The King of the Battlefield – ตอนที่ 208

ตอนที่ 208

บทที่ 208: ความจริงหรือ… (สิ้นสุด)

เซราฟีน่ามีทีท่าร้อนรน

เธออยากไปที่นั่นเพื่อยืนยันด้วยตัวเอง ถ้าหากเป็นมูยองจริงๆทำไมเขาถึงทำอย่างนี้?

สำหรับเซราฟิน่าแล้วมูยองเป็นทูตสวรรค์เพียงองค์เดียวในอันเดอร์เวิลด์

‘ไม่มีทูตสวรรค์ในอันเดอร์เวิลด์’

บางทีอาจเป็นอย่างที่ทุกคนพูด หรือว่ามูยองเองก็ไม่ใช่ทูตสวรรค์?

‘ฉันต้องเชื่อมั่น เพื่อใช้ในการค้นหาความจริง’

เซราฟินาหลับตา

เธอไม่ควรสรุปอะไรง่ายๆ เธอต้องการค้นหาความจริงที่ซ่อนอยู่ภายในก่อน

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือโกหกเธอก็ต้องยืนยันด้วยสองตาของเธอเอง

มีหลายครั้งที่จุดประสงค์ของพระเจ้ายากต่อการตีความสำหรับมนุษย์

นอกเหนือจากเธอแล้วยังมีอีกคนหนึ่งที่มีปฏิกิริยากับเรื่องนี้เป็นพิเศษ

ผู้หญิงอีกคนที่ว่าก็คือไฮซินท์

‘เขามาแล้ว ในที่สุดเขาก็มาหาฉัน ‘

ไฮซินท์ไม่มีความทรงจำในอดีต

เธอแค่รู้สึกว่าต้องรอ

เมื่อได้ยินชื่อมูยองโลกของเธอก็เปลี่ยนไป เพราะเขาเป็นทั้งผู้ชี้ทางในความมืดมิด เป็นทั้งผู้ที่เธอหวาดกลัว และผู้ที่กุมหัวใจของเธอเอาไว้

เธอมั่นใจว่าผู้ที่เธอปรารถนาและรอคอยอยู่ก็คือมูยอง

เธอคิดว่ามูยองจะพาเธอไปกับเขาเมื่อเขาปรากฏตัวขึ้น

เธอรู้สึกว่าในที่สุดเธอก็สามารถไปจากสถานที่ที่น่าเบื่อแห่งนี้สักทีและค้นหาความจริงเกี่ยวกับตัวเอง

นั่นคือสิ่งที่เธอคิด

ไฮซินท์ไม่สนใจว่ามูยองทำอะไร แค่เขาปรากฏตัวออกมาก็สำคัญที่สุดแล้ว

“ไฮซินท์?”

ทุกคนมองพฤติกรรมแปลกๆของไฮซินท์ด้วยสายตาที่งุนงง จู่ๆไฮซินท์ก็ลุกขึ้นจากที่นั่งและเดินออกไป

‘ฉันต้องสวยขึ้นกว่านี้’

‘เขาจะต้องเห็นรูปลักษณ์ที่สวยงามที่สุดของฉัน’

ไฮซินท์ก็มีท่าทีเร่งรีบไม่ต่างจากเซราฟิน่าเช่นกัน

***

จี๊ด! จี๊ด!

แม้ว่าจะเป็นถึงจักรพรรดิแต่มันก็มีขนาดเพียงสองกำปั้นเท่านั้น

มันจึงทำได้เพียงร้องโวยวายเมื่อเห็นเจ้านายของตนล้มลง

ข้างๆกันนั้นแม้แต่ราชานักสู้ก็อยู่ด้วย

“ บาดแผลถูกรักษาไปหมดแล้ว แต่ทำไมเธอถึงยังไม่ฟื้น”

พอตกเย็น เบซูจีก็เรื่มส่งเสียงพึมพัมภายใต้กองไฟที่สุมขึ้น

อย่างไรก็ตามเธอก็ยังหมดสติอยู่ แม้ว่าระดับพลังงานของเธอจะสูงกว่าก่อนหน้านี้และไร้บาดแผล แต่เธอก็ยังไม่ยอมตื่นสักที

“ มีปัญหาด้านจิตใจหรือไม่?”

เขาไม่สามารถรู้สึกถึงคำสาบใดๆ ความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวนั้นดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับจิตใจ แต่ก็ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่อาจเป็นสาเหตุ

อย่างไรก็ตาม เบซูจีเป็นเด็กที่มีจิตใจแข็งแกร่ง

หากไม่เช่นนั้นเธอคงสติแตกไปนานแล้วตั้งแต่ที่รู้ว่าพ่อของตัวเองตาย หรือแม้กระทั่งก่อนหน้านั้นก็มีเหตุการณ์มากมายที่จะมีอิทธิพลต่อเธอ

เบซูจีเอาชนะมันทั้งหมด

แม้แต่ราชานักสู้ยังชื่นชมเธอ

“ไม่ อย่า….”

ราวกับว่าเธอกำลังฝันอยู่และละเมอ

“ เธอละเมอเรื่องอะไร? จะพูดอะไรก็พูดออกมาสิ”

ราชานักสู้ข้องใจมาก

สองวันแล้วที่เธอหลับเป็นตาย เพราะเหตุนี้พวกเขาจึงไม่สามารถเดินทางไปไหนได้

วันนั้นจู่ๆซูจีก็หายตัวไปในขณะที่ตามล่าแมงมุมหลังจากบอกว่าเธอพบ ‘ผู้ควบคุมแมงมุม’ แล้ว จากนั้นมูยองก็ปรากฏตัวและโจมตีเกรทซิตี้

ราชานักสู้คิดว่าซูจีเสียชีวิตไปแล้ว

นั่นคือเหตุผลที่เขามุทะลุโจมตีมูยอง

แน่นอนว่าเขาไม่สามารถทำอะไรมูยองได้ เนื่องจากมีความแตกต่างใน ‘ระดับ’ มากเกินไป

มันเป็นความรู้สึกที่ราชานักสู้ไม่สามารถรู้สึกได้แม้แต่กับมังกรโบราณส่วนใหญ่

หลังจากออกค้นหาเขาก็โล่งอกมากเมื่อรู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ … แต่ด้วยสภาพของเธอเช่นนี้ …

“ ได้โปรดอย่าไป พ่อ..พี่ชาย อย่าไป”

“เหอะ”

เขาสบถออกมาและปลงตก

ความจริงที่ว่าราชานักสู้ลักพาตัวเธอไปนั้นก็ไม่ได้เปลี่ยนไป ในเวลานั้นเขาทำอะไรหุนหันพลันแล่น แต่ตอนนี้เขารู้สึกแล้วว่าต้องชดใช้ในสิ่งที่ตัวเองทำ

ขณะที่เธอไม่รู้แม้กระทั่งการเสียชีวิตของพ่อตัวเอง และทำได้เพียงแตะต้องศพของเขาเท่านั้น มันทำให้เธอเจ็บปวด

“ฉันขอโทษจริงๆ”

หลังจากที่แก่ขึ้นและยอมรับลูกศิษย์คนนี้จริงจังแล้ว ความคิดมุทะลุต่างๆของเขาก็ลดลง

ซูจีได้เปลี่ยนพื้นฐานความคิดของราชานักสู้

นั่นอาจเป็นสาเหตุว่าทำไมเขาจึงสอนทุกอย่างให้เธอ

เขาคิดว่านี่เป็นวิธีเดียวที่สามารถชดใช้ในสิ่งที่ตนทำ

ด้วยการมอบพลังแก่เธอสำหรับอยู่รอดในอันเดอร์เวิลด์ ถึงแม้มันอาจจะชดเชยทั้งหมดไม่ได้ก็ตาม

‘พี่ชายที่เธอเรียกน่าจะเป็นผู้ชายที่เธอพูดถึง’

เมื่อใดก็ตามที่เธอมีโอกาสซูจีจะพูดถึง ‘พี่ชาย’คนนั้นเสมอ ว่าเขาเป็นคนที่น่าทึ่งได้อย่างไร ถึงจะเทียบกับราชานักสู้เขาก็ยังสุดยอดกว่า

มีคนเช่นนี้อยู่ในโลกด้วยเหรอ?

แม้ว่าเขาจะคิดถึงมนุษย์ทุกคนก็ไม่มีใครเทียบได้กับดราก้อนลอร์ดฮันซุง หรือราชานักสู้

ดังนั้นเขาจึงหัวเราะ และเมื่อใดก็ตามที่เขาหัวเราะเธอก็มักจะพูดว่า ‘แล้วคุณจะเสียใจในภายหลัง’

แม้ตอนนี้เขาก็ยังไม่เชื่อ

เขาคิดว่าไม่มี ‘มนุษย์’ คนไหนที่สามารถเอาชนะเขาได้อย่างง่ายดายเช่นนั้น

นั่นคือสิ่งที่ราชานักสู้คิดเสมอ แต่ยังไงก็ตามเขาก็เข้าใจว่าพี่ชายคนนี้มีบทบาทสำคัญต่อซูจีมาก

“ไม่!”

