เรื่องที่ตระกูลซูขอถอนหมั้นกับตระกูลเสิ่นใช้เวลาไม่นาน ข่าวก็แพร่กระจายในเมืองหลวง ในตอนแรกทุกคนต่างคิดว่าเรื่องนี้ต้องเป็นความจงใจของตระกูลซูที่จะรักษาหน้าของพวกเขาเองอย่างแน่นอน ซูหว่านเริ่มขอเสิ่นอวี้ซูถอนหมั้นก่อนอย่างนั้นหรือ หากเอาเรื่องนี้มาเล่ากลับกันดูก็คงจะเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลที่สุด!
อย่างไรก็ตาม ผ่านไปไม่นานข่าวนี้กลับถูกยืนยันโดยเสิ่นอวี้ซู เขาถึงขั้นยอมรับว่าตัวเขาเองไม่อยากถอนหมั้นกับตระกูลซู!
เนื่องจากสิ่งที่เสิ่นอวี้ซูพูด มันจึงกลายเป็นเรื่องสนทนาของกลุ่มคนในเมืองหลวงช่วงหลังอาหารค่ำทันที ทุกคนต่างสงสัยกันมากว่าลมอะไรกันที่พาให้ซูหว่านต้องถอนหมั้นกับเสิ่นอวี้ซู และเสิ่นอวี้ซูตกอยู่ในมนต์อะไรถึงไม่อยากถอนหมั้นกับซูหว่านกะทันหัน!
เรื่องแปลกๆ มีอยู่ทุกปี แต่ปีนี้มีเยอะเหลือเกิน!
ในช่วงสองสามวันมานี้ จวนชิ่งชวนโหวบรรยาการอึมครึม และจวนจิ้งนิ่งโหวก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันมากนัก
วันนั้นหลังจากที่หลิวซื่อกลับมาจากวัดหวงเจวี๋ย เสิ่นอวี้ซูก็ได้ออกไปแล้ว เมื่อหลิวซื่อมาถึงที่ห้องส่วนตัวของซูหว่าน และพยายามเกลี้ยกล่อมให้นางไม่ต้องไปคิดเรื่องอนาคต กลับได้รับข่าวจากซูหว่านว่านางได้สารภาพกับเสิ่นอวี้ซูไปแล้ว!
ทันใดนั้น หลิวซื่อก็เดินตึงตังออกไป!
หลิวซื่อก็แค่เดินตึงตังเท่านั้น แต่ลงไม้ลงมือกับลูกสาวของตัวเองไม่ลง และเขาก็ไม่มีหน้าไปสู้จวนชิ่งชวนโหวเพื่อเอาคำพูดของซูหว่านกลับคืนมา สุดท้ายหลิวซื่อทำได้แค่ระบายความโมโหทั้งหมดลงบนตัวซูอวิ๋น
จวนจิ้งนิ่งโหวผู้น่าสงสารเป็นทาสของภรรยามาโดยตลอด และเขาก็เชื่อฟังภรรยาของเขา ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้!
เมื่อเห็นว่าหลิวซื่อโกรธเข้าแล้วจริงๆ ซูอวิ๋นก็กังวลกับลูกสาวของเขาที่ยังไม่ยอมโตคนนี้ สองสามีภรรยารวมกันเป็นหนึ่ง ท้ายที่สุดซูอวิ๋นก็ตัดสินใจแบกหน้าไปที่จวนจิ้นชินอ๋องด้วยตนเอง
ในมุมมองของซูอวิ๋นเรื่องนี้ต้องเป็นความคิดของซูหว่านเป็นแน่ ไม่ว่านางจะให้ความสนใจกับความสง่างามของเจ้าชาย หรือผู้ที่ฉลาดหาที่เปรียบไม่ได้ คนที่สูงส่งและชาญฉลาดอย่างอ๋องจิ้นชินไม่มีทางมองนางอย่างแน่นอน!
ไม่ผิดแน่ ซูอวิ๋นรู้สึกไม่เชื่อในตัวของลูกสาวของเขาเป็นอย่างมาก!
เขาถึงกับเตรียมพร้อมที่จะถูกคนในจวนหวังหัวเราะเยาะ โชคดีที่ซูอวิ๋นคุ้นเคยกับนิสัยอ๋องจิ้นชินดี แม้ว่าเขาจะดูถูกซูหว่าน แต่เขาก็ไม่มีวันให้เรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ดังนั้นซูอวิ๋นผู้ซึ่งเตรียมพร้อมมาอย่างดีทุกอย่างจึงฉวยโอกาศคืนนี้พาผู้ติดตามที่อยู่ข้างๆ ไปเยี่ยม ณ จวนจิ้นชินอ๋อง
สิ่งที่ซูอวิ๋นคาดไม่ถึงก็คือ ในจวนจิ้นชินอ๋องเขาได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและจริงใจจากยามเฝ้าประตู รวมถึงผู้จัดการทั่วไปของจวนหวัง!
นั่นทำให้ซูอวิ๋นประหลาดใจเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้คิดมากอะไร จนกระทั่งไปที่ห้องหนังสือ และได้เห็นอ๋องจิ้นชิน ซูอวิ๋นลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะบอกความในใจเรื่องลูกสาวของเขาอย่างอ้อมค้อม ในท้ายที่สุดเขาก็ตบหน้าอกพลางให้คำมั่นกับท่านอ๋องว่า ต่อไปนี้เขาจะอบรมและเขี่ยวเข็นลูกสาวตัวน้อยอย่างเคร่งครัด จะไม่ยอมให้นางล่วงเกินท่านอ๋องอีกเด็ดขาด!
ซูรุ่ยนั่งฟังซูอวิ๋นอย่างเกียจคร้าน จนกระทั่งเขาร่ายยาวจนจบซูรุ่ยถึงได้ลืมตาขึ้นและมองไปที่ซูอวิ๋นอย่างใจเย็น “จิงนิ่งโหว ท่านพูดเสร็จแล้วใช่หรือไม่”
“หือ? อืม”
ซูอวิ๋นพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว
“ได้”
ซูรุ่ยยืนขึ้นและมองไปที่ซูอวิ๋นด้วยสีหน้าเฉยชา จากนั้นก็ค่อยๆ พูดขึ้นมาว่า “ตอนนี้ข้าพูดได้แล้วใช่ไหม อันดับแรกข้าชอบแม่นางซูมากและเต็มใจที่จะรับนางมาเป็นสนม! ประการที่สองนอกเหนือจากอ๋องนี้แล้ว อ๋องผู้นี้จะไม่ยอมให้ชายใดชี้นำความคิดของนาง และไม่อนุญาตให้ใครแตะแม้แต่ปลายผมของนาง ซึ่งแน่นอนว่าท่านซูคุณหญิงซูก็ไม่เว้น มิเช่นนั้น…ก็รับผิดชอบผลลัพธ์ที่จะตามมาเอง!”
ซูอวิ๋น “…”
ท่านโหวหูไม่ได้แว่วใช่ไหม
เมื่อเห็นซูอวิ๋นยืนบื้ออยู่ตรงนั้น ซูรุ่ยก็ไม่ได้พูดอะไรอีก และหยิบถ้วยน้ำชาเครื่องเคลือบลายครามขึ้นมา ถือไว้ในมือเบาๆ พร้อมกับเล่นมันสักพัก จากนั้นก็เริ่มใช้แรงขึ้นเล็กน้อย เครื่องเคลือบลายครามชั้นเยี่ยมจู่ๆ ก็กลายเป็นกองผงฝุ่นในฝ่ามือของซู่รุ่ยในชั่วพริบตา!
ซูอวิ๋น “…”
ข้าไม่ใช่เพียงแค่หูแว่วเท่านั้น อย่าบอกนะว่าข้ายังเห็นภาพหลอนด้วยหรือ
“ท่านโหว คำพูดของอ๋อง ท่านจำได้หรือไม่”
เมื่อเห็นว่าซูอวิ๋นได้สติกลับมาแล้ว ซูรุ่ยก็ตบมือเบาๆ พร้อมด้วยรอยยิ้ม ผงจำนวนนับไม่ถ้วนร่วงหล่นจากฝ่ามือของเขา
ทันใดนั้นเงาปีศาจก็ปรากฏขึ้น จุยเย่ว์หยิบผ้าขนหนูที่เตรียมมายื่นให้ต่อหน้าซูรุ่ยด้วยความเคารพ
ซูรุ่ยทั้งหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดมือของเขาอย่างเฉยชา ทั้งหรี่ตาเพื่อรอคำตอบของซูอวิ๋น
ซูอวิ๋น “…”
แล้วข้าปฏิเสธได้ไหม
“ได้ ได้ขอรับ ข้าจำได้แล้ว!”
ในใจยังงุนงงอยู่เล็กน้อย สุดท้ายซูอวิ๋นก็ก้มศีรษะลงเล็กน้อยและตอบกลับด้วยความเคารพ
เมื่อได้เห็นซูอวิ๋นเข้าใจเช่นนี้ ซูรุ่ยก็พอใจเป็นอย่างมาก “ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เช่นนั้นท่านซูก็กลับไปเตรียมตัวเถอะ รอผ่านไปสักปีก่อน อ๋องก็จะไปขอแม่นางซูแต่งงาน วันหน้าเราก็จะได้เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว!”
ครอบครัวเดียวกันอะไร ซูอวิ๋นรู้สึกเจ็บปวดใจอยู่เล็กน้อย! มีการข่มขู่คุกคามพ่อตาของตนเช่นนี้ได้หรือ ต่อให้เจ้าเป็นท่านอ๋อง เอาเถอะ หากท่านเป็นท่านอ๋อง ท่านก็ชนะแล้ว…
หลังจากที่ซูอวิ๋นกลับมาจวนก็รีบปิดประตูทันที และปรึกษากับหลิวซื่อภรรยาของเขาในห้องเป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นความลับของท่านอ๋องจินที่ซ่อนอยู่หรือจะเรื่องที่เขามีใจให้กับลูกสาวของเอง ซูอวิ๋นก็รู้สึกแปลกประหลาดไปหมด คู่สามีภรรยาคิดไปคิดมาแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้คือ “จนปัญญา”
ผู้ที่มีระดับสูงกว่า นับประสาอะไรกับอ๋องจินชิน!
แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือพวกที่ไม่ใส่ใจลูกสาวและพวกเขาแล้วก็ยอมไปแล้วด้วย!
ดังนั้นเรื่องแต่งงานนี้ จำต้องยอมรับอย่างนั้นหรือ
ด้วยเหตุนี้ ผู้คนที่อยู่ในเมืองหลวงได้พากันซุบซิบว่าระหว่าง ซูหว่านที่กินยาผิด หรือเสิ่นอวี้ซูที่กินยาผิด ทางด้านจวนจิ้งนิ่วโหวก็ได้นัดงานหมั้นหมายกับทางจวนจินชินอ๋องอย่างเงียบๆ แล้ว…
เมื่อได้รู้ว่าพี่สาวของนางจะได้แต่งงานกับอ๋องจินชินแล้ว เหวินเย่ว์ที่อยู่ในเรือนมีความสุขมากที่สุด เพราะนางเคยไปจวนจินอ๋องกับซูหว่าน ได้เห็นกับตาตัวเองว่าอ๋องจินชินปฏิบัติต่อพี่สาวของตัวเองดีจริงๆ เหวินเย่ว์รู้สึกดีใจแทนพี่สาวของตัวเองมากกว่าใคร ในทางตรงกันข้ามเหวินอวี้ที่ได้รู้ข่าวนี้ก็เสียใจ นับวันยิ่งโศกเศร้าและผอมซูบ
ในความคิดของนางพี่สาวคนนี้ที่ถูกบังคับ เหมือนผู้ที่จำต้องยอมเป็นรองเขา เหมือนน้ำหยุดไหล เหมือนถนนที่ถูกตัด…สรุปได้ว่า พี่สาวมาถึงจุดๆ นี้เป็นเพราะความผิดของนางเอง!
ดังนั้น ทั้งหมดในจวนจิ้งนิ่งโหวกำลังเตรียมการอย่างเงียบๆ สำหรับงานแต่งหลังปีใหม่ มีเพียงเหวินอวี้เท่านั้นที่ลังเลในใจไม่รู้จะทำอย่างไรดี…
ชั่วพริบตาก็จะถึงวันสิ้นปีแล้ว ทุกวันส่งท้ายปีเก่า ฝ่าบาทจะจัดงานเลี้ยงเพื่อให้ความบันเทิงแก่เจ้าหน้าที่พลเรือนและทหารหลายร้อยคน และไทเฮาจะให้ความบันเทิงแก่กลุ่มสตรีผู้สูงศักดิ์ในพระราชวังหลัง
ในเวลานี้ไม่ใช่แค่ซูหว่านเท่านั้นที่ได้รับคำเชิญจากไทเฮา ขณะเดียวกันเสิ่นชิงจิ่นและเสิ่นชิงเหยาแห่งจวนชิ่งชวนโหวก็ได้รับคำเชิญจากไทเฮาเช่นกัน
แม้ว่าในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ จวนชิ่งชวนโหวจะได้รับผลกระทบจากการที่ตระกูลซูขอถอนหมั้นแต่เสิ่นชิงจิ่นกลับอารมณ์ดีกว่าใคร
ถึงจะไม่รู้ว่าทำไมซูหว่านถึงคิดถอนหมั้น แต่เสิ่นชิงจิ่นก็รู้สึกโล่งใจเมื่อคิดว่าพี่ชายของเขาจะไม่ต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่นางเกลียดอีกต่อไป ตอนนี้นางได้รับคำเชิญจากไทเฮา พริบตาเสิ่นชิงจิ่นก็เปลี่ยนความคิดในใจ
ในเมื่อตัดสินแล้วว่าจะหลีกทางให้ซูหว่านที่ตัวเองเกลียดก็ถึงคราวของเสิ่นชิงเหยาชาติที่แล้วนางจงใจแย่งสามีของข้าไป และในชาตินี้เสิ่นชิงจิ่นยังคงรังเกียจไอ้ผู้ชายกากเดนคนนั้น!
ในเมื่อเสิ่นชิงเหยาต้องการ นางก็จะเป็นคนดีให้ถึงที่สุด ช่วยให้นางได้สมหวังกับรัชทายาทองค์ที่ห้า
งานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่ายังไม่ทันจะเริ่ม แต่กลับมีคนที่รอไม่ไหวแล้ว
ตั๊กแตนตำข้าวจับจักจั่น โดยที่ลืมไปว่านกขมิ้นอยู่ด้านหลัง สุดท้ายแล้วใครจะเป็นตั๊กแตนตำข้าว และใครจะเป็นนกขมิ้นหรือ