“ฉันต้องการซื้อพู่กันจีนจากร้านร้านพู่กันจีนชิวเหวินเฉิง คุณมีของไหมคะ?”
จูหมิ่นเรียนรู้การประดิษฐ์ตัวอักษรด้วยพู่กันจีนเมื่อเธอยังเป็นเด็ก และปัจจุบันเธอยังหัดเขียนพู่กันจีนเป็นครั้งคราวอยู่ เธอรู้ว่าร้านพู่กันจีนชิวเหวินเฉิงปิดไปหลายปีแล้วเพราะไม่มีทายาทสืบทอดต่อ จูหมิ่นพูดล้อเล่นกับเขาว่าตอนนี้ในตลาดไม่มีพู่กันแบบนี้ขายแล้ว เพราะเธออยากจะรู้ว่าในกรณีที่ร้านพู่กันจีนเจ๊งไปหลายปีแล้ว เฉินห้าวยังสามารถหาพู่กันจีนมาให้เธอได้หรือเปล่า
“ร้านพู่กันจีนชิวเหวินเฉิงงั้นเหรอ? ฉันจะโทรไปถามดู รอสักครู่นะ”
เฉินห้าวเดินไปในที่ที่ไม่มีใคร จริงๆ แล้วเขาก็แค่เปิดapp เงินอุดหนุนหมื่นล้านในโทรศัพท์มือถือของเขาเพื่อค้นหาเท่านั้น
ร้านพู่กันจีนชิวเหวินเฉิง พู่กันจีนทั้งชุด(คอลเลกชันส่วนตัว) ราคาประมาณ2,688 หยวนและมีราคาอุดหนุน5หยวน มีเพียงชุดเดียวในโลก
นี่น่าจะเป็นพู่กันที่หยุดการผลิตมานานแล้ว ไม่คาดคิดว่าใน app เงินอุดหนุนหมื่นล้านยังมีอยู่ชุดหนึ่ง ราคาของสินค้าที่ขาดตลาดแบบนี้จะต้องสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างแน่นอน เฉินห้าวจึงตัดสินใจซื้อมันทันที เพื่อให้จูหมิ่นสงสัยเขาจึงไม่นำมันออกมาโดยตรง เขาคัดลอกรูปถ่ายสินค้าบางส่วนไปให้จูหมิ่นดูและสินค้าของแท้จะถูกส่งไปให้เธอทีหลัง
“คุณมีจริงๆ เหรอ?”
หลังจากที่จูหมิ่นเห็นภาพของผลิตภัณฑ์เธอก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก บริษัทการค้าห้าวหรานของเฉินห้าวนี่สุดยอดจริงๆ เลย มีแม้กระทั่งพู่กันที่หยุดผลิตมานานแล้วด้วย!
เธอเคยค้นหาบนเว็บไซต์สินค้ามือสองเป็นเวลาหลายปีแต่ก็ไม่มีผลลัพธ์ใดๆ ปรากฏว่าเธอมาที่บริษัทของเฉินห้าวเพียงไม่กี่นาทีก็พบผลลัพธ์นี้แล้ว
“โอเคฉันซื้อค่ะ ถ้าคุณว่างเมื่อไรก็ส่งมาให้ฉันก็แล้วกัน”
จูหมิ่นเดินไปหาคนที่ชื่อจานอี้เฟย และซื้อชุดพู่กันจีนตามกระบวนการปกติกับเขา แต่เมื่อเห็นว่าจานอี้เฟยรับชำระเงินในราคาสองหยวนและหกเซ็นต์เท่านั้นเธอก็รู้สึกตกตะลึงอย่างมาก
“คุณใส่จุดทศนิยมผิดแล้ว คุณควรคูณ1,000ด้วย” จูหมิ่นเตือนเขา
จานอี้เฟย กล่าวว่า: “ไม่ผิดหรอกครับ เจ้านายสั่งไว้แล้วว่าคุณเป็นเพื่อนของเขา และนี่ก็เป็นราคาพิเศษสำหรับมิตรภาพของเพื่อนนะครับ”
“มันจะดีเหรอคะ” จูหมิ่นเดินไปหาเฉินห้าว เพราะเธอไม่ต้องการเอาเปรียบเขา ราคาถูกกว่าตั้ง2,000หยวนมันเทียบเท่ากับการให้เธอฟรีๆ เลยแหละ
“ถือซะว่าเป็นของขวัญจากฉันก็แล้วกัน ช่วยถ่ายวิดีโอสัมภาษณ์ให้ดีหน่อยนะ” เฉินห้าวยิ้ม
หลังจากที่จูหมิ่นปฏิเสธเขาไม่สำเร็จ เธอจึงรับชุดพู่กันจีนนี้ไว้ เธอรู้สึกดีใจสุดไปเลย เพราะมันเป็นพู่กันจีนที่เลิกผลิตแล้ว และที่สำคัญก็คือมันเป็นของขวัญจากเฉินห้าวด้วยซึ่งมีความหมายต่อเธออย่างมาก
หลังจากเสร็จสิ้นการทำธุรกรรมนี้ จูหมิ่นได้เข้าใจแก่นแท้ของการค้าของบริษัทการค้าห้าวหราน นั่นคือการค้าปลีกสินค้าหายาก ซึ่งมีเส้นทางธุรกิจที่แตกต่างจากบริษัทการค้าที่อาศัยการขายส่งในปริมาณมาก
มันเป็นเรื่องยากที่จะพูดว่าเส้นทางธุรกิจไหนดีกว่ากัน จุดสำคัญอยู่ที่การวางตำแหน่งของผู้ดำเนินการในบริษัทของเขา และจูหมิ่นเชื่อว่าเฉินห้าวมีเหตุผลในการทำเช่นนั้น อีกอย่างบริษัทการค้าห้าวหรานแตกต่างจากบริษัทอื่นๆ ที่เธอเคยสัมภาษณ์มาอย่างมาก บริษัทของเขาจะต้องรุ่งเรืองในอนาคตอย่างแน่นอน
ภารกิจการถ่ายทำในวันนี้เสร็จสิ้นลงแล้ว วันนี้จูหมิ่นถือว่าได้ฟังและได้เห็นสิ่งใหม่ๆ หลายอย่าง และเธอไม่คาดคิดว่าในตึกบริษัทโจวซื่อที่หรูหรายังคงมีการค้าที่ “เกือบมีความสารถในทุกด้าน”อย่างบริษัทการค้าห้าวหรานด้วย สินค้าทุกชนิดที่ลูกค้าต้องการจะซื้อ ที่นี่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เสมอ
จูหมิ่นคิดว่านี่เป็นเนื้อหาที่จะนำไปทำข่าว หากเผยแพร่ออกไปจะทำให้เกิดการโต้เถียงกันอย่างแน่นอน
ชาวเน็ตจำนวนมากไม่เชื่อในความมหัศจรรย์ของบริษัทการค้าห้าวหราน และพวกเขาจะวิพากษ์วิจารณ์มันอย่างแน่นอน นั่นคือการแพร่กระจายทางอินเทอร์เน็ต และข่าวสารต้องการความเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว เมื่อผู้สงสัยมากขึ้นขึ้น ก็จะมีคนอยากรู้อยากเห็น เมื่อพวกเขาต้องการที่จะลองดูด้วยตนเอง พวกเขาจะพบว่าบริษัทการค้าห้าวหรานเป็นบริษัทมหัศจรรย์ประเภท “โดราเอมอน” จริงๆ แล้วผลที่ออกมาจะน่าทึ่งมากกว่า และมีผลในการโฆษณาที่ดีกว่าด้วย
“ประธานเฉินขอบคุณสำหรับความร่วมมือด้วยนะคะ ฉันจะกลับไปตัดต่อและออกอากาศโดยเร็วที่สุด!” จูหมิ่นจับมือกับเฉินห้าวก่อนจากไป
“ทำให้ดีที่สุดก็พอ” เฉินห้าวพูดอย่างสุภาพ
หลังจากที่จูหมิ่นจากไป จู่ๆ เฉินห้าวก็ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่มือเขา น้ำหอมที่ผู้สื่อข่าวจูฉีดนั้นเป็นน้ำหอมแบรนด์ไหนนะ กลิ่นหอมดี
…
สามวันต่อมาภาพยนตร์บทสัมภาษณ์สั้นๆ ที่ถ่ายโดยจูหมิ่นเริ่มออกอากาศทางทีวีและในบัญชี MicroBlog อย่างเป็นทางการ แค่ชื่อเรื่องและชื่อของการสัมภาษณ์ก็คล้ายกับแผนกช็อกของUCแล้ว
“มันน่าทึ่งจริงๆ ! มีบริษัทที่สามารถทำได้ทุกอย่างและขายทุกอย่างในเมืองของเราด้วย!”
พาดหัวข่าวดังกล่าวดึงดูดผู้คนจำนวนมากทางอินเทอร์เน็ต โดยกล่าวว่าโฆษณานี้อยู่ในระดับต่ำเกินไป และยังบอกว่าคุยโม้ก็ควรให้มันมีขีดจำกัดบ้างด้วย
แน่นอนว่ามีลูกค้าเก่าบางคนของบริษัทการค้าห้าวหรานที่เห็นข่าวนี้ และเข้าไปคอมเมนต์และให้เหตุผลกับพวกเขา แต่กลับโดนกล่าวหาว่าเป็นกองทัพเรือที่ถูกจ้างมา และทั้งสองฝ่ายก็ทะเลาะกันจนวุ่นวายไปหมด
เหตุการณ์นี้กระตุ้นความสนใจบนอินเทอร์เน็ตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ชาวเน็ตจำนวนมากได้ถ่ายทำวิดีโอขึ้นมาเพื่อตรวจสอบว่าบริษัทการค้าห้าวหรานนั้น “ทำได้ทุกอย่าง”จริงๆ ตามที่ระบุไว้ในวิดีโอหรือไม่ พวกเขาจึงขอซื้อสินค้าที่แปลกประหลาดกับบริษัท
ตัวอย่างเช่นชุดประกอบโมเดลที่หายากและส่วนผสมล้ำค่าบางชนิด และโทรศัพท์ Xiaomi ที่หมดสต็อกในจำนวนจำกัดและอื่นๆ อีกมากมาย ปรากฏว่าบริษัทการค้าห้าวหรานมีทุกอย่างตามที่พวกเขาต้องการ ส่งผลให้ชื่อเสียงและปริมาณธุรกิจของบริษัทการค้าห้าวหรานเพิ่มขึ้นอย่างมาก
เฉินห้าวไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย ตราบใดที่ใน app เงินอุดหนุนหมื่นล้านมีสินค้าเขาก็สามารถซื้อและขายให้กับลูกค้าได้ และส่วนใหญ่เป็นราคาเงินอุดหนุนอีกด้วย เพราะเหตุนี้เขาจึงทำกำไรได้มหาศาล สินค้าที่ซื้อมาในราคาไม่กี่บาทแต่กลับขายได้หลายสิบล้านนั้นเป็นเรื่องธรรมดามาก เงินฝากของเฉินห้าวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยการอาศัยapp เงินอุดหนุนหมื่นล้าน และการที่ได้รับเงินอุดหนุนหลายหมื่นล้านเพียงผู้เดียวนั้นเป็นเรื่องที่เจ๋งสุดๆ ไปเลย!
เมื่อโจวซีถงรู้เรื่องนี้เธอก็โทรไปแสดงความยินดีกับเฉินห้าว โดยบอกว่าเฉินห้าวเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมในวงการนี้ด้วย นอกจากนี้เธอยังใช้แผนกประชาสัมพันธ์ของบริษัทโจวซื่อเพื่อเพิ่มกำลังให้เขาด้วย และยังสร้างสโลแกนที่เรียกว่า “หากคุณมีปัญหาอะไรก็ไปหาห้าวหรานได้เลย” หลังจากที่คำนี้กลายเป็นมุกตลกในโซเชียล เวลาที่มีคนต้องการจะซื้อสินค้าหายาก ก็จะนึกถึง บริษัทการค้าห้าวหรานเป็นสิ่งแรก
ขณะนี้บริษัทการค้าห้าวหรานกลายเป็นบริษัทจัดซื้อสินค้าหายากในประเทศเพียงแห่งเดียว แม้ว่าปริมาณธุรกิจจะไม่มากนัก แต่ทุกคำสั่งซื้อสามารถได้รับการยกย่องจากลูกค้าอย่างแท้จริง
บริษัทการค้าห้าวหรานกลายเป็นที่นิยมอย่างกะทันหัน มันเป็นเพราะวิดีโอที่ถ่ายโดยจูหมิ่น และยังได้รับความช่วยเหลือของทีมปฏิบัติการของโจวซีถงอีกด้วย เฉินห้าวขอบคุณผู้หญิงของเขาอย่างหนักแน่นจากโทรศัพท์
“ขอบใจนะ” เฉินห้าวกล่าว
“กับฉันคุณยังจะพูดขอบใจอีกเหรอ … โอ้!” โจวซีถงที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่นั้น กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างกะทันหัน