Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา – ตอนที่ 422

ตอนที่ 422

บทที่ 422 ความเห็นแรกของลูเซียน
ท้องฟ้าสดใสหลังหิมะตก แสงอาทิตย์อบอุ่นสาดส่องไปทั่วผืนดิน

เสียงฝีเท้าหนักๆ ของโกเลมดังก้องภายในโถงทางเดิน หลังจากเปิดประตูห้องทำงาน โกเลมก็บอกกับลูเซียนด้วยเสียงเรียบเย็นแข็งทื่อ “นายท่าน นี่คือรายงานหกฉบับของผู้เขียนคนเดียวกัน และความเห็นทั้งหมดจากสมาชิกคณะกรรมการขอรับ”

นี่คือหนึ่งในข้อดีของการเป็นสมาชิกคณะกรรมการตรวจสอบอาร์คานา สมาชิกทุกท่านไม่จำเป็นต้องใช้คะแนนอาร์คานาแลกเพื่อตรวจดูรายงานการวิจัยและความเห็นที่เกี่ยวข้อง นี่คือการสนับสนุนให้เกิดความเข้าใจเชิงลึกในผลงานที่เกี่ยวข้องอาร์คานาศาสตร์และการเขียนความเห็นด้วยทัศนคติอย่างรอบคอบ

ลูเซียนรับกองกระดาษนั้นมา ส่งสัญญาณให้โกเลมโลหะไปเฝ้าด้านนอกห้องทำงาน แล้วเริ่มอ่านในทันทีจากรายงานการวิจัยหลายฉบับที่ส่งมาในอดีต สามารถบอกได้ว่าเลฟสกี ผู้เขียน ได้เจาะลึกลงไปในระบบเรขาคณิตที่ขัดแย้งกับระบบแห่งหอคอยในปัจจุบัน ในรายงานฉบับล่าสุดของเขา เลฟสกีได้พัฒนาระบบเรขาคณิตรูปแบบใหม่โดยใช้ห้าสัจพนจ์กับสี่มูลบท และหลักฐานที่ว่าบนระนาบ ไม่ว่าจะผ่านจุดใดที่ไม่อยู่บนเส้นเริ่มต้น มีเส้นใหม่เพียงเส้นเดียวที่สามารถวาดให้ขนานไปกับเส้นเริ่มต้นได้

ลูเซียนประหลาดใจอย่างยิ่ง คนบนโลกนี้สามารถคิดค้นเรขาคณิตโลบาชอฟสกีได้ด้วยตนเองเชียวหรือ!

เรขาคณิตโลบาชอฟสกีคือเรขาคณิตนอกระบบยูคลิดระบบแรกที่พัฒนาขึ้นบนโลกเดิม และมันก็ตั้งชื่อตามผู้ค้นพบอย่างโลบาชอฟสกี ในตอนที่โลบาชอฟสกีคิดค้นระบบนี้ขึ้นมาได้เป็นครั้งแรก เขายังเป็นนักคณิตศาสตร์หนุ่มอนาคตไกลที่เป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง ทว่า การนำเสนอระบบเรขาคณิตแบบใหม่ทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับการวิพากษ์วิจารณ์และการเยาะเย้ยไปตลอดชีวิต ผู้ทรงอิทธิทพลถ้าไม่โจมตีระบบใหม่นี้อย่างรุนแรงก็เพิกเฉยต่อมันไปโดยสิ้นเชิง แม้แต่คาร์ล ฟรีดริช เกาส์ นักคณิตศาสตร์ชั้นแนวหน้า ผู้ที่ความจริงแล้วมองเห็นความมีเหตุผลของเรขาคณิตโลบาชอฟสกี กลับเลือกที่จะนิ่งเฉยด้วยความหวาดกลัวต่อแรงกดดันจากทั้งชุมชนนักวิชาการ

แต่แม้ว่าสภาพการณ์จะเลวร้ายมาก โลบาชอฟสกีก็ไม่เคยยอมแพ้ เขายังคงพยายามใช้ระบบเรขาคณิตแบบใหม่ที่เขาคิดค้นขึ้นต่อไป และยังตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับเรขาคณิตในปีสุดท้ายของชีวิตอีกด้วย แต่น่าเศร้ายิ่งนัก ในตอนที่เขาเสียชีวิตลงอย่างเจ็บปวดทรมานเพราะความยากไร้และเกือบจะตาบอดนั้น เหล่านักวิชาการก็ยังคงปฏิเสธที่จะยอมรับคุณค่าอันมากมายมหาศาลในระบบเรขาคณิตของเขา

เพียงผ่านไปสิบปีนิดๆ หลังจากที่เขาเสียชีวิต ระบบเรขาคณิตแบบใหม่ของเขาก็ได้รับการพิสูจน์ว่าใช้ได้จริงกับพื้นผิวจำเพาะโดยนักคณิตศาสตร์อีกท่าน ท้ายที่สุด ความสำคัญของการค้นพบของเขาจึงเป็นที่ยอมรับและได้รับการประเมินค่าอย่างสูงส่งโดยโลกวิชาการ

ดูเหมือนว่าในตอนนี้ การศึกษาเรื่องนี้ไม่มีทางช่วยให้เกิดความก้าวหน้าทางด้านอาร์คานาหรือการพัฒนาเวทมนตร์เลย แต่เมื่อการพัฒนาทางอาร์คานาและเวทมนตร์มีความคืบหน้ากว่านี้และไปถึงขอบเขตของอวกาศและจักรวาล เครื่องมือทางคณิตศาสตร์ในปัจจุบันย่อมไม่เพียงพอต่อการอธิบายและแก้ปัญหาได้ในทางปฏิบัติ เมื่อถึงตอนนั้น การพัฒนาทางคณิตศาสตร์และแบบจำลองคณิตศาสตร์ย่อมเป็นเรื่องจำเป็น

ยกตัวอย่าง เช่น เรขาคณิตนอกระบบยูคลิดอีกรูปแบบที่ชื่อเรขาคณิตเรแมนเนียน ถือเป็นพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปอันยิ่งใหญ่ซึ่งจัดการปัญหาด้านกาลเวลาและอวกาศได้ ในขณะที่การประยุกต์ใช้เรขาคณิตโลบาชอฟสกีจะพบเห็นได้จากการที่มนุษย์ออกไปสำรวจจักรวาล

หากบอกว่าเรขาคณิตหอคอย (เรขาคณิตระบบยูคลิด) คือมุมมองโดยตรงของมนุษย์ที่มีต่อโลก เช่นนั้นเรขาคณิตนอกระบบยูคลิดทั้งสองระบบก็ใกล้เคียงกับความจริงอันเที่ยงแท้ แต่จริงๆ แล้ว เรขาคณิตทั้งสามระบบนั้นแตกต่างกันแค่เพียงความโค้งเท่านั้น

เมื่อเทียบกับการศึกษาเวทมนตร์แล้ว หลักการที่ใช้เป็นเครื่องมือ อย่างเช่นคณิตศาสตร์ จะเผชิญหน้ากับความท้าทายและเส้นทางยากลำบากกว่าการค้นพบทฤษฎีหักล้างทั้งหลาย เพราะผู้มีอิทธิพลทางด้านนี้จะเข้มงวดและหัวโบราณกว่ามาก ลูเซียนถอนหายใจเมื่อเห็นความเห็นของเหล่าสมาชิกคณะกรรมการ

‘การให้เหตุผลที่น่าขันได้นำไปสู่ผลลัพธ์ที่น่าขัน ข้าขอแนะนำว่าผู้เขียนควรจะมองออกไปนอกหน้าต่างและมองโลกที่แท้จริง งานชิ้นนี้ไม่ควรผ่าน’

‘…เต็มไปด้วยข้อผิดพลาดและใช้การไม่ได้ ไม่ผ่าน’

‘…นี่คือการละเมอเพ้อฝันที่ผิดปกติและเข้าใจได้ยาก งานชิ้นนี้ใช้ได้ดีที่สุดก็คือเป็นเชื้อเพลิงให้กับเตาไฟ แน่นอนว่าไม่ผ่าน’

ลูเซียนส่ายหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าขณะที่เขาอ่านความเห็นทั้งหลาย แม้ว่าในอดีต งานเขียนของเขาจะเคยโดนดูถูกเหมือนกัน ความเห็นที่ได้ก็ยังเป็นโทนเสียงมาตรฐาน และส่วนใหญ่แล้วเป็นเพราะขาดความเข้าใจในงานเขียนหรือขาดความสามารถในการพิสูจน์ผลด้วยการทดลอง แต่ความเห็นเหล่านี้กลับดูเหมือนการโจมตีและกล่าวใส่ร้ายป้ายสีผู้เขียนมากกว่า ซึ่งไม่ควรจะมาจากสมาชิกคณะกรรมการที่มีหน้าที่ตรวจสอบรายงานการวิจัยโดยยึดเพียงทฤษฎีและข้อพิสูจน์ในนั้นเพียงอย่างเดียว

หลังจากรายงานตัวกับเฟอร์นันโด ลูเซียนก็ใช้เวลาที่เหลือในการอ่านงานของเลฟสกีให้ถี่ถ้วนตั้งแต่ต้นจนจบ พร้อมกับทำการให้เหตุผลแบบนิรนัยด้วยตัวเอง จากนั้นเขาจึงหยิบปากกาขนนกขึ้นมาและเริ่มเขียนผลการพิจารณาครั้งแรกในฐานะสมาชิกคณะกรรมการ

‘เป็นข้อสันนิษฐานที่อาจหาญ การให้เหตุผลแบบนิรนัยที่ถูกต้องแม่นยำ…’

แสงอาทิตย์ยามเย็นย้อมอัลลินด้วยสีสันของส้มและทองเป็นประกายระยิบระยับ ทำให้ทั้งเมืองดูงดงามชวนตะลึง

ภายในหอคอยเวทมนตร์สูงเสียดฟ้า ชายชราผู้ขมวดคิ้วมุ่นกำลังจดจ่อกับการหักลบโจทย์คณิตศาสตร์ เหนือคิ้วสีขาวโพลนของเขาคือหมวกทรงแหลมแบบพิเศษสีเทาอันเป็นสัญลักษณ์ขององค์กรหอคอย วงแหวนเวทแสนซับซ้อนมากมายกินพื้นที่ส่วนใหญ่บนโต๊ะของเขา มันเปล่งแสงสว่างเป็นครั้งคราว คอยช่วยเขาคิดคำนวณโจทย์ที่ยุ่งยากซับซ้อน

ในตอนนั้นเอง ผู้ช่วยของเขาก็มาเคาะประตูห้อง

“เชิญ” นักเวทระดับเจ็ด จอมเวทระดับแปดเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์เล็กน้อย เพราะเขาเกลียดการถูกรบกวนระหว่างทำงาน

ผู้ช่วยของเขาเป็นสตรีโฉมงามผู้ทำหน้าเคร่งขรึมจริงจังอยู่เสมอ นางสวมชุดกระโปรงยาวแบบดั้งเดิมของโฮล์มและถือเอกสารเป็นปึกขณะกล่าว “อาจารย์เจ้าคะ หุ่นกระบอกได้ส่งรายงานของวันนี้มาให้แล้ว ช่วยดูพวกมันสักนิดนะเจ้าคะ”

ชายชราในวัยหกสิบกว่าลูบหว่างคิ้วก่อนจะพยักหน้า “เอามาสิ”

หากว่ารายงานการวิจัยเหล่านี้ไม่ได้ยากหรือจริงจังเกินไป ลูกศิษย์ของเขาก็ควรจะจัดการกับมันได้

สตรีไร้อารมณ์เข้ามาใกล้เขาด้วยฝีเท้ามั่นคงแล้ววางรายงานการวิจัยทั้งหมดลงบนโต๊ะด้านขวามือของเขา

ชายชราเหลือบสายตาอ่านหัวข้อเป็นอันดับแรก แต่แล้วสีหน้าเขาก็พลันเปลี่ยนไป เขาทุบโต๊ะอย่างแรงพร้อมตะคอกว่า

“อีกแล้วรึ! เลฟสกีส่งเรขาคณิตในจินตนาการของเขามาอีกแล้ว! นี่อีริคกำลังฝันกลางวันอยู่หรือไร มันสิ้นเปลืองเวลาเราอย่างยิ่ง! ศูนย์คณะกรรมการควรจะห้ามไม่ให้เขาส่งรายงานฉบับนี้มาอีกตลอดกาล!”

“ซาแมนธา เขียนอะไรก็ได้โดยยึดจากความเห็นที่ข้าเคยเขียนไว้คราวก่อนๆ แล้วโยนมันกลับไป!”

ในขณะเดียวกัน ภายในคฤหาสน์ในอัลลินที่อวดอ้างว่าเป็นแหล่งสะสมดอกไม้นานาพรรณที่ใหญ่ที่สุดในโลก

สตรีเลอโฉมและสง่างามผู้รวบผมไปด้านหลัง เขวี้ยงรายงานในมือลงบนพื้น “เลฟสกียังมิยอมแพ้อีกรึ! ช่างเป็นสิ่งที่เปลืองเวลาชีวิตและความสามารถของเขาจริงๆ! เขาจะส่งผลงานน่าขันชิ้นเดิมกลับมาอีกเพื่ออะไรกัน”

แต่เมื่อครุ่นคิดอีกครา นางก็หยิบรายงานฉบับนั้นขึ้นมาจากพื้นแล้วคว้าปากกาขนนกทรงน่ารักเป็นพิเศษ ภายในสองนาที นางก็เขียนความเห็นเสร็จสิ้น

จากนั้นนางก็พูดกับข้ารับใช้ของตนอย่างกรุ่นโกรธ “ส่งกลับไปที่ศูนย์คณะกรรมการในอีกสองวันให้หลัง ช่วงเย็นๆ”

นางจะปล่อยให้ชายเสียสติผู้ดื้อรั้นได้ใช้ชีวิตด้วยความทรมานที่เกิดจากความหวังไปอีกสองวัน!

หลังจากส่งความเห็นของเขากลับไปที่ศูนย์คณะกรรมการ ลูเซียนก็เริ่มเขียนรายงานของตนเองด้วยใบหน้าประดับรอยยิ้ม

ช่วงเช้าในอีกสามวันต่อมา ทันทีที่ลูเซียนก้าวเข้ามาในห้องทำงานของเฟอร์นันโด เขาก็เห็นดักลาส ประธานของสภาเวทมนตร์อยู่ด้วย ดักลาสสวมชุดสูทสีดำและดูเปี่ยมด้วยเมตตาและเป็นกันเองเหมือนกับทุกครั้ง

“อรุณสวัสดิ์ขอรับ ท่านประธาน” ลูเซียนทักทาย พลางนึกสงสัยว่าเช้านี้เกิดอะไรขึ้น

ดักลาสส่งยิ้มให้ “ประหลาดใจที่เห็นข้าใช่หรือไม่ ข้ามาที่นี่เพื่อพูดคุยหารือกับอาจารย์เจ้าเกี่ยวกับสองทฤษฎีที่ตีพิมพ์ในวารสาร ‘อาร์คานา’ และ ‘เวทมนตร์’ ทั้งสองทฤษฎีที่พิสูจน์ว่าการทดลองของข้าไม่เป็นจริงน่ะ”

“เจ้ารู้หรือไม่ ในช่วงเวลาเช่นนี้ข้าชอบคุยกับเฟอร์นันโดแบบต่อหน้ามากกว่า” ดักลาสเสริม “การได้ฟังเขาคำรามโต้แย้งทฤษฎีเหล่านั้นทำให้ข้ามีกำลังใจขึ้นมาก”

ลูเซียนเกือบจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

เฟอร์นันโดดูท่าทางไม่สบอารมณ์เล็กน้อย เขาส่ายศีรษะพลางกล่าว “ข้าไม่เข้าใจ… ทำไมรายงานไร้ค่าพวกนี้ถึงตีพิมพ์กับอาร์คานาและเวทมนตร์ได้กัน ข้ารู้อยู่แล้วว่ามาตรฐานของพวกเขาก็ไม่เคยน่าประทับใจแต่แรก แต่ตอนนี้มันกลายเป็นยอมรับไม่ได้ไปแล้ว! มันหมายความว่าอย่างไรกันที่ว่า ‘อนุภาคที่มีประจุจะสั้นลงเมื่อนำมาปะทะกับอีเธอร์ ดังนั้นมันจึงอาจมีความคลาดเคลื่อนในการวัดผล’ พวกนั้นมีหลักฐานจากการทดลองที่หนักแน่นเพื่อพิสูจน์เรื่องนี้หรือไม่”

“หากเทียบกันแล้ว” เฟอร์นันโดใจเย็นลงเล็กน้อย “งานเขียนของบรูคที่แสดงข้อสงสัยต่อระบบการเคลื่อนไหวของวัตถุในฟากฟ้าของเจ้ายังหนักแน่นกว่ามาก อย่างไรเสีย ดาวเคราะห์พวกนั้นก็มีอยู่แค่ในความฝันของเจ้าในตอนนี้”

ดักลาสไม่ได้รู้สึกแย่กับความเห็นของเฟอร์นันโดเลยสักนิด เขาแย้มยิ้มแล้วหันมาทางลูเซียน “เจ้าคิดเห็นอย่างไรหรือ ลูเซียน… เรื่องการทดลองของข้ากับการโต้วาทีในตอนนี้น่ะ”

ลูเซียนพูดอะไรไม่ออกไปครู่หนึ่ง เพราะเขาถูกถามคำถามเดียวกันนี้แทบทุกวันในช่วงนี้ แต่ครานี้ ต่อหน้าท่านประธาน เขาจำต้องเตรียมคำตอบที่มาจากการคิดทบทวนอย่างถี่ถ้วนแล้ว

“ท่านประธานขอรับ ข้าพอจะมีความเห็นในเรื่องนี้อยู่บ้าง แก่นแท้ในทฤษฎีของท่านนั้นมีรากฐานจากการมีอยู่ของดาวเคราะห์ ซึ่งเป็นปัญหาที่สุดเช่นกัน เพราะว่าเรายังไม่ค้นพบดาวเคราะห์เลยสักดวง ดังนั้น ระบบทางทฤษฎีของท่านจึงขาดข้อสนับสนุนที่หนักแน่นขอรับ”

“แล้วอย่างไร เจ้าค้นหาดาวเคราะห์ได้อย่างนั้นรึ” เฟอร์นันโดโพล่งถาม

ลูเซียนดูท่าทางจริงจังอย่างมากขณะที่เขาตอบเสียงหนักแน่น “หากว่าเราไม่สามารถหามาได้ เช่นนั้นทำไมเราไม่สร้างมันขึ้นล่ะขอรับ”

“ทำไมเราถึงไม่สร้างดาวเคราะห์ดวงเล็กที่จะหมุนรอบโลกของเราตามวงโคจรที่เราคำนวณดูล่ะขอรับ”

“หากว่ามันเคลื่อนไหวไปตามที่เราคาดไว้ และหากว่าเราสังเกตการณ์มันได้ เช่นนั้นระบบแรงโน้มถ่วงก็จะได้รับการพิสูจน์อย่างแน่นอนขอรับ!

นี่คือข้อเสนอของลูเซียน! เขาครุ่นคิดถึงเรื่องนี้มานานมาก นับแต่ที่เขาได้อ่านจดหมายของดักลาสแล้ว!

ห้องทำงานพลันเงียบสงัด มีเพียงเสียงสายลมที่พัดโดนกองกระดาษเท่านั้นที่ดังให้ได้ยิน

ภายในฝ่ายบริหารจัดการนักเวท เลฟสกีผู้สวมเสื้อคลุมเวทมนตร์ตัวเก่า เคาะบนบานประตูห้องทำงานของอีริค หัวใจเขาเต็มไปด้วยความหวัง แต่ก็ยังเปี่ยมไปด้วยความกลัวและวิตกกังเวลเช่นกัน

“เจ้ามาที่นี่เร็วไม่น้อย…” อีริคเอ่ยเสียงแข็งทื่อ ความจริงแล้ว เขาไม่ประหลาดใจเลยสักนิด

เลฟสกีพยักหน้า ใบหน้าของเขาซีดเซียวเพราะสายลมเย็นเยียบขณะเดินทางมายังที่นี่ “เมื่อวานนี้ครบสามวันแล้ว วันนี้ความเห็นการพิจารณาควรจะมาถึงแล้ว…”

อีริคเพิ่งจะมาถึงห้องทำงานของตน เขาเก็บของบนโต๊ะให้เรียบร้อย พลางตอบไปว่า “รอสักครู่ ผลการพิจารณาที่พร้อมแล้วคงจะส่งมาประมาณเก้าโมงครึ่ง”

“เข้าใจแล้ว…” เลฟสกีนั่งลง แต่ไม่กี่นาทีต่อมา เขาก็ผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินไปเดินมา เขานึกอยากสูบบุหรี่ถูกๆ ของเขา แต่ที่นี่คือฝ่ายบริหารจัดการนักเวท

เวลาผ่านไปทีละวินาที ฉับพลันนั้น กรงเหล็กก็มีแสงสีขาวน้ำนมระเบิดออกมา

“ใช่หรือไม่…” เลฟสกีรีบถาม เขาทั้งตื่นเต้นและหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน

อีริคหยิบกองกระดาษออกมาเปิดดูทุกแผ่นเร็วๆ จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว ท่าทางดูประหลาดใจอย่างมาก “ไม่ งานของเจ้าไม่อยู่ในนี้!”

“ทะ ทำไมกัน” เลฟสกีไม่อาจรู้ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น

บนชั้นสิบห้าของฝ่ายบริหารจัดการนักเวท ภายในห้องโถงของศูนย์คณะกรรมการตรวจสอบอาร์คานา

ขณะถือผลการพิจารณาทั้งสามอยู่นั้น ชีวินรสายนเวทกำลังเผชิญกับวิกฤติครั้งใหญ่

Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา

Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา

Status: Ongoing

ซย่าเฟิง นักศึกษาปีสุดท้ายผู้อ่อนต่อโลก

ตื่นขึ้นมาอยู่ในร่างของลูเซียน อีวานส์ เด็กหนุ่มกำพร้าชนชั้นกรรมาชีพที่เฉลียวฉลาด

บนโลกที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์ แม่มด ลัทธินอกรีต อัศวิน ปีศาจ และศรัทธาในพระเจ้า

ลูเซียนประยุกต์ใช้ความรู้จากโลกเก่าพร้อมกับพลังวิเศษ ‘ห้องสมุดในห้วงสมอง’

ศึกษาเปรียบเทียบวิทยาศาสตร์กับเวทมนตร์ เพราะ ‘ความรู้คืออำนาจ’ ที่จะช่วยให้เขาบรรลุเป้าหมายในการยกระดับชีวิต!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท