ตอนที่ 343 ทำให้เหยียนเฟิงโมโห
ทุกอย่างกลับสู่สภาพปกติ เหยียนเค่อยังคงทำสิ่งที่เมื่อก่อนเคยทำมาตลอดซ้ำๆ ทุกวัน สำหรับเขาแล้ว การเซ็นสัญญาเช่าสนามบินหนานซานก็เหมือนกับการคุยธุรกิจธรรมดาครั้งหนึ่ง ไม่ได้ส่งผลกระทบกับเขามากมายอะไร แต่สำหรับเหยียนเฟิงกลับไม่เป็นอย่างนั้น
หลังจากที่ข่าวถูกปล่อยออกแล้ว เหยียนเฟิงก็ถูกปกคลุมไว้ด้วยความหวาดกลัวถึงขีดสุด
ไม่ว่าเหยียนเค่อจะทำอะไรก็สำเร็จไปเสียหมด เขายังคิดค้นโครงการที่มีขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศออกมาได้อีกด้วย หรือว่าตอนนั้นที่ตนให้บริษัทสายการบินของเมือง N ยื่นข้อเสนอที่สูงขึ้นนั้นแปรพักตร์ไปช่วยเขางั้นเหรอ
ไม่ว่าใครล้วนรับไม่ได้กับการที่ข้อผิดพลาดของตัวเองทำให้คู่แข่งประสบความสำเร็จ เหยียนเฟิงเองก็เช่นกัน
“ไปตามสวีอิ๋งอิ๋งมา”
เบลล์ได้ยินเสียงที่ผิดแปลกไปของเหยียนเฟิง ในใจก็เกิดความรู้สึกคล้ายกับความสงสาร อย่างไรเสียการเห็นน้องชายของตนเป็นเหมือนศัตรูคู่แข่งนั้นนับว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้าเรื่องหนึ่งเลย
สวีอิ๋งอิ๋งได้ยินเสียงเป็นทางการของเบลล์ก็เอ่ยออกมาอย่างรังเกียจ [กลายไปเป็นคอลเซนเตอร์ไปแล้วเหรอ โทรมาเชิญฉันไปหรือไง]
เบลล์เคยชินเสียแล้วกับคำพูดที่เหมือนจะค่อนแคะอยู่กลายๆ แบบนี้ ตอบซ้ำอีกครั้งอย่างเหมาะสม “ประธานเหยียนให้ฉันโทรศัพท์มาแจ้งให้คุณทราบค่ะ เชิญคุณที่ห้องทำงานของท่าประธาน
เหยียนด้วยค่ะ”
[ชิ ถ้าฉันไม่ไปเขาจะลงโทษเธอใช่ไหม] สวีอิ๋งอิ๋งทาเล็บ วันนั้นเหยียนเค่อหนีไป ตอนนี้เธอยังรู้สึกขายหน้าอยู่เลย ตอนนี้ยังมีคนมาดูถูกเธออีก
“ฉันก็แค่ทำไปตามหน้าที่ค่ะ คุณจะมาหรือไม่ก็แล้วแต่คุณ คุณไปคุยกับประธานเหยียนเองได้ค่ะ” เบลล์คิดว่าเธอพูดอย่างชัดเจนแล้ว คงต้องโทษที่เธอฉลาดกว่าสวีอิ๋งอิ๋ง ทำไมถึงพูดยากพูดเย็นขนาดนี้กันนะ
[เห็นแก่ที่เหยียนเฟิงมาหาฉันก่อนหรอกนะ ฉันจะไม่แกล้งเธอก็ได้] น้ำเสียงและท่าทางของ
สวีอิ๋งอิ๋งเหมือนกับไทเฮาผู้มีพระคุณในสมัยก่อน
เบลล์วางสายทันที เดิมทีเธอแจ้งข่าวเสร็จก็วางสายได้แล้ว แต่เพื่อแสดงมารยาทเธอจำต้องเสียเวลาคุยกับสวีอิ๋งอิ๋งต่ออีกพักหนึ่ง
แล้วเธอก็ล่วงรู้เหตุผลหนึ่ง มารยาทเป็นสิ่งที่ต้องพูดกับคนที่มีมารยาทเหมือนกัน ดังนั้นเธอคิดว่าถ้ามีเรื่องแบบนี้อีกจะส่งต่อไปให้ผู้ช่วยคนอื่นทำ
เหยียนเฟิงเปิดสายโทรศัพท์ภายในบริษัท จึงได้ยินเนื้อหาในบทสนทนาของสวีอิ๋งอิ๋งกับเบลล์ทั้งหมด ในครั้งแรกที่สวีอิ๋งอิ๋งแกล้งเบลล์ เขาก็กดตัดสายแล้ว
เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ถึงเรียกผู้หญิงคนนี้มาเป็นพันธมิตรของเขา
สวีอิ๋งอิ๋งไม่รู้เลยว่ามีอะไรรอตนอยู่ เปลี่ยนเป็นเดรสที่เพิ่งซื้อมาใหม่ แต่งหน้าอยู่นานจึงจะมุ่งหน้าไปที่เหยียนกรุ๊ปด้วยกริยาเรียบร้อยอ่อนหวาน
เบลล์ไปตามผู้ช่วยผู้ชายคนหนึ่งมาต้อนรับสวีอิ๋งอิ๋ง
“พี่เบลล์ ทำไมพี่ต้องแกล้งผมด้วยเนี่ย”
“เพื่อนจ๊ะ ต้องแบกความรับผิดชอบไปด้วยกันสิจ๊ะ ถ้าเรื่องแค่นี้นายยังทำไม่ได้ต่อไปจะทำยังไง” เพื่อนร่วมงานที่โดนเบลล์หลอกล่อจนมึนงง จำต้องฝืนใจไปต้อนรับสวีอิ๋งอิ๋ง แถมยังต้องโดนสวีอิ๋งอิ๋งพูดจาทำร้ายจิตใจไปตลอดทางอีกต่างหาก
ผู้ช่วยหนุ่มเจ็บปวดในใจ พี่เบลล์สุดที่รักบอกว่าเป็นสาวสวย แต่ทำไมถึงเทียบกับพี่เบลล์ไม่ได้แม้แต่ครึ่งหนึ่งเลยล่ะ แถมยังบอกว่าเขาหน้าแย่อีก…ลูกตาของผู้หญิงคนนี้โดนหมากินไปแล้วหรือไง
เบลล์มองเขานำสวีอิ๋งอิ๋งเข้าไปในห้องทำงานของท่านประธานแล้วกำลังจะโล่งใจก็ได้รับโทรศัพท์จากเหยียนเฟิงเสียก่อน
“แผนสูงนักนะ”
“ท่านประธาน” เบลล์รีบปรับสีหน้าให้เคร่งขรึม เอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อม
“ไปเอากาแฟมาสองแก้ว”
ถึงจะไม่ได้บอกว่าเรียกใช้ใคร แต่เบลล์ก็รับรู้ได้ว่าเพราะตนไม่ได้พาสวีอิ๋งอิ๋งเข้าไปในห้องทำงานนั้นทำให้เหยียนเฟิงโกรธเกรี้ยวเสียแล้ว
“ค่ะ”
ตอนที่ 344 ลองใจ
เบลล์ไม่รู้ว่าทำไมทุกครั้งเหยียนเฟิงต้องให้เธอไปรองรับคำดูถูกด้วย หรือว่าเธอไม่ได้เป็นของเล่นแค่บนเตียง แต่ยังเป็นของเล่นในทุกๆ ด้านของชีวิตด้วย?
เหยียนเฟิงเคยดึงเธอออกจากชีวิตที่ยากลำบาก แต่สภาพในตอนนี้กับความรู้สึกที่ตนอับจนหนทางเหมือนหมาจนตรอกในตอนนั้น ความจริงไม่ได้แตกต่างอะไรกันเลย
เบลล์อยากอยู่ห่างเขามาตั้งแต่ตอนที่คอยติดตามเขาแล้ว แต่ทุกครั้งที่อยากอยู่ห่างจากเหยียนเฟิงกลับถูกเหยียนเฟิงยกหลากหลายเหตุผลมาทำลายความต้องการนั้น เธอทำได้เพียงบอกตัวเองว่า ‘ไม่เป็นไร รอให้เหยียนเฟิงแต่งงานก่อน’ แต่เมื่อไรถึงจะสิ้นสุดกันล่ะ
เบลล์วางกาแฟไว้บนโต๊ะ ไม่สนใจทุกสิ่งโดยรอบ เอากาแฟมาส่งเสร็จก็จะกลับออกไปทันที
“คุณอยู่ก่อน” เหยียนเฟิงวางปากกาในมือลง ดวงตาจ้องมองไปที่สวีอิ๋งอิ๋ง แต่ปากกลับพูดกับเบลล์
สวีอิ๋งอิ๋งมองเบลล์ที่ยืนอยู่ข้างๆ อย่างถือดี หยิ่งผยองราวกับนกยูงตัวเมียที่แย่งตัวผู้มาได้
“เหยียนเฟิง วันนี้พี่เรียกฉันมาทำไมเหรอคะ” เมื่อสวีอิ๋งอิ๋งเข้าห้องมาก็ถามคำถามนี้ไปแล้ว แต่
เหยียนเฟิงไม่ตอบเธอ ในที่สุดตอนนี้ก็ยอมปริปากพูดเสียที
“ฉันอยากรู้ว่า แผนโครงการฉบับนั้นที่เธอส่งมาเป็นของจริงหรือเปล่า” เหยียนเฟิงถามด้วยเสียงเรียบนิ่ง
“ต้องจริงแน่นอนสิคะ ฉันหยิบมาจากบนโต๊ะเลย” สวีอิ๋งอิ๋งพูดหมดเปลือกอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง
ไม่ต้องให้เดาเบลล์ก็รู้แล้วว่าเรื่องอะไร ตอนนี้ในใจของเหยียนเฟิงต้องอยากบีบคอสวีอิ๋งอิ๋งตายแน่ๆ
“เหอะ แล้วเธอมีอะไรที่อยากได้ไหม” ใบหน้าของเหยียนเฟิงเจือไปด้วยรอยยิ้มแสนอ่อนโยน แต่ในดวงตากลับเผยให้เห็นความเยือกเย็นอันน่ะหวั่นกลัว
สวีอิ๋งอิ๋งไม่สังเกตถึงความเปลี่ยนแปลง ก็นึกว่าเหยียนเฟิงอยากให้รางวัลตนจริงๆ “ฉันอยากอยู่เคียงข้างพี่ค่ะ” เมื่อเธอพูดจบก็หน้าแดงซ่าน แม้แต่รองพื้นก็กลบไม่อยู่
เหยียนเฟิงพยักหน้า ตอบอย่างรวดเร็ว “ได้สิ” ก่อนจะหันไปพูดกับเบลล์ “ตั้งแต่วันนี้ไปคุณพ้นตำแหน่งแล้ว เดี๋ยวรอคำสั่งอีกที ตอนนี้คุณไปได้แล้ว”
เบลล์พยักหน้า บนใบหน้าไร้ซึ่งความรู้สึก
นี่เป็นเรื่องที่เธอคิดไว้นานแล้ว ถึงแม้ว่าจะมาโดยไม่ทันตั้งตัวแต่เธอก็ยอมรับได้ และยังมีความรู้สึกสบายใจที่หลุดพ้นเสียที
“คุณ ไม่พอใจเหรอ” เหยียนเฟิงหันมามองเบลล์ตรงๆ แล้วถามเธออย่างจริงจัง
“ไม่ น้อมรับคำสั่งของหัวหน้าเป็นสิ่งที่ฉันควรทำค่ะ” เบลล์ไม่รู้ว่าตนควรจะตอบอะไร อย่างไรเสียไม่ว่าจะตอบอะไรก็ผิดหมดนั่นแหละ
เหยียนเฟิงยิ้ม แล้วเล่นกระดุมแขนเสื้อตัวเอง “ถ้าคุณไม่พอใจ ก็แย้งได้นะครับ”
เบลล์เปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ฉันไปเก็บของได้หรือยังคะ”
รอยยิ้มของเหยียนเฟิงหุบลง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็ตัวคนเดียวมาตลอด แม้แต่เบลล์ที่พอจะพึ่งพาได้ที่สุดก็แค่ทำไปตามหน้าที่เท่านั้น
เขาโบกมือ เป็นเชิงว่าอนุญาตแล้ว
หลังจากเบลล์ออกไปแล้ว สวีอิ๋งอิ๋งก็ถามเหยียนเฟิงอย่างตื่นเต้น “จริงเหรอคะ จะให้ฉันมาทำงานที่เหยียนกรุ๊ปจริงๆ เหรอคะ”
เหยียนเฟิงพยักหน้าอย่างเย็นชา “เธอกลับไปเก็บของได้แล้ว พรุ่งนี้เช้าเก้าโมงเข้างานให้ตรงเวลาด้วย คว้าโอกาสนี้ไว้ให้ดี”
เห็นได้ชัดว่าเขาอยากส่งแขกแล้ว คราวนี้สวีอิ๋งอิ๋งอารมณ์ดีจึงไม่ได้ทำตัวเอาแต่ใจตัวเองอีก คว้ากระเป๋าแล้วเดินจากไปอย่างเบิกบานใจ
“คืนนี้กลับไปกับผม”
เบลล์รู้ว่าสำหรับเธอแล้วเรื่องนี้มันเพิ่งจะเริ่มขึ้นเท่านั้น ถึงแม้ว่าเธอจะไปรู้ว่าทำไมวันนี้เหยียนเฟิงถึงให้สวีอิ๋งอิ๋งมาแทนที่ตน แต่เธอต้องคว้าโอกาสนี้เอาไว้ให้ดี
“ค่ะ”
เสียงหญิงสาวที่เป็นทางการและเนิบนาบเป็นโทนเสียงเดียวกันดังขึ้น เหยียนเฟิงตัดสายอย่างรำคาญใจทันที
การให้สวีอิ๋งอิ๋งเข้ามาทำงานที่เหยียนกรุ๊ปนั้นเป็นคำสั่งของคุณพ่อเหยียน ให้เหยียนเฟิงจัดการให้เธอเข้าไปทำงานในบริษัท แต่การพ้นจากตำแหน่งเบลล์นั้นก็เป็นเพียงสิ่งที่เหยียนเฟิงลองใจเบลล์เท่านั้น คิดไม่ถึงว่าเบลล์จะไม่โต้แย้งอะไรเลย แถมยังตอบรับอย่างรวดเร็วอีกด้วย