เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] – ตอนที่ 269 (II) กายแห่งธรรมชาติ

ตอนที่ 269 (II) กายแห่งธรรมชาติ
Sign Buddha’s palm 269 (II) กายแห่งธรรมชาติ
ในการลงชื่อมากกว่าสิบครั้งซูฉินได้รับโอสถธาตุดินมาเป็นจนวนมากและได้รับธงคู่ถมาหนึ่งอันเมื่อนับรวมกับทิพยอนาจคาถาดดินในตอนเริ่มแรกก็อาจกล่าวได้ว่าเป็นการเก็บเกี่ยวที่เต็มเม็ดเต็มหน่วยดีจริงๆ
ธงคู่ถูเป็นอาวุธวิเศษธาตุดินมีค่ายกลฟ้าดินขนาดใหญ่มากมายอยู่ในนั้นเมื่อถูกแทงลงไปที่ไหนสักแห่งภายในรัศมีสิบลี้จะตกอยู่ในระยะของค่ายกลฟ้าดินขนาดใหญ่
“น้อมส่งผู้เป็นใหญ่ในโลก”
บรรพชนหกบรรพชนเจ็ดและบรรพชนเก้าได้เพียงกล่าวด้วยความเคารพแม้ในใจจะไม่ยินยอมมากเท่าไหร่ก็ตาม
ภายในพระราชวังถัง
จักรพรรดิถังมองไปที่นักพรตเฒ่าสนักเอกะวิถีแล้วพูดด้วยน้เสียงลึกล้ว่า“พรรคหมื่นดาบ?พรรคหมื่นดาบที่เป็นนิกายใหญ่ในต่างแดนน่ะหรือ?”
ในขณะที่กระแสปราณฉีฟื้นคืนตนานยุทธจากต่างแดนต่างก็เข้ามาสู่อาณาจักรถังและจักรพรรดิถังก็รู้ข้อมูลมากมายเกี่ยวกับนิกายใหญ่ในต่างแดนเหล่านี้
“องค์หญิงหลีหว่านมีร่างหัวใจดาบในบรรดานกายใหญ่จนวนมากในต่างแดนมีเพียงพรรคหมนดาบเท่านั้นที่ต้องการคนที่มีร่างกายเช่นนี้…”
นักพรตเฒ่าถอนหายใจเบาๆ
ครั้งแรกที่เขาได้พบกับหลีหว่านเขาก็ค้นพบว่าอีกฝ่ายมีร่างหัวใจดาบที่หายากแต่ไม่คาดคิดว่าพรรคหมื่นดาบจะค้นพบมันได้รวดเร็วเพียงนี้
“พรรคหมื่นดาบ?”
“แล้วต้องทเช่นไรต่อไป?”
จักรพรรดิถังเปิดปากพูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้
หากเป็นเพียงกองกลังในยุทธภพแห่งนี้ที่พาหลีหว่านไปจักรพรรดิถังคงพอจะมีวิธีแค่ใช้พลังของกองทัพไปบดขยี้กองกลังนั้น
แต่นิกายใหญ่ในต่างดินแดน..
จากข้อมูลที่จักรพรรดิถังได้รู้มาพระองค์ทรงทราบดีว่านิกายใหญ่ต่างแดนเหล่านี้ไม่ได้ขาดแคลนตนานยุทธถ้าไม่ใช่เพราะซูฉินได้สร้างเรื่องน่าตกใจเอาไว้เกรงว่าอาณาจักรถังทั้งหมดจะถูกปราบปรามด้วยนิกายใหญ่ต่างดินแดนเหล่านี้เสียแล้ว
“ฝ่าบาทโปรดวางใจเถิด”
“พรรคหมื่นดาบให้ความสคัญอย่างยิ่งต่อร่างหัวใจดาบเมื่อองค์หญิงหลีหว่านตกอยู่ในมือของพรรคหมื่นดาบก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของพระนางไปได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง”
ระยะเวลาหนึ่ง”นักพรตเฒ่าปลอบจักรพรรดิถังก่อนแล้วจึงหันไปถามขันที่ชุดแดงต่อ“เมื่อตอนที่องค์หญิงหลีหว่านถูกพาตัวไปพวกเจ้าได้เปิดเผยตัวตนออกไปหรือไม่?”
“ยังขอรับ”ขันที่ชุดแดงส่ายหัวและพูดอย่างขมขื่น
ในเวลานั้นทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากและขันทีชุดแดงก็ไม่มีเวลาแม้แต่จะหยุดยั้งนับประสาอะไรกับการเปิดเผยตัวตน
“เข้าใจแล้ว”
