The King of the Battlefield – ตอนที่ 280

ตอนที่ 280

บทที่ 280 สงครามเทพปีศาจ (6 Part 1)

ดวงตาของอาม่อนกลับมาเป็นปกติภายในเจ็ดวินาที

“เป็นไปยังไง? เจ้า…ทำอะไรกับข้า?”

มันยังไม่รู้ตัวว่า “เงื่อนไขการดับทำลาย” เสร็จสมบูรณ์ไปแล้ว ยังไงก็ตามการที่มูยองจะกำจัดเขายังเป็นไปได้ยาก หากเป็นปีศาจระดับล่างพวกมันจะเริ่มอ่อนแอลงอย่างมากเมื่อเงื่อนไขการดับทำลายเสร็จสมบูรณ์ แต่สำหรับเทพปีศาจอย่างอาม่อนนั้นกลับไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด

ทว่ามูยองก็พอใจแล้ว ตอนนี้อาม่อนรู้สึกสับสนเพราะมันไม่รู้ว่ามูยองวาง ‘คำสั่ง’ ไว้ภายในตัวของมัน

“ เจ้าย้อนเวลามาหรือเปล่า? ทำไมถึงมีทูตสวรรค์อยู่ในจิตวิญญาณของเจ้า”

ทูตสวรรค์? เขาพูดถึงกาเบรียลใช่หรือไม่?

อาม่อนพูดถูกต้องเกี่ยวกับการย้อนเวลา ดูเหมือนว่าเขาจะพบมันโดยการสัมผัสโดยตรงกับจิตวิญญาณของมูยอง สำหรับมูยองเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเขาย้อนเวลากลับไปได้อย่างไร แต่อาม่อนดูราวกับว่าเขาเข้าใจการเดินทางข้ามเวลาของมูยอง

“นั่นมันเป็นไปไม่ได้ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร”

“ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ คำว่าเป็นไปไม่ได้อยู่แค่ในความคิดของคุณเท่านั้น”

อาม่อนจ้องมองมูยอง เขาโกรธแต่ก็ควบคุมมันเอาไว้

อาม่อนเป็นเจ้าแห่งเวทมนตร์และผู้แสวงหาความจริง เขาหลุดออกจากพันธนาการของบาอัลและโซโลมอนโดยไม่รู้ตัว ยังไงก็ตามผลกระทบเริ่มปรากฏขึ้น

มูยองพูดช้าๆ

“ อาโมนคุณยังกลัวโซโลมอนอยู่หรือเปล่า?”

มันเป็นความกลัวฝังใจสำหรับพวกเขา

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนที่จะกลายเป็นเทพปีศาจซึ่งทรมานพวกเขาเป็นเวลาหลายปี

แม้ว่าพวกเขาจะกลายเป็นตัวตนแห่งเทพและเดินตามเส้นทางแห่งความสมบูรณ์แบบ แต่ความหวาดกลัวนั้นก็ไม่เคยหายไป ดังนั้นพวกเขาจึงรวมตัวกันรอบๆบาอัล ผู้ซึ่งเป็นตัวตนที่จะเจือจางความกลัวดังกล่าว

อาม่อนหรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง

“ เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวโซโลมอนงั้นหรือ?”

“ถ้างั้นก็ดีแล้ว”

มูยองหันศีรษะกลับไป

อาม่อนรู้สึกสับสนอย่างยิ่งในตอนนี้ จิตใจของเขาสับสนจนลืมที่จะโจมตีมูยอง

มูยองเป็นตัวตันแรกที่อาม่อนไม่รู้จัก เขาเป็นดั่งความโกลาหลเป็นตัวตนที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับโซโลมอนและบาอัล

พอเห็นอาม่อนเริ่มฉุกคิดมูยองก็เริ่มเกลี้ยกล่อม

“ คุณจะเลือกแบบไหนระหว่าง ‘ตัวตนที่ไม่รู้จัก’ อย่างผม หรือผู้เป็นเหมือน ‘ความหวาดกลัว’ แบบโซโลมอน?”

ทั้งโลกลุกเป็นไฟทันทีเมื่อมูยองถามคำถามจบ ดวงอาทิตย์เปลี่ยนเป็นสีแดงฉานยิ่งกว่าที่เคยจากนั้นความร้อนที่ไม่น่าเชื่อก็แผดเผาทุกสิ่งอย่าง แม้กระทั่งเกราะป้องกันของเกรโมรี่ก็ไม่อาจต้านทานได้

เหล่าปีศาจที่อ่อนแอล้วนถูกเผาไหม้เกรียมเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้อง ร่างนับไม่ถ้วนหล่นลงบนพื้นหลังจากกลายเป็นเถ้าถ่าน ไม่เพียงแค่นั้นโล่ที่ราชาแห่งความตายสร้างขึ้นเพื่อปกป้องเหล่าปีศาจที่เหลือก็ยังแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

“ เดียโบล…”

มูยองหันศีรษะไปมองพร้อมๆกับอาม่อน

เดียโบลเจ้าแห่งเปลวเพลิงที่แท้จริง ผู้ที่เผาเฮอเรสเทพปีศาจแห่งเปลวเพลิงจนสิ้นชีพ! มันยืนด้วยสองเท้า พร้อมกับเขาบนหัวนับสิบเขา ออร่าของมันดูไม่ต่างจากมังกรผู้เกรียงไกรอันยิ่งใหญ่

แค่มันปรากฏตัวและลืมตา โลกก็ลุกเป็นไฟก่อนทุกอย่างจะถูกแผดเผาและหายไป

มูยองถึงกับตัวสั่น นี่เป็นครั้งที่สองที่เขาได้พบกับเดียโบล ครั้งแรกเดียโบลถอยออกไปเนื่องจากบาอัล แต่ครั้งนี้มันแตกต่างและหาที่เปรียบมิได้กับครั้งนั้น

มูยองเคยคิดด้วยความช่วยเหลือจากอาม่อนเผื่อเขาจะสามารถจัดการกับเดียโบลได้ แต่ตอนนี้มูยองละทิ้งความคิดนั้น

“ พลังของเดียโบลไปไกลเกินขีดจำกัดของโลกใบนี้แล้ว”

เขาไปไกลเกินกว่าที่โลกนี้จะสามารถรองรับได้

“ โซโลมอน…!”

สายตาของอาม่อนสั่นคลอนจากความกลัว แต่ยังมีความโกรธแค้นแฝงอยู่ในนั้น

ทำเพื่อตัวเองเท่านั้น ผู้แสวงหาความจริงจะต้องไม่ถูกยับยั้งโดยสิ่งใดๆ อามอนกัดฟันแน่นยังไงก็ตามเทพปีศาจตนอื่นถอยหนีไปหมดแล้ว

“ พวกขี้ขลาด”

อาม่อนด่าทอเทพปีศาจตนอื่นๆที่ยังคงกลัวโซโลมอนอย่างมาก หากบาอัลไม่ลงมือพวกเขาก็เป็นได้แค่เพียงคนขี้ขลาดที่ต้องหลบหนีต่อไป

อาม่อนไม่สนใจมูยองหรือวิธีที่เขาควบคุมเอนโรธอีกแล้ว รวมไปถึงคำสั่งที่ให้จัดการเกรโมรี่ของบาอัลด้วย อาม่อนจดจ่ออยู่กับสิ่งที่เขาเผชิญเท่านั้น

อาม่อนต้องการเอาชนะสิ่งที่รั้งเขาไว้มานาน และตอนนี้โอกาสอยู่ตรงหน้าแล้ว

ด้วยเสียงคำรามร้อง การโจมตีของเดียโบลเร็วเกินกว่าที่อาม่อนจะคิดอะไรได้อีกต่อไป ลูกไฟขนาดใหญ่ที่สามารถกลืนกินท้องฟ้าทั้งหมดพุ่งออกมาจากปากเดียโบล มันแผดเผาทุกอย่างที่ขวางหน้าและตรงดิ่งไปที่ที่มูยองและอาม่อนยืนอยู่

มหาเปลวเพลิง อาม่อนสร้างกำแพงน้ำแข็งยักษ์ขึ้นกั้นเปลวไฟนั้น อย่างไรก็ตามมันยังไม่เพียงพอเนื่องจากไฟของเดียโบลรุนแรงเกินไป

อาม่อนเดาะลิ้นก่อนจะถอดถุงมือออกเผยให้เห็นมือสีดำเมื่อมอันโดดเด่น จากนั้นอาม่อนก็ระดมยิงเวทมนตร์ออกไปบินว่อนอย่างเกรี้ยวกราด

เขาบนหัวของอาม่อนงอกยาวขึ้น ลูกตาเปลี่ยนเป็นสีดำ นอกจากนี้กล้ามเนื้อในร่างมนุษย์ของเขาก็ระเบิดและขยายตัวใหญ่ขึ้น อย่างไรก็ตามมันดูไม่เสถียรนัก มูยองเห็นดังนั้นก็หันไปมองเกรโมรี่ทันที

เกรโมรี่พยักหน้าขณะที่เธออ่านสิ่งที่มูยองต้องการ เธอถอดโล่ป้องกันที่จำกัดเวทมนตร์ออกอย่างรวดเร็ว นั้นทำให้อาม่อนเริ่มแสดงพลังที่แท้จริงหลังจากที่โล่ที่น่ารำคาญหายไป

“ วังวนวายุ”

ปกติอามอนไม่จำเป็นต้องเปล่งเสียงเพื่อเรียกใช้เวทมนตร์ แต่หากเป็นเวทย์ระดับมหากาพย์จำเป็นต้องเปล่งออกมาเพื่อบังคับใช้ เวทมนตร์ของอาม่อนที่ล้นเอ่อออกมาส่งผลให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ ในไม่ช้าพื้นที่ทรงกลมขนาดมหึมาก็ก่อตัวขึ้นตรงหน้าอาม่อน และกลืนกินทุกสิ่งราวกับหลุมดำ

The King of the Battlefield

The King of the Battlefield

ในตอนที่มนุษยชาติอยู่ในสภาวะที่ใกล้ล่มสลาย มูยองมือสังหารอันดับหนึ่งของ ‘ป่าแห่งความตาย’

กำลังนั่งคุกเขารอรับความตายเนื่องจากเนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผลที่ยากแก่การรักษา เขากวาดสายตามองไปรอบๆตัวซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยซากศพมากมาย เขาเคยทำงานอย่างหนักเพื่อคนพวกนี้

และในวันนี้เขาก็เป็นคนจบทุกอย่างด้วยมือของตนเอง แต่เมื่อมูยองลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็พบว่าปาฏิหาริย์นั้นมีจริง ตัวเขายังไม่ตาย! นอกจากนี้มูยองยังพบว่าตัวเองได้ย้อนเวลากลับมายัง 40 ปีที่แล้ว

เขาเลือกที่จะเดินสู่หนทางใหม่ และต่อสู้กับเหล่าเทพปีศาจทั้ง 72 ตน….

Show more

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน