ภายใต้การนำทางของกงจวิ้นฉือ ฉู่เจียเสวียนเดินตามเขาผ่านทางเดินเล็กๆ ที่มืดมิด และยังมีเสียงน้ำจ๋อมแจ๋มดังอยู่ข้างหน้า
เมื่อมาถึงห้องส่วนตัว ก็เห็นแสงไฟส่องอยู่ที่ประตูทางเข้าในเหลือบของความมืด ในใจของฉู่เจียเสวียนมีความเล็กน้อย
จนกระทั่งผลักประตูเข้าไปจึงเข้าใจ
ด้านในมีต้นไม้กระถางเขียวขจีที่ถูกจัดอยู่เต็มห้อง ด้านหน้าโต๊ะรับอาหารยังมีลำห้วยเล็กๆ ที่นำไปสู่ห้องครัว น้ำเสียงดังไม่ขาดสาย
รอจนทั้งสองคนนั่งลงแล้ว เรือเล็กๆ ลำหนึ่งลอยมาตามลำห้วย และในเรือก็มีอาหารชวนยั่วน้ำลายที่ดูน่าอร่อยเป็นพิเศษภายใต้พื้นหลังของจานเซรามิก
ฉู่เจียเสวียนเห็นดังนี้ สายตาก็ถูกดึงดูดเอาไว้แล้ว
“ลูกแมวน้อย อย่ามัวแต่ดูเลย รีบกินเถอะ” เสียงของกงจวิ้นฉือลอยมาแผ่วเบาจากด้านหลังของฉู่เจียเสวียน ทำเอาเธอสะดุ้งโหยง
“เป็นอะไรเหม่อเชียว” กงจวิ้นฉือหัวเราะ จากนั้นก็เอาอาหารลงมาจากเรือ
หลังจากทั้งสองคนกินอย่างอิ่มหนำสำราญแล้ว ก็เริ่มคุยเรื่องสัพเพเสระ ตั้งแต่เป้าหมายการทำงานไปจนถึงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิต
จู่ๆ ฉู่เจียเสวียนก็เหม่อลอยเล็กน้อย
“เป็นอะไรไป ไม่สบายหรือเปล่า?” กงจวิ้นฉือถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่มีอะไร” ฉู่เจียเสวียนตอบ หลังจากพิจารณาแล้วก็หยิบมันออกมา
กงจวิ้นฉือยังคงสงสัยแต่เมื่อเห็นบัตรเชิญใบนี้ก็เข้าใจแล้ว
“ไปกับฉันได้หรือเปล่า?” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปากถามความคิดเห็นของกงจวิ้นฉือ กงจวิ้นฉือครุ่นคิด “ก็ได้ พรุ่งนี้ผมจะไปกับคุณ”
——
ฉู่เจียเสวียนมาถึงโบสถ์ตรงเวลา สถานที่จัดงานแต่งงานเป็นโบสถ์ที่เป็นจุดสนใจของคนทั้งประเทศ บาทหลวงผู้อบอุ่นกับสาวนักร้องประสานเสียงที่สง่างาม ทั้งหมดล้วนแสดงออกถึงความสำคัญอย่างไม่มีเงื่อนไข
แขกเหรื่อที่เข้าร่วมพิธีแต่งงานส่วนใหญ่ก็เป็นบุคคลสำคัญในแวดวงต่างๆ นอกจากนี้ยังมีบุคคลสำคัญทางการเมืองและธุรกิจอีกด้วย
อีกทั้งการตกแต่งในงานล้วนเป็นในลักษณะที่ฉู่อีอีชอบ ขาวบริสุทธิ์ดุจหิมะ ดอกไม้สดที่จัดเข้าด้วยกันก็สมบูรณ์แบบ
ดูแล้วเผยหนานเจวี๋ยล้วนทำตามที่ฉู่อีอีชอบ และยังทุ่มเทความคิดลงไปมาก แต่เมื่อเทียบกับเธอแล้ว…เมื่อฉู่อีอีนึกถึงตรงนี้ มุมปากอดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มเย็นชา
ระหว่างคนสองคนมันช่างเปรียบกันไม่ได้จริงๆ แต่ก็ช่างมันเถอะ ถึงอย่างไรมันก็ไม่สำคัญแล้ว
ฉู่เจียเสวียนกวาดตามอง เพียงแวบเดียวก็เห็นถังถังกำลังพูดคุยกับผู้คนที่ด้านหลังฝูงชน “ถังถัง ทางนี้?”
ถังถังได้ยินเสียงของฉู่เจียเสวียน หันหลังมา รีบร่ำลากับคนที่คุยด้วยแล้วเดินไปหาฉู่เจียเสวียน
“เจียเสวียน เธอมาจริงๆ เหรอเนี่ย?” ถังถังสีหน้าประหลาดใจ เมื่อเห็นกงจวิ้นฉือก็ทักทายเขา “คุณกงก็มาด้วยเหรอ”
“บัตรเชิญก็ส่งมาแล้ว ก็แวะมาดูหน่อยสิ” ฉู่เจียเสวียนพูดอย่างเฉยเมย ราวกับว่ากำลังพูดถึงเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตัวเอง
“เธอน่ะโง่ ไม่งั้นจะถูกพวกเขารังแกขนาดนั้นได้ยังไง!” ถังถังพูดอย่างไม่พอใจ
“ไม่มีอะไรน่า เรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว” รอยยิ้มอ้อยอิ่งอยู่บนใบหน้าของฉู่เจียเสวียน
กงจวิ้นฉือมองดูคนที่อยู่รอบๆ พร้อมพูดว่า “ใกล้ได้เวลาแล้ว พวกเราเข้าไปเถอะ”
เพื่อนรักสองคนจูงมือกันเดินเข้าไปในโบสถ์
เผยหนานเจวี๋ยยืนอยู่บนเวทีเล็กๆ ของโบสถ์ ชุดสูทสีดำทั้งตัว ทำให้ร่างกายของเขาดูแข็งแรงเป็นอย่างมากและหล่อเหลามากด้วย
ขณะที่ฉู่เจียเสวียนเข้าโบสถ์มา สายตาของเผยหนานเจวี๋ยก็พุ่งไปที่ตัวเธอ เห็นว่าเธอพูดคุยกับถังถังอย่างมีความสุข ไม่รู้สึกถึงความเศร้าใจเลยแม้แต่นิดเดียว
ผู้หญิงคนนี้…เผยหนานเจวี๋ยก็เห็นกงจวิ้นฉือที่อยู่ข้างกายฉู่เจียเสวียน มือกำแน่นโดยไม่รู้ตัว เส้นเลือดสีเขียวปรากฏให้เห็นจางๆ อีกทั้งข้อนิ้วก็กลายเป็นสีขาวเนื่องจากออกแรง
“ทุกคนกรุณาเงียบหน่อยครับ พิธีแต่งงานกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว” ทันทีที่บาทหลวงกล่าว ในโบสถ์ก็สงบลงทันที กลายเป็นความสงบนิ่ง
เผยหนานเจวี๋ยก็ละสายตาตามไปด้วย แต่ยังไม่ปล่อยมือที่กำไว้แน่น
“ขอเชิญเจ้าสาวเข้าพิธี!”
ประตูโบสถ์ที่ปิดสนิทค่อยๆ เปิดออก ฉู่อีอีที่สวมชุดเจ้าสาวสีขาวยืนอยู่ที่ประตู และมีเด็กชายเด็กหญิงคู่หนึ่งอยู่ข้างหลัง
แม้แต่ฉู่เจียเสวียนก็ต้องยอมรับว่าวันนี้ฉู่อีอีสวยมากจริงๆ