นักพรตเฒ่าครุ่นคิดก่อนจะพูดต่อไปว่า“บรรพชนคนหนึ่งของพรรคหมื่นดาบได้ตกตายภายใต้เงื้อมมือของผู้อาวุโสถ้าพรรคหมื่นดาบรู้ว่าองค์หญิงหลีหว่านที่พวกเขาพาตัวไปนั้นเกี่ยวข้องกับผู้อาวุโสข้าเกรงว่ามันจะไม่กล้าทเช่นนี้เป็นแน่”
นักพรตเฒ่ากล่าวคช้าๆ
ซูฉันเป็นตนานยุทธที่ควบแน่นอาณาเขตได้หากพรรคหมื่นดาบไม่มีเหตุจเป็นพวกเขาก็จะไม่สร้างความขุ่นเคืองใดต่อกันและเป็นไปไม่ได้ที่จะพาตัวทายาทของซูฉินไป
ความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือพวกนั้นไม่ได้รู้ตัวตนของหลีหว่านเลย
“อย่างไรก็ตามเวลาผ่านไปนานเช่นนี้พรรคหมั่นดาบก็ควรจะตรวจสอบตัวตนขององค์หญิงหลีหว่านแล้วสิ……”
นักพรตเฒ่ามีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย
“แล้วตอนนี้ควรทเช่นไร?”
จักรพรรดิถังไม่สามารถทสิ่งใดได้เมื่อได้ยินสิ่งที่นักพรตเฒ่ากล่าวออกมา
“ควรทเช่นไร?”
นักพรตเฒ่าส่ายศีรษะเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า“ตอนนี้คงทได้เพียงรอ”
พรรคหมื่นดาบเป็นนิกายใหญ่ในต่างแดนที่มีศิษย์และบรรพชนนอนหลับใหลอยู่มากมายด้วยความแข็งแกร่งของอาณาจักรถังในปัจจุบันการที่พยายามจะจัดการพรรคหมื่นดาบนั้นเท่ากับมดจะไปเขย่าท้องฟ้าเป็นไปไม่ได้ที่จะกระท
ส่วนนักพรตเฒ่านั้น…..
แม้ว่าเขาจะเป็นผู้อาวุโสของสนักเอกะวิถีแต่เขาก็ไม่ใช่ตัวแทนของสนักเป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ในสายตาของพรรคหมื่นดาบ
“ถ้าผู้อาวุโสเต็มใจที่จะออกหน้าพรรคหมื่นดาบก็ควรจะมอบองค์หญิงหลีหว่านกลับคืนมา”นักพรตเฒ่าคิดอยู่นานและในที่สุดก็พบว่ามีเพียงฉันเท่านั้นที่จะบังคับสัตว์ร้ายอย่างพรรคหมื่นดาบให้ก้มหัวลงได้
สหรับนิกายใหญ่ทั้งหลายในต่างแดนมันไม่มีวิธีอื่นใดนอกจากจะจัดการด้วยความแข็งแกร่งอย่างแท้จริง
“พี่สาม……”
ดวงตาของจักรพรรดิถังสว่างขึ้นแต่ในไม่ช้าก็หรี่ลง
ซูฉินออกจากพระราชวังดังไปหลายเดือนแล้วแม้ว่าซูฉินจะสามารถโน้มน้าวพรรคหมื่นดาบได้จริงแต่บัดนี้ก็ไม่มีประโยชน์
เพราะไม่มีใครหาซูฉินพบ
เมื่อจักรพรรดิถังและตระกูลซูกลังทอดถอนใจพวกเขาพร้อมที่จะรอต่อไปตามที่นักพรตเฒ่ากล่าวแล้ว
“พวกเจ้ากลังมองหาข้าอยู่หรือ?”
เสียงอันสงบแผ่กังวานไปทั่วโถงชีวิตนิรันดร์
เมื่อเสียงนั้นกล่าวคว่า’พวกเจ้า”ออกมาในทีแรกมันเหมือนห่างไกลเสียเหลือเกินราวกับอยู่ไกลออกไปนับพันลี้แต่เมื่อถึงท้ายประโยคระยะห่างมันก็ยิ่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆโดยเฉพาะเมื่อพูดคสุดท้ายที่ว่า’ข้าอยู่หรือ”ก็เหมือนกับมายืนอยู่ใกล้แค่เอื้อม
“พี่สาม!”
จักรพรรดิถังลุกขึ้นและมองไปด้านนอกโถงชีวิตนิรันดร์ด้วยใจตื่นเต้น
ตระกูลซูและคนอื่นๆก็มองตามสายตาของจักรพรรดิถังไป
ท่ามกลางสายตาของทุกคนชายร่างผอมเพรียวก้าวเดินมาอย่างช้าๆเพียงหนึ่งก้าวก็ข้ามผ่านระยะทางสองสามลี้ในที่สุดก็ปรากฏตัวอยู่ที่หน้าโถงชีวิตนิรันดร์
เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]

เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]

Status: Ongoing

Sign in Buddha’s palm

เข้าสู่ระบบฝ่ามือยูไล

ซูฉินเที่ยวท่องไปในยุทธภพอันกว้างใหญ่ เป็นโลกที่ชาวยุทธเตร็ดเตร่อาละวาดไปทั่ว เป็นสถานที่ที่หยวนกั๋วชีอยู่เหนือใต้หล้า เป็นที่ที่ผู้สืบทอดหมัดเก้าตะวันออกหาประสบการณ์ต่อสู้ไปตามแนวสายธารอันทอดยาวและภูเขาอันสูงชัน ทั้งยังมีเซี่ยวหลี่ที่ขี่กระบี่โบยบินสู่ความเวิ้งว้างว่างเปล่า

เนื่องจากซูฉินไม่มีพรสวรรค์ด้านวิชายุทธ เขาจึงเป็นได้เพียงพระกวาดลานแห่งตำหนักลานจิปาถะ

ในเวลานั้นเอง ระบบแห่งการลงชื่อเข้าใช้ก็ถูกกระตุ้นเปิดออก!

ลงชื่อเข้าใช้ที่หน้าพระประธานสีทองอร่าม ได้รับ [ฝ่ามือยูไล]

ลงชื่อเข้าใช้ที่หน้าลานสงฆ์ ได้รับ [กายแกร่งวัชระ]

ลงชื่อเข้าใช้ที่ภูเขาหลังวัด ได้รับ [กายาโพธิสัตว์ปีศาจทองคำ]

สมบัติแทบจะแทรกอยู่ทุกหย่อมหญ้าในวัดเส้าหลินให้ได้ลงชื่อรับของรางวัลมา ซูฉินไม่คิดลงจากภูเขาอันเป็นที่ตั้งของวัดเส้าหลินไปที่ไหนแน่ถ้ายังไม่ได้ลงชื่อรับของ และตัวเขาก็ลงชื่อรับของอยู่แบบนั้นมาตลอดยี่สิบปี

ยี่สิบปีผ่านไป เส้าหลินเข้าไปพัวพันกับการต่อสู้ระหว่างธรรมะและอธรรม เหล่ามารเข้าโจมตีวัดเส้าหลินอย่างมิเกรงฟ้าดิน มาทั่วทุกสารทิศมุ่งเข้าสู่ศาลาพระคัมภีร์ อย่างดุร้าย! และทรงพลัง!

จนกระทั่งพวกมันเจอเข้ากับศิษย์วัดนามซูฉินกำลังกวาดลาน…

แปลจากงานเขียนเรื่อง Sign in Buddha’s palm ผู้แต่ง : หุยเต้าหยวนชู

ปล.เนื้อหาภายในเป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียน ผู้แปลเพียงนำเสนอผลงานในรูปแบบที่เข้าใจง่ายขึ้นเท่านั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท