บทที่ 230
ปาฏิหาริย์
เจียงซิ่วตรวจสอบดูที่แขนซ้ายของเขา ลวดลายศักดิ์สิทธิ์อันที่สองยังไม่ปรากฏขึ้น เขาแปลกใจกับสิ่งนี้มาก สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ของเทพมีความสำคัญเป็นพิเศษ และยังเป็นแหล่งพลังงานของพเชื้อสายพระเจ้า คนทั่วไปย่อมประทับใจเมื่อได้ครอบครองมันมากขึ้น อันเดียวก็แข็งแกร่งแล้ว แต่เจียงซิ่วรู้ว่านี่ไม่ใช่ความจริง ครั้งหนึ่งเขาได้พบกับผู้เชี่ยวชาญชาวพุทธขั้นสูงสุด ผู้เชี่ยวชาญคนนี้เปิดเผยต่อเจียงซิ่วว่าเขามีสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ฌพียงสามรูปแบบเท่านั้น แต่ความแข็งแกร่งของร่างกายแห่งธรรมของเขาก็เพียงพอที่จะทำให้เขาอยู่ในจุดสูงสุดในทวีปการต่อสู้นิรันดร์
ผู้คนมากมายในทวีปการต่อสู้นิรันดร์หวั่งเกรงคนที่มีสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์เต็มร่างกาย เชื่อว่าพวกเขามีพลังอำนาจมาก ผู้ที่อ่อนแอกว่า และไม่สามารถประเมินพลังอำนาจของเขาได้ จะเรยีกคนนั้นผู้นั้นไปว่า ‘ผู้อาวุโส’ ผู้คนไม่ค่อยรู้ความจริงที่ซ่อนอยู่
“แม้ว่าฉันจะไม่สามารถเอารัศมีพระเจ้าแห่งนภามาได้ พลังอำนาจของรัศมีสามประเภทที่ถูกเสริมเข้าด้วยกันเองก็ย่อมแข็งแกร่ง”
เจียงซิ่วยยิ้มอย่างเย็นชา
“แกคงไม่คาดหวังว่าฉันจะกลายมาเป็นเทพ ใช่ไหม?”
เขาหันกลับมาแล้วเดินไปที่ห้องนอน ผ่านเข้าไปในหน้าต่างแก้วโดยเปลี่ยนร่างตัวเองให้กลายเป็นควัน จากนั้นค่อยๆ ก่อร่างกายอีกครั้ง แก้วที่อยู่ด้านหน้าเขาไม่นับว่าเป็นอะไร
…
ในวันถัดไป เจียงซิ่วได้ยินเสียงประตูเปิดออกจากด้านล่าง เขาลงไปและค้นพบว่ามันคือเฉิงหลิงซู ใบหน้าของเธอเหนื่อยล้า ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้นอนที่โรงพยาบาลมากนัก เธอเห็นเจียงซิ่วลงมาและพูดคุยกับเขา “นายตื่นมาพอดีเลย อาหารเข้าที่ซื้อมายังอุ่นอยู่ กินมันกันเถอะ”
เจียงซิ่วไม่ได้ปฏิเสธอาหารเช้าและนั่งลงอย่างใจเย็น ตอนนี้เขารู้สึกหิวมาก ถ้าเฉิงหลิงซูไม่ได้ซื้ออาหารมา เขาอาจออกไปข้างนอกเพื่อปรนเปรอความหิวของเขา ก็ในเมื่อเมื่อคืนนี้เขาใช้พลังงานไปมาก
เฉิงหลิงซูวางกระเป๋าเป้ “เหนื่อยมาก ฉันจะไปอาบน้ำแล้วงีบก่อน” เธอวิ่งขึ้นไปชั้นบนหลังจากพูดสิ่งนี้ สาวน้อยนางนี้ไม่เคยทำงานหนักมาก่อน
“พี่ของเธอคืนนี้จะไปเฝ้าแทนไหม?” เจียงซิ่วถาม
เฉิงหลิงซูหยุดก่อนจะกล่าว “ใช่ เราถามพยาบาลแล้ว แต่เธอก็ไม่เต็มใจ พ่อยังต้องผ่าตัดครั้งที่สองอยู่อีก ดังนั้นมีเพียงแค่เราสามคนเท่านั้นที่สามารถผลัดเวียนกันดูแลได้”
แม้ว่าเจียงซิ่วเป็นลูกเขยของตระกูลเฉิง เฉิงหลิงซูก็ไม่มีเจตนาที่จะขอความช่วยเหลือจากเขา ความเป็นจริงแล้วเธอจะไม่มีวันทำแบบนั้นแน่
เจียงซิ่วทานอาหารเช้าเสร็จแล้วจากนั้นก็ออกไป เขาไม่ได้ไปมหาวิทยาลัย แต่ไปโรงพยาบาล เขาไม่ได้สงสารเฉิงเฮาหลิน ก็ในเมื่อเขามักมีอคติต่อเขาอยู่เสมอ เหตุผลนี้เป็นเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตก่อนหน้านี้ แต่เขาก็ทนไม่ได้เมื่อจะต้องเห็นเฉิงหลิงหรานตกอยู่ในภาวะลำบาก
ตอนนี้เขาต้องการทดสอบความสามารถของเขาหลังจากที่ได้เป็นเทพแล้ว
เขาเคยเดือดร้อนกับวิธีการใช้รัศมีพระเจ้าทั้งสามมาก่อน แต่ปัญหาได้ถูกแก้ไขแล้ว มันมีความเป็นไปได้ที่จะใช้รัศมีพระเจ้าทั้งสามแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น รัศมีพระเจ้าแต่ละอันก็มีความสามารถพิเศษเป็นของตัวเอง
รัศมีพระเจ้าของเต๋าศรัทธาสวรรค์เป็นสีเขียว เจียงซิ่วรู้สึกถึงพลังชีวิตที่ทรงพลังจากมัน ตั้งแต่ที่เต๋าศรัทธาสวรรค์ปรากฏตัวขึ้นมาในช่วงเวลาแห่งความหายนะ เขาเดาว่าสวรรค์จะต้องมอบรัศมีพระเจ้าอันนี้ให้เทพเจ้าเพื่อบรรเทาความทุกข์ทรมานของผู้คน
ไม่มีใครอยู่ในห้องเมื่อเจียงซิ่วมาถึง และเฉิงเฮาหลินก็กำลังนอนหลับสนิทอยู่ ซันเสี่ยวหงเธอควรอยู่ที่นี่ แต่หมอก็เรียกให้เธอไปหารือเกี่ยวกับการผ่าตัดครั้งที่สอง
กระดูกสันหลังของเฉิงเฮาหลินและแขนขาได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นแม้ว่าพวกมันจะถูกเอากลับมาเข้าที่ เขาจะอยู่ในรถเข็นหลังจากที่ฟื้นตัวแล้ว หากไม่ได้รับการดูแล เขานอนบนเตียงตลอดไป
“คุณยังณโชคดี ขอบคุณลูกสาวของตัวเองซะเถอะ ที่ได้ชำระหนี้ให้คุณไปแล้วในชาติก่อน!”
เจียงซิ่วเอื้อมมือไปวางบนร่างของเฉิงเฮาหลิน ฝ่ามือของเขาเริ่มเรืองแสงสีเขียว แสงค่อนข้างอ่อนโยนและดูเหมือนสีเขียวที่อยู่ตามธรรมชาติ เต็มไปด้วยพลังชีวิตที่ไร้ขีดจำกัด
แสงสีเขียวเปลี่ยนเป็นละอองเล็กๆ และค่อยๆ เข้าไปในร่างกายของเฉิงเฮาหลินอย่างช้าๆ และมอบพลังชีวิตที่แข็งแกร่งให้กับเขาโดยใช้พลังงานศักดิ์สิทธิ์
“มันเป็นแบบนั้นจริงๆ!”
มันเป็นเพียงข้อสันนิษฐานของเจียงซิ่ว รัศมีพระเจ้าแห่งสีเขียวนี้ที่มิตรต่อธรรมชาตินี้คือรัศมีพระเจ้าแห่งพลังชีวิต อย่างไรก็ตาม รัศมีพระเจ้านี้ไม่ได้ทรงพลังเท่าที่ควร มันจึงไม่สามารถรักษาเฉิงเฮาหลินได้ในทันที
เมื่ออนุภาคทั้งหมดเข้าไปข้างใน เสียงตรงประตูก็ดังเข้ามา ซันเสี่ยวหงเข้ามาพร้อมกับกลุ่มแพทย์ เธอรู้สึกอัศจรรย์ใจและรู้สึกเบิกบานเมื่อได้เห็นเจียงซิ่วอยู่ข้างในนี้
“เจียงซิ่ว!”
เจียงซิ่วไม่ตอบสนองต่อเธอ
“เธอมาที่นี่ได้ถูกเวลาพอดี หมอบอกว่าจำเป็นต้องผ่าตัดอีกครั้ง ในฐานะแม่บ้าน ฉันไม่เข้าใจมันมากนัก เธอเก่งในด้านต่างๆ ดังนั้นเธอช่วยฉันตัดสินใจได้ไหม?”
“ไม่จำเป็นต้องทำมัน เขาควรฟื้นตัวใน 6-10 เดือน”
ด้านข้าง แพทย์อาวุโสทำหน้าไม่พอใจ “หนุ่มน้อย เธอพูดอะไรโง่ๆ ผู้ป่วยบาดเจ็บสาหัส ยากที่จะฟื้นตัวกลับมาได้ หากเขาไม่ได้รับการผ่าตัด เขาจะไม่สามารถลุกขึ้นได้อีก”
เจียงซิ่วไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะโต้เถียงกับแพทย์อาวุโสคนนี้ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่ทางออกของห้อง
“เจียงซิ่ว!”
ซันเสี่ยวหงเรียกเขา แต่เขาก็ไม่ได้หยุดลง
“คุณซัน เป็นการดีกว่าที่จะฟังความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษา”
ในมณฑลเจียงหนาน มีข่าวลือว่าทักษะต่างๆ ของคุณเจียงค่อนข้างน่าเลื่อมใส่ แม้ว่าซันเสี่ยวหงจะไม่ได้เห็นมันเป็นการส่วนตัว แต่เธอก็เคยได้ยินมาไม่มากก็น้อย ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากความสัมพันธ์ต่างๆ ระหว่างครอบครัวเริ่มผ่อนคลายลงเล็กน้อย เธอก็ไม่ต้องการต่อต้านการตัดสินใจของเจียงซิ่วเพราะเกรงว่าความสัมพันธ์ของครอบครัวจะจบลงไปอีกครั้ง “เรารออีกหน่อยได้ไหม? เราไม่สามารถเร่งเรื่องนี้ได้”
แพทย์อาวุโสทำได้เพียงพยักหน้าอย่างไร้หนทาง พวกเขาต้องเคารพเจตนาของสมาชิกในครอบครัวของผู้ป่วย
“เฮาหลิน คุณตื่นแล้ว!”
เฉิงเฮาหลินตอบกลับเธอด้วยเพียงคำว่า ‘อืม’ หลังจากความตื่นเต้นในการที่คืนดีกับครอบครัวเจียงได้ผ่านไปแล้ว ความเจ็บปวดที่เขารู้สึกในตอนที่เป็นอัมพาตบนเตียงก็เริ่มเข้ามาทรมานเขา เขาลุกขึ้นแล้วพูดว่า “เมื่อกี้นี้ ฉันรู้สึกเหมือนจะได้ยินเสียงของเจียงซิ่ว”
“อืมม เขามาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้ หลังจากทั้งหมดแล้ว ลูกสาวของเราก็แต่งงานกับเขา แม้ว่าเขาจะมีความคุ่นเคืองใจ มันก็ถูกแล้วที่เขาจะต้อง…” ซันเสี่ยวหงหยุดลงกลางคัน กลายเป็นงงงวย
แพทย์ต่างก็กลายเป็นโง่เหมือนกัน กรามของแพทย์อาวุโสแทบจะหลุดออกมาแล้ว “นะ นี่… ปะ เป็นไปได้ยัง?”
“คุณจะลุกขึ้นมาได้ได้ยังไง?”
แพทย์คนที่พูดออกมาก่อนหน้านี้ก็ประหลาดใจเช่นกัน “เป็นไปไม่ได้! กระดูกสันหลังที่ 12 และ 17 ของคุณหัก เป็นไปไม่ได้ที่คุณจะลุกขึ้นนั่ง”
แต่ข้อเท็จจริงนั้นก็ปรากฏออกมาต่อหน้าพวกเขาแล้ว เฉิงเฮาหลินเองก็ตกใจเช่นกัน เขาลุกขึ้นนั่งตามสัญชาติญาณและไม่ได้ตั้งใจที่จะทำมัน เขารู้สึกว่าวันนี้ค่อนข้างแปลก ร่างกายของเขารู้สึกดีขึ้นและกระปรี้กระเปร่า ราวกับว่าความเจ็บปวดและความอ่อนแอทั้งหมดของเขาได้ถูกกวาดล้างไปแล้ว
“ตอนนั้น เด็กนั้น…”
“คำพูดของเขาถูกต้อง!”
แพทย์ทุกคนแสดงออกอย่างไม่เชื่อถือ
“ปาฏิหารณ์! มันเป็นปาฏิหารณ์!”
แพทย์อาวุโสตะโกนอย่างตื่นเต้น “ระ เร็ว ตรวจเขาเร็ว ฉันต้องการเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับกระดูกสันหลังของเขา”
“เร็ว!”
เขาตื่นเต้นเกินไป เพราะปัญหาการเป็นอัมพาตจากการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังเช่นนี้นั้นเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกในวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์
“แจ้งผู้อำนวยการหวูรวดเร็ว!”
เพียงครู่เดียว ห้อง ICU ก็กลายเป็นวุ่นวาย หรือจะกล่าวว่ามีชีวิตชีวาก็ได้
หลังจากที่เจียงซิ่วออกจากโรงพยาบาล เขาก็เรียกรถแท็กซี่ไปที่มหาวิทยาลัย เมื่อตอนที่เขาไปถึงที่นั่น หวังซินตงก็ได้โทรเข้ามาหาเขาพอดี “เรื่องในยุโรปไม่ได้ผล”
เจียงซิ่วเตรียมความพร้อมสำหรับผลลัพธ์เช่นนี้ไว้แล้ว แต่เขาก็ยังรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเมื่อเขาได้ยินมัน
“อีกฝ่ายไม่เต็มใจขายหรือไร?” เจียงซิ่วถาม
“ไม่ใช่แบบนั้น คนของเราไปที่บ้านประมูลเพื่อรับรายละเอียดการติดต่อของผู้ขาย แต่พวกมันก็เป็นของปลอม และตัวตนของผู้ขายเองก็เหมือนกัน”
“ดูเหมือนว่าบุคคลนี้จะระมัดระวังตัวมาก” เจียงซิ่วออกความเห็น
หวังซินตงเองก็ทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน “อืมม นายมีแผนยังไง? เราควรหยุด หรือควรส่งคนไปยุโรปให้มากกว่านี้ เพื่อที่จะได้หาผู้ขายคนนั้นต่อไป?”
“ตั้งแต่ที่อีกฝ่ายต้องการซ่อนตัว พวกเขาจะไม่ถูกเธอเจอได้ง่ายๆ หรอก”
“ จองตั๋วเครื่องบินให้ฉัน ฉันจะไปเที่ยวที่นั่นเป็นการส่วนตัว”
ถ้าอีกฝ่ายไม่ได้เป็นคนธรรมดา ไม่ว่าตระกูลหวังจะส่งเด็กไปกี่คนก็ตาม มันจะไร้ประโยชน์โดนสิ้นเชิง หินยืดอายุก้อนนั้นนั้นสำคัญมากสำหรับเจียงซิ่ว เขาไม่สามารถพึ่งพาจุดกำเนิดศักดิ์ของตัวเองเพื่อที่จะบ่มเพาะเม็ดกระบี่ได้ แม้แต่กระทั่งหนึ่งร้อยปีที่ผ่านไปก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้มันเสร็จสมบูรณ์ เขาไม่เต็มใจที่จะรอนาน ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องรวบรวมวัสดุอื่นๆ จากทางโลก
“ถ้าอย่างนั้น นายจะให้ฉันไปยุโรปเป็นเพื่อนนายไหม?”
“นั้นไม่จำเป็น จัดการธุรกิจที่เจียงหนานให้ฉันดีๆ”
“พ่อของฉันมาที่นี่เพื่อจัดการเรื่องต่างๆ ในเจียงหนาน นอกจากนี้ เซียนอันดับ 1 ของประเทศจีนก็เป็นผู้ครอบครองมันอยู่ ไม่มีใครกล้าสร้างปัญหาที่นี่ ดังนั้นทุกอย่างก็เหมือนถูกแสงสีเขียวสาดใส่ ไม่ว่าฉันจะอยู่ที่นี่หรือไม่อยู่ มันก็ไม่แตกต่างกัน”
เจียงโหลวเซี่ยทำให้วงการศิลปะการต่อสู้ของจีนต้องตกใจท่ามกลางการต่อสู้ในคืนเทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง นอกจากนี้เขายังได้รับอนุญาตจากไต๋ยัวไท๋ให้ใช้ทรัพยากรของเจียงหนานได้อีกด้วย ไม่มีใครมีใจที่จะกล้าสร้างปัญหากับเขาแน่นอน ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้
แม้ว่าไต๋ยัวไท๋ยังไม่พร้อมที่จะให้อภัยเขาเพราะความวุ่นวายที่เกิดขึ้น แต่ความสงบของเจียงหนานก็สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขา
“ไม่จำเป็น!”
“ก็ได้ รักษาตัวเองด้วย ฉันจะจัดทริปให้เร็วที่สุด นายไม่ต้องการให้ฉันไปกับนายจริงเหรอ? ฉันค่อนข้างคุ้นเคยกับสถานที่แถวนั้น ฉันสามารถทำหน้าที่เป็นไกด์ให้นายได้”