The King of the Battlefield – ตอนที่ 262

ตอนที่ 262

บทที่ 262: ตัวตนเหนือธรรมชาติ (6)

“ไม่”

เบซูจีสั่นศีรษะ

“ก่อนหน้านี้ฉันยังไม่มั่นใจเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ฉันมั่นใจแล้วว่าคุณช่วยฉันเอาไว้ หลังจากถูกเอนโรธจับตัวฉันก็รู้ว่าตัวเองหมดประโยชน์ไปแล้ว แล้วทำไมคุณถึงยังเสี่ยงมาช่วยฉัน?”

ตอนแรกลิชทำเหมือนกับว่าซูจีเป็นภาระ แต่สุดท้ายก็ช่วยเธอเอาไว้ เขาเลือกที่จะเอาตัวเองไปเสี่ยงเพื่อแยกเบซูจีออกจากเอนโรธ และด้วยบางเหตุผลสายตาที่เขาจ้องมองเบซูจีเต็มไปความโหยหาและคิดถึง เบซูจีไม่เคยลืมสายตานั้นได้

“คุณเป็นใครกันแน่?”

“ฉันคือคนตายผู้เป็นดั่งเงาของนายท่าน เธอไม่จำเป็นต้องมีส่วนร่วมในเรื่องนี้ นายท่านก็ไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน”

“พี่มูยองงั้นเหรอ? เขาไม่เคยบอกให้ฉันหยุดทำอะไรสักครั้ง “

เมื่อมีอันตรายเกิดขึ้นต้องเผชิญหน้ากับมัน นั่นคือมูยอง

มูยองบอกให้เบซูจีวิ่งหนีงั้นเหรอ? เขาไม่ใช่คนที่จะพูดแบบนั้นโดยไม่มีคำอธิบายที่สมเหตุสมผล นั่นหมายความว่าทั้งหมดเป็นข้ออ้างที่ลิชสร้างขึ้น

“ฉันรู้สึกอย่างนั้นมาตลอด แม้ว่าจะไม่เคยเจอคุณ และแม้ว่าคุณจะเป็นลิช แต่หัวใจของฉันกลับเต้นโครมคราม มันไม่ใช่ความรักใคร่แบบนั้น แต่เหมือนมันเป็นอะไรที่ใกล้ชิดกว่า หรืออาจเป็นอารมณ์ความรู้สึกที่มากกว่านั้นด้วยซ้ำ เพราะอย่างนั้นมันทำให้ฉันรู้สึกประหลาดใจมาก ไม่ว่าคุณจะทำตัวห่างเหินกับฉันยังไงมันก็รู้สึกแบบนั้นเสมอ คุณคือใครกันแน่?”

ใบหน้าของเบซูจีเต็มไปด้วยการแสดงออกที่ซับซ้อน มันเป็นคำถามเดียวที่เธอไม่มีวันสลัดทิ้งไปจากหัวสมองได้

มันคงจะง่ายกว่านี้ถ้ามันคือการตกหลุมรักใครสักคน ยังไงก็ตามมันไม่ใช่แบบนั้น เสียงเต้นโครมครามของหัวใจเธอมันเต็มไปด้วยความโหยหาและเจ็บปวด

เบซองมินเงียบ…

เขาไม่อยากเปิดเผยตัวเองอย่างงั้นเหรอ?

เขาไม่อยากพูดว่า ‘เธอเป็นลูกสาวของฉัน’ เพราะรูปลักษณ์ของเขาไม่หลงเหลือความอบอุ่นอีกต่อไป เขาเป็นแค่คนที่ตายแล้วร่างกายเหลือแต่เพียงโครงกระดูกอันปราศจากเลือดเนื้อ!

“ออกไปซะ เธอ…ไม่มีความจำเป็นสำหรับสงครามนี้”

เบซองมินบีบไม้เท้าของตนเอง

ชวิ้ง!!!!

สายลมพุ่งพัดไปทางเบซูจีดั่งฟันเลื่อยอันแหลมคม

เธอพยายามหลบแต่ไม่สามารถทำได้ ส่งผลให้ไหล่ของเธอถูกแทงทะลุในครั้งเดียว

ฉัวะ!

“เดี๋ยวก่อน….”

เบซองมินยืนมองเบซูจีที่ล้มลงหมดสติและไม่สามารถพูดอะไรต่อได้อีก

เพื่อป้องกันไม่ให้มีแมลงหรืออะไรมารับกวนเธอเบซองมินสร้างบาเรียขึ้นรอบตัวเธอ และร่ายเวทย์หลายอย่างเพื่อควบคุมอุณหภูมิภายให้คงที่

หนึ่งเดือนให้หลังเบซูจีถึงจะสามารถพังบาเรียออกมาได้เอง

“เธอต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป”

เนื่องจากเขาได้ร่ายเวทย์นอนหลับที่รุนแรงลงไปด้วย เธอจึงไม่สามารถตื่นขึ้นมาได้หากยังไม่ถึงหนึ่งเดือน

เบซองมินมองไปที่เบซูจีชั่วครู่ก่อนจะหันกลับไป

สามวันนับตั้งแต่เบซองมินจากไป

กรุบกรับๆ! เสียงฝีเท้าม้าดังขึ้น

“อะไรกันเนี้ย ไม่ใช่ที่นี่หรอกเหรอ? ทำไม่ไม่เห็นใครสักคน?”

ภูติตัวน้อยที่กำลังขี่ม้าสีดำทมิฬพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

ฮี้!

“เจ้าม้าดำ แกไม่ได้หลงทางใช่มั้ย? ไม่เห็นมีใครที่นี่เลย แกโกหกหรือเปล่า? “

ฮี้!

“ไม่ได้โกหกงั้นเหรอ? หืม..ผู้หญิงตรงนั้น แปลกมากมีกลิ่นที่รักของวูฮีอยู่ด้วย “

ฟุดฟิด ฟุดฟิด

ภูติน้อยวูฮีเข้าไปแถวบาเรียที่ถูกสร้างขึ้นแล้วดมกลิ่นไม่ต่างจากสุนัข

แม้จะมีการปกป้องด้วยบาเรีย ร่างของเธอก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนในสายตาของอาชานรกและวูฮี

พอมองไปที่เบซูจีผู้ซึ่งอยู่ในบาเรีย พวกเขาก็เอียงหัว

“วูฮีได้กลิ่นที่รักจากผู้หญิงคนนี้ หรือว่า…ไม่นะ?”

วูฮีเม้มริมฝีปากก่อนจะตรวจสอบเบซูจีอย่างใกล้ชิด

เบซูจีมีกลิ่นของมูยองค่อนข้างรุนแรง เนื่องจากพวกเขาเคยสืบทอดพลังผ่านการหลองรวมมาก่อน แต่วูฮีไม่เคยรู้เรื่องนั้น เหตุผลที่กระทั่งอาชานรกยังพลาดก็เพราะเรื่องดังกล่าวเช่นเดียวกัน นอกจากนั้นวูฮียังไม่เคยเจอเบซูจีมาก่อน

“อ่า ที่รักของวูฮีต้องมีผู้หญิงคนใหม่ตอนที่วูฮีไม่อยู่แน่ๆ”

ฮี้!

อาชานรกหัวเราะใส่วูฮี เพราะมันทราบว่าผู้หญิงส่วนมากย่อมต้องการติดตามชายที่แข็งแกร่ง

แม้แต่อาชานรกที่ได้รับการขนานนามว่าราชาแห่งยูนิคอร์นก็เคยใช้เวลาไปมากกับเรื่องพวกนี้ ยังไงก็ตามไม่มีใครกล่าวร้ายเนื่องจากเพราะอาชานรกเป็นราชาของที่นั่น

“อะไรกัน ผู้ชายนี่เหมือนกันหมดเลยใช่มั้ยเนี้ย!”

วูฮีกอดอกพร้อมกับพ่นคำหยาบที่คุ้นเคยออกมามากมาย

“เจ้าม้าดำพาผู้หญิงคนนี้มากับเราด้วย วูฮีอยากรู้ว่าเขาจะเลือกผู้หญิงคนนี้หรือวูฮี”

ฮี้!

อาชานรกเอียงหัวอีกครั้ง ในเมื่อไม่ชอบผู้หญิงคนนี้มันจะง่ายกว่าไหมหากสังหารเธอลงซะที่นี่

อย่างไรก็ตามวูฮีไม่ต้องการทิ้งเธอไว้ เพราะเธออาจมีความสัมพันธ์อะไรบางอย่างกับมูยอง ซึ่งอาชานรกมองว่าวูฮีคิดซับซ้อนเกินไป

* * *

มีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น

ณ วิหารของเกรโมรี่ ที่ที่ซึ่งฝ่ายกองกำลังปฏิปักษ์ได้มารวมตัวกันด้วยเผ่าปีศาจจำนวนมาก จำนวนของพวกมันมีเกือบสิบล้านกว่าตน แต่ยังไงก็ตามระดับของความเครียดของทุกตนกำลังไต่ไปจนถึงจุดสูงสุด

“ทำไมเขาถึงมาที่นี่?”

“นี่เขากำลังจะทำลายสัญญาสงบศึกงั้นหรือ?”