ผึ่ง!

ทันใดนั้นซูจีก็ยกร่างกายส่วนบนของเธอขึ้นมา ราวกับพึ่งผ่านฝันร้ายร่างกายของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อเปียกโชก

ทันทีที่ตื่นขึ้น เธอก็หันมองไปรอบๆ หลังจากเห็นราชานักสู้เธอจึงรีบถามอย่างรวดเร็ว

“ ที่ไหน พี่ชายไปไหนแล้ว?”

“ เธอกำลังพูดอะไรหลังจากสลบไปตั้งสองวัน”

ซูจีแสดงออกอย่างจริงจัง

“ นี่…ผ่านไปสองวันแล้ว?”

“ ก็ใช่นะสินี่มันสองวันครึ่งแล้วด้วยซ้ำ เกิดบ้าอะไรขึ้นกับเธอกันแน่?”

ซูจีกุมหน้าผาก

หลังจากสูดหายใจเข้าลึกให้พอใจเย็นลงเธอก็พูด

“ หนูเจอพี่ชาย”

“คนที่เธอมักจะพูดถึงเหรอ?”

“ ใช่ หนูแน่ใจ ถึงเขาจะดูจะเปลี่ยนไปมากแต่หนูจำได้”

“ คิดว่าพี่ชายที่เธอพูดถึงตอนนี้น่าจะอยู่ที่ไหน?”

“ …หนูไม่รู้ หนูไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมเขากลายเป็นคนควบคุมมอนสเตอร์พวกนี้”

ราชานักสู้ขมวดคิ้ว

“ เธอกำลังบอกว่าเขาเป็นตัวการเรื่องนี้เหรอ”

ซูจีพยักหน้า

ตัวการหลัก ใช่คุณสามารถพูดได้ว่าเขาเป็นตัวการหลัก แต่เธอก็ยังไม่อยากเชื่อ

แม้ว่าเธอจะรู้ว่ามูยองนั้นทำตัวเย็นชาและไม่ชอบสุงสิงกับใคร แต่เขาก็เป็นคนเดียวที่มักจะทำทุกอย่างเพื่อทางออกที่ดีเสมอ

เธอมั่นใจว่าเขาเป็นคนที่มีความอบอุ่นถึงจะเล็กน้อยก็ตาม ดังนั้นเขาจะไม่ทำอะไรโดยไม่มีเป้าหมายแน่นอน

“ ต้องมีเหตุผลสิ เหตุผลที่เขาจำเป็นต้องโจมตีเกรทซิตี้…”

ซูจีพยายามอย่างที่สุดเพื่อหาเหตุผล

ปัจจุบันเธอยังรู้สึกดีใจอย่างท่วมท้นจากข้อเท็จจริงที่ว่ามูยองยังมีชีวิตอยู่

‘เขายังไม่ตาย’

เธอคิดว่าเขาเสียชีวิตไปแล้วในห้องสมุดลอยฟ้า

เธอคิดว่าคงไม่สามารถพบเขาได้อีก

ราวกับว่าเธอหนีออกมาได้เพียงผู้เดียว บางคืนบางวันเมื่อเธอนึกถึงยังคงร้องไห้

แต่…เขายังมีชีวิตอยู่ แม้ว่ารูปลักษณ์ของเขาจะเปลี่ยนไป แต่นั่นก็เป็นมูยองแน่นอน

“ หนูต้องไปยืนยันให้เห็นกับตา”

“ เธองั้นเหรอ?”

“ รู้เหรอว่าเขาไปที่ไหน?”

“ เขาเป็นคนอันตราย อันตรายยิ่งกว่าใครที่ฉันเคยพบซะอีก “

ราชานักสู้ทั้งหวั่นและเอือมระอา

คนที่ปัดการโจมตีเต็มกำลังของเขาราวกับเรื่องตลก

ต่อหน้าความแตกต่างของ’ระดับ’ที่สูงเกินไป ราชาต่อสู้รู้สึกเหมือนชนเข้ากับกำแพง

กำแพงที่ไม่สามารถปีนข้ามได้ เขาเชื่อว่ามูยองได้ไปถึงระดับที่มนุษย์ไม่สามารถเอื้อมถึงไปแล้ว

บางทีที่ราชานักสู้รู้สึกเช่นนี้อาจเพราะเขารู้สึกว่าตัวเองถึงขีดจำกัด

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ราชานักสู้พูดเป็นความจริง

แม้ว่าเขาจะเคยเห็นมอนสเตอร์ และราชาปีศาจมากมาย แต่เขาไม่เคยรู้สึกถึงอันตรายเช่นนี้มาก่อน

พวกเขาไม่ควรเข้าไปยุ่งกับชายผู้นี้ โดยเฉพาะซูจี เธออาจจะถูกกลืนกินโดยความมืดของเขาได้

“ ถ้าคุณกลัว หนูจะไปคนเดียว แล้วก็ไม่ต้องมาห้ามหนู”

ซูจีแน่วแน่กับการตัดสินใจของเธอ

เธอต้องการค้นหาความจริง

มูยองเป็นคนที่ชอบทำมากกว่าพูด เขาจะไม่โจมตีเกรทซิตี้โดยไร้เหตุผล

เธอปรารถนาในการค้นหาความจริง

ราชานักสู้ไม่มีเหตุผลใดที่จะหยุดเธอได้อีกต่อไป

ฝีมือของเธอเกือบจะไล่ทันระดับของเขาอยู่แล้ว หากต้องการหยุดเธอไว้ที่นี่ คงได้สู้ตายกันไปข้างหนึ่งพอดี

“ เธอต้องทำถึงขนาดนี้จริงเหรอ?”

แววตาของราชานักสู้เปลี่ยนไป

ถึงกระนั้นเขาก็อยากหยุดเธอไว้

ชายที่ชื่อว่ามูยองนั้นอันตรายเกินไปสำหรับผู้คน

“ คุณจะหยุดหนูไหม?”

“ ฉันต้องการหยุดเธอ”

“ ถ้างั้นก็ลองดู”

ซูจีลุกขึ้นจากที่นั่ง

แววตาของซูจีเปลี่ยนเป็นก้าวร้าวอย่างถึงที่สุด

เธอชักดาบออกมาและเข้าสู่ตำแหน่ง

ราบกับเธอต้องการพูดว่า พยายามหยุดฉันถ้าคุณทำได้!

ไม่ว่ายังไงเธอก็ดูไม่เปลี่ยนใจ แม้ว่าจะเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงแค่ไหน

และไม่มีทางที่ราชานักสู้จะอ่านไม่ออก

“ เธอ…ไม่สามารถรับมือกับมันได้หรอก”

“ คุณไม่รู้หรอกว่าหนูทำอะไรได้บ้าง”

ราชานักสู้หยุดเถียง มันเป็นเรื่องจริง ไม่มีข้อจำกัดใดๆสำหรับซูจี

นั่นคือสิ่งที่แม้แต่ราชานักสู้ก็รู้ ความสามารถของเธอน่าทึ่งมากขึ้นทุกครั้งที่เห็น

อย่างไรก็ตามเขายังรู้สึกราวกับว่านี่เป็นการทิ้งเด็กน้อยไว้กลางแม่น้ำเพียงลำพัง

“ฉันจะไปกับเธอด้วย”

ราชานักสู้พูดพลางยักไหล่

ไม่มีอาจารย์คนใดสามารถปฏิเสธลูกศิษย์ของตัวเองได้ คำพูดนี้ถูกต้อง

ซูจีมองเขาราวกับไม่เคยคาดคิด ก่อนจะเก็บดาบของเธอเข้าไป

จ๊อก!

ในตอนนั้นเองที่มีเสียงท้องร้องดังขึ้น มันได้ยินมาจากตำแหน่งของซูจี

ซูจียักไหล่ของเธอบ้าง

“ ถ้างั้นเราหาไรกินก่อนเถอะ ไอ้จี๊ดแกก็หิวด้วยใช่มั้ย”

จี๊ด จี๊ด!

เจ้าจี๊ดจี๊ดดูตื่นเต้นก่อนจะหมุนตัวไปรอบไหล่ของซูจี

“ฮ่า ๆ …”

ราชานักสู้ส่ายหัวของเขา

เธอเป็นเด็กที่น่าทึ่งในหลายด้านจริงๆ

* * *

มูยองกลับไปแล้ว

กำแพงเมืองทั้งหมดถูกทำลาย

ไม่มีอะไรที่จะหยุดยั้งพวกเขาได้ในขณะนี้

กำแพงเป็นสัญลักษณ์ของหลายสิ่งหลายอย่าง และเมื่อมันถูกทำลายผู้คนก็ตระหนักว่าได้สิ่งนี้ไม่เพียงพอที่จะปกป้องพวกเขา และจะค้นหาวิธีการอื่นเพื่อพยายามปกป้องตนเอง

นอกจากนี้ … หอคอยยังเป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้ทุกคนไม่มีวันลืมเขา

สำหรับเวลาห้าปีนี้หอคอยจะถูกมองว่าเป็นสิ่งเตือนภัย

และมูยองจะกลายเป็นอวตารของลางบอกเหตุดังกล่าว

‘ฉันไม่สนใจ’

มูยองเดิน

ข้างหลังเขามีมอนสเตอร์มากมายติดตาม

ในหมู่พวกมันยังมีทาร์แคน

“ตอนนี้เจ้าจะทำอะไรต่อ? เจ้าจะไปหาอันเดธตนอื่นๆหรือไม่?”

“ ฉันจะกลับไปที่ดินแดนเทพปีศาจ”

“ ในการทำเช่นนั้น เราจำเป็นต้องตามล่าสกายลอร์ด พวกเขากล่าวว่าเทพปีศาจทิ้งมันไว้ในเขตแดนเทพปีศาจเพื่อหยุดกองทัพของเดียโบลไม่ให้เข้าไป”

สกายลอร์ด

เขาเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับมัน

สัตว์ประหลาดขนาดมหึมาอย่างไม่น่าเชื่อ ตอนนี้อยู่ที่เขตชายแดนของดินแดนเทพปีศาจ

แต่มูยองไม่สนใจ

ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรมันก็เป็นแค่มอนสเตอร์ เขาไม่ได้วางแผนที่จะมาพัวพันกับมอนสเตอร์ที่ไม่ใช่เทพปีศาจ

‘หืม?’

อย่างไรก็ตามมูยองไม่สามารถผ่อนคลายได้

เมื่อไม่นานมานี้เขารู้สึกถึงตัวตนที่ไม่รู้จัก

‘มีคนตามฉันมา’

ความรู้สึกของมูยองไม่สามารถถูกหลอก ความสามารถซ่อนตัวที่แม้แต่ทาร์แคนยังไม่สังเกตเห็น ดูเหมือนว่าไม่มีใครรู้สึกถึงการมีอยู่ของมัน

มูยองสยายปีกทันที เขาบินขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วผ่าก้อนเมฆเบื้องหน้าออกเป็นสองซีก

คลืน!

ด้วยเสียงเบาๆก้อนเมฆก็แยกออกจากกัน และมูยองก็เจอนักฆ่าที่ซ่อนตัวอยู่ข้างใน

“อทาราเซีย”

อทาราเซีย! เป็นนักฆ่าที่มูยองควบคุมก่อนหน้านี้

เขาสามารถควบคุมงู และเป็นผู้เชี่ยวชาญในการลอบสังหาร

มูยองไม่คิดว่าเขาจะซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มเมฆ

ไหล่ของอทาราเซียถูกฟันเป็นแผลยาว

อย่างไรก็ตามราวกับว่าเขาไม่สามารถรู้สึกเจ็บปวดใดๆ อทาราเซียร่วงลงบนพื้นและคุกเข่าทันที

ทว่าท่าทีเหล่านั้นไม่ได้บ่งบอกถึงการเชื่อฟัง ไม่มีความรู้สึกว่าเขาถูกผูกไว้กับมูยอง ดูเหมือนว่าเขาจะผูกพันกับบุคคลอื่นไปแล้ว

มูยองขมวดคิ้ว

“นายต้องการอะไร?”

มูยองถาม อทาราเซียตอบ

“ เจ้านายเบซองมินต้องการพบคุณ”

เบซองมิน

มูยองไม่มีทางลืมเขาได้

เขาเป็นพ่อของซูจี และในเวลาเดียวกันก็เป็นลิซที่คอยช่วยเหลือมูยองอย่างใกล้ชิด

เขาเป็นคนรับใช้ที่ซื่อสัตย์ซึ่งขาดไม่ได้เช่นทาร์แคน

The King of the Battlefield

The King of the Battlefield

ในตอนที่มนุษยชาติอยู่ในสภาวะที่ใกล้ล่มสลาย มูยองมือสังหารอันดับหนึ่งของ ‘ป่าแห่งความตาย’

กำลังนั่งคุกเขารอรับความตายเนื่องจากเนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผลที่ยากแก่การรักษา เขากวาดสายตามองไปรอบๆตัวซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยซากศพมากมาย เขาเคยทำงานอย่างหนักเพื่อคนพวกนี้

และในวันนี้เขาก็เป็นคนจบทุกอย่างด้วยมือของตนเอง แต่เมื่อมูยองลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็พบว่าปาฏิหาริย์นั้นมีจริง ตัวเขายังไม่ตาย! นอกจากนี้มูยองยังพบว่าตัวเองได้ย้อนเวลากลับมายัง 40 ปีที่แล้ว

เขาเลือกที่จะเดินสู่หนทางใหม่ และต่อสู้กับเหล่าเทพปีศาจทั้ง 72 ตน….

Show more

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท