่แท้จริงขององค์ชายฟงเขียน

“ตอนนี้ข้าไม่มีหลักฐานที่จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงขององค์ชายฟงเซี่ยนหรือกระทั่งข้าจะมีหลักฐานที่ชัดเจน องค์ชายฟงเซี่ยนก็ยังเป็นผู้อมตะระดับแปด แม้ถ้ำสวรรค์นิรันดรจะต้องการจัดการเขา หากพวกเขาไม่เตรียมตัวให้ดี องค์ชายฟงเซียนจะสามารถหลบหนี

ฟางหยวนต้องใช้ข้อมูลที่เขามีให้เป็นประโยชน์ เขาอาจสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์มหาศาลในอนาคต หากใช้มันเพื่อระบายความโกรธในเวลานี้ เขาก็จะเป็นเพียงตัวโง่เขลาเท่านั้น

“อย่างไรก็ตามข้าจะไม่ปล่อยพวกเจ้าไปเช่นกัน ฟางหยวนเย้ยหยัน

ฟางหยวนปล่อยภาพที่วังสวรรค์ใช้ทางผ่านดาราเพื่อขนส่งผู้อมตะระดับแปดสี่คนไป ยังแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

สิ่งนี้เหมือนก้อนหินขนาดใหญ่ที่ถูกโยนลงไปในทะเลสาบ มันสามารถสร้างคลื่นยักษ์

วังสวรรค์มีวิธีการเช่นนี้

มันเหมือนวิญญาณท่องแดนอมตะของฟางหยวนที่มีประโยชน์อย่างน่าเหลือเชื่อและ จะส่งผลถึงการต่อสู้ที่สําคัญ

นอกจากภาคกลาง ผู้อมตะอีกสี่ภูมิภาคและกองกําลังใหญ่ทั้งหมดต่างรู้สึกตกใจและตื่นตัวเป็นอย่างมาก

“ลาก่อน” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มและโบกมือลาวิหารหัวงมิติ จากนั้นเขาก็ใช้วิญญาณ ท่องแดนอมตะหลบหนีออกจากสนามรบ

วิญญาณท่องแดนอมตะระดับเจ็ดมีประโยชน์มากเกินไป!

วิหารหัวงมิติไม่ใช่เขตแดนอมตะ แม้มันจะมีท่าไม้ตายเขตแดนอมตะ ฟางหยวนก็ไม่โง่พอที่จะนําตนเองตกลงสู่กับดักอย่างง่ายดาย

กระทั่งเขาจะถูกขังอยู่ในเขตแดนอมตะ มันก็ไม่ใช่เขตแดนอมตะทุกชนิดที่สามารถหยุดวิญญาณท่องแดนอมตะ

เว้นเพียงมันจะมีวิธีการเฉพาะที่สามารถต่อต้านวิญญาณท่องแดนอมตะเท่านั้น

ในเวลาต่อมาฟางหยวนปรากฏตัวขึ้นที่แหล่งทรัพยากรจุดที่สามของตระกูลจื่อ

ภูเขาวายุเพลิง!

ภูเขาลูกนี้เต็มไปด้วยต้นไม้สีแดงเพลิง มีนกอาศัยอยู่มากมายแต่ไม่มีสัตว์ชนิดอื่น วิหคเพลิงจํานวนหนึ่งกําลังพักผ่อนอยู่ในป่า เมื่อพวกมันตระหนักถึงการคงอยู่ของฟางหยวน วิหคเพลิงเหล่านี้ มองไปที่เขาอย่างไม่เกรงกลัวและปลดปล่อยกลิ่นอายที่ดุร้ายออกมา

นี่เป็นแหล่งทรัพยากรขนาดยักษ์ มันเป็นแหล่งรายได้ที่สําคัญที่สุดของตระกูลจื่อ!

“ปีศาจฟางหยวนอยู่ที่นี่!” ผู้อมตะระดับเจ็ดของตระกูลจ่อที่ปกป้องสถานที่แห่งนี้รีบกระตุ้นใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะก่อนจะรายงานกลับไปที่ตระกูลเพื่อขอกําลังเสริม

“หากข้าสามารถทําลายแหล่งทรัพยากรนี้ ตระกูลจื่อคงปวดใจมาก ฮ่าฮ่า” ฟางหยวนหัวเราะก่อนจะพุ่งลงไปราวกับอุกกาบาต

การโจมตีครั้งแรกของฟางหยวนไม่ทําให้ค่ายกลวิญญาณอมตะของที่นี่สั่นไหว แน่นอนว่าแหล่งทรัพยากรขนาดยักษ์ย่อมมีการป้องกันที่แข็งแกร่งกว่าแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่หรือขนาดกลาง

ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายที่หลากหลายและอนุมานอย่างต่อเนื่อง

“ฟางหยวน คนเจ้าเล่ห์!” หลังจากได้ยินข่าวนี้ ชื่อชิวหยูกลายเป็นโกรธจัด เขาไม่สามารถนิ่งเฉยได้อีกต่อไปและเร่งออกเดินทางทันที

ภูเขาวายุเพลิงเป็นแหล่งทรัพยากรที่ค่อนข้างพิเศษ พวกเขาใช้มันเพาะเลี้ยงวิหคเพลิง ทุกปีวิหคเพลิงจะวางไข่จํานวนมากที่นี่

หากเกิดเหตุร้ายขึ้นกับภูเขาวายุเพลิง ฝูงวิหคเพลิงอาจย้ายที่อยู่นั่นจะทําให้ตระกูลจื่อพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่

แต่ภูเขาวายุเพลิงอยู่ไกลจากเทือกเขาไผ่เมฆามาก ขณะที่ชื่อชิวหยู่อยู่ใกล้มันที่สุด เดิมที่เขาวางแผนที่จะรออยู่ที่รอยแยกปล้นเงา แต่ตอนนี้เขาต้องละทิ้งแผนเดิมและเดินทางไปยังแหล่งทรัพยากรที่สําคัญที่สุดของตระกูลเพราะฟางหยวน

เมื่อซื้อชิวหยูมาถึง ฟางหยวนก็ทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะของภูเขาวายุเพลิงไปแล้วมากกว่าครึ่ง วิหคเพลิงบรรพกาลหลายตัวตายขณะที่ฟางหยวนสามารถจับได้สามตัว

“ฟางหยวน เจ้าวายร้าย อย่าวิ่งหนีหากมีความกล้า!” จื่อชิวหยูกรีดร้องด้วยความโกรธ

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มบางขณะทักทายอย่างสุภาพ “ผู้อาวุโสจื่อชิวหยู ในที่สุดเราก็ได้พบกัน”

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท