โจวซีถงรู้สึกถึงแรงตีกลับอันบ้าคลั่งกลับมาอีกครั้ง อดไม่ได้ที่จะร้องออกมา นี้เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าจะได้นั่งบนรถที่มีความเร็วเร็วขนาดนี้ ทว่าแค่มีเฉินห้าวอยู่ด้วย เธอจึงวางใจ ถ้าเป็นคนอื่นขับเร็วเช่นนี้ เธอสั่งให้หยุดรถไปแล้ว
เฉินห้าวเหยียบคันเร่งจนมิด หางตาเหลือบมองมาตรความเร็ว พบว่าตอนนี้สูงถึง 260 หลา เสียงเครื่องยนต์คำรามดังกระหึ่ม เริ่มเข้าใกล้ขีดสุดของประสิทธิภาพเครื่องยนต์แล้ว ณ เวลานี้รถสปอร์ตราคาสูงสำแดงอิทธิฤทธิ์ออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน หากเป็นรถยนต์ทั่วไป จะว่าไม่สามารถขับด้วยความเร็วนี้ก็ไม่ได้ มันสามารถขับด้วยความเร็วขนาดนี้ได้ แต่เพราะประสิทธิภาพต่างกัน มีความเสี่ยงสูงว่าจะลอยตัวและเสียสมดุลเพราะแรงเสียดทานได้ ผลที่ตามาคืออุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ
เมื่อรถพลิกกลับด้วยความเร็วสูงเช่นนี้ นั่นก็หมายถึงเหตุรถจนและเสียชีวิตในที่สุด
และที่รถเคอนิกเส็กก์สามารถขับเคลื่อนด้วยความเร็วนี้ได้ และยังคงมีเสถียรภาพมาก ด้วยระบบช่วยขับเคลื่อนทำให้เมื่อเปลี่ยนเลน เขายังคงรักษาการทรงตัวของรถได้ โดยไม่มีการเสียสมดุลใดๆ
“รถดี!”
เฉินห้าวชื่นชมจากใจ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมรถประเภทนี้ถึงมีมูลค่าสูง เป็นความแพงที่มีเหตุผล ไม่ใช่ว่ารถนับล้านคันที่ผลิตในประเทศจะไม่ดี แต่รถที่ขับสบาย ออกตัวเร็ว ต้องยกให้รถสปอร์ตสุดหรูเท่านั้น
เฉินห้าวเร่งคันเร็วอย่างต่อเนื่อง เฟอร์รารีที่ขับเทียบข้างเองก็ไม่ด้อยไปกว่ากัน เด็กหนุ่มสวมแว่นกันแดดเหยียบคันเร่งอย่างไม่ยอมแพ้ ความเร็วก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน ทั้งสองคนผลัดกันนำผลัดตาม ทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่น
เฉินห้าวเห็นว่าเข็มบนหน้าปัดมาตรความเร็วเข้าใกล้สุดขอบล่างความเร็วแล้ว ซึ่งอยู่ที่ 270 หลา ความเร็วระดับนี้ รถรอบๆ ราวกับหยุดนิ่ง เขาต้องเปลี่ยนเลนไปมาตลอด เพื่อหลบรถคันอื่น และด้วยความเร็วที่มากเกินไป เมื่อต้องหักเลี้ยว จึงรับรู้ได้ถึงอันตรายที่ไม่สามารถควบคุมได้
เฉินห้าวต้องพยายามอย่างหนักที่จะบังคับพวงมาลัยและเหยียบคันเร่งไปพร้อมกัน ต้องสลับเปลี่ยนเป็นเกียร์ปกติเมื่ออยู่ในสถานการณ์วิกฤติ นี่เป็นการทดสอบฝีมือการขับรถและปฏิกิริยาตอบสนองอย่างแท้จริง หากพลาดเพียงนิดเดียว ก็จะชนรถคันอื่นได้
จนถึงตอนนี้ ความเร็วของรถทั้งสองยังสูสีกัน หากจะชนะอีกฝ่ายด้วยความเร็ว ก็ต้องดุดันมากขึ้น
รถทั้งสองคันพุ่งผ่านจุดตรวจความเร็วพร้อมกัน ภาพความเร็วของพวกเขา ถูกบันทึกด้วยระบบการตรวจจับความเร็วอย่างรวดเร็ว ภาพวิดีโอที่กำลังปรากฏ ตำรวจจราจรเห็นยังตกใจ นี้ไม่ใช่เพียงการขับรถเร็วเกินไป นี่มันบินต่ำๆ
พฤติกรรมที่ใช้ความเร็วขนาดนี้ อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ง่าย ดังนั้นรถตำรวจสองคันจึงออกตาไปทันที แยกกันไปตามทางเพื่อสกัดกั้น เพราะดูจากการรถของนักแข่งทั้งสองก็ต้องเผชิญกับทางเลือก
เฉินห้าวพบว่าถึงแม้จะยังเพิ่มความเร็วได้อีก แต่มันค่อนข้างอันตราย ยิ่งตอนนี้เข้าใกล้ทางเข้าทางด่วนของอีกเมืองหนึ่ง จึงมีรถมากขึ้น แข่งรถอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ไม่คู่ควรกับการเอาชีวิตและความสุขตลอดชีวิตมาเดิมพัน เฉินห้าวตัดสินใจเผด็จศึกอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้ทางข้างหน้าเป็นทางตรงหลายกิโลเมตร ก่อนถึงทางโค้งข้างหน้า มีป้ายโฆษณารถเทสลาโมเดลขนาดใหญ่เด่นสะดุดตา จุดนั่นเหมาะสมกับการเป็นจุดสิ้นสุดการแข่งขัน
เฉินห้าวหันมองไปทางขวา เช่นเดียวกันที่เด็กหนุ่มคนนั้นเองก็หันมามองเฉินห้าวพอดี ทั้งสองสบตากันที่หน้าตารถ มีประกายไฟปะทุขึ้น เฉินห้าวยกมือขึ้นชี้ไปที่ป้ายโฆษณาข้างหน้า จากนั้นก็เร่งความเร็วขึ้นทันใด
เด็กหนุ่มเข้าใจความหมายของเฉินห้าวชัดเจน จึงเหยียบคันเร่งจนสุด ตอนนี้รถสปอร์ตทั้งสองคันวิ่งตรงไปข้างหน้าดั่งสัตว์ร้าย
มาตรวัดความเร็วมาสุดหน้าปัดแล้ว ความเร็วอยู่ที่ประมาณ 300 หลา ชาวนาคนหนึ่งที่ข้างทางเงยหน้าขึ้น เห็นเพียงกลุ่มก้อนสีแดงและสีดำขับผ่าน” ชิ่ว” และหายไปต่อหน้าต่อตา จากนั้นก็มีลมกระโชกแรงพัดมา รถทั้งสองคันเร็วดั่งการฉีกอากาศ
“แม่เจ้า รถอะไรทำไมเร็วอย่างนี้!” ชาวนาชราตะโกนออกมาด้วยความตกใจ
บังเอิญข้างหน้ามีสะพานรถไปความเร็วสูง และมีรถไฟความเร็วสูงวิ่งผ่านมาบนสะพานพอดี ความเร็วรถสปอร์ตใกล้เคียงและสูสีกับความเร็วของรถไฟความเร็วสูง คือประมาณ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ผู้โดยสารที่นั่งบนรถไฟกำลังชมวิวทิวทัศน์ข้างทาง จู่ๆ ก็เห็นรถสปอร์ตหรูสองคันด้านล่าง ซึ่งดูเหมือนจอดนิ่ง และมีรถคันอื่นๆ ลอยผ่านหน้าต่างอย่างรวดเร็ว ดูแปลกประหลาดมาก
เขาขยี้ตา เพื่อดูว่าตนเองไม่ได้ตาฝาด มีรถสองคันขับเทียบคู่กับรถไฟความเร็วสูง
ผู้โดยสารคนนั้นตระหนักอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเป็นเพราะความเร็วรถทั้งสองคันนั้น เทียบเท่ากับความเร็วของรถไฟความเร็วสูง ดังนั้นเมื่อความสัมพันธ์ความเร็วเท่ากัน จึงดูเหมือนว่ามันกำลังหยุดนิ่งอยู่
ผู้โดยสารคนเดิมมองไปที่มาตรวัดความเร็วของรถไฟความเร็วสูงจึงประหลาดใจ ความเร็วที่แสดงคือ 300 กม./ชม. ทันใดนั้นเขาก็ร้องออกมาด้วยความแตกตื่น“ทุกคนดูนั่นสิ ด้านล่างมีรถสปอร์ตสองคันวิ่งด้วยความเร็วเท่ากับพวกเราเลย”
“รถธรรมดาจะมาขับเร็วเท่ารถไฟความเร็วสูงได้ยังไง อย่ามาตลก”
เห็นได้ชัดว่าผู้โดยสารอีกฝั่งไม่เชื่อ
“ไม่เชื่อก็ดูนั่นสิ!” ผู้โดยสารคนนั้นตะโกน
มีผู้โดยสารหลายคนหันไปดู จากนั้นก็ต้องอ้าปากค้างด้วยความตกใจ รถคันอื่นๆ ต่างถูกรถไฟความเร็วสูงเหวี่ยงไปด้านหลัง แต่รถสปอร์ตสองคัน คันหนึ่งสีดำ คันหนึ่งสีน้ำเงิน แล่นเกือบขนานกันกับพวกเขา น่าเหลือเชื่อมาก
“ยอดไปเลย นี่ชูมัคเกอร์มาเยือนประเทศเราหรือ?”
“นี่มันฝ่าฝืนกฎจราจรอย่าร้ายแรงเลยไม่ใช่หรือ ตำรวจจราจรไม่มาจับพวกเขา?”
เหล่าผู้โดยสารต่างพากันพูดไปต่างๆ นานา
แต่หลายคนมองว่านี่มันเจ๋งมาก นี่มันเป็นความโรแมนติกของผู้ชาย ขับรถหรู แข่งรถด้วยความเร็วสูง หยิบเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายด้วยความอิจฉา นี่มันวัสดุชั้นยอด อาจทำให้โลกอินเตอร์เน็ตลุกเป็นไฟ
ตอนที่พวกเขาเอามือถือขึ้นมาถ่าย รถทั้งสองคันก็ทะยานผ่านป้ายโฆษณาขนาดยักษ์ไปทีละคัน ดูจากบนรถไฟสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน รถสปอร์ตสีดำสุดเท่นำผ่านป้ายโฆษณานั้นก่อนไปครึ่งคัน จากนั้นรถเฟอร์รารีสีน้ำเงินก็ตามมาเป็นอันดับสอง
เมื่อความเร็วรถทั้งสองค่อยๆ ลดลง ดูเหมือนว่าการแข่งขันจากสิ้นสุดแล้ว ไม่นานก็หายลับไปจากสายตาของเหล่าผู้โดยสาร
