บทที่ 275
ใคร?
หลังจากเดินเข้าไปในหมู่บ้าน เจียงซิ่วเห็นคนหลายคนรวมตัวกันอยู่ที่นั่นและถนนก็ถูกปิดกั้นด้วยรถออฟโรดหลายคัน เมื่อเข้าพยายามเข้าไป คนเหล่าก็นั้นปิดกั้นเส้นทางทันที “แกคือใคร? ทำไมถึงมาที่หมู่บ้านตระกูลมู่ของฉัน?”
เจียงซิ่วกล่าว “บอกกับมู่เจี๋ยนปิงว่ามีแขกมาจากเมืองหลวงจักรพรรดิ”
หวังซินตงไม่ได้สนใจอะไรมากนักเกี่ยวกับความช่วยเหลือที่มู่เจี๋ยนปิงได้ขอร้องเธอมา ตระกูลจีบีบบังคับสี่ตระกูลในหัวเป่ย เธอคิดว่านี้มันเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ เธอจึงกล่าวกับเจียงซิ่วเพียงแค่ว่า ในเมื่อเขากำลังวางแผนที่จะไปช่วยเซี่ยถิง พวกเขาก็จะสามารถช่วยเขาในการนำทางไปได้
ผู้ชายคนนั้นกล่าว “มาจากเมืองหลวงจักรพรรดิ? เวรเอ้ย ที่นี่ไม่มีอะไรให้แก กลับไป”
หลินมี่หัวเราะในขณะที่ปิดปากไปด้วย มันราวกับว่าเธอกำลังเพลินเพลินที่เจียงซิ่วทำตัวคล้ายคนโง่ อีกฝ่ายไม่ยอมรับเขาและบอกให้เขากลับไปยังที่ๆ จากมา
“รีบไปรายงานซะ ไม่งั้นนายคงไม่สามารถรับผิดชอบได้”
ขี้ข้าเหล่านี้เป็นเรื่องง่ายที่จะจัดการ
ชายคนนั้นหัวเราะเต็มกำลัง “จากน้ำเสียงของแก ดูเหมือนว่าแกจะมาที่นี่เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องตระกูลจี? แกไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น ก็เพราะแกคงจะช่วยเหลืออะไรไม่ได้ คนรุ่นเยาว์จากวังดาบเสฉวนตะวันตก จอมดาบมาที่นี่เพื่อจัดการแล้ว แกคิดว่าเรายังต้องการความช่วยเหลือของแกอยู่รึเปล่าหล่ะ?”
สีหน้าของหลินมี่กลายเป็นบิดเบี้ยวทันที “วังดาบเสฉวนตะวันตก กิ่งก้านจากสีหวูเซี่ย?”
“ใช่!” ชายคนนั้นกล่าวอย่างทะนงตัว
บุคคลนี้ไม่ใช่ศิษย์ของตระกูลมู่ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่เขาทำตัวหยิ่งยะโสในที่แห่งนี่ ตามตำนานกล่าวว่าสีหวูเซี่ยรอดชีวิตมาจากระเบิดปรมาณูในสงครามโลกครั้งที่ 2 ดูเหมือนว่าตระกูลมู่เองก็ไปขอความช่วยเหลือจากพวกเขาเช่นกัน
หลังจากเดินทางไปที่เมืองหลวงอย่างไร้หวัง มู่เจี๋ยนปิงก็เดินทางไปยังมณฑลเสฉวนตะวันตกอย่างไม่สามารถทำอย่างไรได้ แต่เขาก็ไม่ได้คาดหวังว่าพวกเขาจะส่งผู้คนและจอมดาบรุ่นเยาว์มาเป็นการส่วนตัว
“แกควรรู้ว่าต้องทำอะไร ออกไปจากที่นี่!”
“และถ้าฉันไม่ไปล่ะ?”
การแสดงออกของหลินมี่เปลี่ยนไปทันที เจ้านี่ นายมันหัวแข็งเกินไป เห็นใครก็สร้างศัตรูไว้ทุกที่ ย้อนกลับไปตอนนั้น การกระทำของนายที่ดงซงเองก็ขวางโลก และตอนนี้ ดูสิ นายแม้แต่กระทั่งอยากเป็นศัตรูกับใครบางคนอย่างเช่นวังดาบเสฉวนตะวันตก นายรู้รึเปล่าว่าเบื้องหลังของพวกเขาคือใคร? นั้นสีหวูเซี่ย ตำนานของจีน
เธอเอื้อมมือออกไปดึงเสื้อของเขา “อย่าสร้างปัญหาที่นี่ ไปกันเถอะ วังดาบเสฉวนตะวันตกไม่ใช่บางอย่างที่นายสามารถทำให้ขุ่นเคืองได้ นายกำลังเอาชีวิตไปทิ้งอย่างเปล่าประโยชน์”
“ก็แค่ขยะไร้ประโยชน์ นั้นคือทั้งหมด” เจียงซิ่วตอบ
“ห้ะ! แกนี่มีความกล้าจริงๆ เพื่อน แกต้องการต่อต้านวังดาบเสฉวนตะวันตกของฉัน?” ใบหน้าของชายคนนั้นเย็นชา ดูเหมือนว่าเขาจะอายุ 30 ปีและไม่ได้สูงมากนัก แต่ร่างกายของก็พัฒนาถึงจุดสูงสุดแล้ว นิ้วและฝ่ามือของเขากลายเป็นดาบ และนำมันพุ่งเข้าหาเจียงซิ่ว
หลินมี่อุทานอยู่ในใจของเธอ เจ้านี่มันไร้ขอบเขตเรื่องการสร้างภัยพิบัติจริงๆ เขาเป็นคนป่าที่งี่เง่า ไม่พอใจใครก็ตามที่ทำตัวไม่พึงประสงค์ต่อเขา ถ้าเขากลับไปที่ตระกูลหลินพร้อมๆ กับป้าหลิง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะสร้างศัตรูตัวใหญ่ให้กับตระกูลหลิน
อย่างไรก็ตาม เธอไม่สามารถทำอะไรเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ได้ ในทางตรงกันข้าม เธอวางแผนที่จะดูความแข็งแกร่งของเจียงซิ่วว่ามีมากถึงเท่าไหร่ เนื่องจากภูมิภาคเล็กๆ อย่างเช่นดงซงไม่อาจเปิดเผยความแข็งแกร่งทั้งหมดของเขาได้
ปั๊ง!
เจียงซิ่วยืนอยู่ที่เดิม และตอบโต้ด้วยการตบ ฝ่ามือที่คล้ายภูตผีจับมือของผู้ชายคนนั้น และตบเข้าไปที่หน้าของเขาอย่างแรง
“แกกำลังติดพันอยู่กับความตาย!”
เจียงซิ่วกลายเป็นเทพเจ้าไปแล้ว ดังนั้นพลังที่อยู่เบื้องหลังการตบของเขาจึงค่อนข้างเป็นพลังที่น่าอัศจรรย์ มันราวกับสายฟ้าที่ดังกึกก้องไปทั่วโลก ชายคนนั้นถูกส่งบินกลับ เขาชนเข้ากับประตูหน้าต่างรถ ส่งผลทำให้กระจกแตกออกมา จากนั้นเขาก็ล้มลงกับพื้น
หนึ่งการเคลื่อนไหว! หนึ่งวินาที!
กรามของหลินมี่เกือบจะตกไปที่พื้น เพ้ย! ศิษย์ของตระกูสีไร้ประโยชน์มากขนาดนี้?
“เจ้าชั่ว แกกล้าตีนายน้อยจิง?”
“ถามหาความตายแล้ว แกรู้ไหมว่านายน้อยจิงเป็นใคร?”
คนกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ข้างหลังเขา พวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นผู้ชายที่หล่อเหลาและผู้หญิงที่สวยงาม และทุกคนก็มีบอดี้การ์ดอยู่ด้วย พวกเขารีบไปที่นั่นด้วยความโกรธเมื่อเห็นนายน้อยจิงพ่ายแพ้
เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!
เจียงซิ่วก้าวไปข้างหน้าและให้ตบใครก็ตามที่เข้ามาในมุมมองสายตาของเขา แต่ละคนล้มลงกับพื้นด้วยขาหรือไม่ก็มือที่หักไป
ในที่สุดพวกเขาก็รู้ว่าเจียงซิ่วไม่ใช่คนที่จะสามารถล้อเล่นด้วยได้
“ท่าน… ท่าน…”
ผู้คนจากตระกูลมู่วิ่งมาข้างหน้า หนึ่งในนั้นขอร้อง “ทุกคนมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือ งั้นแล้วเราอย่าทำร้ายกันและกันเพราะการทะเลาะเลย”
ตั้งแต่ที่คนจากตระกูลมู่ได้มาถึงแล้ว เขาไม่ต้องการสร้างปัญหาไปมากกว่านี้ ดังนั้นเขาจึงถามชอยคนนั้น “นายรู้จักตระกูลจีรึเปล่า?”
บุคคลนั้นตกตะลึง “คุณต้องการไปที่ตระกูลจี?”
“ฉันมาที่นี่ก็เพราะตระกูลจี ฉันจะถามอีกครั้ง นายรู้ที่อยู่ตระกูลจีหรือไม่?”
ชายคนนั้นพยักหน้าอย่างว่างเปล่า
“นั้นดีแล้ว นำทางให้ฉัน!”
เขาถือว่ามีความเกลียดชังลึกซึ้งต่อตระกูลจี และถึงแม้ว่าการที่ไปกับเจียงซิ่วอาจจะเป็นอันตรายได้ แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ตัดสินใจที่จะทำมัน “โอเค ฉันจะพาคุณไปที่นั่น”
“มันมีเพียงทางเดียวเท่านั้น และการจะหาอาหารระหว่างท่างถือเป็นไปไม่ได้ มาเตรียมอาหารกันก่อนเถอะ”
…
ภายในหมู่บ้านของตระกูลมู่
มู่เจี๋ยนปิง เช่นเดียวกับผู้นำอีกสามตระกูล มองไปยังชายหนุ่มชุดขาวที่ถูกนำมาโดยสาวใช้แห่งดาบผู้สง่างามตรงหน้าพวกเขา นางดูเป็นอิสระจากความโสมทั้งหมด
“จะ จอมดาบรุ่นเยาว์”
สีหวูเซี่ยถอนตัวออกไปจากโลกตั้งนานแล้ว ดังนั้นมู่เจี๋ยนปิงจึงไม่คาดหวังว่าเขาจะช่วยเหลือ เรื่องนี้เองก็เป็นที่น่าแปลกใจที่พวกเขาส่งจอมดาบรุ่นเยาว์มา
ผู้หญิงที่สวมชุดกี่เพ่าถาม “บุคคลนี้คงไม่ใช่จอมดาบรุ่นเยาว์ของวังดาบเสฉวนตะวันตก ใช่ไหม? พวกเขาบอกว่าทั้งโลกใต้ดินและโลกสีขาวเบื้องหน้าก็ล้วนแล้วแต่นับถือมณฑลเสฉวนตะวันตก เขารู้จักกันในนามอันดับ 1 ในหมู่คนรุ่นเยาว์ และกลุ่มการเงินใหญ่ๆ ก็เฝ้าติดตามเขาอย่าใกล้ชิด เขามีสามสิบดาบอยู่ภายใต้เขา และหนึ่งในนั้นก็คือบุตรชายของผู้ว่าราชการมณฑลเสฉวนตะวันตก ในขณะที่อีกคนหนึ่งเป็นนายน้อยของเมืองหลวงจักรพรรดิ”
ชายชราเองก็ตกตะลึงหลังจากได้ยินสิ่งนี้
“มันเป็นเขาจริงๆ?”
สายตาที่ทุกคนมองไปยังจอมดาบรุ่นเยาว์คนนั้นเปลี่ยนไปในทันที พวกเขาทุกคนรู้ตำนานของสีหวูเซี่ย เขาเป็นคนที่ไม่มีใครเทียบได้เมื่อตอนนั้น และชื่อเสียงของเขาก็ไปถึงเอเชียตะวันออก เกาหลี ญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน และชาวจีนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทุกคนก็นับถือเขา แม้ว่าเขาจะไม่ปรากฏมาตัวมาเป็นเวลา 60 ปีแล้ว ชื่อของวังดาบของเสฉวนตะวันตกนั้นก็แขวนอยู่เหนือเสฉวนตะวันตกตลอดมา และนี่เองก็ทำให้ทุกคนตกตะลึง
“ตระกูลมู่ ตระกูลกง ตระกูลเหม่ยและตระกูลจาง… ทักทายจอมดาบรุ่นเยาว์ของวังดาบของเสฉวนตะวันตก!”
ตั้งแต่ที่ผู้นำตระกูลของพวกเขาโค้งคำนับ ศิษย์ที่อยู่รายล้อมก็ไม่กล้ายืนนิ่งอีกต่อไปและโค้งคำนับพวกเขาต่อเป็นทอดๆ
“พวกเราทักทายจอมดาบรุ่นเยาว์ของวังดาบเสฉวนตะวันตก!”
ทุกคนรู้สึกตกใจเมื่อบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ที่แท้จริงมาถึงที่นี้
จอมดาบรุ่นเยาว์เดินเข้ามาอย่างช้าๆ ด้วยสีหน้าไม่แยแสของเขา ดูเหมือนว่าเขาจะคุ้นเคยกับการแสดงการทักทายดูโอ่อ่าแบบนี้ เขาเดินไปต่อหน้าทั้งสี่ตระกูลและโบกมือก่อนนั่งอย่างสง่างาม
“มู่เจี๋ยนปิงสี่ตระกูลของคุณพร้อมที่จะจงรักภักดีต่อวังดาบเสฉวนตะวันตกแล้วรึยัง?”
ผู้นำตระกูลทั้งสี่ตระกูลทั้งหมดมองหน้ากัน คนสามคนของพวกเขาได้ตายไปในแต่ละวันเนื่องจากถูกตระกูลจีคุกคาม หากสิ่งนี้ยังคงเกิดขึ้นต่อไป พวกเขาทั้งหมดจะตายในไม่ช้าก็เร็ว หากพวกเขายอมรับความช่วยเหลือของวังดาบเสฉวนตะวันตก วังดาบก็จะต้องช่วยพวกเขาอย่างแน่นอน และตระกูลของพวกเขาก็จะถูกผูกเชือดเข้าหากัน เพราะวังดาบเสฉวนตะวันตกมีความต่อพลังอำนาจของโลกใต้ดินในหัวเป่ยเป็นอย่างมาก
พวกเขาทั้งหมดในห้องไม่มีที่ว่างให้ลังเล
“เราปราถนาสิ่งนั้น!”
จอมดาบรุ่นเยาว์คาดเดาไว้แล้วว่าพวกเขาจะต้องตอบออกมาในลักษณะนี้ ดังนั้นการแสดงออกของเขาจึงไม่เปลี่ยนแปลงไป “จีหวูเต๋าและชวูติ๋งเฉินตายแล้ว แต่ตระกูลจีก็ยังกล้าแสดงความจองหองออกมา ดูสิว่าฉันจะฆ่าพวกเขาได้ยังไง”
“พวกเขายังมีเซียนอยู่!” มู่เจี๋ยนกล่าวอย่างไม่สามารถทำอย่างไร้ได้
“ฉันเกรงว่าจอมดาบรุ่นเยาว์อย่างท่านจะประสบกับความพ่ายแพ้เอาได้ ถ้าท่านไปเยื่อนตรูลจีด้วยตัวเพียงคนเดียว”
จอมดาบรุ่นเยาว์หัวเราะอย่างเต็มกำลัง “ฉันเองก็ไม่ใช่ว่าเป็นเซียนรึไง?”
ทุกคนตกใจกับคำเหล่านั้น จอมดาบรุ่นเยาว์ผู้นี้อายุอายุยังไม่ถึง 20 ปีแน่ แต่เขาก็กลายเป็นเซียนไปแล้ว พวกเขาบ่มเพาะมาตลอดชีวิต แต่ก็ถึงเพียงแค่ขั้นปรมาจารย์สุดยอดกำลังเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถทำอย่างไรได้ ได้แต่รู้สึกตกใจและละอายใจ
พวกเขาจำเยาวชนที่มีความสามารถอีกคนได้ทันที ถ่อมตัว เก้าเทพนิยาย ชำละล้างสวรรค์ เคราะกรรมพันปี หัวใจที่ไร้ความรัก แต่โรแมนติก – เจียงโหลวเซี่ย
เจียงโหลวเซี่ยอีกคนนึงกำลังจะปรากฏตัวขึ้น?
ตอนนี้จีนกำลังรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก และภายใต้ดวงดาวแห่งโชคลาภ มันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่อัจฉริยะจะต้องปรากฏขึ้น
“พวกเราจะฟังการตัดสินใจของจอมดาบ!”
มู่เจี๋ยนปิงยังคงรู้สึกกังวลเล็กน้อย “ท่านจอมดาบ ในฐานะที่สี่ตระกูลของเราไม่สามารถทนการมารุณจากตระกูลจีได้ พวกเราจึงไปหาคุณเจียงที่เมืองหลวงก่อนเป็นอันดับแรก ตั้งแต่ที่พวกเรากำลังจัดการกับตระกูลจี คุณเจียงคงจะ…”
จอมดาบรุ่นเยาว์กล่าว “แม้ว่าเจียงโหลวเซี่ยจะฆ่าจีหวูเต๋าไปแล้ว แต่มันก็เป็นการต่อสู้ที่ยุติธรรมระหว่างเซียน เขาจึงไม่ได้มารุกรานตระกูลจีต่อหลังจากนั้นเลย และก็ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับชีวิตหรือความตายของนายด้วย ดังนั้นเขาจะต้องไม่โทษวังดาบของฉัน ที่มาเกี่ยวข้องกับมัน ยิ่งไปกว่านั้น แม้แต่เจียงโหลวเซี่ยก็ต้องไว้หน้าให้กับบรรพบุรุษของฉัน”
แต่ทว่าในขณะนี้เอง ชายคนหนึ่งก็วิ่งเข้าไปในสถานที่ด้วยสีหน้าที่หวาดกลัว “ท่านจอมดาบ แย่แล้ว นายน้อยจิงพ่ายแพ้”
การแสดงออกของจอมดาบรุ่นเยาว์บิดเบี้ยวทันที “ใครกล้าลงมือกับคนของฉัน?”
มู่เจี๋ยนปิงและการแสดงออกของคนอื่นก็กลายเป็นหน้าเกลียดเช่นกัน พวกเขากังวลว่าอาจจะเป็นหนึ่งในศิษย์ของพวกเขาได้
