สาวยั่วสวาทเบ้ปาก พูดไม่สบอารมณ์“ไหนเมื่อกี้ว่าทองคำไม่ดีไงล่ะ นี่ก็ซื้อทองเป็นกระบุงโกยไม่ใช่เหรอ”
“อ๋อ หมายถึงอันนี้น่ะเหรอ ฉันว่าจะเอาไปให้หมาใส่ หมาไซบีเรียนฮัสกี้น่ะ รู้จักมั้ย ถ้าไม่เอาใจมันดีๆมันจะพังบ้าน”เฉินห้าวจงใจพูด
“เลี้ยงหมากับซื้อทองมันเกี่ยวอะไรกัน สมองมีปัญหาหรือเปล่า”สาวยั่วสวาทเหน็บแนมเฉินห้าว ระหว่างที่พูด ก็นำสร้อยทองเส้นหนึ่ง มาคล้องคอ
“ก็ฉันซื้อสร้อยทองให้หมาใส่นี่นา หรือคุณไม่ใช่ ซื้อไปใส่เองเหรอเนี่ย”เฉินห้าวแสดงสีหน้าประหลาดใจ
พวกสาวๆตกตะลึง ถึงได้เข้าใจว่านี่เป็นวิธีการประชดประชันของเฉินห้าว เถ้าแก่ซื้อสร้อยให้หมาใส่ แต่สาวยั่วสวาทซื้อใส่เอง การประชดประชันแบบนี้ให้คะแนนเต็มเลย พวกสาวๆหัวเราะกันเบิกบาน
“เก่าเก็บ ปัญญาอ่อน！ใครเขาใช้สร้อยทองเลี้ยงหมากัน！”
สาวยั่วสวาทหน้าแดง จนกลายเป็นกร่นด่า
“ด่าใครเนี่ย ไอ้หน้าส้นตีน ยังมีหน้ามาภูมิใจอีกนะ”
“ลองมาว่าเถ้าแก่เราดูอีกสิ จะฉีกปากแหกเลย！”
นางแบบสาวไม่รีรอ โผขึ้นไปเอาเรื่องสาวยั่วสวาท นางยั่วสวาทกำหมัดปล่อยออกไปสะเปะสะปะ แล้วหดตัวเข้าอ้อมกอดเฉียนหรงข่ายเพื่อขอความช่วยเหลือ
“ประธานเฉียน พวกมันรังแกหนูค่ะ！”สาวยั่วสวาทพูดน้ำเสียงรันทด
แววตาเฉียนหรงข่ายมืดมน จ้องเขม็งไปที่เฉินห้าวแล้วพูด“แกหาเรื่องอยู่นั่น คิดว่าตัวเองแน่มากหรือไง”
“ฉันไม่แน่หรอก”เฉินห้าวพูดด้วยสีหน้าเฉียบคม“คนที่หาเรื่องคือใคร ตัวเองน่าจะรู้ดีอยู่แก่ใจ ทุกคนมาซื้อของที่นี่ด้วยกันทั้งนั้น เรื่องอะไรแกถึงมาดูถูกระรานคนของฉัน แล้วแก คู่ควรเหรอ”
น้อยครั้งที่จะมีคนกล้าแหย่เฉียนหรงข่าย เขาจึงเดือดดาลขึ้นมาทันที แต่พอมาคิดดู แบ๊คกราวของเฉินห้าวก็ไม่ธรรมดา ซื้อคฤหาสน์จงหัวได้ แปลว่าต้องมีเงิน และอยู่กับโจวซีถง แปลว่าจะต้องมีอำนาจในวงการธุรกิจ และเขาก็เคยได้ไปหาพวกพี่ใหญ่ในวงการด้วย และได้ยินมาว่าเฉินห้าว ทำให้เมียตกใจจนคลอดยากมาแล้ว ซึ่งก็มากพอที่จะพูดได้ว่า เฉินห้าวไม่ใช่ชาวบ้านที่จะรังแกกันได้ง่ายๆ
หน้างานตอนนี้ เรื่องเงินเขาก็เทียบไม่ติด จำนวนคนก็เทียบไม่ติด จะหานักเลงมาลงก็ไม่มีใครกล้ารับงาน ดูหน่วยก้านแล้ว เขาคงทำอะไรเฉินห้าวไม่ได้
คนอ่อนแอกว่าคิดจะต่อกรกับคนที่เข้มแข็งกว่า ก็ต้องถูกกดแบบนี้แหละ ไม่มีทางโต้กลับได้
“แล้วคอยดู！”
เฉียนหรงข่ายรู้สึกเสียหน้ามาก จึงกระชากสาวยั่วสวาทออกจากร้าน
“เชอะ จะมาเทียบชั้นกับเถ้าแก่ของเรา ก็ต้องหนีหางจุกตูดอยู่ดี ！”ชิวย่าหนานทำหน้าล้อเลียนอยู่ด้านหลัง
“ย่าหนาน ระวังกิริยาหน่อย”
พี่ใหญ่อู๋ตันเตือนให้หล่อนระมัดระวังภาพลักษณ์
ชิวย่าหนานหัวเราะฮิฮิ เดินไปหยุดตรงหน้าเฉินห้าว ประนมมือพูด“ขอบคุณเถ้าแก่นะคะที่เป็นปากเสียงให้กับพี่น้องของเรา ต่อไปฉันจะรับใช้เถ้าแก่อย่างเต็มที่ และเป็นของเถ้าแก่ ต่อให้ดำน้ำลุยไฟพวกเราก็ไม่เกี่ยง”
คำพูดนี้ทีเล่นทีจริง แต่ดูเล่นมากกว่า เฉินห้าวยิ้มไม่หุบ ซุกซนขนาดนี้ เดี๋ยวได้ปะทะกับเซี่ยจิ้งแน่นอน
“เอาล่ะ พวกที่น่ารังเกียจก็ไปแล้ว พวกเราชอปปิ้งต่อ！”เฉินห้าวโบกมือ
“หือ ยังจะชอปปิ้งต่ออีกเหรอ วันนี้เถ้าแก่เสียเงินให้พวกเราไปมากแล้วนะคะ！”นิสัยระมัดระวังของอู๋ตันไม่ชอบเอาเปรียบใคร หล่อนรู้สึกว่าวันนี้เฉินห้าวใช้จ่ายสำหรับพวกหล่อนมาเยอะแล้ว แต่ละคนได้เครื่องประดับหลักหมื่น มูลค่าเป็นเงินเดือนเป็นปีของคนหลายคนเลยทีเดียว
“แหม เถ้าแก่ของพวกเรารวยขนาดนี้ เรื่องแค่นี้ขี้ผงสำหรับเถ้าแก่น่า ไม่งั้นจะซื้อคฤหาสน์ตั้งสองร้อยล้านได้เหรอ ใช่มั้ยคะเถ้าแก่”ชิวย่าหนานผู้ร่าเริงพูด
“นั่นสิ ตอนนี้ทุกคนไปซื้อแว่นพร้อมกัน เมื่อกี้ฉันเห็นมีแว่นเหมาะกับทุกคนเลย！”เฉินห้าวพาพวกหล่อนมาที่ร้านแว่นBOLON
เฉินห้าวให้พวกสาวๆเลือก อย่างไรเสียแว่นตาก็ไม่ได้แพงอะไร ชอบอันไหนก็ซื้อให้หมด
สาวๆตื่นเต้นกันน่าดู ความรู้สึกย้อนกับไปเมื่อตอนเจอชายคนแรก รู้สึกเพียงว่าเฉินห้าวเป็นเถ้าแก่ที่ทั้งหล่อทั้งเอาใจใส่ เป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบคนหนึ่งทีเดียว
ท้ายที่สุด พวกหล่อนเลือกซื้อแว่นกันแดดกันคนละสองสามชิ้น จากนั้นเฉินห้าวจึงรูดบัตร ใช้เงินไปสี่หมื่นกว่า
ชอปปิ้งชั้นที่หนึ่งเสร็จแล้ว ต่อไปก็ขึ้นชั้นถัดไป
เฉินห้าวเดินนำหน้า ด้านหลังเดินตามด้วยนางแบบสาวน่องเรียวยาวใส่ส้นสูง และสวมชุดฟอร์มแบบเดียวกัน การรวมตัวแบบนี้เหมือนกับหัวหน้าจากที่ไหนสักแห่งพาคู่รักออกมาเปิดตัว ดึงดูดสายตาคนรอบข้างได้ดี ทำให้ทุกคนรู้สึกอิจฉาตาร้อน
“เมื่อไหร่เราจะได้เท่ห์แบบนี้มั่งเนี่ย มีสาวๆล้อมเต็มไปหมดเลย”มีเด็กวัยรุ่นคิดอย่างอิจฉา
แต่สิ่งที่เขาไม่รู้คือ สาวๆหกคนที่อยู่ด้านหลังเฉินห้าวเป็นเพียงแค่ลูกน้องธรรมดาเท่านั้น ส่วน“แฟนสาวจริงๆ” สวยกว่านางแบบสาวพวกนี้ไม่รู้กี่เท่า ถ้าได้เห็นโจวซีถง เซี่ยจิ้ง เฉารุ่ยแล้วละก็ คิดว่าความอิจฉาคงจะระเบิดออกแน่
ชั้นสองของห้างสรรพสินค้าเป็นโซนเครื่องสำอาง เครื่องสำอางเคาน์เตอร์แบรนด์ต่างมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ หลังจากที่เฉินห้าวขึ้นมาชั้นบน เห็นพวกสาวๆเริ่มตาเป็นประกาย จึงพูดออกไปว่า“เลือกตามสบายเลย ให้เวลาพวกเธอสิบนาที จากนั้นฉันจะจ่ายทีเดียว จำไว้นะ แค่สิบนาทีเท่านั้น”
ก่อนหน้าตอนซื้อเครื่องประดับมีเงื่อนไขเรื่องจำนวนเงิน ตอนนี้มีจำกัดเวลาเรื่องซื้อเครื่องสำอาง จะให้เครื่องสำอางค์ยังต้องทำให้ตื่นเต้นอีก
พอพวกสาวๆได้ฟัง ต่างก็วิ่งถลาไปที่เครื่องสำอางที่ตัวเองชอบราวกับวิ่งแข่ง เฉินห้าวมองตาค้าง ขนาดพวกหล่อนสวมรองเท้าส้นสูง ยังวิ่งได้ราวกับเหาะ
ดูท่า ภายใต้สถานการณ์ที่กดดัน ทำให้ศักยภาพของคนนั้นไร้ขีดจำกัด ใครว่ารองเท้าส้นสูงวิ่งแข่งร้อยเมตรไม่ได้ สาวๆพวกนี้ของเขาคนหนึ่งล่ะที่ไม่ยอม
