บทที่ 323
ก่อเรื่อง
ดาบแสงฟ้าดินบรรจุพลังเต๋าแห่งดาบไว้ เมื่อครอบครองสามารถทำให้ความแข็งแกร่งของพลังยุทธ์เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล นกฝูงนี้น่าจะรับรู้ได้แล้วว่าดาบแสงฟ้าดินได้ปรากฎขึ้นมาแล้ว เป็นธรรมดาที่พวกมันจะต่อสู้เพื่อแย่งชิงเอาไป
ใจกลางของฝูงนกคือเงาร่างมหึมา ราชานกอยู่มีท่วงทาอหังการ ชูคอตนสูง เสียงร้องดังกังวาล เมื่อเสริมเข้ากับคลื่นแสงทีละชั้นๆ ดุดันอย่างยิ่ง
ทว่าเพราะต้องการช่วงชิงดาบแสงฟ้าดิน นกที่อยู่รอบด้านไม่สนใจพลังอำนาจอันล้นเหลือของราชานก พุ่งตรงเข้าไป ทันใดนั้นนกคุ้มกันที่อยู่ด้านข้างก็ไม่เหลือท่าทีน้อมนอบอีก ร้องปังออกมาเสียงหนึ่ง หลังจากเรือนร่างดุดันเข้าต้าน ร่างพลันร่วงหล่นไปจากท้องฟ้าทันที กระโหลกแข็งถูกเปิดออก เลือดพุ่งสาดกระจาย
“จิ๊บ~”
ราชานกชูศีรษะขึ้นสูง อ้าปากขึ้น ค่ายกลดาบที่เพิ่งเรืองรองบนท้องฟ้า ค่อยๆ ดูดกลืนเข้าไป ลำแสงของค่ายกลดาบพลันส่องประกายเจิดจ้ายิ่งขึ้น
สายตาของเจียงซิ่วชะงักชั่วครู่ ในใจรู้สึกเสียดายนัก นกจำนวนมากนับแสนเกือบจะล้านรอบล้อมทั่วทิศเพื่อไม่ให้ผู้ใดรู้สึกถึงการคงอยู่ของดาบแสงฟ้าดิน ตั้งแต่ตอนนั้นผลการตัดสินก็ออกมาแล้ว เหล่านกเชื่อว่าผู้อื่นจะต้องมาแย่งชิงไปแน่
“จิ๊บ~”
ราชานกกลืนค่ายกลดาบ พยายามที่จะขยับปีกของตน แต่เดิมลำแสงแต่ละชั้นเปล่งแสงอย่างน่าอัศจรรย์ ระยิบระดับลำแสงสีขาว ปีกของราชานกตอนแรกเป็นสีผสมกัน แต่ว่ากลับค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นสีขาวราวหิมะ ราวกับย้อมสีอย่างนั้น ใช้เวลาอยู่ระยะหนึ่งทั้งร่างก็กลายเป็นสีขาวดั่งหิมะ
แต่ว่าความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นนั้นเห็นได้ด้วยตาเปล่า ทอประกายภายใต้แสงอาทิตย์ สว่างไสวขาวบริสุทธ์ราวกับภูเขาเมิ่งซาน กลายเป็นลึกลับอย่างไร้ผู้ต่อกร
วิวัฒนาการแล้ว!
เครื่องบินผ่านไปไกลแล้ว แต่พลังบางส่วนยังคงลอยอยู่บนท้องฟ้า ก่อให้เกิดประกายสว่างไสวระยิบระยับ สอดส่องเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้า
ราชานกเองก็สังเกตเห็นแล้ว กันศีรษะมองครั้งหนึ่ง แต่กลับไม่ได้หยุดกลืนกินดาบ แต่ยิ่งเพิ่มความเร็วในการกลืนกินยิ่งขึ้นไปอีก ดาบแสงค่อยๆ แทรกเข้าไปภายในร่าง เขาปรากฎแสงระยิบระยับออกมา และถูกดึงเข้าไปที่ค่ายกลของดาบแสง
“จิ๊บ~”
ราชานกส่งเสียงร้องดังสนั่น ทันใดนั้นพลันอ้าปากกว้าง แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น ทันใดนั้นร่างกายพลันขยายขึ้นด้วยความเร็วชนิดที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ร้อยเมตร พันเมตร กลายไปเป็นสัตว์ยักษ์ที่ปกคลุมท้องฟ้า
เขาอ้าปากกลืนนกที่อยู่ด้านหน้าเข้าไปแล้วคำหนึ่ง ทั้งหมดบินหนีโชคร้ายที่จะกลายเป็นอาหารของเขา ทั้งหมดเป็นจำนวนมากกว่าหมื่นตัว จากนั้นไม่นานก็กลืนอีกคำ
“วู้ววู้ว…”
ฝูงนกบินราวจรวด ทันใดนั้นนกทั้งหมดบนท้องฟ้าพลันขยับปีกบินหนี บนท้องฟ้ามีเสียงร้องของนกดังไม่ขาดสาย ไม่เหมือนกับภาพที่เป็นระเบียบเรียบร้อยก่อนหน้า เวลานี้กลับเป็นกลุ่มที่สับสนวุ่นวายยิ่ง มีนกจำนวนมากให้ความสนใจกับท่าทีของราชานก เพียงแต่ว่าตอนนี้ต้องหลบหนีเพื่อเอาชีวิตรอด เพียงเกลียดแต่มารดาที่ให้กำเนิดพวกมันมาเพียงสองปีก
ภายในฝูงนก ร่างหนึ่งที่มีสีขาวทั้งร่าง ผู้เยาว์หล่อเหลาเหนือผู้ใดพุ่งออกมา เพียงแต่ใบหน้าปรากฎรอยยิ้มพึงพอใจ ในปากค่อยๆ ปรากฎเสียงหัวเราะออกมา “ฮ่าฮ่าฮ่า…”
ท่ามกลางขนนกที่ร่วงหล่นไปทั่วทั้งท้องฟ้า ทั่วทั้งร่างของเขาเบาสบายราวกับอากาศ วาบกลับไปกลับมา รวดเร็วไร้ร่องรอย สองตากวาดผ่านไปทั่วทั้งผืนดินและท้องฟ้า “ที่นี่คือที่ไหนกัน ที่นี่คือ… โลก?”
“คาดไม่ถึงว่าที่นี่จะคือโลก!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า…”
ทันใดนั้นเขาก็ขมวดคิ้วแน่น “พลังปราณที่นี่เบาบางจริงๆ เช่นนั้นเทพและเซียนที่นี่จะต้องอ่อนแอมากเป็นแน่ ไม่ใช่ว่าหมายความว่าให้ข้าไป๋จวงปกครองท้องฟ้าหรือ?”
สายตามองกวาดไปยังสถานที่ห่างไกลออกไป คลองสายตาเพิ่งตกลงบนเศษพลังนั้น สีหน้าค่อยๆ เปลี่ยนไป “คมดาบ กลิ่นอายของจอมดาบกลับอยู่ไม่ไกล น่าสนใจ”
เงาร่างของเขาพลันบินไปทางเศษพลังนั้น เศษพลังนั้นพลันสั่นไหวทันทีทันใด มุมปากของเขายิ้มขึ้นเป็นรอยยิ้มเหยียดหยามดูแคลน “เทพชั้นต่ำ วิชาดาบ ต่อหน้าดาบฟ้าดิน ยังกล้าส่งเสียง เพียงแต่เห็นแก่ที่เจ้าไม่สอดมือมายุ่งเรื่องของข้า ข้าจะให้หน้าเจ้าสักครั้ง พื้นที่ตรงนี้ยกให้เจ้า”
กล่าวจบ ก็พากองทัพนกยักษ์มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก
ทิศตะวันออกกว้างใหญ่ไฟศาล เขาจึงเลือกทิศตะวันออก
ภายในตัวเครื่องบิน เจียงซิ่วต่อหน้าพลันปรากฎประกายเรืองรองวาบผ่าน คมดาบได้กลับมาสู่แก่นเทพ สีหน้าของเขาไม่มีอารมณ์แม้แต่นิดเดียว แต่ในใจกลับสั่นไหวเล็กน้อย โลกนี้น่ากลัวว่าจะเปลี่ยนไปอย่างไม่ทางหวนคืนแล้ว คนที่เรียกตัวเองว่าไป๋จวงคนนั้นไม่รู้ว่าโผล่มาจากที่ใด
แอร์โอสเตสเวลานี้มาเสิร์ฟอาหาร “คุณชายเจียง ฉันขอบังอาจถามคำถามสักข้อได้หรือไม่คะ?
เจียงซิ่วกล่าว “ถามสิ!”
แอร์โอสเตสงุนงงยิ่งนัก รวมไปถึงกัปตันและคนงานคนอื่นๆ บนเครื่องบินที่ไม่อาจทำความเข้าใจ แอร์โฮสเตสกล่าว “คุณชายเจียงรู้ได้ยังไงว่านกพวกนั้นจะหลบเครื่องบิน?”
เจียงซิ่วย่อมต้องรู้แน่ โลกนี้เปลี่ยนแปลงแล้ว ภูมิปัญหาของผู้คนสูงขึ้น ย่อมต้องรู้ว่าต้องปกป้องตัวเอง เครื่องบินเป็นเครื่องกลขนาดใหญ่ขนาดนั้น ยิ่งไปกว่านั้นสำหรับนกพวกนั้นแล้วควรจะไม่เคยพบเจอสิ่งแปลกประหลาดนี้ ถึงแม้ไม่กลัวตาย เพียงแต่ไม่รู้จักสิ่งประหลาดนี้เท่านั้น เช่นนี้เรียกได้ว่าถอยโดยสัญชาตญาณ อย่างเช่นว่าผิวหนังของพิตบูลไม่มีความรู้สึกเจ็บปวด ถูกคนกัดก็ไม่เจ็บ แน่นอนว่าไม่กลัวถูกกัด แต่เผ่าพันธุ์กลายพันธุ์จะมีพลังมากน้อยเพียงใด?
“สิ่งนี้ไม่ใช้ว่าเข้าใจได้ง่ายมากหรือ?” เจียงซิ่วกล่าว “บังเอิญพบเจอนกบินบนท้องฟ้า บางทีอาจจะเกิดอุบัตเหตุขึ้น นกจำนวนมากขนาดนี้ควรจะมีระบบระเบียบ เคยเห็นห่านป่าไหม? สติปัญญาไม่ต่ำเลย เธอเห็นรถขับผ่านมาก็หลบ ผู้อื่นเห็นเครื่องบินบินผ่านมาก็หลบ”
แอร์โฮสเตสกล่าวอย่างโง่งม “คุณชายเจียง ท่านช่างฉลาดจริงๆ”
กล่าวจบก็ส่งสายตาพราวเสน่ห์ให้เจียงซิ่ว แอร์โฮสเตสผู้นี้สาวงามคนหนึ่ง
หวังซินถงเข้าใจเจียงซิ่ว ตัวเองก็เป็นสาวงามยิ่งผู้หญิง เขาล้วนไม่หวั่นไหว เธอให้ตายก็ไม่กลัวว่าแอร์โฮสเตสคนเดียวจะสามารถทำให้เจียงซิ่วหวั่นไหวได้ จึงตั้งใจค้นหาคนสวยงามเย้ายวนอย่างยิ่งมา
เจียงซิ่วกล่าว “ยังอีกนานไหมกว่าจะถึง”
แอร์โฮสเตสกล่าว “ประมาณอีกสี่สิบนาทีค่ะ ทางสนามบินเจียงเฉิงเพราะพบเจอกับการปรากฏตัวของฝูงนกบินครั้งนี้ ถึงขนาดหยุดบินแล้ว เครื่องควรจะลงจอดได้อย่างราบรื่นมาก คุณชายเจียง คุณหญิงเจียง พวกท่านพักผ่อนนะคะ มีเรื่องอะไรก็เรียกฉัน”
รอจนแอร์โฮสเตสเดินไปแล้ว หลินเยหลิงกล่าว “เจ้าเด็กตัวเหม็น แกให้ฉันสบายใจสักหน่อยเถอะ”
เจียงซิ่วกล่าว “แม่ครับ ผมใช่ลูกของแม่ไหมเนี่ย?”
หลินเย่หลิงมั่นใจยิ่งนัก “ไม่ใช่ เก็บมาจากกองขยะ”
เครื่องบินลงตามเวลา เฉิงหลิงซูมารับ สาวงามสง่าอย่างเมืองใหญ่เปิดประตูรถ BMW ลงมา ปีก่อน เธออยากทำงานจึงเรียนขับรถ และรถ BMW คันนี้กระทั่งป้ายทะเบียนรถก็ยังไม่มี ส่วนรถที่เอ่ยถึง เจียงซิ่วไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายว่ารถคันนี้ใช้เงินของใคร
หลินเย่หลิงเห็นเข้าก็รู้สึกไม่พอใจแล้ว “ซู่ซู่ ทำไมซื้อรถไม่ดีแบบนี้”
ปัง เทพซิ่วเราแทบจะล้มหัวฟาด ท่านแม่ ชอบคนหนึ่งอคติอีกคนหนึ่งไม่จำเป็นต้องแสดงออกชัดเจนขนาดนี้ก็ได้ ในบ้านทุกวันล้วนสั่งสอนฉัน ต้องประหยัดอดออม อย่าใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย ตอนนี้เฉิงหลิงซู่ซื้อรถ BMW มาคันหนึ่ง มองแวบแรกก็รู้แล้วว่านำเข้ามา ราคาพูดไปก็แน่นอนว่าจะต้องหลายล้าน คาดไม่ถึงว่าจะยังกล่าวว่าคนซื้อของไม่ดี
ตอนนี้เธอเป็นคนเดียวที่ไม่เคยหาเงินเลย
เฉิงหลิงซู่กอดเอวของหลินเย่หลิงกล่าว “ดีมากแล้วนะคะ ขับเฟอรร์รารี่หรืออย่างอื่น ดูจะอวดเบ่งเกินไป BMW ก็ไม่เลวแล้ว แม่คะ แม่ทำไมจู่ๆ ให้เงินฉันซื้อรถละคะ”
อื้อหือ เทพซิ่วอยากจะเป็นบ้า กลับเป็นหลินเย่หลิงที่ให้เงิน
หลินเย่หลิงกล่าว “เธอเชื่อฟังขนาดนี้ แม่ก็แค่ตกรางวัลให้ ปีนี้ทำตัวให้ดีสักหน่อย แม่ยังจะให้เธอซื้อของอีก”
“ขอบคุณค่ะแม่!”
หลินเย่หลิงหัวเราะประหลาดยิ่ง เพราะว่าเจียงซิ่วแต่งภรรยาคนที่สอง เธอจึงกังวลว่าจะทำให้เฉิงหลิงซู่สับสน ซื้อรถคันหนึ่งมาปลอบใจเธอก่อน
ในใจเจียงซิ่วสบถก่นด่า ตอนนี้เฉิงหลิงซู่มีชีวิตสุขสบาย มีคนมากน้อยเท่าไหร่ที่ต้องการมีเช่นนี้ เติมเต็มความเอาแต่ใจของเธอ ไม่ให้เธอซื้อของแล้วทำไม เจียงซิ่วไม่เชื่อว่าเธอจะกล้าก่อเรื่องแน่
มองเห็นเฉิงหลิงซู่ขับรถ ในใจเจียงซิ่วก็ไม่พอใจ ชีวิตก่อนต้องหายนะขนาดนั้นก็เพราะเธอ ชีวิตนี้ตอนยากจนข้นแค้นเธอก็เย็นชาใส่ แต่เธอกลับอยู่ข้างกายตน และได้รับมากมายขนาดนั้น ไม่ยินยอม ไม่ยินยอมอย่างยิ่ง “เธอขับรถได้หรือเปล่า ถ้าขับไม่ได้ โทรเรียกคนขับรถมา”
เฉิงหลิงซู่รีบส่งเสียง “นายดูถูกฉัน ฉันก็สอบใบขับขี่ผ่านมาได้จริงๆ นะ”
สับเกียร์สตาร์ทรถ และขับอย่างงกๆ เงิ่นๆ บนถนน
หลินเย่หลิงเอ่ยชม “ท่าทางตอนซู่ซู่ขับรถ คนขับรถของที่บ้านล้วนสู้ไม่ได้”
“แน่นอนค่ะ!”
เฉิงหลิงซู่เพิ่งจะมีรถ ตอนนี้กำลังติดรถมาก ไปที่ไหนก็ขับรถของตัวเองไป รถมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ริมน้ำของเจียงเฉิง
เจียงซิ่วไม่อยู่ เธอก็ไม่มีคนอยู่ที่นี่ด้วย เทศกาลตรุษจีนเธออยู่ที่บ้านแม่ตลอด แต่ว่าที่นี่มีคนมาคอยทำความสะอาดตามเวลา ข้างในจีงสะอาดมาก
“เจียงเฉิงยังคงทำให้รู้สึกคุ้นเคย!” หลินเย่หลิงก้าวเข้าประตูบ้านแล้วเมียงมอง ที่นี่เธอเพิ่งจะมาเป็นครั้งแรก
คฤหาสน์นี้เป็นถังเจิ้นซานส่งมาให้ ดูท่าทีสีหน้าดีใจของเฉิงหลิงซู่ เจียงซิ่วก็อดไม่ได้ที่จะทำให้เธอหงุดหงิด “ตรุษจีนนี่ไม่เลวจริงๆ นะ”
“อื้ม!”
เจียงซิ่วกล่าว “มีเรื่องหนึ่ง ฉันคิดว่ายังต้องบอกเธอสักหน่อย”
เฉิงหลิงซู่แสดงท่าทีคาดหวัง เจียงซิวไม่เคยทำหน้าปลอมสีหน้า บนใบหน้าปรากฎรอยยิ้ม กล่าว “คิดจะพูดอะไร?”
เจียงซิ่วกล่าว “สองวันนี้นี้ฉันแต่งภรรยาเข้ามาคนหนึ่งแล้ว”
เทพซิ่วก่อเรื่องแล้ว
เฉิงหลิงซู่กล่าว “จัวอี้เฉินของสกุลจัวแห่งอู้เฟิง ฉันรู้แล้วแหละ สกุลจัวดูแลแถบซีเยว่ ครอบครัวเกี่ยวพันกับทหาร นายได้รับความช่วยเหลือจากสกุลจัว เอาชนะสกุลหลินได้ หายใจทีเดียวก็ได้รับสนับสนุนจากสองตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง เปลี่ยนเป็นฉัน ฉันก็จะทำแบบนั้น”
เจียงซิ่วรู้สึกเหมือนต่อยลงบนปุยนุ่น รอยยิ้มบนใบหน้าเย็นชาขึ้นมา