ผู้ที่ไม่ได้อยู่ฝ่ายเดียวกันปรากฏตัวขึ้น

ผืนดินที่เขาเดินผ่านเสื่อมสลายและกลายเป็นสีดำ ลมหายใจของเขาปล่อยละอองสีเขียวอ่อนๆกลายเป็นโรคระบาดที่รุนแรง มันเหมือนกับว่าเขาเป็นตัวแทนแห่งความตายอย่างแท้จริง

ดั่งมัจจุราชผู้เก็บเกี่ยววิญญาณ มีจำนวนมอนสเตอร์นับไม่ถ้วนและอันเดธที่แฝงตัวอยู่ด้านหลังของเขา

นั่นคือ คิงธ์ออฟเดอะเดธ ราชาแห่งความตาย!

ทำไมหนึ่งในสี่ตัวตนเหนือธรรมชาติ ผู้ปกครองแห่งแดนเหนือถึงมาที่นี่?

แม้จะมีเทพปีศาจอยู่ที่นี่ถึง 4 ตน แต่นั่นก็ไม่อาจสร้างความกดดันให้แก่ราชาแห่งความตาย

มูยองวางแผนที่จะรวบรวมตัวตนเหนือธรรมชาติ แต่นั่นเป็นสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นในอนาคต เบซองมินและฮันซุงดราก้อนลอร์ดควรจะทำให้มันเกิดขึ้น ยังไงก็ตามเขากลับมาที่นี่โดยที่ยังไม่มีใครเรียกร้อง ในขณะที่นำอันเดธจำนวนนับไม่ถ้วนติดตามมาด้วย!

“กลับไปซะราชาแห่งความตาย ไม่งั้นเจ้าอาจต้องเสียใจที่มาที่นี่”

มูรุมูรุผู้ที่มีความสามารถในการต่อสู้มากที่สุดก้าวไปข้างหน้า

อย่างไรก็ตามคิงธ์ออฟเดอะเดธไม่ได้แม้แต่มองไปที่มูรุมูรุ สายตาของเขาจ้องไปที่มูยองเพียงคนเดียว

มูยองขมวดคิ้ว แม้เขาจะไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นเป้าหมาย แต่มูยองก็คิดไม่ออกว่าทำไมราชาแห่งความตายถึงปรากฏตัวออกมาโดนปราศจากการเรียกหา

ยังไงก็ตาม มันกำลังมองหามูยองอยู่แน่นอน

ดังนั้น มูยองจึงก้าวออกไปข้างหน้าอย่างคิงธ์ออฟเดอะเดธต้องการ

“คุณมีธุระอะไรกับผม”

“เทพของข้านำข้ามาพบเจ้า”

เป็นคำตอบที่แทบจะทันที

ยังไงก็ตามน่าแปลกใจที่คิงธ์ออฟเดอะเดธศรัทธาเทพเจ้า

“แม้แต่ตัวตนอย่างคุณยังศรัทธาในเทพเจ้า?”

“ข้าติดตามเทพเจ้าองค์เดียวกับที่เจ้าติดตามอยู่นั่นแหละ”

มูยองติดตามเทพเจ้า?

เป็นครั้งแรกที่ได้ยินคำพูดเช่นนั้น

มูยองไม่ได้มีตามืดบอดจนต้องติดตามรับใช้เทพเจ้า และความจริงมูยองเป็นบุคคลที่ไม่เชื่อในเทพเจ้าอย่างยิ่งยวด

ศรัทธาในเทพเจ้า?

ในขณะที่มูยองกำลังงงๆ คิงธ์ออฟเดอะเดธก็พูดต่อ

“เขาคือ อาร์ทานาส! เทพเจ้าแห่งความตายผู้ยิ่งใหญ่ที่ประทานพรให้เจ้า “

เดธลอร์ด

ชื่อจริงของเขาถูกเปล่งออกมาจากปากของราชาแห่งความตาย

The King of the Battlefield

The King of the Battlefield

ในตอนที่มนุษยชาติอยู่ในสภาวะที่ใกล้ล่มสลาย มูยองมือสังหารอันดับหนึ่งของ ‘ป่าแห่งความตาย’

กำลังนั่งคุกเขารอรับความตายเนื่องจากเนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผลที่ยากแก่การรักษา เขากวาดสายตามองไปรอบๆตัวซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยซากศพมากมาย เขาเคยทำงานอย่างหนักเพื่อคนพวกนี้

และในวันนี้เขาก็เป็นคนจบทุกอย่างด้วยมือของตนเอง แต่เมื่อมูยองลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็พบว่าปาฏิหาริย์นั้นมีจริง ตัวเขายังไม่ตาย! นอกจากนี้มูยองยังพบว่าตัวเองได้ย้อนเวลากลับมายัง 40 ปีที่แล้ว

เขาเลือกที่จะเดินสู่หนทางใหม่ และต่อสู้กับเหล่าเทพปีศาจทั้ง 72 ตน….

Show more

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท