บทที่ 148 นักบวชชั้นสูงมนุษย์เงือก
เอ็ดเวิร์ดสงบลงมากในการเผชิญหน้าครั้งที่ 2 ของเขากับนักบวชชั้นสูงมนุษย์เงือก และมนุษย์เงือกที่อยู่รอบ ๆ
เควสก่อนหน้านี้ยากเกินไป นั่นเพราะพวกเขาต้องกู้แซฟไฟร์ทะเลกลับมา แต่เมื่อเควสกลายเป็นเควสล่า พวกเขาก็สามารถเริ่มแทะปลาจากขอบเกาะได้
แต่สาเหตุที่การกวาดล้างล่าช้าไปถึง 2 วันแม้จะได้รับการสนับสนุนจากผู้เล่นคนอื่น นั่นก็เพราะพวกเขาต้องเจอกับมนุษย์เงือกระดับอีลิท รวมถึง นักบวชปลากระเบน นักรบฉลาม นักฆ่าปะการัง มือระเบิดฆ่าตัวตายปลาปักเป้า และมัมมีปลาแห้ง จากนั้นพวกเขาก็ต้องกําจัดองครักษ์ส่วนตัวของนักบวชชั้นสูงมนุษย์เงือก และในที่สุดก็มาเผชิญหน้ากับบอสที่เขตกลาง
ขณะนี้มนุษย์เงือกตนหนึ่งกําลังมองผู้เล่นที่ล้อมรอบมันอย่างแน่นหนา มันจับไม้เท้าครีบปลา ขณะที่ใบหน้าสีน้ําเงินของมันดูเคร่งขรึม “มรืออกรี้ (เจ้ากล้าเอาชีวิตข้ารี!)”
“มันพูดอะไร” โกวต้านกระซิบถาม
“ไม่รู้ แต่จากสีหน้าที่มุ่งมั่นของมัน มันอาจต้องการการต่อสู้ที่มีเกียรติ” โจเตา
นักบวชชั้นสูงมนุษย์เงือกเข้าใจภาษามนุษย์ แต่มันไม่สามารถพูดได้ ต้องขอบคุณกล่องเสียงของมนุษย์เงือกที่เป็นเอกลักษณ์ “มรือออ (ข้าไม่ได้พูดแบบนั้น)” มันตะโกนชี้ไปที่โจ
โจดูดีใจที่ถูกชี้ และหันไปพูดกับโกวต้านว่า “ดูสิ มันกําลังบอกว่าข้าพูดถูก!”
ผู้เล่นคนอื่น ๆ คิดว่าโจพูดถูก ขณะที่พวกเขามองฉากที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกเขา และอดไม่ได้ที่จะแสดงความเคารพต่อนักบวชชั้นสูงมนุษย์เงือกที่พวกเขาล้อมอยู่ ความตายเป็นสิ่งที่แน่นอน แต่มันก็ไม่กลัวความตาย มันต้องการต่อสู้กับศัตรูอย่างสมเกียรติจนถึงช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต และตายอย่างวีรบุรุษ นั่นทําให้ผู้เล่นตื่นเต้น
แน่นอนว่าไม่มีทางเปลี่ยนผลลัพธ์ที่มันจะต้องตายในวันนี้ได้
โจจึงดึงนิ้วเท้ายักษ์ซึ่งเป็นอาวุธในตํานานของเขาออกมา “ทุกคนถอยออกไปหน่อย เพื่อเป็นการให้เกียรติมัน ข้าอยากจะสู้กับมันแบบตัวต่อตัว!”
“โจ เจ้าไหวเหรอ” โกวต้านกระซิบอยู่ข้างหลังเขา “มันเลเวลมากกว่าเจ้า 10 ระดับเลยนะ”
“ลูกผู้ชายไม่พูดว่า ‘เป็นไปไม่ได้’! การดวลเป็นความโรแมนติกของนักรบ!”
แต่โจเรียกวิญญาณคู่หูของเขาออกมาทันทีหลังจากนั้น ซึ่งกระตุ้นให้เกิดเสียงโห่ร้องจากโกวต้านและผู้เล่นคนอื่น ๆ “ไหนบอกว่าตัว ๆ!”
“หุบปากไป๊! วิญญาณคู่หูของข้าเป็นส่วนหนึ่งของการดวล ไปซะถ้าเจ้าไม่ชอบ!”
โจเปิดใช้ทักษะดาบปีศาจ ทําให้วิญญาณคู่หมาสิงอยู่ดาบ ก่อนที่เขาจะใช้ท่าสไลด์เฉือนเปิด
ในฐานะที่เป็นหนึ่งในทักษะหลักของวอร์ริเออร์เพียงไม่กี่อย่าง ที่สามารถใช้ระหว่างที่กําลังเคลื่อนไหวได้ มันจึงเป็นท่าเบิดของเหล่าวอร์ริเออร์เมื่อพวกเขาเข้าสู่สนามรบ
“กริลล์กรือรร์! มรืออกรี้! (เดี๋ยวก่อน ข้ายอมแพ้! ข้าจะพาเจ้าไปยังเมืองมนุษย์เงือกที่ใกล้ที่สุดได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย!)”
กลับกัน นักบวชชั้นสูงมนุษย์เงือกไม่ได้นิ่งเฉยอีกต่อไป แต่มันได้ยกไม้เท้าครีบปลาขึ้นด้วยมือทั้งสองข้าง นั่นคือท่าทางการยอมจํานนของมนุษย์เงือก
แต่ไม่มีผู้เล่นคนใดที่สื่อสารกับมนุษย์เงือกเข้าใจ แม้ว่าแต่ละคนจะฆ่ามนุษย์เงือกไปหลายตัวแล้วก็ตาม ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาเห็นคือหัวหน้านักบวชมนุษย์เงือกกําลังยกอาวุธขึ้นพร้อมที่จะโจมตีศัตรูได้ทุกเมื่อ
“นี่เจ้ากําลังบอกว่าเจ้าไม่มีทางยอมจํานนสินะ! เจ้าจะสู้ให้ถึงที่สุด แม้ว่าชีวิตของเจ้าจักมอดไหม?!” โจรู้สึกว่าเลือดของเขากําลังเดือดพล่าน ในตอนนั้นเขาหยุดใช้ทักษะสไลด์เนื้อนที่ซับซ้อนเพื่อสนับสนุนเจตจํานงของมนุษย์เงือกตนนี้ เขาจะใช้ทักษะผ่าปฐผีที่แข็งแกร่งและตรงไปตรงมาแทน “ข้าโจ พอล ยอมรับว่าเจ้าเป็นมนุษย์เงือกที่กล้าหาญ! มาดวลกันอย่างมีเกียรติ!”
บรรยากาศระหว่างทั้งสองหนักหน่วงขึ้นในทันที ขณะเดียวกันแผ่นหลังเล็ก ๆ ของนักบวชชั้นสูงมนุษย์เงือกเต็มไปด้วยความเศร้า
แปะ ๆ ๆ…
โกวต้านเริ่มปรบมือ และในไม่ช้าผู้เล่นคนอื่น ๆ ก็ตามมาราวกับติดเชื้อจากฉากอันเร่าร้อนตรงหน้าพวกเขา เพื่อปรบมือให้กับมนุษย์เงือกตนสุดท้าย ที่ยอมตายแต่ไม่ยอมแพ้บนเกาะมนุษย์เงือก
ดังนั้นนักบวชชั้นสูงมนุษย์เงือกที่ได้รับความเคารพจากผู้เล่นทุกคน จึงคํารามใส่ใจด้วยความโกรธที่ไม่อาจปฏิเสธอะไรได้ “กร้ากกกกก! กรี๊ดดดดดด! (ไอ้เย็ดแม่! ไอ้เย็ดย่า!)”
“ข้าจําได้ว่าคล็อกกาโตว์เคยพูดว่าเขาพอจะรู้ภาษาปลานะ” เอ็ดเวิร์ดที่เฝ้าดูมาตั้งแต่ต้นรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ จากนั้นเขาก็ทุบกําปั้นลงในฝ่ามือขณะที่เขาหันไปมองเอลีน่า
“ตกลง” เอลีน่าที่กําลังกินอมยิ้ม หยิบลูกบอลสีขาวแดงเรียกมนุษย์กบออกมาถาม “คล็อกกาโตว์ มนุษย์เงือกตัวนั้นพูดว่าอะไรเหรอ”
คล็อกกาโตว์ฟังอยู่สักพัก แล้วมองไปที่เอ็ดเวิร์ดอย่างอธิบายไม่ถูก
“ไม่เป็นไร พูดเลย” เอ็ดเวิร์ดให้กําลังใจ
เมื่อสังเกตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ผู้เล่นคนอื่น ๆ ก็เข้าใกล้พวกเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็นหูของพวกเขาก็ตั้งขึ้นเพื่อฟังสิ่งที่หัวหน้านักบวชมนุษย์เงือกผู้กล้าหาญพูด
“เอ่อ…” คล็อกกาโตว์พยายามอย่างดีที่สุดที่จะแปลมันเป็นภาษาของมนุษย์ แม้ว่ามันจะไม่เต็มใจก็ตาม “เจ้ามนุษย์เงือกตนนั้นกําลังใช้น้ําเสียงที่หยาบคาย บอกว่าพอลมีความสัมพันธ์แบบผิดผีกับแม่และย่าของเขา…”
คนอื่น ๆ นอกจากเอลีน่าไม่ได้ไร้เดียงสา พวกเขาทั้งหมดจึงเข้าใจได้ทันที
นั่นจึงอธิบายได้ถึงรูปลักษณ์ที่ไม่อาจพรรณนาได้บนใบหน้าของพวกเขา
โจชี้ไปที่หัวหน้านักบวชมนุษย์เงือกด้วยความโกรธที่ไม่อาจระงับได้ “เจ้า! ข้าเชื่อว่าเจ้าเป็นคู่ต่อสู้ที่น่านับถือ! ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะพูดจาดูหมิ่นข้าเช่นนี้ วันนี้ข้าจะทําลายเจ้าในนามของเทพเจ้าแห่งเกม!”
นักบวชชั้นสูงมนุษย์เงือกทั้งเศร้าและโกรธมาก มันพุ่งเข้าหาโจอย่างบ้าคลั่ง เหวี่ยงไม้เท้าโดยไม่สนใจจะร่ายเวทย์อะไรทั้งนั้น มันเพียงแค่ต้องการทุบหัวโจเพื่อระบายความโกรธ
ถึงอย่างนั้นโจก็ยังพ่ายแพ้ต่อความต่างชั้นของเลเวล แม้จะได้รับความช่วยเหลือจากนิ้วเท้ายักษ์ซึ่งเป็นอาวุธระดับตํานานเพราะมนุษย์เงือกตนนี้เป็นบอส
แต่ถึงแม้โจจะตาย มนุษย์เงือกก็จะถูกผู้เล่นฆ่าทิ้งในนามของความยุติธรรมอยู่ดี
แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง นักบวชชั้นสูงมนุษย์เงือกกลับพึ่งพอใจหลังจากที่ได้ฆ่าโจ มันไม่ได้ต่อต้านผู้เล่นที่ฆ่ามัน โชคดีที่มันไม่ได้เห็นโจที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมามองมันอยู่ไม่ไกลด้วยคาถาชุบชีวิตที่ยอดเยี่ยมพร้อมด้วย HP เต็มหลอด ไม่งั้นมันอาจจะตายตาไม่หลับ
หลังจากที่นักบวชชั้นสูงมนุษย์เงือกถูกฆ่า เอ็ดเวิร์ดก็ขมวดคิ้วอย่างสับสน เขารอมาพักหนึ่งแล้ว แต่การแจ้งเตือนของระบบที่ระบุว่าเควสเสร็จสิ้นกลับยังไม่ปรากฏ
นักบวชชั้นสูงมนุษย์เงือกควรเป็นมนุษย์เงือกตนสุดท้ายบนเกาะไม่ใช่หรือ? ทําไมเควสยังไม่จบ
ตอนนั้นเองผู้เล่นคนหนึ่งก็ตะโกนขึ้นมาว่า “ดูที่ฟอรัม! มนุษย์เงือกตายหมดแล้ว แต่ราชาปูป้อมปราการขนาดมหึมาเพิ่งปรากฏตัวขึ้นที่บริเวณชายหาด! นั่นคือบอสตัวสุดท้ายของกิจกรรม!”